หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง - ตอนที่ 280 ปัญหาโลกแตก
ตอนที่ 280 ปัญหาโลกแตก
มีหลายต่อหลายครั้งที่นางเฝิงอยากพูดเรื่องระหว่างเสี่ยวเว่ยกับบุตรชายให้เจียงโม่หานฟัง แต่ก็กลัวจะทำให้เขาตื่นตูมจนต่อต้านและทำให้ผลออกมาเป็นตรงกันข้าม นางจึงได้แต่มองเด็กทั้งสองหยอกเย้ากันและปล่อยให้ความสัมพันธ์พัฒนาไปตามธรรมชาติ
โชคดีที่สุดท้ายหานเอ๋อร์ก็รู้ตัว หลังจากทั้งสองคนเสี่ยงอันตรายด้วยกันแล้วเขาก็เป็นฝ่ายเสนอให้มารดามาสู่ขอเด็กสาวข้างบ้าน คาดไม่ถึงว่าร่วมเป็นร่วมตายกันเพียงครั้งเดียวก็จะทำให้เขารู้ใจตัวเอง เรียกว่าเป็นโชคดีจากโชคร้าย !
ก่อนหน้านี้แม่ซัวถัวเคยเผยความคิดที่จะมาสู่ขอเสี่ยวเว่ยให้ซัวถัว นางเฝิงจึงกังวลมาโดยตลอด กลัวว่าเสี่ยวเว่ยจะไร้วาสนากับตระกูลเจียงแล้วกลายเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลอื่น หลังหมั้นหมายเด็กทั้งสองคนแล้ว นางก็สบายใจได้เสียที
เมื่อหลุดออกจากห้วงความคิด นางเฝิงก็เห็นหลินเว่ยเว่ยกำลังใช้นิ้วที่เปื้อนครีมชี้มาที่หน้าเจียงโม่หานซึ่งรีบหลบอย่างรวดเร็ว หลินเว่ยเว่ยจึงหัวเราะพลางกล่าวว่า “ไม่ได้นะ ต้องเปื้อนหน่อยเพราะนี่เป็นการแสดงออกถึงการอวยพรและความรักที่พวกเรามีต่อเจ้า ! ”
เจียงโม่หานคิดในใจ ข้าขอบคุณ ขอบคุณในน้ำใจนี้ !
สหายไม่กี่คนของเจียงโม่หานก็ร่วมวงด้วย “ใช่ ต้องเปื้อนหน่อย ! เอาตรงจมูก…ฮ่าฮ่าฮ่า…”
สุดท้ายใบหน้าของเจียงโม่หานก็เปื้อนครีมเล็กน้อย แต่คนที่ป้ายไม่ใช่หลินเว่ยเว่ย เขามองนางเฝิงที่แอบหุบนิ้วแล้วแสร้งทำเป็นตั้งอกตั้งใจกินเค้กราวกับเมื่อครู่ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เขาจึงเอ่ยด้วยความเหนื่อยหน่าย “ท่านแม่ขอรับ เหตุใดท่านก็เล่นเป็นเด็กด้วยเล่า ? ”
“แม่ก็อยากแสดงการอวยพรและความรักเช่นกัน ! ” นางเฝิงกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา
หลินเว่ยเว่ยหัวเราะร่า ทันใดนั้นนิ้วที่เปื้อนครีมก็หันมาป้ายจมูกนางเฝิงแทน “น้าเฝิง ท่านรังแกคู่หมั้นของข้า ข้าแก้แค้นแทนเขา ! ”
ระหว่างที่กำลังพูด มือเปื้อนครีมของใครบางคนก็ยื่นเข้ามา และใบหน้าของหลินเว่ยเว่ยก็มีรอยเปื้อนครีมเป็นรูปหนวดแมว นางรีบหันไปมองแต่เห็นเพียงบัณฑิตน้อยกำลังใช้ผ้าเช็ดมือเหมือนไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้น นางจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงโมโห “เหตุใดเจ้าทำเช่นนี้ ! ข้ากำลังช่วยเจ้าอยู่นะ ! ”
เจียงโม่หานเหลือบมองนาง “ใครเป็นฝ่ายเริ่ม ? อีกอย่างคือคนเป็นลูกแก้แค้นให้แม่แล้วผิดตรงไหน ? ”
ทันใดนั้นหลินเว่ยเว่ยก็ถามเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้าข้ากับน้าเฝิงตกน้ำพร้อมกัน เจ้าจะเลือกช่วยใครก่อน ? ”
นี่คือปัญหาโลกแตกอย่างหนึ่ง
นางเฝิงคลี่ยิ้มแล้วช่วยแก้สถานการณ์ให้บุตรชายทันที “เขาจะไปช่วยใครได้ ? เขาเป็นเป็ดที่ว่ายน้ำไม่เป็น ! ข้าว่ายน้ำเป็น ถึงเวลานั้นข้าจะช่วยเจ้าเอง ! ”
เมื่อก่อนตอนที่นายท่านเลือกสาวใช้คนสนิทให้คุณหนูก็ให้พวกนางฝึกฝนศาสตร์แขนงต่าง ๆ มากเป็นพิเศษ บางคนชำนาญด้านสมุนไพร ศิลปะการต่อสู้ อาหารชั้นเลิศและเย็บปักเป็นเลิศ แน่นอนว่ามีคนชำนาญในการว่ายน้ำด้วย เพราะถ้าใครตกน้ำก็จะได้มีคนคอยช่วย จริงหรือไม่ ? เพื่อคุณหนูแล้ว นายท่านทุ่มเทแรงใจไปมากจริง ๆ แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อแผ่นดินก้าวเข้าสู่ความโกลาหล คุณหนูจะเคราะห์ร้ายเช่นนั้น…
“น้าเฝิงสอนข้าว่ายน้ำบ้างเถิด ข้าเห็นแล้วว่าผู้ชายพึ่งพาไม่ได้ สู้เป็นผู้หญิงแกร่งเองดีกว่า ! ” หลินเว่ยเว่ยมองเป็ดเจียงโม่หานอย่างขำขัน เป็ดว่ายน้ำไม่เป็นก็มีประโยชน์ของตัวมันเอง เพราะปัญหาโลกแตกเช่นนี้กลับปล่อยให้เขารอดตัวไปโดยง่าย
“กินน้อย ๆ หน่อย ประเดี๋ยวยังต้องกินข้าวกันต่อ ! ” เมื่อเห็นเจ้าหนูน้อยและเผิงหยูเหยี่ยนกินเค้กหมดแล้ว กำลังจะเอื้อมมือมาหยิบอีกชิ้น หลินเว่ยเว่ยก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวเตือน
ท่าทางของทั้งสองคนเหมือนกันจนน่าเหลือเชื่อคือรีบกุมมือตนเองคล้ายทำสิ่งใดผิดมา เผิงหยูเหยี่ยนอดไม่ได้ที่จะเถียงเบา ๆ “ข้ากินเก่ง กินอีกชิ้นก็ไม่ส่งผลต่อมื้อหลัก ! ”
บุตรสาวคนโตตระกูลหลินยกยิ้มมุมปาก นางตัดเค้กให้เขาอีกชิ้น ขณะที่แก้มแดงระเรื่อ นางก็วางจานเค้กลงข้างตัวเขา เผิงหยูเหยี่ยนดวงตาเป็นประกายทันใดและมองนางอย่างไม่วางตา…คู่หมั้นของข้าดีจริง ๆ ไม่เหมือนคนที่ชอบควบคุมข้า คู่หมั้นของข้าดูดีมาก ใบหน้ารูปไข่แดงระเรื่อ ท่าทางจะสุขภาพดีเป็นพิเศษ…
ที่แท้เขาดูว่าผู้หญิงงามไม่งาม ไม่ได้อยู่ที่องค์ประกอบของใบหน้า แต่เป็นสีหน้า ! พวกหนอนหนังสือมีภาพความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของตน ถือว่ายอดเยี่ยม !
หลินเว่ยเว่ยรีบดึงเค้กออกมาแล้วยกหมูหันขึ้นมาวาง ทันใดนั้นดวงตาของเผิงหยูเหยี่ยนก็เปล่งประกาย เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “นี่คือ ‘หมูหัน’ หนึ่งใน ‘อาหารชั้นเลิศทั้งแปด’ ของหนังสือประวัติศาสตร์เช่นนั้นหรือ ? ”
ดวงตาของนักชิมคนนี้เป็นประกายจนน่าตกใจ สีสันน่าดึงดูด กลิ่นหอมชวนหิว…เขาเริ่มจะทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ หลินเว่ยเว่ยกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “จะรอดูสิ่งใดกันอีก ? ลงมือสิ ! ”
นางหั่นเนื้อหมูประมาณสองสามแผ่นใส่ถ้วยข้าวของนางเฝิงก่อน แล้วหั่นให้มารดาของตน สหายของเจียงโม่หานก็เริ่มหั่นกินเองอย่างไม่เกรงใจ
เมื่อหลิ่วจงเทียนกินไปได้หนึ่งแผ่น เขาก็อดไม่ได้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ออกมา “สีเหมือนอำพันและยังเหมือนทองแท้ เมื่อเข้าปากก็ละลาย แข็งเหมือนน้ำแข็ง เมื่อเข้าปากกลับชุ่มน้ำไม่แห้งเกิน ช่างพิเศษยิ่งนัก”
หลินเว่ยเว่ยรีบสอนบทเรียนแก่เจ้าหนูน้อย “ได้ยินหรือไม่ ? นี่คือความแตกต่างระหว่างคนรู้หนังสือกับไม่รู้ เวลาคนหยาบกระด้างไม่รู้หนังสือกินแล้วก็จะกล่าวว่า สวรรค์ ! อร่อยมาก ! เหตุใดจึงอร่อยปานนี้ ! แต่คนรู้หนังสือก็เหมือนหลิ่วจงเทียนเมื่อครู่คือพ่นสำนวนชมของอร่อยออกมา ! ”
เจ้าหนูน้อยกลืนหมูหันในปากแล้วรีบพยักหน้ารับ “พี่รอง ข้าเข้าใจแล้ว ! ข้าจะตั้งใจเรียนหนังสือ ไม่เพียงรู้สำนวนหรือบทกวีชมของอร่อย แต่จะสอบจอหงวนแล้วกลับมาเพื่อเปลี่ยนชีวิตท่านกับท่านแม่ให้จงได้ ! ”
เจียงโม่หานเหลือบมองเขา เมื่อตัดส่วนที่อ่อนนุ่มที่สุดของหมูหันใส่ลงในถ้วยหลินเว่ยเว่ยแล้วก็เริ่มเอ่ยออกมาช้า ๆ “ถ้าพี่รองของเจ้ารอให้เจ้ามาเปลี่ยนชีวิต นางไม่ต้องรอจนผมขาวเสียก่อนหรือ ? ชีวิตของพี่รองมีข้าอยู่ เจ้าสนใจแค่มารดาก็พอ ! ”
หลินจื่อเหยียนหั่นหมูหันให้เจ้าหนูน้อยสองสามแผ่นแล้วมองด้วยความรังเกียจ “ชีวิตท่านแม่ก็มีข้าอยู่ เจ้าสนใจแต่ตัวเองก็พอ ! ”
เจ้าหนูน้อยรีบเถียงทันที “พวกท่านอย่าเห็นว่าข้าเป็นเด็กแล้วจะเอาแต่รังแก ! รู้จักประโยคที่ว่าคนรุ่นหลังแซงหน้าคนรุ่นก่อนหรือไม่ ? รู้จัก ‘คลื่นลูกใหม่ของแม่น้ำแยงซีซัดคลื่นลูกเก่า’ หรือเปล่า ? รอดูเถิด คลื่นลูกใหม่อย่างข้าคนนี้ จะต้องทำให้พวกท่านกลัวว่าจะโดนซัดไปบนฝั่ง ! ”
หลินเว่ยเว่ยลอบยิ้มอยู่ด้านข้าง เจียงโม่หานจึงหันมาเขกศีรษะนาง “เจ้าไปสอนสิ่งใดที่ไร้สาระให้เขา…”
“ตีข้าอีกแล้ว ถ้าตีจนข้ากลายเป็นคนโง่แล้ว จะเลี้ยงข้าหรือไม่ ? ” หลินเว่ยเว่ยลูบศีรษะที่ไม่เจ็บไม่คันของตนพลางกลอกตาใส่เขา
“ภรรยาของตน ข้าต้องเลี้ยงดูอยู่แล้ว ! กินเยอะ ๆ หน่อย ! ” เจียงโม่หานยกหมูเนื้อนุ่มให้นางอีกชิ้น คนในหมู่บ้านล้วนชอบภรรยาอวบขาว แต่เด็กน้อยทำตรงกันข้ามคือจะลดน้ำหนักให้ได้ ทำให้ตัวเองผอมราวกับต้นไผ่ หรือนี่เรียกว่าดูดี ?
หมูหันมีมันแต่ไม่เลี่ยน หนังกรอบ เนื้อนุ่ม เมื่อเข้าปากก็จะหอมเป็นพิเศษ ทั้งสดใหม่และนุ่มลิ้น หมูหันตัวน้อยหนักสิบกว่าชั่งจึงเหลือแต่กระดูกในเวลาไม่กี่อึดใจ อาหารจานอื่นก็เน้นรสชาติเบา ๆ เป็นหลัก เช่น ปลากระพงนึ่ง
ปลากระพงนี้หลินเว่ยเว่ยหาได้จากท่าเรือ นางเลี้ยงมันไว้ที่สระน้ำในมิติน้ำพุวิญญาณ คาดไม่ถึงว่าเลี้ยงได้ไม่นานเจ้าปลากระพงตัวนี้ก็วางไข่ มีลูกปลาเกิดมาจำนวนมาก สำหรับหลินเว่ยเว่ยแล้ว นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจปนความน่ายินดี !
ปลากระพงนึ่งออกมาได้กำลังพอดี เนื้อนุ่มละมุน รสชาติเบาสบาย หลังกินหมูหันแล้วถือว่าสร้างรสชาติที่สดชื่นได้เป็นพิเศษ ยังมีสลัดผักอีกจานซึ่งได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน กล่าวคืออาหารในวันนี้ทำให้ทั้งแขกและเจ้าบ้านแสนจะพึงพอใจ