หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง - ตอนที่ 580 เป็นหนุ่มผู้นี้เองที่มาเกี้ยวพาบุตรสาวของข้า
- Home
- หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง
- ตอนที่ 580 เป็นหนุ่มผู้นี้เองที่มาเกี้ยวพาบุตรสาวของข้า
ตอนที่ 580 เป็นหนุ่มผู้นี้เองที่มาเกี้ยวพาบุตรสาวของข้า
หลินจื่อเหยียนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างคนโง่งม “ท่านแม่ยังอยู่ที่ฉือหลี่โกว ส่วนข้ากับพี่รองติดตามพี่เขยรองมาสอบที่เมืองหลวง ! ”
“พี่เขยรอง ? พี่รองของเจ้าแต่งงานแล้วหรือ ? ” แม่ทัพหลินพินิจพิเคราะห์หลินเว่ยเว่ยอย่างละเอียด ‘ไม่ใช่สิ เจ้ารองของเขายังแต่งกายด้วยชุดของหญิงที่ยังไม่ออกเรือนอยู่เลย ! ’
อีกอย่างเจ้ารองเพิ่งอายุเท่าไรกันเชียว คงเพิ่งเข้าพิธีปักปิ่นกระมัง…เขาเคยได้ยินว่าตำหนักหมินอ๋องจัดงานพิธีปักปิ่นอย่างยิ่งใหญ่ ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เหตุใดถึงไม่เจอบุตรให้เร็วกว่านี้ ? จะได้ไม่พลาดวันสำคัญที่สุดของบุตรสาวคนรองไป !
หลินจื่อเหยียนมองเจียงโม่หานที่เอาแต่ยิ้มไม่พูดไม่จา “ท่านพ่อ ท่านยังจำบัณฑิตน้อยที่เรียนเก่งข้างบ้านเราได้หรือไม่ขอรับ ? พี่รองได้หมั้นหมายกับเขาแล้ว ท่านคงคาดไม่ถึงกระมัง ? ”
“เจ้าหมายถึงเด็กหนุ่มตระกูลเจียงที่หน้าตาหล่อเหลา เรียบร้อยราวกับสตรีน่ะหรือ ? ” เมื่อก่อนแม่ทัพหลินเคยช่วยบ้านหลังข้าง ๆ ทำงานใช้แรงเป็นประจำ ย่อมจดจำแม่ม่ายและเด็กชายที่กำพร้าบิดาข้างบ้านได้ดี ปกติเจ้าเด็กคนนั้นพอเห็นเจ้ารองก็มักจะรีบหลบหน้าตลอดไม่ใช่หรือ ? เหตุใดสองคนนี้ถึงมาอยู่ด้วยกัน…แค่ก แค่ก ปรองดองกันได้ ?
“โม่หานคาราวะแม่ทัพหลินขอรับ ! ” เมื่อเอ่ยถึงตนแล้ว เจียงโม่หานย่อมไม่สามารถทำไม่รู้ไม่เห็นได้อีก ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นคำนับแม่ทัพหลิน
แม่ทัพหลินมองบุรุษหนุ่มที่มีรูปโฉมหล่อเหลา ท่าทางโดดเด่นตรงเบื้องหน้าผู้นี้ด้วยแววตาสับสน ‘ที่แท้ก็เป็นหนุ่มผู้นี้เองที่มาเกี้ยวพาบุตรสาวของข้า เด็กคนนี้จะหล่อเหลาเกินไปแล้วกระมัง หน้าตาดีกว่าตอนเด็ก ๆ มากโข อีกทั้งอายุยังน้อยก็ผ่านการสอบคัดเลือกในระดับมณฑลแล้ว…ใครเกี้ยวพาใครกันแน่ก็ยังไม่รู้เลย ! ’
ในเมื่อมารดาของเด็ก ๆ เป็นคนหมั้นหมายให้…เขาจะยอมรับก็แล้วกัน ! แม่ทัพหลินเอ่ยกับหลินจื่อเหยียนและหลินเว่ยเว่ยว่า “พวกเจ้าพักที่ใด ? อีกประเดี๋ยวไปเก็บข้าวของแล้วกลับบ้านกับพ่อเถิด ! ”
อันที่จริงหมินอ๋องซื่อจื่อก็ไม่อยากขัดฉากครอบครัวได้หวนพบหน้ากันสักเท่าไร แต่น้องสาวกำลังจะถูกชิงตัวไป เขาจำเป็นต้องพูดอะไรสักอย่าง “พวกเขาพักอยู่ที่ตำหนักหมินอ๋อง ตระกูลหลินช่วยเลี้ยงดูน้องหญิงแทนตำหนักหมินอ๋องมาหลายปี บุญคุณนี้ข้าจะสลักเอาไว้ในใจ แต่…ตอนนี้เว่ยเอ๋อร์เป็นคนของตำหนักหมินอ๋องแล้ว คงไม่ต้องรบกวนแม่ทัพหลินอีก”
‘ไม่ถูกต้อง เจ้ารองของตนเหตุใดถึงกลายเป็นบุตรสาวที่พลัดพรากไปหลายปีของตำหนักหมินอ๋องได้ ? ’ แม่ทัพหลินได้แต่งุนงง เจียงโม่หานกังวลว่าอีกฝ่ายจะพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมาจึงรีบอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่ฮ่องเต้ประสงค์ให้แม่ทัพหลินฟัง…ทั้งยังเน้นย้ำว่าตัวตนของหลินเว่ยเว่ยได้ผ่านการตรวจสอบจากฮ่องเต้แล้ว !
มาบอกว่านางเฝิงสับเปลี่ยนตัวทารก เขาไม่เชื่อแม้แต่น้อย ! เขาเห็นบุตรสาวคนรองคลอดออกมากับตา เป็นบุตรสาวของตนอย่างไม่ต้องสงสัย เหตุใดถึงกลายเป็นบุตรสาวของตำหนักหมินอ๋องไปได้ แม่ทัพหลินที่เดิมทีเป็นคนมองทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่ง แต่ในเมื่อฮ่องเต้ยืนยันเช่นนั้นก็แสดงว่าย่อมมีเหตุผล เขาพูดอะไรไปก็คงเปล่าประโยชน์
เขามองหลินเว่ยเว่ยอีกครั้ง บุตรคนรองเกิดมาก็ไม่เหมือนคนปกติ ดังนั้นในบรรดาลูกทั้งหมด เขาจึงใส่ใจนางมากเป็นพิเศษ ต่อให้นางไม่เหมือนเด็กคนอื่นและถูกคนในหมู่บ้านหัวเราะเยาะก็ไม่สามารถบั่นทอนความรักของบิดาที่มีต่อนางได้
แม่ทัพหลินเอ่ยด้วยความสะเทือนใจ “เจ้ารอง ไม่ว่าเจ้ามีแซ่หลินหรือแซ่จ้าว แต่ประตูบ้านตระกูลหลินเปิดต้อนรับเจ้าเสมอ เจ้าจะเป็นบุตรสาวของพ่อ หลินหย่งอวี้ตลอดไป ! ”
หลินเว่ยเว่ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าใช้แซ่เดียวกับฝ่ายมารดา ยังคงแซ่หลินเจ้าค่ะ” หมินหวางเฟยแซ่หลิน แม้นางจะถูกบันทึกเข้าลำดับวงศ์ตระกูลแล้วยังคงรักษาชื่อเดิม แซ่เดิมเอาไว้ ดังนั้นนางจึงยังใช้ชื่อว่า…หลินเว่ยเว่ย !
แม่ทัพหลินได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดียิ่งนัก…แซ่หลินดี แซ่หลินดีจริง ๆ พวกเขายังเป็นครอบครัวเดียวกัน !
เนื่องจากคืนนี้ก็ดึกมากแล้ว หลินจื่อเหยียนจึงตัดสินใจว่าพรุ่งนี้ค่อยย้ายไปจวนตระกูลหลิน
หลินเว่ยเว่ยจำแม่ทัพหลินได้ เขาคือคนแรกที่พุ่งออกมาขวางด้านหน้าในวันที่ฮ่องเต้และองค์รัชทายาทโดนลอบปลงพระชนม์ หลายปีมานี้แม่ทัพหลินมีผลงานมากมาย ในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงหกปีก็ได้เลื่อนขั้นจากทหารระดับเล็ก ๆ ขึ้นมาเป็นแม่ทัพขั้นสี่และเป็นผู้บัญชาการทหารรักษาการณ์เมืองหลวง มีความดีความชอบจนได้รับพระราชทานจวนส่วนตัว
วันต่อมา หลินเว่ยเว่ยได้พาหลินจื่อเหยียนไปที่จวนตระกูลหลินตามนัดหมาย แม่ทัพหลินรออยู่ที่หน้าประตูนานแล้ว เมื่อเห็นหน้าพวกนางแล้วสีหน้ากังวลใจก็ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มกว้างทันที “ต้าฮว๋า เจ้ารอง โม่หาน เมื่อคืนหลับสบายหรือไม่ ? ” ส่วนแม่ทัพหลินนั้นเมื่อคืนแทบจะนอนไม่หลับ เพราะเกรงว่านี่จะเป็นเพียงความฝัน พอฟ้าสางแล้วก็จะตื่นจากฝันดี…
“พี่หลิน นี่คือลูก ๆ ที่ท่านได้พบเมื่อวานหรือ ? รีบเชิญพวกเขาเข้ามาเถิด ต้าฮว๋า พ่อของเจ้าจัดห้องให้ตลอดทั้งคืน รีบเข้าไปดูว่ายังขาดเหลืออะไรอีกหรือไม่…หากมีสิ่งใดที่ต้องการอีกก็บอกสาวใช้ได้เลย อย่าได้เกรงใจ…” คนที่พูดคือสตรีที่แต่งกายด้วยอาภรณ์และทรงผมของสตรีที่ออกเรือนแล้ว อายุประมาณยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปีและดูจากการแต่งกายก็ไม่เหมือนสาวใช้เลยสักนิด
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินเว่ยเว่ยมลายหายไปทันที นางจ้องสตรีคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา “แม่ทัพหลินเป็นบิดาของพวกเรา ที่นี่เป็นบ้านของพวกเราแล้วยังต้องเกรงใจด้วยหรือ ! เจ้าเป็นใครถึงมาเอ่ยเช่นนี้กับพวกเรา ? ”
เอ่ยจบ นางก็มองไปทางแม่ทัพหลินด้วยความไม่พอใจ…‘ท่านบอกว่าไม่ได้แต่งภรรยาและภรรยารองไม่ใช่หรือ ? แล้วผู้หญิงที่มาต้อนรับราวกับนายหญิงผู้นี้เป็นใคร ? ’
แม่ทัพหลินรีบอธิบายทันทีว่า “เจ้ารอง…เว่ยเอ๋อร์ เจ้าอย่าได้เข้าใจผิด นางเป็นภรรยาของผู้มีพระคุณของพ่อ ชื่อว่า ซ่งเหนียงจื่อ ก่อนที่สามีของนางจะตายก็ได้ฝากให้พ่อช่วยดูแลนาง…”
“ที่แท้ก็เป็นแขกของจวน ! ท่านป้าควรรู้ฐานะว่าเป็นแขก อย่ามาอาศัยที่นี่ในฐานะนายหญิงจะได้หรือไม่ ? ใครไม่รู้จะเข้าใจผิดว่าท่านกับแม่ทัพหลินเป็นอะไรกันได้ ! ” หลินเว่ยเว่ยเอ่ยกับซ่งเหนียงจื่ออย่างไม่เกรงใจ
ซ่งเหนียงจื่อมีสีหน้าเปลี่ยนไป คิ้วขมวดเล็กน้อย ดวงตาหม่นแสงพลางมองแม่ทัพหลิน “พี่หลิน ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่น…ข้าเพียงรู้สึกดีใจแทนท่านเท่านั้น อยากต้อนรับคุณชายหลินและหลินกู่เหนียงให้ดี…”
“ท่านป้า ! ท่านยังไม่เข้าใจฐานะของตน มีเพียงเจ้าของบ้านปฏิบัติต่อแขกจึงจะเรียกว่าต้อนรับ จวนนี้ใครเป็นเจ้าของและใครเป็นแขกกันแน่ ? ” หลินเว่ยเว่ยมองปราดเดียวก็รู้ทันทีว่านิสัยของอีกฝ่ายเป็นเช่นไร อยากยั่วยวนท่านพ่อก็ต้องมาดูว่าหลินเว่ยเว่ยผู้นี้จะยอมหรือไม่ !
“หลินกู่เหนียง ท่านเข้าใจผิดแล้ว…พี่หลิน เหมือนว่าหลินกู่เหนียงไม่ชอบข้า ดังนั้นข้าไม่อยากเป็นต้นเหตุทำให้พวกท่านพ่อลูกไม่สบายใจ ข้าย้ายออกไปจะดีกว่า…” ซ่งเหนียงจื่อมองออกว่าหลินเว่ยเว่ยไม่อาจหลอกได้ง่าย ๆ จึงแสร้งทำเป็นปาดน้ำตายอมหลีกทางเพื่อหยั่งเชิงท่าทีของแม่ทัพหลิน
แม่ทัพหลินขมวดคิ้วมุ่นพลางเอ่ยอย่างลำบากใจว่า “ข้ารับปากน้องจางเสียนว่าจะดูแลเจ้าให้ดี อีกทั้งเจ้าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวแล้วจะย้ายไปที่ใด ? ”
“แม่ทัพหลิน ท่านบอกว่าข้างกายไม่มีสตรีมาวุ่นวายไม่ใช่หรือ ? ท่านทำเช่นนี้แล้วข้าจะวางใจให้ท่านแม่มาอยู่กับท่านได้อย่างไร ? ” เทียบกันแล้วหลินเว่ยเว่ยเกลียดผู้ชายที่ไม่รู้จักแยกแยะมารยาหญิงยิ่งกว่าอะไร
แม่ทัพหลินยังคงอธิบายต่อ “เว่ยเอ๋อร์ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาในใจพ่อมีเพียงแม่ของเจ้าผู้เดียวเท่านั้น ซ่งเหนียงจื่อเป็นเพียงความรับผิดชอบต่อสหายและผู้มีพระคุณ…”
ซ่งเหนียงจื่อมองบุรุษที่ไม่เข้าใจความรู้สึกผู้นี้ด้วยใบหน้าโศกเศร้า ห้าปีที่นางคอยดูแลข้างกายเขาอย่างภักดี ทว่าสายตาของเขาไม่เคยเหลียวมองนางเลยสักครั้ง เดิมทีคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไป สักวันหนึ่งนางจะสามารถละลายหัวใจที่แข็งแกร่งให้อ่อนลงได้ แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะได้พบกับลูก ๆ ในเมืองหลวงแห่งนี้…