หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง - ตอนที่ 60 เจ้ากำลังเป็นห่วงข้าหรือ ?
ตอนที่ 60 เจ้ากำลังเป็นห่วงข้าหรือ ?
หญิงชรามองหลินเว่ยเว่ยที่กำลังเปิดห่อกระดาษน้ำมันออกด้วยแววตาที่กระตือรือร้น ด้านในห่อมีเค้กข้าวขนาดเท่าไข่ไก่อยู่ซึ่งเป็นเค้กข้าวที่เริ่มมีราขึ้นแล้ว
ตอนนี้ในใจของหลินเว่ยเว่ยรู้สึกราวกับว่ามีฝูงแกะนับไม่ถ้วนวิ่งทะยานผ่าน หากนางไม่ทาน หญิงชราคงเสียใจมากแน่ แต่หากทาน ท้องของนางก็ต้องแย่เช่นกัน…
ลองชิมสิ หวานมากเลยนะ ! เจ้าต้องชอบแน่นอน ! ย่าเถียนเฝ้ารอด้วยความรัก
หลินเว่ยเว่ยบิเค้กข้าวแล้วใช้มือป้องปาก จากนั้นนางก็ยัดเค้กเข้าปาก ทว่าในความเป็นจริงนางได้เก็บเข้าไปในมิติน้ำพุวิญญาณแล้ว นางแสร้งเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยจากนั้นก็ยิ้มตาหยีแล้วกล่าวว่า หวานจริงด้วย ! อร่อยมากเลย !
ย่าเถียนยิ้มจนเผยให้เห็นฝันที่เหลืออยู่ไม่กี่ซี่ในปากพลางหัวเราะ แม่รู้อยู่แล้วว่าแมวน้อยจอมตะกละอย่างเจ้าต้องชอบ ต้านเอ๋อร์ ต่อไปนี้หากมีของอร่อยแม่จะเก็บไว้ให้เจ้าหมดเลย เจ้าอย่าหนีไปที่ใดอีก เวลาแม่หาเจ้าไม่เจอ แม่ร้อนรนจนแทบตายอยู่แล้ว !
อืม ต่อไปข้าจะเชื่อฟัง ไม่หนีไปที่ใดอีก ! หลินเว่ยเว่ยรับปากอย่างเชื่อฟัง
รอยย่นบนใบหน้าของย่าเถียนจึงค่อย ๆ คลายออก จากนั้นนางก็หลับไปพร้อมกุมมือของ ‘บุตรสาว’ ในความคิดเอาไว้
เมื่อปู่เถียนทราบจากหมอเหลียงว่าภรรยาไม่เป็นอะไรมากก็รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นเขาหันไปกล่าวกับหลินเว่ยเว่ยอย่างซาบซึ้งใจว่า ขอบใจมาก ! นี่คือข้าวฟ่าง แม้จะไม่กี่ชั่ง แต่เจ้าก็เอากลับไปทำโจ๊กทานสิ
ไม่เป็นไรหรอก ปู่เถียน ! อย่างที่บอกว่าญาติที่อยู่ห่างไกลยังสู้เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงไม่ได้ การดูแลกันและกันถือเป็นเรื่องสมควรแล้ว วันหลังหากท่านมีเรื่องอันใดก็รีบบอกข้าได้เลย ตอนนี้ดึกแล้วพวกเราขอตัวกลับก่อน !
เจียงโม่หานเดินตามหลังนางมาอย่างใกล้ชิด เขามองนางราวกับต้องการกล่าวบางสิ่งบางอย่างแต่ก็หยุดไว้ สุดท้ายเขาจึงถามหมอเหลียงว่า ทานเค้กข้าวที่ขึ้นราไปแล้วจะไม่เป็นไรใช่หรือไม่ ?
หากเป็นคนแข็งแรงดีอาจแค่รู้สึกไม่สบายเล็กน้อย แต่หากเป็นคนที่ไม่แข็งแรงก็อาจท้องเสียได้ หมอเหลียงหันไปมองหลินเว่ยเว่ยแล้วกล่าวกับนางว่า หากตอนกลางคืนรู้สึกไม่สบายก็ให้คนไปตามข้า
หลังส่งหมอเหลียงกลับไปแล้ว เจียงโม่หานก็ขมวดคิ้วและถลึงตาใส่นาง รู้อยู่ว่าเค้กข้าวขึ้นรายังกล้ายัดเข้าปากอีก เจ้าช่างโง่เขลาสิ้นดี !
หลินเว่ยเว่ยหัวเราะคิกคักแล้วกล่าวว่า โม่หาน ข้าเข้าใจดีว่าเจ้ากำลังเป็นห่วงข้าอยู่ !
ฮึ ! ผู้ใดเป็นห่วงเจ้า ! เจียงโม่หานถลึงตาใส่นางอีกครั้งแล้วหันหน้าเดินหนีไป
เป็นห่วงข้าก็พูดออกมาตามตรง ! ข้าหลินเว่ยเว่ยผู้เป็นที่รักของทุกคน แม้แต่ดอกไม้เห็นยังผลิบาน เสน่ห์ของข้าทำให้คนไม่อาจต้านไหว มีอันใดต้องอายหรือ ? หลินเว่ยเว่ยสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินมุ่งหน้ากลับบ้าน
เจียงโม่หานเปิดประตูบ้านของตนแล้วหันมามองนางก่อนจะพูดออกมาว่า หน้าของเจ้ายังหนาได้มากกว่านี้อีกหรือ ?
โอ๊ย…ข้าปวดท้อง ! จู่ ๆ หลินเว่ยเว่ยก็ค้อมตัวลงแล้วกุมท้องไว้พลางร้องครวญครางออกมาอย่างเจ็บปวด
นางหวงและนางเฝิงจึงช่วยกันพยุงอย่างเป็นห่วง คนหนึ่งช่วยนวดท้อง ส่วนอีกคนก็ปลอบเบา ๆ ทันใดนั้นสีหน้าของเจียงโม่หานก็เปลี่ยนไป เขาเก็บพัดแล้วเร่งรีบที่จะไปตามหมอเหลียง ข้าจะไปตามหมอ !
กลับมาก่อน ! ข้าหลอกเจ้า ! หลินเว่ยเว่ยรีบลุกขึ้นแล้วขยิบตาให้เจียงโม่หาน เช่นนี้เจ้ายังจะบอกว่าไม่ห่วงข้าอีกหรือ ?
เจียงโม่หานกัดฟันกรอด เขาโกรธมากพร้อมเดินมาตรงหน้าหลินเว่ยเว่ย หลังจ้องนางอยู่นานแล้วสุดท้ายเขาก็ใช้พัดที่อยู่ในมือเคาะบนศีรษะนางเบา ๆ หนึ่งที จากนั้นก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า น่าเบื่อเสียจริง ! แล้วหมุนตัวเดินจากไป !
น้าเฝิง ลูกชายท่านตีข้า ! หลินเว่ยเว่ยลูบศีรษะแล้วหันไปฟ้องนางเฝิงด้วยเสียงออดอ้อน
นางหวงจิ้มที่ศีรษะของบุตรีแล้วกล่าวว่า ตีน่ะสิดี ! ดูเจ้าสิ ทำให้คนตกใจไปทั่ว !
นางหวงเป็นห่วงว่าอีกฝ่ายจะไม่สบายในตอนดึก ดังนั้นคืนนี้นางจึงมานอนข้างหลินเว่ยเว่ย นางไม่กล้าแม้แต่ข่มตาหลับ ตอนที่หลินเว่ยเว่ยพลิกตัว นางก็ลุกขึ้นมาตรวจดูและกลางดึกในขณะที่หลินเว่ยเว่ยลุกขึ้นมาดื่มน้ำ นางหวงก็ลุกขึ้นนั่งอย่างเป็นกังวลแล้วถามว่า เป็นอะไร ? ไม่สบายตรงไหนหรือไม่ ?
หลินเว่ยเว่ยไม่เคยโดนเป็นห่วงและกังวลต่อตนเช่นนี้มาก่อน นางจึงกอดมารดาไว้แน่นแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงราวกับจะร้องไห้ว่า ท่านแม่เจ้าคะ ข้าสบายดี ไม่ได้มีอาการไม่สบายอันใด ท่านหลับอย่างสบายใจเถิด !
ชาติก่อน ตอนที่นางใกล้เรียนจบ หลายครอบครัวได้โยนใบมะกอกใส่นางและในตอนที่นางกำลังจะได้ใช้ชีวิตกับอนาคตที่รุ่งโรจน์ของตน จู่ ๆ นางก็ทะลุมิติมายังถิ่นทุรกันดารแห่งนี้ ตอนแรกในใจของนางก็ไม่ค่อยยินดีเท่าไรนัก แต่ตอนนี้นางรู้สึกปีติยินดีกับชะตาที่ฟ้ากำหนด ในที่สุดนางก็มีครอบครัวแสนอบอุ่น มีมารดาที่รักนางสุดหัวใจ…
เช้าวันต่อมา หลินเว่ยเว่ยเพิ่งเติมน้ำเต็มถัง ตรงประตูบ้านก็มีเสียงเคาะดังขึ้น เมื่อนางเดินไปเปิดประตูก็พบว่าปู่เถียนกำลังพยุงย่าเถียนพลางยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ที่หน้าประตูบ้าน
ในมือของย่าเถียนถือถ้วยข้าวหมักใส่ไข่เอาไว้ หลังจากที่ย่าเถียนเห็นนางแล้วก็ยิ้มพลางกล่าวว่า ต้านเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าไม่พักที่บ้านเรา ! พอแม่ตื่นมาตอนเช้าก็เห็นว่าเจ้าไม่อยู่ แม่คิดว่าเจ้าหายไปอีกแล้ว ! ต้านเอ๋อร์ แม่แอบทำข้าวหมักใส่ไข่ที่เจ้าชอบมาให้เชียวนะ รีบทานสิ อย่าให้พี่ใหญ่กับพี่รองมาเห็น…
ย่าเถียน นี่เป็นของบำรุงร่างกายที่ปู่เถียนซื้อมาให้ท่าน ท่านทานเถิด ! หลินเว่ยเว่ยจะกล้าทานของคนชราได้เช่นไร นางยิ้มพร้อมปฏิเสธออกไป
ย่าเถียนตีมือเล็ก ๆ ของนางแล้วกล่าวอย่างปลื้มใจว่า ต้านเอ๋อร์ของเรารู้ความแล้ว เจ้าเข้าใจความรักของแม่แล้ว ! แม่ทำไว้สองถ้วย ของแม่ได้ทานไปแล้ว ส่วนถ้วยนี้ตั้งใจเก็บไว้ให้เจ้า ! หากพี่รองกลับมาก็อาจแย่งเจ้าได้ รีบทานเร็ว !
บุตรสาวคนโตของตระกูลหลินมองไปยังคนชราทั้งสอง ‘นี่พวกเขาทำอันใด ? เหตุใดจึงมองข้าเช่นนั้น ? ข้าไม่มีทางแย่งของพวกเขาหรอก ! ’
หลินเว่ยเว่ยไม่อาจปฏิเสธน้ำใจได้จึงทำได้เพียงต้องทานข้าวหมักใส่ไข่ที่หวานเลี่ยนลงไป
เจียงโม่หานที่กำลังถือตำราเดินผ่านหน้าบ้านของนาง เขามองมาทางนางแล้วกล่าวว่า เจริญอาหารดีนี่ ! ดูท่าว่าเมื่อคืนไม่เป็นอันใด !
ขอบใจที่เป็นห่วง แต่ข้าไม่เป็นอันใดเลย ! หลินเว่ยเว่ยดื่มข้าวหมักหยดสุดท้ายจนหมดแล้วแกว่งถ้วยในมือมาทางเขาพร้อมทำหน้าภูมิใจ
เจ้าอิ่มอกอิ่มใจอันใดกัน ?
โอ้ ! นี่คือลูกหลานบ้านใดหรือ ? หล่อเหลายิ่งนัก ! มีแม่สื่อแล้วหรือยัง ? เจ้าว่าต้านเอ๋อร์ของเราเป็นเช่นไร ? ย่าเถียนใช้สายตาราวกับแม่ยายมองลูกเขย นางมองขึ้นลงเพื่อพิจารณาเจียงโม่หานไม่หยุด
นางเฝิงที่เดินตามหลังมายิ้มรับแล้วกล่าวว่า เด็กคนนี้เป็นบุตรชายบ้านข้าเอง ! ไม่มีแม่สื่อหรอก ! ต้านเอ๋อร์ของบ้านท่านไม่เลว นางเติบโตมาได้อย่างงดงามและเก่งกาจ !
ใช่แล้ว ! ต้านเอ๋อร์ของบ้านข้าดีไปหมดทุกอย่าง ! ย่าเถียนมองเจียงโม่หานด้วยสายตาพิจารณา บุตรชายของเจ้ามีแค่หน้าตาที่ดูได้ แต่รูปร่างผอมไปหน่อย ดูไม่มีเรี่ยวแรง คงทำไร่ทำนาไม่ไหว แล้วจะเลี้ยงดูครอบครัวได้เช่นไร ?
นางเฝิงหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง นางพยักหน้าคล้อยตามแล้วกล่าวว่า จริง ! เขาผอมเกินไป! ได้ยินหรือไม่ ? ต่อไปนี้ก็ทานให้มากขึ้นหน่อย อ้วนกว่านี้อีกนิด เช่นนั้นเจ้าคงไม่สามารถหาได้แม้กระทั่งภรรยา !
ท่านแม่… นี่ท่านก็คล้อยตามเขาด้วยหรือ ? เจียงโม่หานจนปัญญา ! แต่เขาเพิ่งเคยเห็นนางเฝิงมีความร่าเริงเช่นนี้เป็นครั้งแรก ! นี่…ไม่น่าเชื่อเลย !
พี่รอง เช้านี้เรากินอะไร ? เจ้าหนูน้อยที่เพิ่งให้อาหารกระต่ายและไก่ตรงหลังบ้านเสร็จก็กระโดดโลดเต้นเข้ามา
ตอนนี้กุยช่ายที่บ้านเรากำลังงอกงาม เช่นนั้นทานแป้งห่อกุยช่ายแล้วกัน ! ปู่เถียน พวกท่านทานข้าวหรือยัง ? มาทานด้วยกันสิ ! หลินเว่ยเว่ยเอ่ยชวนอย่างเปี่ยมไมตรี