หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 66
ทั้งเต็มไปด้วยความสง่างามและความสูงส่งพร้อมกับใบหน้าที่งดงาม ทว่ากลับเย็นชา ด้วยลักษณะเช่นนี้ไม่สามารถพูดได้ว่าไม่น่าดึงดูด ทว่าสำหรับผู้ชายความดึงดูดในแบบผู้หญิงถือว่าลดลงไปเยอะ จริงๆก็มีผู้ชายหลายคนอยู่ที่ชอบผู้หญิงแนวนี้ ทว่าผู้หญิงแนวนี้มักจะดึงดูดเพศเดียวกันได้ดีกว่าดึงดูดเพศตรงข้าม
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้หญิงในสโมสรมวยอยู่ค่อนข้างเยอะ
“มันไม่ได้เป็นเพราะแคปซูลเสมือนจริงหรือ?”
หลังจากจินเหวินเหวินพูดคำนี้ออกมา สายตาของเธอก็คมขึ้นอีกครั้งราวกับดาบยาวสองเล่มฟาดลงมา เธอจ้องมองไปที่โรแลนด์และเหมือนกำแพงทางจิตที่ดูคลุมเครือก็เหมือนจะเอาไม่อยู่
อย่างไรก็ตามโรแลนด์ยังคงจิบน้ำผลไม้ของเขาอย่างใจเย็นและหลังจากที่เขาวางแก้วลงเขาก็พูดอย่างไม่เร่งรีบว่า “แคปซูลเสมือนจริงที่คุณกำลังพูดถึงนั้นคุณหมายถึงเกมที่สมจริงเกมแรกของโลก? มันเกี่ยวอะไรกับการชกมวยงั้นเหรอ?”
“คุณไม่รู้เหรอ?” การแสดงออกของจินเหวินเหวินราวกับว่าเธอกำลังบอกว่าเขาควรรู้ “กล่าวกันว่าเกมนี้เกือบจะเป็นเสมือนจริงที่สมบูรณ์ นอกเหนือจากเวทย์และความสามารถพิเศษแล้ว ในนั้นผู้คนสามารถต่อสู้ได้ตามที่พวกเขาต้องการ นี่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการฝึกทักษะศิลปะการต่อสู้”
“โทษทีนะ แม้ว่าฉันจะชอบเล่นเกม แต่แคปซูลเสมือนจริงก็แพงเกินไปสำหรับคนที่ทำงานมาไม่ถึงสองปี มันค่อนข้างเป็นภาระที่ต้องแบกรับมากเกินไป” โรแลนด์กล่าวอย่างผิดหวัง “เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันยังดูข่าว ฉันได้ยินมาว่าผู้หญิงคนหนึ่งสามารถโค่นผู้ชายที่เป็นนักเลงได้อย่างง่ายดายเพราะเธอเล่นเกมนั้น เสียดายจริงๆที่ไม่ได้ซื้อ ถ้าฉันรู้ก่อนหน้านี้ฉันคงจะกู้เงินมาเพื่อซื้อมัน”
“อย่างงั้นเหรอ” จินเหวินเหวินเริ่มคนน้ำแตงโมในแก้วอีกครั้ง
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็คุยกันต่ออีกสักพักก่อนโรแลนด์จะหาข้ออ้างและปลีกตัวไป
ไฟภายในห้องพักผ่อนยังคงสว่างอยู่ จินเหวินเหวินนั่งบนเก้าอี้และจิบน้ำแตงโมจากแก้วอย่างเงียบๆ ไม่นานโค้ชก็เดินเข้ามา
เขานั่งลงตรงข้ามกับเธอแล้วถามว่า “ได้ถามเขารึเปล่า? ว่าสรุปเป็นเพราะแคปซูลเสมือนจริงใช่ไหม?”
“เขาบอกว่ามันไม่ใช่” จินเหวินเหวินส่ายหัวเล็กน้อย
“โอ้? น่าเสียดายที่ฉันคิดว่าคนอื่นๆ ในเมืองก็ซื้อแคปซูลเสมือนจริงกันซะอีก” โค้ชถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เขาบอกว่าไม่แล้วคุณเชื่อเขาเหรอ?” จินเหวินเหวินหัวเราะเบา ๆ “ลุงฉันไม่เชื่อว่าโลกนี้จะมีอัจฉริยะมากมายแบบนั้น นับประสาอะไรกับคนที่ฝึกมาแค่สองเดือน หากเขาไม่มีแคปซูลเสมือนจริงเขาก็ต้องมีวิธีการฝึกพิเศษที่เกี่ยวข้องกับนักวิทยาศาสตร์ และหากเขาฝึกด้วยวิธีนั้นจริงๆเขาก็ไม่มีความจำเป็นแม้แต่น้อยที่ต้องมาที่สโมสรมวยของเรา”
โค้ชเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างเงียบงัน
จินเหวินเหวินจุดบุหรี่ให้ตัวเองควันลอยขึ้นเป็นเกลียว เธอพูดอย่างไม่เร่งรีบว่า “ฉันเพิ่งตรวจสอบดูเมื่อกี้ เขาทิ้งไว้แค่หมายเลขโทรศัพท์ และไม่ได้ใส่ที่อยู่มาด้วย คงเป็นการยากแล้วที่จะเจอเขาอีก”
โดยปกติสโมสรมวยล้วนลงทะเบียนข้อมูลของลูกค้า อย่างไรก็ตามในการดำเนินธุรกิจเป็นเรื่องธรรมดาที่จะยอมทำตามสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ตราบใดที่ลูกค้าจ่ายอะไรก็ได้ทั้งนั้น
ไม่ว่าลูกค้าจะกรอกข้อมูลส่วนตัวหรือไม่ก็ไม่สำคัญตราบเท่าที่พวกเขาได้รับเงิน
เพราะเหตุนี้ทำให้สโมสรมวยไม่ได้บังคับให้โรแลนด์ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดของเขา
จินเหวินเหวินถอนหายใจเบาๆ ดับบุหรี่กลิ่นบางๆ ที่เผาไหม้ไปเพียงหนึ่งในสาม เธอพูดขึ้นว่า “ลุงมีวิธีติดต่อเขาไหม”
“ลองค้นหาที่อยู่บ้านของเขาจากหมายเลขโทรศัพท์ของเขาดูสิ!”
จินอวี้เหวินส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “เป็นไปไม่ได้! พวกเราตระกูลจินเป็นเพียงครอบครัวธรรมดาเท่านั้น แม้ว่าเราจะมีการสืบทอดศิลปะการต่อสู้ แต่เราก็ยังคงเป็นครอบครัวปกติ พ่อแม่ของฉันเป็นเพียงเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตเล็ก ๆ ฉันเป็นเพียงประธานสโมสรมวยส่วนลุงก็เป็นแค่ฟรีแลนซ์ อะไรทำให้เรามีสิทธิ์ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของเขา?”
จินเหวินเหวินหัวเราะอย่างขมขื่นเล็กน้อยกล่าวต่อว่า “พวกเราไม่มีเพื่อนในบริษัทโทรคมนาคมและเราไม่รู้จักใครในระบบรักษาความปลอดภัย พวกเราไม่มีทางค้นหาอะไรเกี่ยวกับเขาได้เลยและฉันคิดว่าเขาคงไม่กลับมาที่นี่อีกแล้วหละ”
โค้ชพูดอย่างหงุดหงิดว่า “พวกเราไม่ได้คิดจะทำร้ายเขาสักหน่อย แค่อยากถามว่ามีแคปซูลเสมือนจริงอยู่ไหม และขอซื้อต่อในราคาสูงก็เท่านั้น หมอนี่ระวังตัวเป็นบ้า”
เมื่อได้ยินคำบ่นของโค้ชจินเหวินเหวินก็ยืนขึ้น “ช่างเถอะ ฉันจะพยายามขอซื้อผ่านทางออนไลน์ต่อไปก่อน ถ้าสองแสนไม่ได้ถ้างั้นก็ห้าแสน”
เมื่อเธอพูดจบเธอก็ออกไปทันที
โรแลนด์ขี่จักรยานสาธารณะไปในเมืองแบบสุ่มจากนั้นเขาก็เลี้ยวเข้าไปในสวนสาธารณะเล็ก ๆ และนั่งลง
เขาโทรหาชัคและเบทต้าและคนอื่นๆที่เหลือ และเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พวกเขาฟัง จากนั้นก็เตือนพวกเขาว่าอย่าบอกคนนอกว่าเขามีแคปซูลเสมือนจริง
ฟานลิ่วยี่ทุ่มเงินไปกว่าล้านเพื่อซื้อแคปซูลเสมือนจริง ถ้าหากคนภายนอกรู้เข้าละก็ว่าพวกเขามีแคปซูลเสมือนจริง มันก็อาจจะไม่ถึงขั้นถูกทำร้ายหรือถูกคุกคาม ทว่ามันก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่จะมีคนมาเคาะประตูหน้าบ้านพวกเขาเพื่อขอซื้อต่อหรือขอยืมแคปซูลเสมือนจริง
ถ้ามันเกิดเรื่องขึ้นแค่ครั้งสองครั้งมันก็ไม่เป็นไรหรอก ทว่าหากมันเกิดขึ้นบ่อยครั้งมันก็นับว่าเป็นปัญหา
หลังจากวางสายโทรศัพท์โรแลนด์ก็ขี่จักรยานเพื่อกลับบ้าน
เหมือนดั่งที่จินเหวินเหวินคาดการณ์เอาไว้ โรแลนด์ไม่คิดจะกลับไปยังสโมสรมวยอีก เพราะดูเหมือนว่าพวกเขาจะสนใจในแคปซูลเสมือนจริง
นอกจากนี้เขายังมีอุปกรณ์เพาะกายที่บ้าน ห้องที่เขาอาศัยอยู่นั้นค่อนข้างกว้างขวางพอให้เขาซ้อมมวยได้อยู่
พอถึงสี่ทุ่มโรแลนด์ก็กลับเข้าเกมอีกครั้ง
ทันทีที่เขาเข้าเกมเขาได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ
เป็นการแจ้งเตือนจากการเชิญเข้ากิลด์ระยะไกลจากชัค โรแลนด์กดรับโดยไม้ลังเล
วินาทีถัดมาหน้าจอสีเงินกึ่งโปร่งแสงปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา ชื่อกิลด์ F6 ถูกเขียนบนหน้าจอระบบเช่นเดียวกับรายชื่อสมาชิกกิลด์ปัจจุบัน
ในขณะนี้มีสมาชิกกิลด์อย่างเป็นทางการเพียงคนเดียวคือเขาและชัค ไม่นานหลังจากนั้นลี่หลินและคนอื่น ๆ ก็ได้รับเชิญในขณะที่เบทต้าอยู่ในรายชื่อสมาชิก “พิเศษ”
อินเทอร์เฟซของกิลด์นี้ค่อนข้างเรียบง่าย มีเพียงชื่อกิลด์และรายชื่อสมาชิกรวมถึงแท็บที่มีข้อความว่า “แชทกิลด์”
หลังจากคลิกแล้วโรแลนด์พบว่าหน้านี้เป็นห้องสนทนาธรรมดา เขาพบแถบป้อนข้อความที่ด้านล่างสุดและเมื่อเขาคิดในใจว่า “สัมผัส” จากนั้นแป้นพิมพ์แบบกึ่งโปร่งใสที่สดใสก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา
มันถูกควบคุมด้วยความคิดของคนสินะ
ชัค : ”นี่พวกนายเห็นข้อความของฉันไหม?”
เมื่อโรแลนด์กำลังจะพิมพ์ข้อความส่ไป ข้อความขอชัคก็เด้ขึ้นมาก่อน
จากนั้นข้อความอื่นๆขอลี่หลินและคนอื่นๆก็เริ่มตอบกลับมา พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับว่าในที่สุดก็ติดต่อกันได้สักที
โรแลนด์พูดคุยสั้นๆและสบายๆกับพวกเขา จากนั้นเขาก็ออกไปที่สลัม เพื่อไปหาฮอร์กและลิงค์
ดูเหมือนตอนนี้สองคนนั้นกำลังมีปัญหาอยู่เล็กน้อย
ในตรอกแคบๆที่เต็มไปด้วยโคลนพวกเขาสองคนถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มขอทาน
ในตอนแรกโรแลนด์สันนิษฐานว่าพวกเขาถูกโจมตี แต่เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้เขาก็รู้ว่าข้อสันนิษฐานของเขานั้นผิด
พวกขอทานคุกเข่าต่อหน้าพวกเขา หัวหน้าขอทานที่ดูขาดสารอาหารและผอมกะหร่อง อยู่ในเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยรูจากการใช้งานมาหลากหลายปี มันทั้งดำและสกปรก
“ท่านบุตรทองคำได้โปรดมอบที่พักพิงและอาหารให้แก่พวกเราด้วย”
โรแลนด์ได้ยินคำพูดนี้ขึ้นขณะกำลังเดินเข้าไปหาพวกเขา