หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 76
แปลก โรแลนด์สัมผัสได้ว่าคำพูดของหญิงสาวคนนี้ดูค่อนข้างแปลก
จะว่าไปผู้หญิงคนนี้ก็ให้ความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่างแบบคลุมเครือกับเขา ทว่าหลังจากโรแลนด์คิดไปสักพักหนึ่ง เขาก็มั่นใจว่าเขาไม่เคยเจอเธอมาก่อน เธอนั้นดูค่อนข้างสวยและมีนิสัยที่โดดเด่น และถ้าเขาเคยเจอเธอมาก่อนเธอคงทิ้งความประทับใจไว้กับเขาแน่ๆ
ดูเหมือนเธอจะรู้สึกว่าตัวเองนั้นพูดเกินไปหน่อย เธอจึงหันกลับไปและเดินอย่างเงียบๆ
เมื่อพวกเขาสองมาถึงยังหน้าโรงเก็บของที่อยู่ด้านหลังสนามฝึกขนาดใหญ่ หญิงสาวเดินไปเปิดประตูด้วยกุญแจ ด้านในนั้นเต็มไปด้วยอาวุธ และอุปกรณ์ป้องกันบางอย่าง
“เลือกตามสบายเลย” เธอเดินเข้าไปข้างในก่อน
โรแลนด์เดินเข้าไปยังโรงเก็บของ เขาพบว่ามันมีดาบเหมียวเต๋านอนอยู่บนชั้นไม้ นอกจากนั้นยังมีปลอกดาบอีกด้วย
เขาสุ่มหยิบมันมาเล่นหนึ่ง ถึงแม้ว่ามันจะทำมาจากไม้ แต่ความยาวของมันก็เหมือนกับดาบเหมียวเต๋าของจริง มันรู้สึกค่อนข้างหนักบนมือของเขา ปลอกดาบนั้นทำมาจากกระบอกไม้ไผ่ งานช่างค่อนข้างยอดเยี่ยม บริเวณก้านดาบนั้นดูมันวาวเหมือนถูกแช่มาด้วยน้ำมันไม้จีน
โรแลนด์ยกดาบเหมียวเต๋าขึ้นมา เขาอยากจะลองดึงมันออกมาจากปลอกเพื่อสังเกตุให้ละเอียดยิ่งขึ้น ทว่าในท้ายที่สุดดาบเหมียวต๋านั้นก็ยาวเกินกว่าที่เขาจะสามารถดึงมันออกมาได้
“มันจะง่ายกว่านี้หากคุณดึงมันออกมาทางแนวนอน”
หญิงสาวพูดขึ้นขณะที่เธอกำลังถือสายวัดตัวเดินเข้าใกล้ตัวเขา จากนั้นเธอก็เริ่มสำรวจโรแลนด์สักพักและพูดว่า “ยืนนิ่งๆนะ”
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มวัดความสูงของโรแลนด์และเส้นรอบอก , เอว และแขนของเขา
หลังจากที่หญิงสาวเข้ามาใกล้กลิ่นหอมของดอกหมื่นลี้ก็ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โรแลนด์ประหลาดใจอยู่บ้าง แต่ก็ปล่อยให้เธอวัดตัวแต่โดยดี ทว่าเขาก็อดถามออกมาไม่ได้ว่า “ก่อนจะเรียนเทคนิคเหมียวเต๋าต้องมีการตรวจวัดร่างกายด้วยงั้นเหรอ?”
“นี่ก็เพื่อสร้างอุปกรณ์ป้องกันให้คุณ” หญิงสาววัดขนาดตัวส่วนต่างๆของโรแลนด์และพูดด้วยเสียงเรียบว่า “ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ดาบไม้ทว่ามันก็ค่อนข้างอันตราย”
โรแลนด์ค่อนข้างประหลาดใจเขาถามว่า “แต่ฉันไม่เห็นเด็ก ๆพวกนั้นสวมเครื่องป้องกันเลยนี่นา”
“มันไม่จำเป็นเลยแม้แต่น้อยสำหรับการฝึกฝนอย่างทั่วไป” หญิงสาววยืนขึ้นพร้อมพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ทว่าเมื่อมีการซ้อมต่อสู้ คุณจำเป็นต้องสวมมัน ถึงแม้จะถูกตีด้วยดาบไม้แต่มันก็ค่อนข้างปวดใช้ได้”
“ฉันต้องจ่ายค่าอุปกรณ์พวกนี้แยกหรือเปล่า?” โรแลนด์ถาม เขารู้สึกได้ว่านี่อาจจะเป็นรายจ่ายที่แฝงอยู่
หญิงสาวส่ายหัว “แจกฟรีน่ะ”
“ฟรีอาหารเช้า , ดาบก็ฟรี แถมอุปกรณ์ป้องกันยังฟรีอีก ที่นี่มีสิทธิประโยชน์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว” โรแลนด์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในตอนนี้เด็กสาวได้ทำการวัดขนาดทางร่างกายของเขาเสร็จแล้วและเมื่อได้ยินคำพูดของเขาเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “แม้ว่าค่าเล่าเรียนจะแพงไปหน่อย แต่สิ่งที่เราสอนก็คุ้มค่ากับราคาจริงๆ”
มีเหตุผลบางอย่างในน้ำเสียงของเธอและการแสดงออกของหญิงสาวก็ดูอ่อนแอเล็กน้อย
โรแลนด์ก็รับรู้ได้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน เขาแสดงอาการประหลาดใจออกมา หลังจากผ่านไปสักพักความรู้สึกแปลกๆก็ชัดเจนยิ่งขึ้น เขาถามอย่างงุนงงว่า “พวกเรา…เคยเจอกันมาก่อนไหม?”
หญิงสาวเหลือบมองเขาท่าทางของเธอเงียบสงบ “คุณคิดว่ายังไงล่ะ?”
โรแลนด์รู้สึกว่าเขาคิดมากเกินไปและหัวเราะเบา ๆ
จากนั้นเขาหยิบดาบไม้แบบสุ่มและออกจากโรงเก็บของไปอย่างรวดเร็ว
ณ สนามฝึก ฉีเฉาชู่ได้รอเขาอยู่แล้ว
ชายคนนี้ยืนพิงเสาโลหะรับน้ำหนักของหลังคาสนามฝึก เขายืนสูบบุหรี่ราคาถูก ดวงตาปลาตายที่ไร้อารมณ์ของเขาให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกแผ่ออกมา
แน่นอนว่ามันก็เป็นเพียงแค่ภาพลวงตาจากอากาศเท่านั้น บรรยากาศรอบตัวฉีเฉาชู่เปลี่ยนไปทันทีจากนั้นเขาก็พูดว่า “ถ้าหากนายใช้เวลาอยู่กับน้องสาวฉันนานกว่านี้ละก็ ฉันคงตรงไปฟาดนายแล้ว”
โรแลนด์อดไม่ได้ที่จะกลอกตาออกมา
“ เอาล่ะตอนนี้นายก็เลือกดาบเรียบร้อยแล้ว นายจะนำมันกลับบ้านก็ได้หรือไม่ก็เลือกเก็บไว้ที่นี่ให้พวกเราเป็นคนดูแลให้” ฉีเฉาชู่ดับไฟของบุหรี่ลงก่อนที่เขาจะเก็บมันเข้ากระเป๋า “เนื่องจากนายเคยฝึกมวยมาก่อน ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องฝึกพื้นฐานอย่างการยืดกล้ามเนื้อและข้อต่อ ตอนนี้ฉันจะอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับฟุตเวิร์คพื้นฐานของเทคนิคเหมียวเต๋าในเทคนิคดาบการเคลื่อนไหวส่วนใหญ่สามารถทำได้โดยการแลกเปลี่ยนระหว่างการก้าวไปด้านหน้าและท่าม้า ดังนั้นสำหรับท่าทางม้าซึ่งตายตัวนายจะต้องฝึกมันเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงในแต่ละวัน จากนั้นก็จะมีวิธีในการถือดาบ ไม่เหมือนกับของพวกชาววา…”
ฉีเฉาชู่สอนและสาธิตในเวลาเดียวกัน
ไม่นานตอนเช้าก็ผ่านไป
เมื่อใกล้บ่ายโรแลนด์ปฏิเสธคำเชิญของฉีเฉาชู่ที่ชวนรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันและขี่จักรยานสาธารณะกลับบ้าน
เมื่อมองโรแลนด์จากไป ฉีเฉาชู่พูดกับน้องสาวของเขาที่อยู่ข้างๆเขาว่า “วันนี้น้องดูอารมณ์ไม่ดีเลย อารมณ์แปรปรวนมาก น้องรู้จักหมอนี่งั้นเหรอ? อย่าบอกนะว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นน่ะ”
ซีฉานิ่งเงียบ
ฉีเฉาชู่รอสักพักก่อนจะหันหน้าไปมองด้วยท่าทางที่ตกใจ บุหรี่ของเขาหล่นลงบนพื้น “อย่าบอกนะว่าฉันเดาถูก”
ซีฉาเม้มริมฝีปากสีชมพูบางๆของเธอ “เขาไม่ใช่เพื่อนร่วมชั้นของฉันหรอก เขาเป็นรุ่นพี่ตอนมัธยมปลายของฉัน อยู่ชั้นสูงกว่าฉันหนึ่งปี”
“รุ่นพี่ที่โรงเรียนมัธยม เธอก็ไม่จำเป็นต้องมีท่าทีแบบนั้นนี่ มันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว…เดี๋ยวก่อนนะ!” ฉีเฉาชู่ตกใจก่อนจะถามว่า “เธอหมายถึงนักเรียนสองคนที่โดดเด่นที่อยู่เกรดเก้าที่เธอมักจะพูดถึงบ่อยๆใข่ไหม ที่พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันและสอบติดมหาลัยลั่วทั้งคู่ หมอนี่เป็นหนึ่งในนั้น?”
ซีฉาพยักหน้าตอบรับ
ฉีเฉาชู่โน้มตัวไปหยิบบุหรี่ที่อยู่บนพื้น จากนั้นก็ปัดเบาๆก่อนจะเอามันมาคาบไว้ที่ปาก “อย่างงี้นี่เอง งั้นก็ไม่น่าแปลกหรอก!”
หลังจากร่างของโรแลนด์กลายเป็นจุดสีดำที่ไม่ชัดเจนบนท้องถนน ซีฉาก็ถอนสายตาออก “เขามีพรสวรรค์ขนาดไหนงั้นเหรอ? แล้วเขาจะใช้เวลานานเท่าไหร่ในการเรียนทักษะเหมียวเต๋า?”
“เขามีพรสวรรค์มาก เขาเข้าใจเทคนิคการถอยและการออกแรงตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันอธิบายพวกมันและสามารถสรุปได้ข้อมูลหลายอย่าง ตามคาดเลยสำหรับนักเรียนผู้มีพรสวรรค์ เขาอาจจะจบการสอนของฉันได้ภายในครึ่งปี!” ฉีเฉาชู่พูดออกมา หลังจากนั้นก็มองไปที่ซีฉาและด้วยรอยยิ้มว่า “แต่อย่ากังวลไปเลย เดี๋ยวฉันจะสอนเขาช้าเองๆ อย่างน้อยก็ให้เขาเรียนที่นี่สักปีนึง”
ซีฉาหันมาพูดอย่างหงุดหงิดว่า “ไม่จำเป็น นายไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉันหรอกน่า”
เธอกลับไปที่โรงเก็บของและบันทึกของการตรวจวัดร่างกายและพึมพัมเบาๆว่า “เขาสูงกว่าเมื่อก่อนมาก!”
เธอตกไปอยู่ในภวังค์และคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อเจ็ดปีก่อน ในตอนนั้นเธอยังเป็นสาวน้อยผู้โง่เง่าอยู่และโรงเรียนมัธยมปลายที่เธอเข้าไปนั้นเป็นโรงเรียนประจำ เธอลากกระเป๋าใบหนักของเธอไปตามพื้นซีเมนต์ภายในเขตโรงเรียน และเธอก็พบกับเนินเล็กๆซึ่งเธอไม่สามารถผ่านมันไปได้ หลังจากลองอยู่หลายครั้งเธอก็หมดแรงที่จะทดลองสู้ต่อ เธออยากจะนั่งลงเพื่อพักเป็นอย่างมาก
ในตอนนั้นเองก็มีรุ่นพี่ที่ดูธรรมดาคนหนึ่งซึ่งให้ความรู้สึกที่ธรรมดาและสวมใส่เสื้อผ้าธรรมดายื่นมือเข้ามาช่วยเธอไว้
เธอจำได้ว่าตอนนั้นเป็นตอนที่พระอาทิตย์ในตอนฤดูใบไม้ร่วงลอยอยู่เหนือหัวของพวกเขา ท้องฟ้านั้นโปร่งจนมองเห็นเป็นสีฟ้าได้ รุ่นพี่อยู่ในเสื้อเชิ๊ตสีขาวธรรมดาๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่หล่อเหลาจนน่าตกตะลึง ทว่าเขาก็ให้ความรู้สึกสุภาพและอบอุ่นไปถึงในใจของเธอ
รุ่นพี่ช่วยเธอเอากระเป๋าไปส่งยังหอพักหญิง
เธอคิดว่าเธอคงจะไม่ได้เจอรุ่นพี่คนนี้อีกต่อไปในอนาคต
ทว่าเธอก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตลอดสองปีที่เธออยู่ที่นั่น เธอจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับรุ่นพี่ในทุกๆเดือน
รุ่นพี่คนนี้มีเพื่อนสมัยเด็กที่หล่อเหลาอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาทั้งสองคนนั้นต่างแย่งกันเป็นที่หนึ่งของชั้น
พวกเขานั้นทั้งเข้าร่วมการประกวดสุนทรพจน์และการแข่งขันเลขโอลิมปิกระหว่างประเทศ นอกจากนี้พวกเขายังเป็นนักกีฬาโรงเรียนอีกด้วย ที่น่าขำไปมากกว่านั้นคือพวกเขายังเป็นพวกที่เข้าร่วมการชกต่อยและทะเลาะวิวาท ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเป็นคนเริ่มเสียด้วยซ้ำ
หากไม่ใช่เพราะผลการเรียนที่ดีของพวกเขาละก็ครูใหญ่คงไม่แอบปิดข่าวไว้ และพวกเขาคงมีชื่อในสมุดคุมประพฤติแน่นอน
สุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็เข้ามหาลัยลั่วด้วยกัน
ซีฉาเองก็เลือกมหาลัยลั่วเป็นมหาลัยอันดับแรกเช่นกัน ทว่าเธอนั้นสอบไม่ผ่าน
เธอรู้สึกว่าเธอเกือบจะลืมรุ่นพี่มัธยมปลายคนนี้ไปแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะมาปรากฎตัวต่อหน้าเธออีกครั้งหนึ่ง
รูปลักษณ์ของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน
เธอจำเขาได้เป็นอย่างดี
ทว่าเขากลับจำเธอไม่ได้
ไม่สิเขาจำเธอไม่ได้ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ตั้งแต่แรกพวกเขาก็เป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าที่พบเจอกันโดยบังเอิญ
เมื่อคิดแบบนี้ขึ้นได้ซีฉาก็อดรู้สึกปวดใจไม่น้อย