หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง - ตอนที่ 628 ความฝันมีได้ เพราะอาจเป็นจริงในสักวัน
ตอนที่ 628 ความฝันมีได้ เพราะอาจเป็นจริงในสักวัน
“บัณฑิตน้อย เหตุใดเจ้าถึงยอมทิ้งซัวถัวไว้ที่อำเภอหนิงซี ? ” ซัวถัวฝึกฝนอยู่ข้างกายเจียงโม่หานในที่ว่าการอำเภอมานาน 3 ปี จึงถือว่าเป็นผู้ติดตามที่ดีคนหนึ่ง เมื่อมีเขาอยู่ด้วย เจียงโม่หานก็จะหมดภาระไปหลายเรื่อง !
เจียงโม่หานมองนางแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าก็ทำใจไม่ได้หรอก ! แต่ใครบางคนแถวนี้ให้ภรรยาของเขาอยู่ดูแลฟาร์มและโรงงานแปรรูปที่อำเภอหนิงซี แล้วข้าจะให้สองสามีภรรยาแยกจากกันเหมือนหนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้าหรือไร ? ยิ่งไปกว่านั้นคือหลงจู๊หญิงผู้เก่งกาจของเจ้าก็เพิ่งคลอดบุตรชายของพวกเขา เจ้าคิดว่าถ้าซัวถัวตามข้ากลับเมืองหลวง แล้วหัวใจจะอยู่กับเนื้อกับตัวหรือไม่ ? ”
หลินเว่ยเว่ยยักไหล่ “ข้าไม่ได้คิดจะให้หยาเอ๋อร์อยู่ที่อำเภอหนิงซี แต่นางอยากอยู่เอง…เดิมทีข้าคิดจะยอมแพ้เรื่องฟาร์มกับโรงงานแปรรูปเหล่านั้นแล้วด้วยซ้ำ…”
เจียงโม่หานหัวเราะเบา ๆ “เจ้าช่างคิดอะไรง่าย ๆ แต่หลงจู๊หญิงของเจ้าทำใจทิ้งสวนผลไม้หลายร้อยหมู่แล้วก็ฟาร์มกับโรงงานแปรรูปของเจ้าไม่ลง ! ”
ไม่พูดคงไม่ได้ว่าภรรยาของเขาเป็นคนหาเงินเก่งจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากศูนย์เพาะเมล็ดพันธุ์หรือรายได้จากโรงงานทั้งสองก็ค่อนข้างน่าประทับใจทั้งสิ้น ทันใดนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกว่าได้กินข้าวนิ่ม1 ในชามของตน…
หลินเว่ยเว่ยตบกระเป๋าเงินของตนแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เก็บฟาร์มปศุสัตว์กับโรงงานแปรรูปสองแห่งนั้นไว้ก็ดี เพราะนั่นเป็นบ่อเงินของพวกเรา ! กลับไปคราวนี้ ไม่ว่าเจ้าจะถูกส่งไปทำงานที่ใด พวกเราก็มีเงินซื้อที่ดินแล้วสานต่อกิจการเพาะเมล็ดพันธุ์ของข้าต่อไป ! เป้าหมายของข้าคือ…ผลผลิต 1,000 ชั่ง ! ! ”
หมินอ๋องออกจากห้องโดยสารบนเรือเป็นเพื่อนพระชายา ขณะทอดพระเนตรบุตรสาวที่มีความทะเยอทะยานก็ส่ายดวงพักตร์พลางตรัสว่า “กลางวันแสก ๆ ก็เพ้อฝันแล้ว ! ผลผลิต 1,000 ชั่งเชียวหรือ ? เจ้ากล้าคิดเหลือเกิน ! ”
“มีเหตุผลใดต้องไม่กล้าคิดเพคะ ? ” หมินหวางเฟยให้ท้ายบุตร “เมื่อก่อนพระองค์เคยคิดว่าจะได้ผลผลิตข้าวโพดหมู่ละ 600 ชั่งหรือไม่ ? เมื่อ 3 ปีก่อน ตอนมาอำเภอหนิงซี พระองค์กล้าคิดว่าในเวลาสั้น ๆ แค่ 3 ปีก็จะทำให้ราษฎรผู้ยากไร้ในตะวันตกเฉียงเหนือมีการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่หลวงถึงขนาดนี้หรือเปล่า ? บุตรสาวพูดไว้แล้วว่า…ใจใหญ่เท่าไร ฟ้าก็กว้างเท่านั้น ! ไม่แน่ว่าผ่านไปอีกไม่กี่ปี บุตรสาวของพระองค์อาจทำผลผลิตหมู่ละพันชั่งออกมาได้จริง ! ”
“แม้ว่าข้าวโพดจัดเป็นธัญพืชหยาบ แต่ถ้าได้หมู่ละพันชั่งจริง ๆ ราษฎรทั่วหล้าก็ไม่ต้องกังวลเรื่องปากท้องอีก ! ” สองสามปีแรกที่ต้าเซี่ยเพิ่งถูกสถาปนาขึ้นก็ถือเป็นช่วงที่ยากลำบากจริง ๆ แดนใต้น้ำท่วม ภาคเหนือเจอภัยแล้ง พวกโจรเดินกันในว่อน แถมยังมีกบฏราชวงศ์ก่อนที่คิดจะก่อกวนอีก…
ไม่ว่าเป็นช่วงเวลาใด การที่ราษฎรได้กินอิ่มท้องก็เป็นรากฐานที่ทำให้แผ่นดินมั่นคง ! หมินอ๋องอดไม่ได้ที่จะทอดถอนหทัย “คาดไม่ถึงเลยว่าบุตรที่ไม่ได้เติบโตมากับเราจะมีพรสวรรค์เช่นนี้ ! ดูท่าทางแล้วเวลา 15 ปีที่พรากจากกันนั้น…ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสียทีเดียว ! ”
ถ้าเด็กคนนี้เติบโตมากับพวกพระองค์ มีท่านย่าและหมู่เฟยคอยให้ความรัก ฟู่หวางและพี่ชายดูแลเอาใจใส่ก็อาจกลายเป็นคุณหนูสูงศักดิ์ในหมู่สตรีพวกนั้นที่แต่งออกไปแล้ว ได้แต่อยู่เรือนหลัง…
ขณะมองชายหนุ่มรูปงามที่นั่งเคียงข้างหลินเว่ยเว่ย หมินหวางเฟยกลับคิดในหทัยว่า ‘ใช่ ! ถ้าบุตรชายไม่ได้หายตัวไป ก็ไม่มีทางไปปักหลักที่ฉือหลี่โกวและได้รู้จักกับตระกูลหลิน ส่วนนางก็ไม่มีทางได้ลูกสะใภ้ที่ทำเกษตรเก่งกาจขนาดนี้ นางจึงอดถอนหายใจเฮือกใหญ่ไม่ได้ “บางทีทั้งหมดนี้อาจเป็นชะตาฟ้าลิขิต ! ”
หมินอ๋องมองตามสายตาภรรยา เมื่อเห็นเป็น ‘บุตรเขย’ พระองค์ก็เก็บรอยแย้มพระโอษฐ์ทันที ‘เจ้าเด็กแสบคนนี้ บุตรสาวที่แสนดีของเปิ่นหวางต้องไปเป็นของเจ้า ! ’ แต่เจ้าเด็กคนนี้ถือว่ายังมีความสามารถอยู่บ้าง เพราะในระยะเวลาสั้น ๆ แค่สามปีก็สร้างผลงานที่อำเภอหนิงซีมากมายขนาดนั้นแล้ว ปรับปรุงคันไถล้อคู่ ขุดคลองสร้างระบบชลประทาน สร้างเขื่อนกั้นน้ำ…ไม่ว่าหยิบจับเรื่องใดออกมาก็เป็นประโยชน์ต่อราษฎรและผลงานชิ้นใหญ่ทั้งสิ้น ! ดูท่าแล้วพอกลับเมืองหลวงในคราวนี้ เจ้าเด็กหน้าขาวจะต้องได้เลื่อนตำแหน่งแน่นอน !
ฮึ ! เจ้าตัวแสบ ถ้าแม้แต่ความสามารถนี้ยังไม่มี พระองค์ก็ไม่วางใจจะยกบุตรสาวให้หรอก
ทว่าไม่ใช่บุตรเขยมีความสามารถอยู่คนเดียว พ่อตาอย่างพระองค์ก็ไม่เลวเช่นกัน ! ในช่วงสามปีนี้ทรงปราบพวกหุยเหอจนราบคาบ ! กอปรกับหลุมพรางที่ขุดไว้ให้ราชวงศ์หุยเหอ ต่อจากนี้อีก 10 ปีเผ่าหุยเหอจะวุ่นวายอยู่กับเรื่องภายใน ไฉนเลยยังมีเวลามารุกรานภาคตะวันตกเฉียงเหนือของต้าเซี่ยได้อีก ?
ตอนเดินทางกลับ พวกนางยังแวะพักที่เขตเริ่นอันอีกสองสามวัน โรงเลี้ยงหนอนไหมและโรงงานทอผ้าของพี่สาวคนโตขยับขยายไปอีกหลายเท่าตัว แค่แรงงานหญิงก็มีถึง 20 กว่าคน ส่วนกิจการทำเนื้อแผ่นของบ้าน เนื่องจากไม่มีหมูให้ซื้อ ปีก่อนจึงหยุดทำการ ทว่ากิจการผลไม้อบแห้งและแยมยังทำอยู่ ทุกฤดูใบไม้ร่วงเหล่าผู้หญิงและเด็กในหมู่บ้านจะขึ้นเขาไปเก็บผลไม้ป่ามาขายให้บ้านสกุลหลินเพื่อหารายได้เข้าครอบครัว
โรงงานแปรรูปเมล็ดสนและเมล็ดคั่วต่าง ๆ ก็กิจการรุ่งเรืองมาก ! เมล็ดสนปากอ้าและเมล็ดคั่วหลากรสชาติถูกส่งขายทั่วภาคเหนือ กระเป๋าเงินของทุกคนในฉือหลี่โกวจึงหนักกันถ้วนหน้า กลับมาคราวนี้บ้านแทบทุกหลังถูกสร้างใหม่หมดจนหลินเว่ยเว่ยเกือบเข้าใจผิดว่าเข้ามาผิดหมู่บ้าน…ฉือหลี่โกวให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่แต่ก็คุ้นเคยในเวลาเดียวกัน…
ฉือหลี่โกวมีชื่อเสียงมากในภาคเหนือ ! ไม่เพียงขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านร่ำรวยที่สุดในภาคเหนือแล้ว ยังเป็นเพราะมี ‘หงส์ทอง’ สองตัวบินออกจากหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย…องค์หญิงเว่ยเว่ยและจอหงวนหนุ่มสามีของนาง ! นอกจากนี้ยังมีพ่อค้าทางตะวันตกเฉียงเหนือที่แวะพักในเขตเริ่นอันต่างพูดถึงเรื่องการกระทำของนายอำเภอเจียงและฝูเหรินของเขาไปทั่วทุกหนทุกแห่ง…
ขณะฟังพวกป้า ๆ ในหมู่บ้านชื่นชม หลินเว่ยเว่ยก็ตอบด้วยความเขินอาย “ข้าวิเศษขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อใด ? ก็แค่บังเอิญไปเจอเมล็ดพันธุ์ให้ผลผลิตสูงและมีพรสวรรค์ในการเพาะปลูกเท่านั้น ! ”
“ข้าคิดว่าข้างนอกพูดยังไม่เท่าความจริงด้วยซ้ำ เสี่ยวเว่ย เจ้าคือเทพธิดาที่ถูกส่งมาช่วยเหลือพวกเรา ตอนแรกยังมีพลังจำกัด ฉือหลี่โกวของพวกเราจึงเจริญรุ่งเรืองอยู่แห่งเดียว แต่ตอนนี้พลังค่อย ๆ ฟื้นคืน ส่งผลให้ภาคเหนือของพวกเราได้รับพรจากเจ้าอย่างถ้วนทั่ว ! ” ป้ากุ้ยฮวาปรบมือพร้อมรอยยิ้มชอบใจ
หลินเว่ยเว่ยยืนตัวแข็งทื่อพลางก้มหน้ามองหลานชายตัวน้อยในอ้อมแขนแล้วฝืนยิ้มให้เขา “ป้ากุ้ยฮวาช่วยด้วย เทพธิดาน้อยของท่านโดนเจ้าตัวน้อยฉี่รด ! ”
บุตรชายตัวน้อยของพี่สาวคนโตเพิ่งอายุได้ 5 เดือน ทั้งน่ารัก ไม่ดื้อไม่ซน ตอนมาถึงหลินเว่ยเว่ยจึงหลงเขามาก เอาไปอุ้มไว้ตลอดราวกับทากาวติดมือไว้ แม้แต่พี่สาวและหนอนหนังสือเผิงที่เป็นพ่อแม่แท้ ๆ ก็ยังแย่งไปจากนางไม่ได้
ทว่าเจ้าถั่วงอกอายุ 5 เดือนจะไปเข้าใจอะไร ? เขามักปัสสาวะใส่น้าหญิงบ่อยครั้งจนหลินเว่ยเว่ยเริ่มสงสัยว่าถ้าพักอยู่ที่บ้านต่ออีกสักสองสามวัน เสื้อผ้าที่นางเอามาด้วยคงไม่พอใส่ !
ป้ากุ้ยฮวารีบรับเจ้าตัวน้อยออกจากอ้อมแขนนางแล้วเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เขาอย่างชำนาญ ขณะมองรองเท้าที่เปียกโชกของหลินเว่ยเว่ย ป้ากุ้ยฮวาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถิด…เสี่ยวตงตงของพวกเราสนิทกับน้ารองแล้วล่ะ การที่เด็กฉี่ใส่ก็ช่วยขับไล่โรคภัยและโชคร้ายได้ด้วย ! ”
พี่สาวคนโตรีบวิ่งเข้ามาอุ้มลูกแล้วกลอกตาใส่หลินเว่ยเว่ย “สมน้ำหน้า ! ใครใช้ให้เจ้ามาแล้วแย่งลูกไปจากข้า ? ลูกจ๋า ทำดีมาก ! เมื่อก่อนน้ารองชอบแกล้งแม่บ่อย ๆ เจ้าถือว่าได้ระบายความแค้นแทนแม่แล้ว ! น่ารักจริง ๆ เลย ! ”
หลินเว่ยเว่ยใช้น้ำพุวิญญาณมาโดยตลอด บนร่างกายจึงมีกลิ่นที่น่าผ่อนคลายซึ่งเป็นกลิ่นที่อ่อนไหวต่อเด็กที่สุด พอตงตงออกจากอ้อมแขนนางแล้วก็เริ่มย่นใบหน้าน้อย ๆ พลางดิ้นไปมาในอ้อมแขนมารดา เมื่อเด็กน้อย 5 เดือนไม่อยู่สุขขึ้นมา พี่สาวคนโตก็ยังอุ้มไม่ไหว
[i]
1 กินข้าวนิ่ม เปรียบเปรยได้กับผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน