หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) - ตอนที่ 88
แม้ว่าการแสดงออกของบาร์ดจะยังคงเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส แต่โรแลนด์ก็ตระหนักดีว่าความหยิ่งทระนงในดวงตาของบาร์ดลดน้อยลงไปมาก
อย่างที่คิดไว้เลย ในโลกใบนี้วัดกันที่ความแข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ถ้าหากคุณเก่งกว่าพวกเขาได้ละก็แม้แต่คนที่ยิ่งทระนงก็จำเป็นต้องระงับอารมณ์เอาไว้
อย่างไรก็ตามบาร์ดยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
โรแลนด์สังเกตุบาร์ดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่แล้ว พวกเรานั้นสามารถคืนชีพได้ ทำไมพวกเราถึงจะไม่รู้เกี่ยวกับความสามารถนี่ล่ะ?”
บาร์ดหัวเราะเบาๆออกมา “เจ้าไม่คิดว่ามันดูไร้ยางอายงั้นเหรอ? โดยทั่วไปนั้นในการต่อสู้ต่างๆนั้นความกล้าหาญนั้นเกิดขึ้นเพราะว่ามีความตาย ด้วยความเป็นจริงที่ว่าเจ้านั้นเป็นบุตรทองคำที่สามารถคืนชีพได้นั้นถือเป็นการดูถูกความกล้าหาญของผู้อื่น ผู้ซึ่งตั้งใจประชันหน้ากับเจ้าโดยตรง ผู้ซึ่งต่อสู้กับเจ้า”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ โรแลนด์ก็ยิ้มออกมา “จากตรรกะของนาย ขุนนางนี่แหล่งรวมคนไม่มีอะไรดีเลยจริงๆ รู้เอาไว้ซะว่านายก็อยู่ได้เพราะว่าความรุ่งเรืองของบรรพบุรุษแค่นั้น หากนายกล้าพอก็ลองแยกตัวออกมาจากตระกูลดูสิและลองใช้ชีวิตเหมือนกับสามัญชน โดยไม่พึ่งพาสถานะขุนนางของนาย นายกล้าไหมล่ะ?”
บาร์ดขมวดคิ้ว เขารู้สึกปวดท้องเมื่อได้ยิน
คนตรงหน้าของเขานั้นเฉลี่ยวฉลาดเลยทีเดียว หากเขาต่อว่าอีกฝ่ายไป อีกฝ่ายก็จะวิจารณ์ว่าตัวเขานั้นไร้ประโยชน์และไม่กล้าสูญเสีย ตรงกับข้อมูลที่เขาได้รับมาเลย บุตรทองคำนั้นเป็นกลุ่มที่ไม่ได้ให้ค่ากับขุนนางเลยแม้แต่น้อย
ถึงแม้ว่าบาร์ดจะหยิ่งในศักดิ์ศรี ทว่าเขาก็ไม่ใช่คนหัวรั้นและยึดติด เนื่องจากอีกฝ่ายยังคงต่อต้านเขาอย่างรุนแรงอยู่ ดังนั้นครั้งนี้เขาก็ควรจะถอยออกไปก่อน เขายิ้มทันทีและพูดว่า “คำโต้แย้งของเจ้าน่าสนใจเลยทีเดียว แต่อย่าพูดมันให้ขุนนางคนอื่นนอกจากข้าได้ยินล่ะ ไม่งั้นเจ้าอยู่ไม่สุขแน่”
หลังจากได้ยินคำพูดนี้ โรแลนด์ก็เผยรอยยิ้มที่ดูเหมือนการเยาะเย้ยออกมา
บาร์ดอยู่สึกโกรธอยู่ภายในใจ เขารู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก ทว่าเขาก็ไม่สามารถระบายออกมาได้ เขาไม่ได้ยิ้มอีกต่อไป เขาเป็นลูกชายของตระกูลขุนนางใหญ่จากเมืองหลวง เขาค่อนข้างหงุดหงิดอยู่แล้วที่ตนเองนั้นไม่ได้เป็นจุดสนใจ และในตอนนี้บุตรทองคำตรงหน้าก็กำลังโจมตีเขาด้วยคำพูดอยู่
เขาหายใจเข้าลึก ๆ และพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า “ข้ามีเรื่องที่จะคุยกับเจ้าซึ่งมันไม่เหมาะที่จะพูดอยู่ด้านนอก เจ้าซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจในหอคอยเวทย์ยังไม่เชิญข้าเข้าไปอีกหรือ?”
“กรุณาเข้ามา” โรแลนด์ยังคงสวมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม น้ำเสียงของเขาตอนที่เขาพูดก็ฟังดูค่อนข้างแปลกเช่นกัน
บาร์ดโกรธมากขึ้นเมื่อเห็นแบบนี้ เขาอยากจะรีบออกไปจากที่นี่ ทว่าเขาก็ทำได้เพียงแค่อดทนต่อไป
ในที่สุดพวกเขาก็ไปหยุดลงที่โต๊ะบนชั้นสองและนั่งเผชิญหน้ากัน
บาร์ดมองไปรอบๆ “เจ้าแสดงไมตรีจิตไม่ดีเอาเสียเลย ถ้าเจ้าไม่ต้องการเสิร์ฟขนมหรืออาหารรสเลิศ อย่างน้อยก็ควรเสิร์ฟไวน์ให้ข้าสักแก้ว”
“ฉันไม่รู้เรื่องพวกนั้น” โรแลนด์ยักไหล่อย่างไม่แยแส “นอกจากนี้นายยังไม่มีค่าพอให้ฉันต้องทำแบบนั้น”
“เจ้าจงใจหลอกให้ข้าโกรธงั้นเหรอ?” บาร์ดถามพร้อมหลี่ตา
แน่นอนโรแลนด์จงใจทำให้ชายคนนี้โกรธ มีเพียงคนที่ภายใต้สภาวะโกรธบางคนเท่านั้นที่จะเปิดเผยนิสัยที่แท้จริงของตัวเองได้ นั่นเป็นสาเหตุที่พวกบุคคลสำคัญส่วนใหญ่ถึงมักจะมีบุคลิกที่สงบนิ่ง
พวกเขาไม่ต้องการให้นิสัยที่แท้จริงและจุดอ่อนของพวกเขาถูกมองออก
โรแลนด์ยิ้ม “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก! ฉันแค่เกลียดขี้หน้านายก็เท่านั้น”
“ถ้าตามสิ่งที่เกิดขึ้นมาข้าก็เกลียดเจ้ามากไม่แพ้กัน” ความโกรธภายในตัวบาร์ดเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เขาแทบจะไม่สามารถอดทนมันได้อีกต่อไป “ข้าแค่ต้องการมาถามเจ้าว่า เจ้าจะนายเนื้อของตัวเองรึเปล่า?”
โรแลนด์อ้าปากค้าง
มันเป็นคำพูดที่คาดไม่ถึงอย่างน้อยก็สำหรับโรแลนด์
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกว่าเขาถูกกวนประสาท จนแทบจะเห็นเป็นหมึกดำหยดลงมากจากใบหน้าที่มืดมนและบูดบึ้งของเขาเลยทีเดียว
“นายอยากตายมากนักรึไง!?”
โรแลนด์พูดออกมาทีละคำด้วยความเดือดดาล ในเวลาเดียวกันเขารวบรวมพลังจิตจำนวนมากและสร้างมือสีฟ้าใสขนาดยักษ์ก็ปรากฏขึ้นเหนือหัวพวกเขาและพร้อมที่จะสั่งให้มันทุบลงได้ทุกเมื่อ
โรแลนด์อยู่ในระดับสี่และหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจดันเจี้ยนเขาได้รับประสบการณ์จำนวนมาก เขาขาดค่าประสบการณ์อีกเพียงแค่อีกประมาณ 10% เท่านั้นที่จะขึ้นระดับห้า
นี่เป็นความต่างชั้นของระหว่างเลเวลกันโดยชัดเจน บาร์ดนั้นเพียงแค่ระดับสองเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นรูปแบบการพัฒนาของโรแลนด์นั้นมาจากรูปแบบการพัฒนาความสามารถของผู้บัญชาการซึ่งเหมือนกันบุตรทองคำคนอื่นๆ ค่าคุณสมบัติที่สูง , มีความสามารถที่หลากหลาย และมีสกิลพิเศษที่มากมาย
คุณสมบัติของบาร์ดนั้นอย่างมากก็เป็นได้เพียงชั้นแนวหน้าเท่านั้น
ข้อมูลเบื้องต้นบางอย่างนั้นถูกบอกเล่าไว้ภายในเว็บไซค์หลักของเกม
ตามข้อมูลที่เว็บไซค์อย่างเป็นทางการให้ไว้จากระดับต่ำไปสูงนั้นเรียงจาก Normal(ทั่วไป), Elite(แนวหน้า), Genius(อัจฉริยะ), Commander(ผู้บัญชาการ), Overlord(ผู้ปกครอง), Demon God(เทพมาร), Divinity(ศักดิ์สิทธิ์)
การเติบโตของคุณสมบัติโดยรวมของผู้เล่นสูงมาก จากมุมมองหนึ่งพวกเขาถือได้ว่าเป็นบอสระดับกลาง
ในตอนนี้นั้นท่าทางของโรแลนด์นั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก บาร์ดรู้สึกราวกับว่าเขาพบเจอกับมังกรในร่างมนุษย์ เขากลืนน้ำลายและรีบพูดอย่างรีบร้อนว่า “เดี๋ยวก่อนข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย”
“นายออกไปได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะหักขานายทั้งสองข้างทิ้งซะ” โรแลนด์จ้องมองเขาอย่างไม่หวั่นไหว
บาร์ดลุกขึ้นและจากไปโดยไม่ลังเล
บาร์ดออกจากหอคอยเวทย์มนตร์พร้อมกับผู้ฝึกเวททั้งสองด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เขาโกรธมากและต้องการกลับไปทุบตีโรแลนด์เป็นอย่างมากเพราะเจ้านั่นทำให้เขาผู้ซึ่งเป็นบุตรจากตระกูลขุนนางใหญ่ต้องรู้สึกเกรงกลัว
ทว่าเขาก็ทำได้แค่คิด…เขานั้นไม่มีความกล้าเพียงพอ
นักเวทย์ฝึกหัดที่อยู่ข้างๆเขาต่างหวาดผวาจนเหงื่อแตก
“ไอสวะนั่น!” บาร์ดก่นด่าขณะเดินไปข้างหน้า “โรแลนด์หมอนี่เป็นปัญหาชะมัด จะเป็นอะไรไปก็แค่มาขอซื้อเนื้อด้วยเหรียญทองเท่านั้นเอง ทำไมเจ้านั่นต้องทำตัวราวกับจะฆ่าข้า? แม้งเอ้ยไม่น่ามาหาเจ้านี่เลยจริงๆ”
ในขณะเดียวกันโรแลนด์กำลังนวดขมับตัวเองอยู่ แต่เดิมเขานั้นพยายามทำให้บาร์ดโกรธเขาไม่นึกเลยว่าเขาจะกลายเป็นคนที่โกรธเสียเอง
หลักๆเพราะโรแลนด์รู้สึกว่าบาร์ดท่าทางเหมือนจริงเกินไป ไม่ว่าจะท่าทางกระหายที่ปรากฎอยู่ในดวงตาของหมอนั่นอยากจะซื้อ “ดอกเบญจมาศ” ของเขา
ขุนนางเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าขยะแขยงอย่างที่คาดเอาไว้ไม่มีผิด
ฉันไม่สามารถเอาชนะนายได้ด้วยการโต้เถียง ดังนั้นฉันจะยอมเป็น “เพื่อนที่ดี” ของนายแทนอะไรอย่างงี้เหรอ?
หลังจากนั้นโรแลนด์ก็พบว่าเขาได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ
“คุณได้เรียนรู้‘การยับยั้งด้วยจิต (พิเศษ)‘ เรียบร้อยแล้ว”
อะไรนะ? โรแลนด์ลองเข้าไปดูที่ความสามารถของมัน
การข่มขู่ทางจิต : เมื่อคุณอยู่ในสถานะของการร่ายหรืออยู่ในสภาวะโกรธ คุณจะสามารถปล่อยการโจมตีทางจิตไปในรัศมีของระดับตัวผู้เล่น *10 ไปยังสิ่งมีชีวิตรอบข้างโดยไม่คำนึงถึงพรรคพวกหรือศัตรู อัตราความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับความต่างของเลเวลระหว่างสองฝ่าย และความสามารถในการต้านทานของแต่ละบุคคล สิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาทั้งหมดทีโดนการโจมตีจะเข้าสู่สถานะวิตกกังวล
วิตกกังวล: ค่าสถานะของตัวละครทั้งหมดลดลง 10%
ความสามารถพิเศษนี้…แข็งแกร่งมาก ทว่าโรแลนด์รู้สึกว่ามันคงไม่สามารถใช้ได้จริง
เนื่องจากเขาต้องอยู่ในสภาวะร่ายเวทย์และโกรธในเวลาเดียวกัน…นั่นไม่ใช่วิธีการต่อสู้ของนักเวทย์
เมื่อนักเวทย์ต่อสู้พวกเขาจำเป็นต้องสงบสติอารมณ์และร่ายเวทย์ที่เหมาะสมในเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ
ในสภาพที่โกรธเกรี้ยวนักเวทย์ที่มีประกายไฟอยู่ที่มือซ้ายและลูกไฟขนาดใหญ่ที่มือขวาพร้อมตะโกนเรียกชื่อศัตรูและระดมยิงใส่ศัตรูอย่างบ้าคลั่ง – มันไม่มีสุนทรียศาสตร์เลยแม้แต่น้อย…แต่เดี๋ยวก่อนบางทีมันอาจจะดูเท่นิดหน่อยก็ได้
บางทีมันอาจจะให้ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจในบางสถานการณ์
การได้รับความสามารถพิเศษอันใหม่ถึงยังไงก็นับเป็นเรื่องที่ดี โรแลนด์รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เขากำลังจะเริ่มทดลองเวทย์ต่อ ทว่าเขากลับได้รับการแจ้งเตือนจากระบบอีกครั้ง
อย่าบอกนะว่าฉันได้สกิลพิเศษอีกแล้วน่ะ
เขามีความคิดแบบนั้นอยู่ในหัว ทว่ากลับเป็นเบทต้าที่ทักมาหาเขาด้วยระบบของกิลด์
“พี่โรแลนด์ครับมาที่บ้านผมหน่อย ผมเจอบางอย่างผิดปกติ”
แม้ว่าจะมีคำเพียงไม่กี่คำ แต่โรแลนด์ก็รู้สึกถึงความจริงจังในข้อความนี้
****
菊花门 คำนี้จะแปลว่า “ประตูดอกเบญมาศ” ครับ โดยปกติมักจะเขียนย่อในรูปว่า 菊花 (ดอกเบญจมาศ)แปลว่า ประตูหลัง นั่นเองครับ
อันนี้แถมละกันครับ อันนี้ถือว่าเป็นอารมณ์วัฒนธรรมจีนกับดอกเบญมาศนะครับ
ดอกเบญจมาศ (菊花) ตามความเชื่อของชาวจีนตั้งแต่ราชวงศ์ฮั่นว่ามันเป็นดอกไม้ที่จะเติบโตจากพิธีศพ สรรพคุณคือยืดชีวิต โดยความหมายน่าจะสื่อประมาณว่า มันดูดกลืนพลังชีวิตเพื่อเติบโตและกลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งชีวิต