หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง - ตอนที่ 397 เจ้าน่าหลงใหลขนาดนี้…แหวะ!
ตอนที่ 397 เจ้าน่าหลงใหลขนาดนี้…แหวะ!
หลินเว่ยเว่ยพูดด้วยความลังเล “แต่ว่า…จะไม่ส่งผลกระทบต่อการอ่านตำราของเจ้าหรือ ? ”
เจียงโม่หานยิ้มอย่างมั่นใจ “เจ้าเห็นว่าตอนนี้ข้าเอาแต่อ่านตำราอย่างนั้นหรือ ? สิ่งที่ควรเรียนและสิ่งที่ควรรู้ได้อยู่ในนี้หมดแล้ว ! ” ขณะพูดเขาก็ชี้ไปที่ขมับของตน
หลินเว่ยเว่ยมองรอยยิ้มของเขาอย่างโง่งม “บัณฑิตน้อย ท่าทางมั่นใจของเจ้าช่างดูน่าหลงใหล…”
“แหวะ…” หลินจื่อเหยียนทำท่าอยากอาเจียนอยู่ด้านข้าง
หลินเว่ยเว่ยหุบยิ้มแล้วหันไปถลึงตาใส่เขาทันที “เจ้าอยากตายหรือไร ? ”
หลินจื่อเหยียนแกล้งไม่รู้เรื่อง “ช่วงสองสามวันนี้ต้องกินมื้ออดมื้อ เย็นมื้อร้อนมื้อ อาจเพราะท้องไส้ไม่ดีจึงอยากอาเจียนขึ้นมา…”
“อย่างนั้นเองหรือ ถ้าท้องไส้ไม่ดีแล้ว ช่วงหลายวันนี้เจ้าก็กินแค่ข้าวต้มไปก่อนแล้วกัน…บัณฑิตน้อย เมื่อครู่ข้าเห็นคนขายแกะจากทุ่งหญ้าด้วย ได้ยินว่าแกะชนิดนี้มีมันแทรกเยอะ เวลาเอามาย่างแล้วรสชาติจะอร่อยเป็นพิเศษ…” หลินเว่ยเว่ยจงใจทำท่ากลืนน้ำลายแล้วใช้หางตาเหลือบไปสังเกตสีหน้าของน้องชาย
หลินจื่อเหยียนทำสีหน้าทรมาน…นี่เรียกว่ายกหินขึ้นมาแต่กลับหล่นทับเท้าตัวเอง1 หรือเปล่า ? ฝีมือย่างเนื้อของพี่รองเรียกได้ว่าสุดยอด โดยเฉพาะแกะเสียบไม้ย่างที่ไม่มีกลิ่นเหม็นสาบของแกะแม้แต่น้อย รสชาติอร่อยเกินบรรยาย พอได้กินแล้วไม่อาจลืมเลือน…
คนขายแกะเป็นชาวตงหู แม้จะสื่อสารกันไม่รู้เรื่องแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา แค่ใช้ภาษามือก็รอดแล้ว ท้ายที่สุดหลินเว่ยเว่ยก็ใช้เงิน 2 ตำลึงซื้อแกะตัวอ้วนมาได้หนึ่งตัว
ชาวตงหูเครายาวคนนั้นยังใจดีช่วยฆ่าแกะ เลาะหนังและล้างลำไส้ให้นางจนสะอาดเอี่ยม ในกระเพาะแกะใส่หัวหอม ขิงหั่นแว่น เครื่องเทศเพื่อดับกลิ่นอีกสองสามชนิดและโรยด้วยเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ ขาแกะถูกเฉือนให้เป็นร่องก่อนจะโรยเครื่องเทศและเกลือลงไป
ซอสเนื้อย่างที่ใช้มีเครื่องเทศสูตรลับเฉพาะของนางและมีน้ำแร่วิญญาณอยู่…แน่นอนว่ารสชาติที่ย่างออกมาต้องทำให้คนต้านทานไม่ไหวอยู่แล้ว จากนั้นก็ใช้แปรงทาน้ำมันถั่วเหลืองกับน้ำผึ้งลงไปแล้วค่อยทาน้ำมันงาทับอีกที
สิ่งที่อยู่ด้านล่างคือถ่าน…ออกจากบ้านในฤดูหนาว ในรถม้าจำเป็นต้องจุดเตาไฟจึงเป็นธรรมดาที่จะมีถ่านอยู่บ้าง รถม้าของสกุลหลินมีถ่านอยู่ไม่มาก แต่หลินเว่ยเว่ยมีสูตรโกงอย่างมิติน้ำพุวิญญาณ ! เมื่อถ่านติดไฟแล้ว นางก็ยกแกะทั้งตัวขึ้นไปย่าง
ลำตัวของแกะถูกเสียบด้วยแท่งเหล็กที่ปลายสองด้านผูกไว้บนเสาเตี้ย เมื่อเป็นแบบนี้แล้วตัวแกะก็สามารถหมุนไปมาได้ตามที่นางต้องการและย่างได้อย่างสม่ำเสมอกว่าเดิม นางย่างไปหมุนไปและทาซอสสูตรลับให้ทั่วตัวแกะไปพร้อมกัน
เวลาย่างต้องพลิกกลับด้านทุกครึ่งชั่วยามแล้วทาซอสลงไปอีกครั้ง กระบวนการนี้ช่างน่าเบื่อ ดังนั้นพี่สาวที่ไร้คุณธรรมอย่างหลินเว่ยเว่ยจึงยกหน้าที่นี้ให้น้องชาย
การย่างต้องดำเนินไปกว่าสองชั่วยาม หลินจื่อเหยียนต้องนั่งยองอยู่ข้างกองไฟทั้งอย่างนั้น ขณะย่างแกะ เขาก็น้ำลายไหลไปด้วยเพราะกลิ่นหอมอันแสนเย้ายวนกำลังลอยอยู่ในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นชาวต้าเซี่ยหรือชาวตงหูล้วนโดนเจ้ากลิ่นนี้ดึงดูด…นี่จะหอมเกินไปแล้วกระมัง ?
ผู้รับหน้าที่ดูแลความสงบคือทหารประจำกองทัพชายแดนเหนือ พวกเขาอยู่ภายใต้บัญชาของแม่ทัพหลิน เดิมทีเขาเป็นรองแม่ทัพข้างกายหมินอ๋อง เพราะความเฉลียวฉลาดและความกล้าหาญจึงทำให้หลังจากสถาปนาต้าเซี่ยขึ้นแล้ว ฮ่องเต้ก็ส่งเขามารักษาชายแดนทางเหนือแห่งนี้ เรียกได้ว่าตั้งแต่ก่อตั้งราชวงศ์แล้วชาวตงหูก็เข้ามารุกรานครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่เคยได้ผลประโยชน์อะไรกลับไปสักครั้ง จึงเห็นได้ว่าแม่ทัพหลินผู้นี้มีความสามารถอยู่พอตัว
ขณะที่สูดดมกลิ่นหอม กลุ่มทหารรักษาชายแดนที่เดินลาดตระเวนอยู่บริเวณนี้ก็เดินเข้ามาหาพวกหลินเว่ยเว่ยที่กำลังย่างแกะอยู่ ขณะมองเนื้อแกะย่างสีน้ำตาลอ่อนหรือกำลังใกล้จะสุกแล้ว หัวหน้ากองทหารลาดตระเวนก็ทอดสายตามองมาที่เด็กหนุ่มสองคนและหญิงสาวร่างสูงโปร่งอีกคนตรงหน้า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเขินอายเล็กน้อย “กู่เหนียง แกะตัวใหญ่ขนาดนี้พวกเจ้ากินหมดหรือ ? ถ้ากินไม่หมด เจ้าสามารถขายให้พี่น้องของเราหน่อยได้หรือไม่ ? ”
หลินเว่ยเว่ยที่กำลังทาน้ำผึ้งลงบนตัวแกะก็หันไปมองคนหน้าตาดุดันที่สุดในบรรดาทหารรักษาชายแดนนับสิบนาย ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขายอะไรกันเล่า ? หากพวกท่านไม่รังเกียจก็มานั่งกินด้วยกัน คนยิ่งเยอะก็ยิ่งอร่อย ! ”
ขณะพูดนางก็แล่เนื้อส่วนขาแกะออกมาเสียบกับไม้ไผ่แล้วยื่นให้หัวหน้ากอง
หัวหน้านายนั้นส่ายหน้าด้วยความเขินอาย “จะทำแบบนั้นได้อย่างไร ? พวกเรามีกฎว่าหากเอาเปรียบราษฎรแล้วอย่างน้อยจะโดนทำโทษโบย 50 ไม้ ! ”
หลินเว่ยเว่ยครุ่นคิด ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง “ก็ได้ เนื้อแกะย่างไม้ใหญ่ขนาดนี้ราคา 5 อีแปะ ขอบคุณพวกท่านที่มาอุดหนุน ! ”
หัวหน้ามองไปยังเนื้อแกะย่างชิ้นใหญ่ขนาดเท่าฝ่ามือ อย่าว่าแต่ 5 อีแปะเลย แม้จะขาย 10 อีแปะ เขาก็ต้องซื้อ เขาหันไปมองกู่เหนียงตัวสูงโปร่งคนนั้นอีกครั้ง นางมีสีหน้าไร้ความเกรงกลัวและมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เขาจึงรู้ว่านางเต็มใจจะให้พวกพี่น้องได้กินเนื้อจริง ๆ เขาไม่ทำตัวลีลาอีกต่อไปและรับเนื้อแกะมาถือไว้ทันที…อย่างมากอีกประเดี๋ยวให้เงินเยอะหน่อยแล้วกัน !
ทหารนายอื่นเห็นหัวหน้านั่งลงและเริ่มกิน พวกตนจึงไม่เกรงใจและหย่อนกายนั่งลงข้างกองไฟเช่นกัน หลังรอให้หลินเว่ยเว่ยแล่เนื้อส่งมาให้แล้วก็พูดขอบคุณด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเริ่มกัดกินเนื้อย่างโดยไม่เกรงใจ เนื้อแกะชิ้นใหญ่ขนาดนี้อย่างมากสุดกินแค่สองชิ้นก็อิ่ม สำหรับพวกเขาแล้วเงิน 10 อีแปะไม่ได้น่ากังวลอะไร !
“หอมมาก ! ”
“อร่อยมาก ! ”
“รสชาติออกแนวดั้งเดิมกว่าที่กินครั้งก่อนในบ้านเกิดทางตอนใต้ของซินเจียง ( อุยกูร์ ) เสียอีก ! ”
“เนื้อนุ่ม รสเผ็ดหอมและไม่มีกลิ่นสาบแม้แต่น้อย กู่เหนียงน้อยย่างได้อย่างไร ? ” หัวหน้ากองอดถามไม่ได้
หลินเว่ยเว่ยตอบด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าเป็นผลงานของซอสเนื้อย่างสูตรลับของข้า ! ข้าเอามาด้วยไม่มาก หากพวกท่านชอบก็จะแบ่งให้หน่อย”
“พวกท่านอะไรกัน ข้าอายุมากกว่าเจ้าแค่ไม่กี่ปี เรียกข้าว่าพี่หลี่ก็แล้วกัน…อ้อ จริงสิ เจ้าสามคนเป็นพี่น้องกันหรือ ? ฟังจากสำเนียงแล้วไม่เหมือนคนเขตอวี้อัน” พี่หลี่เป็นชายที่พูดเก่งคนหนึ่ง ท่าทางน่าจะมีอายุประมาณ 20 กว่าปีได้ ใบหน้ามีเคราดกดำ ดูเป็นคนโหดแต่ในความจริงแล้วอบอุ่นมาก
“พี่หลี่เดาไม่ผิด พวกเรามาจากเมืองจงโจว ท่านนี้คือคู่หมั้นของข้า ส่วนคนที่กำลังกินอยู่คือน้องชายของข้าเอง พวกเขามาเข้าร่วมการสอบในปีนี้และเราอยากมาเปิดหูเปิดตาที่ตลาดการค้าเขตอวี้อันบ้าง” หลินเว่ยเว่ยยังแล่เนื้อแกะให้พี่หลี่อีกชิ้น
พี่หลี่รับมาถือไว้แล้วพูด “ปัญญาชนอย่างพวกเจ้าชอบเข้าร่วมเรื่องสนุกไปทั่วจริง ๆ ในเขตทุรกันดารแบบนี้จะมีอะไรน่ามอง ? ปีนี้ภัยแล้งรุนแรง วัวและแกะที่ชาวตงหูเลี้ยงไว้ก็ล้มตายไปพอสมควร หลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ชายแดนก็จะกลับมาเกิดความโกลาหลอีกครั้ง ! เจ้าสามคนจงฟังพี่หลี่ อย่างไรก็รีบกลับไปเถิด ! ”
“ไม่ได้เปิดตลาดการค้าข้ามเขตแดนแล้วหรือ ? แลกซื้อของกันไม่ได้หรือไร ? ชาวตงหูจะยังเข้ามารุกรานอีกหรือ ? ” หลินจื่อเหยียนถามด้วยความสงสัย
พี่หลี่ฉีกยิ้มอย่างเย็นชา “ตลาดการค้าข้ามเขตแดน ? ไม่ต้องเอาของไปแลกหรอกหรือ ? อย่างไรก็ต้องมีชาวตงหูส่วนหนึ่งที่ไม่อยากแลกแต่อยากปล้น การแลกเปลี่ยนจะเร็วกว่าปล้นเอาได้อย่างไร ? แต่ละปีนั้นแม่ทัพหลินจะพาพวกเราพี่น้องออกไปไล่สังหารพวกตงหูที่มาปล้นชาวต้าเซี่ยไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรแล้ว ! ”
“สาหวัดดี ขายเนื้อย่างให้พวกเลาได้หรือไม่ ? ” ปรากฏชาวตงหูรูปร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมขนสัตว์ผืนหนาจำนวนสองคนมายืนอยู่ข้างกองไฟแล้วจับจ้องมาที่แกะย่างของพวกนาง
[i]
1 ยกหินขึ้นมาแต่กลับหล่นทับเท้าตัวเอง หมายถึง ทำตัวเอง หรือ ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว