หลงรักฉันสักทีเถอะค่ะ คุณเหยา - ตอนที่ 105
“เธอต้องการอะไร ฉันจะบอกให้นะ ฉันคือ…”
ก่อนที่คำพูดหนักแน่นของซ่งเหมยหรงจะพูดจบประโยค เธอถูกเสี่ยวชิงตบเข้าที่แก้มอย่างแรง
ทันใดนั้นฉากก็สงบลง ซือโย่วเผลอกระโดดด้วยความตกใจกลัว
“พี่สาว อย่ามารังแกกันสิ…”
นี่คือนายหญิงหมายเลขหนึ่งของตระกูลฉิน! ซือโย่วแค่อยากให้เธอตกใจ แต่เธอไม่อยากทำอะไรมากมาย ท้ายที่สุดเธอไม่ต้องการสร้างปัญหา!
เสี่ยวชิงไม่สนใจตัวตนของซ่งเหมยหรง ไม่ว่าเธอจะเป็นใครก็ตาม คนไร้ยางอายอย่างนั้น เธอต้องทำให้หล่อนได้สติเสียบ้าง
ซ่งเหมยหรงหยุดนิ่งไม่ตอบสนองอะไรเลยตั้งแต่ถูกเสี่ยวชิงตบ
ในที่สุดฉินอู้ก็ยื่นเครดิตการ์ดของเขาให้กับซือโย่ว ในนั้นมีเงิน 100,000หยวน นั่นเป็นเงินค่าขนมของเธอ ซือโย่วหยิบการ์ดขึ้นมาและส่งยิ้มให้กับซ่งเหมยหรงอย่างประชดประชัน เธอใช้การ์ดใบนั้นของฉินอู้ซื้อเสื้อผ้าให้กับเสี่ยวชิงและคืนการ์ดใบนั้นให้กับฉินอู้
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณเป็นใคร แต่ถ้าอยากจะแก้แค้นล่ะก็ มาหาฉันได้ทุกเมื่อ ปู่ของฉันชื่อเสี่ยวลี่ไห่ รู้จักใช่ไหม?”
ใบหน้าของซ่งเหมยหรงเปลี่ยนเป็นสีซีดเผือด เสี่ยวลี่ไห่! นายพลของเมือง C และสหายร่วมรบกับปู่ของเหยาซื่อ ภูมิหลังครอบครัวของพวกเขานั้นเทียบเท่ากับตระกูลเหยาเลยก็ว่าได้ อย่าพูดถึงการตบหน้าเธอเพียงสองครั้งเลย แม้จะบิดแขนของเขาขาด เธอก็ไม่มีปัญหาสร้างปัญหาให้กับเสี่ยวชิงได้!
แล้วเธอคนนี้มาอยู่กับซือโย่วได้อย่างไรกัน! ซ่งเหมยหรงจ้องมองฉินเซวียงลู่ด้วยความโกรธ เธอรู้ว่าวันนี้เธอไม่ควรออกมา!
ไม่มีใครพูดอะไรกระทั่งซือโย่วควงแขนเสี่ยวชิงเดินออกไป
เสี่ยวชิงเป็นทหารหญิงพิเศษ เพียงแค่ตบหน้าเธอสองครั้งทำเอาแก้มของซ่งเหมยหรงบวมแดง
นายหญิงคนที่สองของตระกูลฉินไม่สามารถยืนอย่างมั่นคงได้ พนักงานขายรีบโทรเรียกรถพยาบาลตำรวจ พร้อมกับเรียกค่าเสียหายด้วยเช่นกัน หลังจากที่ซือโย่วจากไป พวกเขาชดเชยค่าเสียหายให้กับทางร้านทั้งหมด
เสี่ยวชิงเดินออกไป ซือโย่วถือถุงเสื้อผ้าของเธอและเดินตามเธอไปอย่างใกล้ชิด
“พี่! พี่คะ”
เสี่ยวชิงหยุดเดิน เธอถอดรองเท้าส้นสูงของตนเองและโยนมันออกเพื่อแลกกับรองเท้าส้นแบนของเขา
“ไอ้นี่ สวมยากชะมัด!”
ซือโย่วช่วยเสี่ยวชิงเปลี่ยนรองเท้าอย่างกระตือรือร้น สายตาเต็มไปด้วยความนับถือบูชา แม้วัยเด็กซือโย่วจะเป็นคนพาล เรื่องต่อสู้ไม่เป็นรองเด็กผู้ชาย แต่พลังต่อสู้ของเสี่ยวชิงเป็นสิ่งที่เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิด!
เสี่ยวชิงกลับไปสวมรองเท้าส้นแบนของเธอดังเดิม ทำให้รู้สึกสบายขึ้นมาก! เพียงแต่มันไม่เข้ากับกระโปรงที่ซือโย่วเพิ่งซื้อให้ เสี่ยวชิงไม่รู้ว่าทำไมซือโย่วถึงดูมีท่าทีเชิงบวกกับเธอ ถ้ารู้ว่าภรรยาตัวน้อยของเขาเป็นคนใจดีแบบนี้ เธอก็คงตัดสินใจอยู่ได้ไม่ยาก
“ไม่ ไม่ เดียวทำฉันเอง!” เสี่ยวชิงเข้าจัดการรองเท้าเอง
“เอามาสิ เดียวฉันจัดการเอง” เสี่ยวชิงยื่นมือออกไปรับของจากมือซือโย่ว ทว่าซือโย่วกลับส่ายหน้าและปฏิเสธ
“พี่สาว…”
ซือโย่วจ้องไปที่ตาของเสี่ยวชิงอย่างจิรงจัง เมื่อเห็นแววตานั้นทำให้เสี่ยวชิงไม่สบายใจ
“เธออยากทำอะไรล่ะ”
เสี่ยวชิงไม่ใช่คนที่มีความอดทน ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่?
“อิอิ ไม่มีอะไรหรอก ถ้าพอจะมีเวลาว่างล่ะก็ ช่วยสอนการต่อสู้ให้ฉันบ้างสิ” เธอยักคิ้วด้วยความเขินอาย พร้อมกับโน้มตัวเข้าถูกไถเสี่ยวชิงราวกับลูกแมวน้อย
“ไม่!” เสี่ยวชิงถอยห่างจากเธอ ทว่าซือโย่วยังไม่ยอมหยุด เธอก้าวเข้าไปใกล้เสี่ยวชิงอีกครั้ง
“ทำไมล่ะ?” ซือโย่วกระโดดเข้าไปใกล้ ท่าทีกระวนกระวาย
“ไปขออาซื่อก่อนสิ ถ้าเขาอนุญาต ฉันจะสอนให้”
ซือโย่วคิดได้เช่นนั้น เธอจะกลับไปขออนุญาตเหยาซื่อ หลังจากคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ที่สามารถต่อสู้ได้เก่งกาจ เธอก็แทบจะไม่สามารถปิดบังใบหน้าลิงโลดของตนเองได้
“อาจารย์ รอฉันด้วย!” ซือโย่วตะโกนตามหลัง เสี่ยวชิงหันมาสบตาให้เธอปิดปากเงียบ
ซือโย่วตกใจกระพริบตา เสี่ยวชิงทุบเข้าที่หัวของเธอทันที
“เห่าอะไรอยู่ได้”
โอ้ ได้โปรดเถอะ เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าเธอเป็นบอดี้การ์ดของฉัน แม้ว่าเธอจะเป็นคุณหนูเสี่ยว แต่ฉันเป็นเจ้านายของเธอนะ!
“อาจารย์คะ! ไม่ต้องกังวลไป อาซื่อต้องเห็นด้วยที่จะให้คุณเป็นครูของฉันแน่! อาจารย์ อาจารย์ อาจารย์!”
ซือโย่วพอใจ เรียกเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างหน้าไม่อายเพราะอยากจะแกล้งที่เสี่ยวชิงส่งสายตาดุเธอ
“ฉันสอนให้เธอไม่ได้หรอก”
ซือโย่วยังดึงดันต่อไปอย่างน่าไม่อาย ยังคงหยอกเย้ากันอย่างหนัก กระทั่งมองดูเวลาแล้วว่าตนเองกำลังจะสาย จึงรีบพากันตรงไปที่บาร์
เฉียวเฟยกับแฟนใหม่ ยิ้มหน้าหวานปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองคน ทำเอาเสี่ยวชิงคลื่นไส้แทบจะอาเจียน
“ว่าไงเพื่อน!”
เสี่ยวชิงไม่เคยเห็นคู่รักเพศเดียวกันด้วยตาของตัวเองมาก่อน มันยากเสียจริงที่เธอจะยอมรับ เมื่อเห็นผู้ชายตัวใหญ่สองคนส่งเสียงอี้อ๋าต่อหน้าเธอ!
“ดีจ๊ะดี” เมื่อซือโย่วรู้สึกกระดากที่จะทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง เฉียวเฟยมองไปที่เสี่ยวชิงอย่างดูถูกอย่างที่ไม่เคยมองผู้หญิงคนใดบนโลกใบนี้มาก่อน ซือโย่วเป็นเพื่อนรักที่ดี ไม่ว่าเขาจะทำอะไรซือโย่วก็มักจะสนับสนุนเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข!
“เอ่อ…” เสี่ยวชิงสะอิดสะเอียนถึงกับขนลุก เธอนั่งลงที่เก้าบาร์ข้าง ๆ และดื่มไวน์ โดยเว้นระยะห่างให้ซือโย่วและเพื่อน ๆ ของเธอ
“เขาคือบอดี้การ์ดของเธอที่สามีของเอจ้างให้มาดูแลเธอหรอกเหรอ ดูนิสัยไม่ค่อยดีเลย!”
เสี่ยวชิงไม่ชอบเธออย่างไร เฉียวเฟยก็ไม่ชอบเสี่ยวชิงอย่างนั้น!
“อย่าพูดอะไรไร้สาระเลยน่า พี่เสี่ยวน่ะ เขาเก่งจะตายไป! นั่นคืออาจารย์ของฉัน ต่อไปพวกเธอก็สุภาพกับเขาหน่อยล่ะ”
ซือโย่วพูดจาชื่นชมเสี่ยวชิง เพื่อไม่อยากให้ใครมาว่าร้ายอาจารย์ของเธอ!
เฉียวเฟยถูกเธอเกลี้ยกล่อมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ใบหน้าของซือโย่วที่จ้องมองแก้วไวน์ในมืออย่างน่าเบื่อ เหยาซื่อบอกว่าวันนี้เป็นวันพิเศษให้เธอดื่มได้ แต่อย่าดื่มมากเกินเพราะพรุ่งนี้เธอต้องไปทำงานเป็นวันแรกหลังจากลาป่วย
รถจอดที่ประตูทางเข้าบาร์ ซูเหยาเหยาจัดการเสื้อผ้าของเธออย่างประหม่าและมีชายอีกคนปลอบประโลมเธอตลอดเวลา
“ไม่ต้องกังวลไป อาซื่อกับผมจะรออยู่ที่ชั้นบน อย่าตกใจไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
ซูเหยาเหยาพยักหน้าอย่างประหม่าหยิบกระเป๋าแล้วเดินเข้าไปเพียงลำพัง
ซือโย่วไม่คิดว่าตอนนี้เหยาซื่อกับจงอี้จะพูดคุยกันกันอยู่ที่ห้องส่วนตัวชั้นบน
ซูเหยาเหยาประหม่าอย่างที่สุด เธอไม่รู้ว่าจะคุยกับซือโย่วอย่างไร
เหยาซื่อกลัวว่าซือโย่วจะทนต่อการกระตุ้นทางอารมร์ไม่ได้และทำอะไรที่รุนแรงเกินไป เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนรู้สึกนั่งดื่มกันด้วยความประหม่า
“อา ว่าไงนะ พี่สะใภ้น่ะเหรอที่จะโกรธจนทำร้ายลูก!”
จงอี้ได้เห็นพลังโกรธของซือโย่วด้วยตาของเขาเอง ใบหน้าของจ้าวเซว่หันถูกตีด้วยขวดแก้ว เขาเดินไปมารอบ ๆ อย่างกระวนกระวายในห้องส่วนตัว เหมือนกับติดอยู่อย่างนั้นเป็นแรมปี
เหยาซื่อใจที่ใจเย็นกว่า
จงอี้พูดอย่างกระวนกระวาย “นายคิดยังไง นั่นลูกเมียฉันนะ จะปล่อยให้พวกเขาถูกทำร้ายได้ยังไง”
ซูเหยาเหยาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของซือโย่ว หากซือโย่วรู้ว่าซูเหยาเหยามีปัญหาใหญ่เช่นนี้ เขาพนันได้เลยว่าซือโย่วจะต้องทนทุกข์อย่างมาก
“ตอนนี้นายจะกังวลอะไร?”
สิ่งที่เขาพูดก็ฟังดูมีเหตุผล พี่สะใภ้ของเขาคงจะโกรธเพียงชั่วครู่เท่านั้น จึงทำให้เขารู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง
เหยาซื่อกลอกตาไปมา มองเขาอย่างเห็นใจ
“ฉันละกังวลไปกับนายจริง ๆ”