หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง - ตอนที่ 605 ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง
ตอนที่ 605 ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง
พวกชาวบ้านไม่กี่คนจากหมู่บ้านคนบาปจึงหวงแหนโอกาสในการทำงานครั้งนี้มาก แต่ละคนทำงานอย่างไม่หวงพละกำลัง แต่ละครั้งจะอยู่ใน 10 อันดับแรกของคนที่ทำงานสำเร็จเสมอ
พวกเขาไม่เหมือนคนอื่น หลังทำงานเสร็จแล้วก็จะไปพักด้านข้าง และยิ่งไม่เหมือนใครบางคนที่พอผู้ดูแลไม่เห็นก็จะแอบอืดอาดยืดยาด แต่ในเวลาที่คนอื่นพัก ตัวเองกลับทำงานเพื่อแสดงให้เห็นว่าขยันถึงขนาดไหน
หลังจากชาวหมู่บ้านคนบาปทำงานเสร็จแล้วก็จะไปรวมตัวกับพวกพ้องแล้วเริ่มแผ้วถางที่ดินอีกแห่ง เท่ากับว่าพวกเขาแต่ละคนทำงานมากกว่าคนอื่นถึง 5 เท่า
หลิวว่ายจื่อเห็นภาพนี้กับตา ค่าแรงให้เพิ่มไม่ได้ ดังนั้นตอนถึงเวลาแจกอาหารกลางวัน เขาจึงจงใจเพิ่มหมั่นโถวให้ทั้ง 5 คนนี้อีกคนละหนึ่งลูก ถือเป็นของรางวัลที่อีกฝ่ายทำงานล่วงเวลา…เสี่ยวเว่ยเคยพูดว่าผู้ดูแลต้องรู้จักแยกแยะเรื่องการให้รางวัลและลงโทษอย่างชัดเจน ทำแบบนี้แล้วถึงจะกระตุ้นคนงานได้ !
หลังจากหวังหลิวเกินชายร่างผอมได้หมั่นโถวไปแล้วก็รีบวิ่งกลับไปที่หมู่บ้าน…‘เชิงเอ๋อร์ แม่เชิงเอ๋อร์ มีหมั่นโถวกินแล้ว ! ’ พวกเรามีหมั่นโถวกินแล้ว ! ! หมั่นโถวขนาดเท่าไข่ไก่ที่เขาเอากลับมาเมื่อวานนี้ เชิงเอ๋อร์ก็กินมันอย่างเอร็ดอร่อย หรือแม้แต่เศษที่ตกบนเสื้อผ้าก็ยังเก็บขึ้นมากินอย่างระมัดระวัง…
หมู่บ้านคนบาปอยู่ห่างจากพื้นที่กำลังแผ้วถางเพียง 1 เค่อเท่านั้น หวังหลิวเกินวิ่งไปตลอดทาง หลังผลักประตูเข้าไปแล้วเขาก็เห็นเด็กผู้ชายอายุ 5 ขวบ กำลังช่วยมารดาเด็ดผัดอยู่ใต้ร่มไม้ ! คนในหมู่บ้านคนบาปจะรับประทานอาหารกันเพียง 2 มื้อเท่านั้นและยังเป็นแค่แกงจากผักป่า…ไม่ว่าจะเป็นคนแก่ เด็ก ผู้ชายหรือผู้หญิงก็ต้องหิวโหยจนรู้สึกไม่สบายไปทั้งวัน
พอแม่เชิงเอ๋อร์ได้ยินเสียงก็รีบหันไปมองแล้วถามด้วยความตกใจว่า “ท่านพี่ เหตุใดท่านกลับมาอีกแล้ว ? ข้าก็บอกแล้วว่าไม่ต้องเอาหมั่นโถวกลับมา เช้านี้ข้าออกไปเข้าแถวซื้อธัญพืชหยาบในตัวอำเภอตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางแล้ว…ท่านไม่ต้องเป็นห่วงพวกเรา น้องเฉินพูดถูก ท่านควรกินให้อิ่มถึงจะมีแรงและหาเงินกลับมาให้ได้มากกว่าเดิม ! ”
หวังหลิวเกินปาดเหงื่อออกจากใบหน้าแล้วหยิบห่อผ้าที่ซักจนสะอาดเอี่ยมออกมาจากอกเสื้อ หลังเปิดออกก็เผยให้เห็นหมั่นโถวลูกใหญ่ถึง 3 ลูก เขาคลี่ยิ้มจนเห็นฟันหน้าเรียงครบทุกซี่ “ดูสิ ! นี่คืออะไร ! ”
“ไม่ได้บอกว่าคนหนึ่งได้หมั่นโถวสองลูกหรอกหรือ ? แล้วเหตุใดถึงมีเพิ่มมาอีกลูก ? ” แม่เชิงเอ๋อร์มองสามีด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้รับหมั่นโถวมาถือไว้แต่อย่างใด
หวังหลิวเกินพูดด้วยรอยยิ้ม “ผู้ดูแลหลิวเห็นพวกเราทำงานอย่างขยัน จึงให้รางวัลพวกเรา ! ข้ากินแค่สองลูกก็อิ่มแล้ว ที่เหลืออีกลูกนี้เจ้ากับเชิงเอ๋อร์แบ่งกันกินเถิด ! ”
แม่เชิงเอ๋อร์ดีใจมาก นางลุกขึ้นแล้วนำผักป่าที่ล้างจนสะอาดแล้วมาใส่จาน จากนั้นเติมเกลือลงไปแล้วยกมาวางบนโต๊ะขาหัก หมั่นโถว 3 ลูกที่สามีเอากลับมา นางวางสองลูกตรงเบื้องหน้าเขา ส่วนอีกลูกนั้นนางกัดกินคำเล็ก ๆ แล้วก็ยกที่เหลือทั้งหมดให้บุตรชาย “ท่านพี่ ท่านฝูเหรินนายอำเภอเป็นคนใจดีมาก ! ตอนบ่ายข้าไม่มีงานอะไรต้องทำแล้ว ถ้าอย่างไร…ข้าไปช่วยงาน ท่านก็จะได้สบายขึ้นมาบ้าง ! ”
หวังหลิวเกินครุ่นคิด ก่อนจะพูดอย่างลังเล “ถ้าอย่างไร…ข้าไปถามน้องเฉินก่อนดีหรือไม่ ? ”
เฉินหยุนก็กินหมั่นโถวแค่สองลูก เขาไม่ต้องทำงานหนักเหมือนคนอื่นจึงแบ่งหมั่นโถวหนึ่งลูกไปให้คนที่บ้าน ตอนนี้พี่ชายและบิดาของเฉินหยุนไปทำงานที่บ่อเกลือ ในบ้านเหลือแค่ท่านปู่คนเดียว ส่วนมารดาก็ออกไปเก็บผักป่ายังพื้นที่ห่างไกลกับผู้หญิงคนอื่นในหมู่บ้าน
ตอนนี้ชายชรากำลังสานตะกร้าอย่างชำนาญอยู่ หลังเงยหน้าแล้วเห็นหมั่นโถวในมือหลานชาย เขาก็พูดว่า “ปู่ไม่ต้องทำงานใช้แรงอะไร เก็บไว้ให้พ่อกับพี่ชายเจ้าเถิด”
“อากาศร้อน ถ้าเก็บไว้ถึงเย็นก็จะเสียได้ขอรับ ท่านปู่ ท่านกินเถิด แป้งข้าวโพดที่เอากลับมาเมื่อวานก็ไม่ต้องประหยัดกิน เย็นนี้บอกให้ท่านแม่ทำอาหารเยอะ ๆ จนทุกคนกินอิ่มท้องนะขอรับ ! ” เฉินหยุนลองคำนวณดู ‘ถ้าเป็นเหมือนที่ผู้ดูแลหลิวพูด ต่อไปค่าแรงจะเปลี่ยนเป็นอาหารทั้งหมด โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็มีอยู่มาก’
ปู่เฉินวางตะกร้าสานในมือลง แล้วไปล้างมือเพื่อฉีกหมั่นโถวที่เฉินหยุนนำกลับมาออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปตากแดด ของแห้งอย่างไรก็ไม่เสีย ตอนเย็นใส่หม้อต้มกับผักป่าก็จะอิ่มยิ่งกว่ากินแค่แกงผัก
ส่วนแป้งข้าวโพดที่หลานชายคนเล็กนำกลับมา เขาจะเก็บไว้ให้หลานชายคนโตแต่งภรรยา…ในหมู่บ้านคนบาป ธัญพืชหยาบจำนวน 5 ชั่ง สามารถขอภรรยาแต่งเข้าบ้านได้ หลานชายคนโตอายุเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ยังเป็นท่อนไม้เกลี้ยงอยู่เลย ! หมู่บ้านคนบาปมีสตรีที่ขายไม่ออกมากมายและต้องเป็นโสดไปทั้งชีวิต
เฉินหยุนรู้ว่าท่านปู่เป็นคนดื้อรั้น จึงได้แต่ถอนหายใจ ช่วงสองวันนี้เขาลองสังเกตดูแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภรรยานายอำเภอหรือผู้ดูแลหลิวก็ปฏิบัติต่อคนในหมู่บ้านคนบาปอย่างเท่าเทียมกันทั้งสิ้น ภรรยานายอำเภอถางที่ดิน ไม่ว่าจะเป็นถางหญ้า พรวนดิน หว่านเมล็ด เก็บเกี่ยว…ก็ต้องใช้คนงานทั้งนั้น เขาจะต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้มั่น !
พอออกมาจากบ้านก็เห็นหวังหลิวเกิน หลังฟังคำพูดของเขาแล้วเฉินหยุนก็เงียบไปพักหนึ่ง “ได้มันก็ได้อยู่หรอก แต่…พี่สะใภ้จะไม่ได้ค่าแรง ! ”
“ข้ารู้ พวกเราไม่ต้องการค่าแรง พี่สะใภ้ของเจ้าแค่อยากช่วยแบ่งเบาภาระข้าเท่านั้น” หวังหลิวเกินให้เชิงเอ๋อร์มาอยู่ที่บ้านสกุลเฉินเพื่อให้ชายชราช่วยดูแลแล้วพาแม่เชิงเอ๋อร์ไปที่ไร่
เมื่อมีแม่เชิงเอ๋อร์มาช่วยงาน ผ่านไปไม่นานหญ้าในพื้นที่ที่เขารับผิดชอบก็ถูกตัดจนหมด แนวป้องกันไฟรอบๆ ก็ถูกทำขึ้นเช่นกัน ในขณะที่เขาจะไปของานจากผู้ดูแลหลิวเพิ่มอีกหมู่ สาวใช้ข้างกายฝูเหรินนายอำเภอคนหนึ่งก็เดินเข้ามา
หยาเอ๋อร์กวักมือเรียกให้แม่เชิงเอ๋อร์เข้าไปหา แม่เชิงเอ๋อร์รีบเหลือบมองผู้ชายของตน หวังหลิวเกินคิดว่าภรรยานายอำเภอต้องการตำหนิ จึงรีบเข้าไปคารวะแล้วโยนความรับผิดชอบทั้งหมดมาที่ตัวเอง “ข้าน้อยผิดเอง ข้าน้อยเป็นคนให้นางมาทำงาน นางแค่ช่วยเท่านั้น ไม่ต้องการค่าแรงหรือข้าวสารอะไรเลย ! ถ้าท่านเห็นนางแล้วขัดตา ข้าน้อยจะบอกให้นางไปเดี๋ยวนี้ขอรับ ! ”
หยาเอ๋อร์ไม่ได้สนใจเขา แต่ถามแม่เชิงเอ๋อร์แทน “ต้มน้ำถั่วเขียวเป็นหรือไม่ ? ”
แม่เชิงเอ๋อร์มองสามี หลังได้รับสายตาให้กำลังใจจากเขาแล้วนางก็พูดขึ้นมาเบาๆ ว่า “เป็นเจ้าค่ะ แต่ไม่ค่อยได้ทำ ไม่รู้จะออกมาอร่อยหรือเปล่า…”
“แค่ทำเป็นก็พอแล้ว ! มาช่วยทำหน่อย ! ” ช่วงสองวันนี้หยาเอ๋อร์พาสาวใช้ไม่กี่คนของตำหนักหมินอ๋องมาทำหมั่นโถวจนมือของพวกนางบวมไปหมดแล้ว หลินเว่ยเว่ยสงสารพวกนางจึงให้นางจ้างสตรีที่ทำงานคล่องแคล่วมาช่วยสักสองสามคน
ต้มน้ำถั่วเขียวไม่มีอะไรยาก ที่ยากก็คือต้องต้มออกมาให้คนนับร้อยดื่ม ! อ่างไม้ที่ใช้บรรจุน้ำต้มถั่วเขียว หลินเว่ยเว่ยเอามาถึง 5 ใบ ด้านในเต็มไปด้วยน้ำต้มถั่วเขียวและยังทำน้ำต้มถั่วเขียวแบบใส่น้ำแข็งลงไปด้วย
หลินเว่ยเว่ยโบกมือเรียกคนงานที่อยู่ใกล้บริเวณนั้น “มาดื่มน้ำต้มถั่วเขียวแก้ร้อนกันก่อน ! ” ลูกจ้างชั่วคราวพวกนี้ทำงานดีเกินไปแล้ว ตอนเที่ยงแดดแรงถึงขนาดนั้นก็ยังไม่รู้จักพัก นางเห็นแขนของคนงานชั่วคราวถูกแดดเผา จึงกลัวว่าจะมีคนล้มป่วยเพราะไข้แดดขึ้นมาแล้วเป็นอันตรายถึงชีวิต !
หวงต้าจวงที่ถูกเรียกก็วิ่งเข้ามาข้างอ่างไม้ด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะถามขึ้นมาเบา ๆ ว่า “น้ำต้มถั่วเขียวนี้ทำให้พวกเราดื่มจริงหรือขอรับ ? ”
หลิวว่ายจื่อหัวเราะฮ่าฮ่า “ไม่ให้พวกเจ้าดื่ม แล้วน้ำต้มถั่วเขียวมากมายขนาดนี้ใครจะดื่มหมด ? ของที่พวกเจ้าเอาไว้ใช้ดื่มน้ำอยู่ไหน ? ไปเอามา ! ”
หวงต้าจวงหยิบกระบอกไม้ไผ่เนื้อหยาบมาจากไร่ มันมีขนาดยาวถึงปลายแขนได้เลย เขาหัวเราะแฮะแฮะด้วยความเขินอาย “ตักให้ข้าน้อยแค่ครึ่งเดียวก็ได้แล้วขอรับ…”