หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง - ตอนที่ 271 เราเองก็เล่นแง่บ้าง
ตอนที่ 271 เราเองก็เล่นแง่บ้าง
มีชาวบ้านบางส่วนตาบอดเพราะเนื้อหมูป่าจนลืมความน่าหวาดกลัวของพวกมันเสียสิ้น เดิมทีการล่าสัตว์ก็มีกฎว่าใครล่าคนนั้นได้อยู่แล้ว หมูป่าหนึ่งตัวมีน้ำหนักกว่าหลายร้อยชั่ง ถ้าลากไปขายที่เขตเริ่นอันจะทำเงินได้หลายสิบตำลึง แล้วมันจะทำให้ซื้อข้าวสารได้ตั้งเท่าไร ! หรือแม้แต่หมูป่าแค่ตัวเดียวก็ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องปากท้องในฤดูหนาวแล้ว ไม่ได้แค่ขุดหลุมทำกับดักหรอกหรือ หากจับไม่ได้ก็ไม่เสียหายอันใดเสียหน่อย
ผู้ใหญ่บ้านต้าฝางจวงเอ่ยเตือนพวกเขา “ข้าขอเตือนพวกเจ้าก่อนว่าในหุบเขามีหมูป่าหลายสิบตัว หากพวกเจ้ายังยืนกรานจะขึ้นเขา ผลที่ตามมาต้องรับผิดชอบกันเอง ! ”
พอชาวบ้านบางส่วนได้ยินเช่นนั้นก็คิดในใจว่า ‘สวรรค์ เมื่อคืนพวกเขาและชาวบ้านฉือหลี่โกวตั้งหลายสิบคนยังจัดการหมูป่าตัวเดียวไม่ได้ แล้วนับประสาอันใดกับหมูป่าเป็นฝูง ? ’ แม้ว่าเนื้อหมูป่าจะน่าดึงดูดใจมากเพียงใด อย่างไรชีวิตก็สำคัญกว่า ! ท้ายที่สุดคนส่วนใหญ่จึงล้มเลิกความคิดนี้ไป มีเพียงคนกลุ่มน้อยเท่านั้นที่ยังคิดกระทำ
เพราะการแบกหมูป่าทำให้ไม่สามารถเดินขึ้นเขาได้ หลินเว่ยเว่ยและชายชาวฉือหลี่โกวจึงได้แต่เลือกเดินบนถนนใหญ่ที่ไกลกว่าหน่อย หลินเว่ยเว่ยแบกหมูป่าตัวใหญ่เดินอย่างองอาจอยู่เบื้องหน้า ส่วนด้านหลังเป็นชายฉกรรจ์ตัวสูงใหญ่ที่แบกหมูป่าไว้เช่นกัน คนกลุ่มนี้ดูสะดุดตามากเพียงใดคงไม่ต้องบรรยาย โชคดีที่ระหว่างทางพบคนแค่ไม่กี่คน ไม่อย่างนั้นคงโดนจับตามองแน่นอน
“พี่รอง ! พี่รอง ! ” หลินจื่อเหยียนและน้องชายคนโตของหยาเอ๋อร์ขับเกวียนเทียมล่อมารอรับพวกนาง
พ่อซัวถัวเช็ดเหงื่อแล้วถามว่า “วันนี้ไม่ได้ไปส่งของกันหรือ ? ”
หลินจื่อเหยียนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ส่ง ! พวกลุงต้าซวนออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง พอถึงเขตเริ่นอันก็ไม่หยุดพักสักอึดใจเดียว เพราะกลัวพวกท่านจับหมูป่ามาเยอะเกินไปแล้วเสียแรงมาก ! มา เอาหมูป่าใส่เกวียนได้เลย”
เกวียนเทียมล่อคันหนึ่งบรรทุกหมูป่าตัวใหญ่ 3 ตัว หมูป่าตัวเล็กอีก 1 ตัวจนกลายเป็นภูเขาน้อย ๆ หนึ่งลูก ล่อแข็งแรงคู่หนึ่งเหนื่อยจนหมดแรงแทบใจจะทำงาน ชายชาวฉือหลี่โกวจึงต้องช่วยกันดันเกวียนอย่างขำขัน
เจียงโม่หานและหลินเว่ยเว่ยเดินเคียงคู่กันอยู่ด้านหลัง เขาถามนางเบา ๆ ว่า “เจ้าคิดจะช่วยทำความสะอาดหุบเขาหมู่บ้านต้าฝางจวงให้สะอาดเอี่ยมเลยหรือ ? ทว่า…คนในต้าฝางจวงอาจไม่ซาบซึ้งในบุญคุณของเจ้าก็ได้ ! ”
เมื่อครู่เขาเห็นท่าทีของชาวบ้านต้าฝางจวง…มีคนเนรคุณอยู่กลุ่มหนึ่ง เห็นแค่ผลประโยชน์จากหมูป่าแล้วลืมอันตรายของพวกมัน สำหรับเขาแล้วคนกลุ่มนี้ไม่จำเป็นต้องช่วยหรือเห็นใจแต่อย่างใด !
“ใครอยากให้พวกเขาซาบซึ้งกันเล่า ? ข้าทำเพราะเจ้าพวกนี้ ! ” หลินเว่ยเว่ยพยักพเยิดคางไปที่หมูป่าบนเกวียนเทียมล่อ “ส่วนหมูป่าในหุบเขาพวกนั้น…รอให้เนื้อหมูป่าชุดนี้ใกล้หมดแล้วค่อยว่ากันใหม่ ! ”
เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้าน หลินเว่ยเว่ยก็นำหมูป่าตัวใหญ่และตัวเล็กอีกหนึ่งตัวแบ่งให้คนที่มาช่วยโดยมีพรานหวังจัดการหั่นพวกมัน เนื้อที่ได้ทั้งหมดมีถึง 400 กว่าชั่ง บ้าน 20 กว่าหลังได้เนื้อกลับไปถึง 20 ชั่ง ! พวกชาวบ้านฉือหลี่โกวถือเนื้อกลับบ้านอย่างเขินอายที่ช่วยงานไม่เท่าไรแต่ได้เนื้อเยอะเช่นนี้…
เจียงโม่หานก็ได้ส่วนแบ่ง เขาจึงถือเนื้อเอาไว้โดยไร้คำพูด
เหมือนเขาจะไม่ได้ทำอันใดเลย
พ่อซัวถัวจึงแกล้งหยอกเย้า “เนื้อพวกนี้คู่หมั้นเจ้าเป็นคนหามา ดังนั้นเจ้าสมควรได้รับ ! ”
ด้วยความช่วยเหลือจากพวกชาวบ้าน หมูป่าที่เหลือจึงถูกเชือดและแบ่งเนื้อเป็นส่วน จากนั้นก็ย้ายไปยังห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องใต้ดินตรงลานหลังบ้านตระกูลเจียงก็ถูกปรับให้ใหญ่ขึ้นเพื่อใช้เก็บอาหารของทั้งสองครอบครัว ห้องใต้ดินทางฝั่งบ้านตระกูลหลินเก็บเนื้อไว้ครึ่งหนึ่ง เก็บผลไม้ป่าอีกครึ่งและยังมีพวกผลิตภัณฑ์แปรรูป
ขณะมองเนื้อหมูป่าที่กองจนเป็นเนินเขาเล็ก ๆ ในห้องใต้ดิน หลินเว่ยเว่ยก็ถอนหายใจออกมา…ในที่สุดก็ไม่ต้องกังวลเรื่องวัตถุดิบในการทำเนื้อแผ่น เนื้อหมูป่าพวกนี้น่าจะพอใช้ได้อีกครึ่งเดือน !
เพียงแต่ไม่รู้ว่าหลังจากที่พวกชาวบ้านต้าฝางจวงเห็นผักป่าอันเขียวชอุ่มในหุบเขาหรือธารน้ำที่ไหลรินแล้ว คนมีกินมีดื่มน้อยอย่างพวกเขาจะยังนิ่งเฉยอยู่หรือไม่ ?
เป็นไปตามคาดคือต่อจากนั้น 5 วัน ผู้ใหญ่บ้านต้าฝางจวงก็มาเยี่ยมอีกครา เป้าหมายในคราวนี้คือให้หลินเว่ยเว่ยช่วยกวาดล้างฝูงหมูป่าในหุบเขา แถมยังบอกว่านางสามารถใช้ชายหนุ่มในหมู่บ้านต้าฝางจวงได้ตามใจชอบ และหมูป่าที่ล่าได้ในหุบเขาจะเป็นของนางทั้งหมด !
ก่อนหน้านี้ เมื่อ ‘ผู้กล้า’ หลายสิบคนของต้าฝางจวงไปถึงหุบเขาลูกนั้นแล้ว แม้จะไม่กล้าเข้าไป ทว่าก็เห็นความเขียวขจีอันมีชีวิตชีวาได้จากด้านนอก
ชาวบ้านต้าฝางจวงไม่ได้ลิ้มรสชาติผักใบเขียวมานานมากแล้ว ผิวบริเวณปากจึงเต็มไปด้วยตุ่มพุพอง เด็กถ่ายไม่ออก บางคนเริ่มมีอาการสายตาสั้น หากไม่ใช่เพราะกลัวพวกหมูป่าในหุบเขา พวกเขาก็คงขึ้นไปเก็บของป่านานแล้ว !
พวกเขาเฝ้าทางเข้าหุบเขาอย่างระมัดระวัง ช่วยกันขุดหลุมทำกับดักไม่น้อยโดยไม่เป็นงาน นอกจากนี้ยังทำเสียงบางอย่างเพื่อล่อให้พวกหมูป่าวิ่งมาติดกับดัก พวกหมูป่าล่อมาได้ก็จริง แต่ดูเหมือนพวกมันจะรู้ถึงตำแหน่งที่ตั้งของกับดัก พวกมันจึงเดินอ้อมแล้วออกมาวิ่งไล่พวกเขาแทน
ทำให้พวกเขาตกใจจนต้องรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็วเพื่อกลับหมู่บ้านทันที โชคดีที่พวกหมูป่าตามมาแค่ระยะหนึ่งเท่านั้น ไม่อย่างนั้นพวกชาวบ้านได้จบชีวิตแน่ ! เมื่อลองทำต่อจากนั้นอีกสองสามครั้ง พวกเขาก็ต้องจำใจยอมแพ้ ทว่าเรื่องผักป่าที่มีทุกหนทุกแห่งในหุบเขาและผลไม้ป่าต่าง ๆ กลับแพร่ไปทั่วหมู่บ้าน ดังนั้นผู้ใหญ่บ้านต้าฝางจวงจึงมาหานางอีกครา
หลินเว่ยเว่ยเอ่ยด้วยความลำบากใจ “ผู้ใหญ่ฝาง ใช่ว่าข้าไม่อยากช่วยท่าน แต่หมูป่ามีเยอะเกินไป มันอันตรายมาก ! ท่านลองคิดดู ครั้งก่อนที่หมูป่าสองตัวนั้นพาลูกเข้ามาบุกทำลายก็ทำให้ปวดหัวมากแล้ว แต่คราวนี้เป็นฝูงหมูป่ากว่า 40 – 50 ตัวเชียวนะ ! ”
ผู้ใหญ่บ้านต้าฝางจวงกล่าวด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง “ขุดหลุมทำกับดักไม่ได้หรือ ? ”
“หมูป่าเหล่านั้นใช้ชีวิตอยู่ในหุบเขา นานครั้งจะออกมา การทำหลุมกับดักต้องเข้าไปในหุบเขา แล้วถ้าทำให้หมูป่าเกิดความตื่นตระหนกขึ้นมา…” หลินเว่ยเว่ยส่ายศีรษะเพื่อแสร้งทำให้ตัวงานดูยากยิ่งขึ้น “ผู้ใหญ่ฝาง ท่านกลับไปก่อนเถิด ข้าขอเวลาคิด…”
ง่ายไปก็จะไม่เห็นค่า ถ้าอยากให้นางออกโรงก็ต้องแสดงความจริงใจให้เห็นก่อน !
ผู้ใหญ่บ้านฝางก้มหน้าก้มตาเดินออกจากหมู่บ้านฉือหลี่โกวไปอย่างหัวเสีย ผู้ใหญ่วังจึงช่วยเตือนเขาว่า “นางหนูรองเป็นคนใจอ่อน เจ้ามาขอร้องนางบ่อย ๆ แล้วเล่าสถานการณ์ในหมู่บ้านให้นางฟังอย่างชัดเจน นางจะช่วยเจ้าแน่นอน…คราวก่อนตอนไปหมู่บ้านพวกเจ้า…มีเหตุการณ์ใดที่ทำให้นางหัวเสียหรือไม่ ? ”
ผู้ใหญ่บ้านต้าฝางจวงนึกถึงการตอบสนองของลูกบ้านหลังจากที่หลินกู่เหนียงไปช่วยจัดการหมูป่าขึ้นมาทันที แม้แต่เขายังมองออก แล้วหลินกู่เหนียงที่เป็นคนฉลาดถึงเพียงนี้จะอ่านความคิดพวกนั้นไม่ออกได้อย่างไร ?
พอกลับมาถึงหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านต้าฝางจวงก็ด่าคนพวกนั้นทันที ฝ่ายลูกบ้านที่พอขึ้นเขาแล้วถึงได้เข้าใจว่าการขุดหลุมกับดักไม่ใช่ใครก็สามารถทำได้อย่างที่คิด พวกเขาคิดไม่ตกว่าเหตุใดหมูป่าถึงได้หลบกับดักแล้วออกมาไล่พวกตนแทน ?
เพื่อคนทั้งหมู่บ้าน เพื่อลูกหลานบ้านตนจะได้กินผักป่าสดใหม่ แม้แต่พวกหัวแข็งก็ยังตามผู้ใหญ่บ้านมาขอโทษหลินเว่ยเว่ยด้วยใจจริง หวังให้นางใจกว้างไม่ถือสาคนโง่และไม่ติดใจกับอดีตเพื่อช่วยกำจัดหมูป่าแห่งต้าฝางจวง และสร้างทางรอดให้คนในหมู่บ้าน
เจียงโม่หานเห็นหลินเว่ยเว่ยเตรียมตัวออกจากบ้านจึงเดินตามหลังไปอย่างสบายแล้วกล่าวว่า “ไม่ได้บอกว่าจะรับคำขอโทษจากใจจริงหรอกหรือ ? นี่คนต้าฝางจวงเพิ่งมาหาแค่ 2 รอบเอง”