หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง - ตอนที่ 276 วันเกิดของบัณฑิตน้อย
ตอนที่ 276 วันเกิดของบัณฑิตน้อย
ถ้าคนอื่นมีคู่หมั้นดีถึงเพียงนี้ก็ต้องเคารพและชื่นชม แต่นางทำตัวดีนัก ยั่วโทสะอีกฝ่ายได้วันละหลายร้อยรอบ โชคดีที่ก่อนหมั้นหมายหานเอ๋อร์รู้นิสัยนี้ของนางอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นคงจะนำพายุแห่งการหวนคืนมาสู่ตระกูลหลิน…
เมื่อหลินเว่ยเว่ยหวีผมให้บัณฑิตหนุ่มเสร็จแล้วก็เริ่มนวดหนังศีรษะให้อย่างชำนาญ นางไม่ได้ทำงานในร้านทำผมช่วงวันหยุดฤดูร้อนของชาติที่แล้วอย่างเสียเปล่าเลยจริง ๆ
เจียงโม่หานรู้สึกสบายจนหลับตา ใบหน้าน้ำแข็งก็ค่อย ๆ ผ่อนคลาย หลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและทายาในกระเป๋าลงบนร่างกายแล้ว เขาจึงไม่รู้สึกคันขึ้นมาอีก อารมณ์ก็ดีขึ้นมาก ตอนนี้นางยังนวดหนังศีรษะให้อย่างใส่ใจอีก ช่างเถิด ไม่เอาความนางแล้วก็ได้ ถ้าเอาจริงเอาจังกับนางมากกว่านี้ เขาก็คง…โมโหจนคลั่งตายเพราะนางไปนานแล้ว !
เจียงโม่หานเค้นเสียงดัง ฮึ “เจ้าจะเป็นสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำให้คู่หมั้นโมโหจนตาย ! ”
“ไอหยา ตายไม่ตายอันใดกัน ! อย่าพูดจนติดปากเชียว ไม่เป็นมงคลเอาเสียเลย ! หมอดูได้ทำนายดวงชะตาให้ข้าแล้วว่ามีดวงส่งเสริมสามี เจ้าจะต้องอายุยืนร้อยปีแน่นอน ! ” หลินเว่ยเว่ยค่อยๆ นวดหนังศีรษะให้เขาอย่างอ่อนโยน เจียงโม่หานก็รู้สึกสบายจนส่งเสียงแห่งความสุขออกมา !
สามวันต่อจากนั้นก็มาถึงวันคล้ายวันเกิดของเจียงโม่หานซึ่งหลินเว่ยเว่ยตื่นขึ้นมาทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ เป็นอย่างที่เจียงโม่หานคิดว่าสิ่งเดียวที่นางถนัดคือการทำขนมและอาหาร นางจึงตัดสินใจทำเค้กวันเกิดขนาดใหญ่ให้บัณฑิตน้อย !
วันนี้นางให้คนงานทำเนื้อแผ่นและแยมผลไม้หยุดงาน…เนื่องจากมีงานมงคล นางจึงให้หยุดหนึ่งวัน !
เตาอบไม่กี่เตาถูกนำมาอบเค้กพร้อมกัน นางตัดสินใจจะทำเค้กสามชั้นและด้านในยังมีพวกผลไม้เชื่อมอีกด้วย พวกสีที่ใช้ในการตกแต่ง สีแดงมาจากน้ำผลเชอร์รี่ป่า สีเขียวมาจากน้ำผักโขมและสีเหลืองมาจากลูกพลับ
“พี่รอง พี่รอง ! ท่านกำลังทำขนมอะไรอยู่หรือ ! ” เจ้าหนูน้อยมีนิสัยเดียวกับเจ้าดำที่อยู่ข้างเท้าของเขา เพราะต่างเดินวนไปมารอบตัวหลินเว่ยเว่ยจนนางเกือบเหยียบเจ้าดำหลายต่อหลายครั้ง
หลินเว่ยเว่ยเริ่มเฉือนเค้กที่อบเสร็จแล้วให้เป็นรูปวงกลมสามขนาด จากนั้นก็นำมุมเค้กที่ตัดออกยัดใส่ปากเจ้าหนูน้อยที่ฉีกยิ้มและพูดประจบทันที “อร่อย ! ขนมฝีมือพี่รองอร่อยที่สุด ! ”
เจ้าดำเห็นปากของเจ้านายตัวน้อยขยับ มันจึงรีบเดินไปมาแล้วยืนด้วยขาหลังและใช้หางน้อย ๆ ตีใส่ขากางเกงของหลินเว่ยเว่ย
“เจ้าหมาตะกละ ! ” เจ้าหนูน้อยย่อตัวอุ้มเจ้าดำขึ้นมา จากนั้นก็ใช้เล็บมือบิเค้กเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วยื่นไปที่ปากของมัน เจ้าดำก็อ้าปากรับอย่างว่าง่าย งั่มงั่มงั่ม…ขออีก !
เจ้าดำอายุเกือบครบหนึ่งเดือนแล้ว หูข้างหนึ่งตั้งขึ้นแต่อีกข้างยังพับเหมือนเดิม เวลาที่ดวงตาสีอำพันเป็นประกายคู่นั้นมองมา มันจะดูไร้เดียงสาเป็นพิเศษ ทำให้คนปฏิเสธมันไม่ลง
คนในบ้านล้วนกระตือรือร้นที่จะป้อนอาหารให้มัน ไม่ว่าจะเป็นนมแพะ เนื้อบด เนื้อติดกระดูก ไข่ไก่…ตอนแรกเริ่มที่มาถึง เจ้าตัวน้อยมีรูปร่างผอมแห้ง แต่ตอนนี้มันกลายเป็นหมาป่าอ้วนท้วนไปแล้ว เวลาวิ่งเหมือนลูกบอลสีดำกลิ้งไปกลิ้งมาไม่มีผิด ! พวกเด็ก ๆ ในหมู่บ้านต่างแย่งกันจะอุ้มมัน
ในบ้านตระกูลหลิน เจ้าดำทำตัวอ่อนโยน ไม่ว่าใครอุ้มมันก็จะถูไถคนนั้น แต่เมื่อออกไปด้านนอกกลับทำตัวหยิ่งยโส ไม่ว่าเด็กในหมู่บ้านคนไหนก็จับไม่ได้ อย่ามองว่ามันตัวอ้วนเชียว เวลาเคลื่อนไหวขึ้นมามันเร็วยิ่งกว่าอะไร ไม่ว่าใครก็อย่าคิดจะจับมันทั้งนั้น
หากคนแปลกหน้าคิดจะสัมผัส มันจะก็แยกเขี้ยวฟันน้ำนมออกมา ขนหลังตั้งชูชันแล้วส่งเสียงขู่อีกฝ่าย !
“พี่รอง เหตุใดท่านต้องทำเค้กไข่สามก้อนด้วย ? ” ตัวเจ้าหนูน้อยเต็มไปด้วยคำว่า ‘เหตุใด’ เขาคอยถามโน้นนี่นั่นอยู่ข้างนาง
หลินเว่ยเว่ยเอื้อมมือไปเขกศีรษะเขา จากนั้นก็นำมุมเค้กที่ตัดออกแล้วห่อด้วยกระดาษน้ำมันและยัดใส่มือเจ้าหนูน้อย “รอให้ทำเสร็จแล้วเจ้าก็รู้เอง ไป ไปแบ่งขนมกับเพื่อนเจ้า…อย่าลืมแบ่งให้พี่เยี่ยนเอ๋อร์กับพี่ฉือถัวที่โรงงานแปรรูปด้วยล่ะ…”
หลินเว่ยเว่ยยังพูดไม่ทันจบ เจ้าหนูน้อยก็วิ่งออกไปไกลแล้ว เขาคุ้นเคยกับการแบ่งปันของกินเหล่านี้ จึงวิ่งไปที่โรงงานแปรรูปก่อน จากนั้นก็ยัดมุมเค้กสองสามก้อนให้เยี่ยนเอ๋อร์กับฉือถัวแล้วถึงจะวิ่งไปเคาะประตูบ้านเหล่าสหายสนิทของตนพร้อมตะโกนว่า “มารวมตัวกันเร็ว ! ”
มีเด็กบางคนกำลังกินข้าวเช้าอยู่ หลังได้ยินเสียงของเขาแล้วเด็กคนนั้นก็กินโจ๊กอีกสองคำ จากนั้นก็วิ่งออกมาพร้อมหมั่นโถว มารดารีบวิ่งตามออกมาสองสามก้าวและตะโกนด่าเสียงดังลั่น “เจ้าเด็กคนนี้ ไม่หิวแล้วหรือ คิดแต่จะเล่นจนข้าวก็ไม่กิน ! ”
พวกผู้ใหญ่ในบ้านยัดเกี๊ยวไส้ผักเข้าปากพลางกล่าวว่า “พอเถิด ด่าให้น้อยหน่อย นั่นเป็นเสียงของเอ้อร์ฮว๋า ถ้าเทียบกับเอ้อร์ฮว๋าแล้ว ตำแหน่งพวกเราในใจของลูกยังต้องอยู่ข้างหลัง ! ถ้าเล่นกับเอ้อร์ฮว๋าแล้ว ลูกเรายังพอท่องกลอนได้สองบท จำอักษรได้สองตัว ยังดีกว่าพวกมู่เกินเอ๋อร์ที่เอาแต่เล่นกับหมาแมว ! ”
“ข้าก็ไม่ได้ห้ามเขาออกไปเสียหน่อย แต่เขาเพิ่งกินโจ๊กได้แค่ครึ่งชาม…” มารดาของเด็กน้อยเทโจ๊กที่เหลือของบุตรชายให้สามี บุตรกินน้อยลง มารดาทุกคนล้วนรู้สึกไม่ดี
เมื่อโก่วเชิ่งเอ๋อร์ที่กำลังกวาดลานบ้านอยู่ได้ยินเสียงของเจ้าหนูน้อยก็รีบทิ้งไม้กวาดแล้วกำลังจะวิ่งออกไป แต่มู่เกินเอ๋อร์เข้ามาขวางเขาไว้ “พาข้าไปด้วย ต่อไปข้าจะไม่แกล้งเจ้าอีก ตกลงหรือไม่ ? ”
โก่วเชิ่งเอ๋อร์มองอีกฝ่ายครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้า “ใช่ว่าข้าไม่อยากพาเจ้าไปด้วย แต่เอ้อร์ฮว๋าไม่ชอบเจ้า บอกว่าเจ้าชอบรังแกเด็กในหมู่บ้านและชอบแย่งของคนอื่น แถมยังบอกว่าถ้าเจ้าเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เมื่อไร เขาก็จะพิจารณารับเจ้าเข้ากลุ่มเมื่อนั้น”
มู่เกินเอ๋อร์เช็ดน้ำมูก “ข้าจะเปลี่ยน แล้วข้าต้องเปลี่ยนอย่างไร ? ”
“เอ้อร์ฮว๋าชอบเล่นกับเด็กนิสัยดี เจ้าคิดเองแล้วกัน พวกเราต่างช่วยทำงานบ้าน เจ้าลองกวาดลานก่อนก็แล้วกัน ! ” โก่วเชิ่งเอ๋อร์ชี้ลานบ้านที่ตนเพิ่งกวาดไปได้ครึ่งหนึ่ง มู่เกินเอ๋อร์จำใจจับไม้กวาด ส่วนโก่วเชิ่งเอ๋อร์ที่วิ่งออกไปข้างนอกก็มีใบหน้าเปื้อนยิ้ม…
“ทั้งหมด แถวตรง ! ” เมื่อพวกสหายมาครบหมดแล้ว เจ้าหนูน้อยจึงออกคำสั่งเหมือนทหาร ในมือถือมุมเค้กห่อใหญ่เอาไว้แล้วเริ่มออกคำสั่งอย่างน่าเกรงขามอีกรอบ
“เริ่มนับ ! ” เวลาที่หลินเว่ยเว่ยมีเวลาว่างก็จะมาหยอกเย้าทหารเด็กกลุ่มนี้ เจ้าหนูน้อยจึงเลียนแบบนาง แถมท่าทางยังดูมีความเป็นผู้นำมากด้วย
“หนึ่ง สอง สาม…” เพื่อน ๆ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
มู่เกินเอ๋อร์ที่กวาดลานบ้านเสร็จแล้วก็รีบวิ่งเข้ามาเหมือนกัน “สิบ ! ”
เด็ก 7 คนก่อนหน้านั้นรีบหันมามองเขาพร้อมสีหน้ารังเกียจ “เจ้าต้องเป็นแปดต่างหาก ! นับเลขเป็นหรือไม่ ! ”
มู่เกินเอ๋อร์สูดน้ำมูกพร้อมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่มีใครสอนข้า ! พวกเจ้าสอนข้าสิ ประเดี๋ยวข้าก็นับเลขเป็นแล้วไม่ใช่หรือ ? ”
วังตงเฉียงปิดจมูกแล้วพูดกับเขาว่า “เจ้าสกปรกมาก ! โตถึงเพียงนี้ยังมีน้ำมูกไหลอยู่ ตอนเช้าเจ้าไม่ได้ล้างหน้าหรือ ? แถมยังมีเมล็ดข้าวติดอยู่บนหน้า…พวกเราไม่เล่นกับเด็กสกปรก ! ”
“ข้าจะไปล้างหน้า ! ” มู่เกินเอ๋อร์อาลัยอาวรณ์กับห่อขนมในมือเจ้าหนูน้อยเพราะเขาได้กลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากด้านใน มันจะต้องเป็นของอร่อยแน่นอน ! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดเจ้าโก่วเชิ่งเอ๋อร์ถึงวิ่งออกมาเร็วเช่นนี้ ! “รอข้าก่อนนะ ประเดี๋ยวข้าก็กลับมาแล้ว ! ”
ตอนที่เจ้าหนูน้อยแบ่งเค้กให้เพื่อน มู่เกินเอ๋อร์ก็กลับมาพอดี ใบหน้าน้อย ๆ ของเขาถูกล้างจนสะอาด คราบน้ำมูกก็หายไปแล้ว แม้แต่เสื้อผ้าก็ยังเปลี่ยนเป็นชุดใหม่