หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง - ตอนที่ 667 ผู้หญิงที่สุรุ่ยสุร่ายนี้จะเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของเขา
- Home
- หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง
- ตอนที่ 667 ผู้หญิงที่สุรุ่ยสุร่ายนี้จะเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของเขา
ตอนที่ 667 ผู้หญิงที่สุรุ่ยสุร่ายนี้จะเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของเขา
“เฮ้ เจ้าตัวแสบ แกยังอยู่ดีไหม ? บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ? อาการหนักไหม ? ” ไม่รอให้เจียงโม่หานได้พูดอะไร เขาก็รัวคำถามออกมา น้ำเสียงที่ใช้ยังดูร้อนรนและเป็นห่วงด้วย
เจียงโม่หานให้หลินเว่ยเว่ยนั่งซบไหล่ไว้ ส่วนคนที่นอนครอบถุงสำรองออกซิเจนคืออาจารย์ที่ปรึกษาของหลินเว่ยเว่ย ตอนรถบัสตกหน้าผานั้น เพื่อปกป้องนักศึกษาที่อยู่รอบตัว อาจารย์จึงได้รับบาดเจ็บสาหัส เจียงโม่หานแอบป้อนน้ำพุวิญญาณให้อาจารย์แล้ว ดังนั้นไม่น่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิต
เจียงโม่หานพูดกับบิดาว่า “ไม่ต้องกังวล ผมไม่ได้บาดเจ็บ…สัญญาณโทรศัพท์กลางป่ากลางเขาไม่ดี อีกประเดี๋ยวพอถึงโรงพยาบาลแล้วผมจะโทรหาพ่ออีกที วางแล้วนะ ! ” ชัดเจนมากว่าจู่ ๆ เขารู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินกับบิดาที่เพิ่งมีคนนี้ ไม่รู้จะชวนอีกฝ่ายสนทนาอะไร ยิ่งพูดน้อยก็ยิ่งผิดน้อย เอาแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน !
พอได้ยินว่าลูกชายไม่ได้เป็นอะไร เจียงเฉิงซู่ก็สบายใจขึ้นพอสมควรจึงด่าผ่านสายโทรศัพท์สั้น ๆ ว่า “ไอ้ตัวแสบเอ๊ย ! ”
ทันใดนั้นเอง สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หน้าจอโทรทัศน์แล้วแววตาก็เปล่งประกายทันที มันเหมือนกับสายตาอินทรีที่กำลังจ้องเหยื่อแล้วกระโดดออกจากเก้าอี้หวาย “พระเจ้า ! ใครช่างสุรุ่ยสุร่ายถึงขนาดนี้ ใช้ถ้วยชามีฝาปิดแบบโบราณมาใส่น้ำดื่ม ? ให้ตายเถอะ ! หรือ…อีกฝ่ายไม่รู้ว่าถ้วยชาในมือเธอเป็นวัตถุโบราณ ? ฮ่าฮ่าฮ่า ! น้ำรั่วมาถึงฉันแล้ว ! ”
เจียงเฉิงซู่รีบออกไปที่หน้าร้านแล้วพูดกับพนักงานในร้านว่า “เกิดเรื่องกับหานเอ๋อร์ ฉันจะออกไปสักสองสามวัน มีเรื่องอะไรก็โทรมา”
ต่อจากนั้น เขาก็โทรหาลูกชายอีกรอบแล้วถามถึงชื่อโรงพยาบาลที่อีกฝ่ายกำลังเดินทางไป หลังพูดคำว่า “พ่อกำลังไป” แล้วเขาก็รีบจองตั๋วรถไฟจากอินเทอร์เน็ตและเดินทางไปยังเมืองนั้นในภาคเหนือทันที
ยามบ่าย พอมาถึงสถานีรถไฟแล้ว เจียงเฉิงซู่ก็เรียกรถโดยสารไปยังโรงพยาบาลของรัฐ ขณะกำลังจะโทรถามลูกชายว่าอยู่ตรงไหนและเพิ่งก้าวเท้าเข้ามาในโรงพยาบาลก็เห็นลูกชายกำลังถือกล่องใส่อาหารเก็บความร้อนอยู่ในลิฟต์ที่กำลังจะปิด
“เจ้าลูกชาย ! ” เจียงเฉิงซู่วิ่งเหยาะ ๆ เข้าไป ขณะมองลูกชายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เขาก็จับแขนลูกชายพลางลูบเพื่อสำรวจ พอเห็นว่าไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนจริง ๆ เขาก็โล่งใจ
แม้เจียงโม่หานจะไม่ค่อยชอบความกังวลของเขาสักเท่าไร แต่ก็รู้สึกซาบซึ้งอยู่บ้าง…ใครบอกว่าบิดาชอบเก็บความรู้สึก บิดาคนนี้ของเขายังถือว่าเป็นห่วงอย่างเปิดเผยอยู่บ้าง !
“เจ้าเด็กนี่ ! พ่อได้ยินจากข่าวว่าแกช่วยคนทั้งรถเอาไว้ สมแล้วที่เป็นลูกชายของเจียงเฉิงซู่ ! พ่อภูมิใจในตัวแกจริง ๆ ! ! ” เจียงเฉิงซู่ตบศีรษะลูกชายเบา ๆ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความภาคภูมิใจและความชื่นชม สภาพแบบนั้นช่างเหมือนนกยูงรำแพน
หลังจากพูดเรื่องพวกนี้จบแล้วเขาก็หันไปกระซิบข้างหูเจียงโม่หานแบบลับ ๆ ล่อ ๆ “เจ้าลูกชาย พ่อไปเห็นของดีมาอีกแล้ว ประเดี๋ยวแกร่วมมือกับพ่อ ไม่แน่ว่าพวกเราอาจเก็บของดีได้ ! ”
เมื่อลิฟต์หยุด เจียงโม่หานก็สาวเท้าเดินไปยังห้องผู้ป่วย เขาเดินไปพลางถามไปด้วย “ถ้าเจอของดี พ่อก็ไปคุยกับเขาสิ ทำไมต้องให้ผมร่วมมือด้วย ? ”
เจียงเฉิงซู่อยากพูดอะไรบางอย่าง แต่โดนเสียงหวาน ๆ ในห้องผู้ป่วยขัดจังหวะเสียก่อน “สา…มี กลับมาแล้วหรือ ? ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว…”
สะ…สามี ? เจียงเฉิงซู่หันไปมองลูกชายแล้วหันมามองประตูห้องผู้ป่วยอีกรอบ เห็นได้ชัดว่าคำเรียกสามีนี้ไม่ได้พูดกับเขา ดังนั้นเขาจึงหันไปถลึงตาใส่ลูกชาย…เจ้าตัวแสบ แกมีแฟนตั้งแต่เมื่อไร ? ไม่บอกกันสักคำ เขามาเยี่ยมมือเปล่า ไม่ได้เอาของขวัญแรกพบอะไรมาสักชิ้น…
หลินเว่ยเว่ยเห็นว่าด้านหลังของโฉวฝู่รูปหล่อมีคนแปลกหน้าเดินตามมาด้วย ใบหน้าคล้ายคลึงกัน แค่มองก็รู้ว่ามีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด
เธอใช้มือข้างขวาที่ไม่ได้บาดเจ็บช่วยยันตัวให้ลุกขึ้นนั่งแล้วพูดพร้อมยิ้มหวาน “สา…เจียงโม่หาน เขาเป็นพี่ชายของนายหรือ ? พี่ชายก็หล่อเหมือนกันนะคะ ! ”
เจียงเฉิงซู่โดนคำพูดสั้น ๆ ของเธอทำให้ลืมความโกรธไปทันที “ฮ่าฮ่า ! พ่อไม่ใช่พี่ชาย แต่เป็นพ่อแท้ ๆ ของเขา ! ลูกสะใภ้บาดเจ็บมากไหม ? เจ้าเด็กคนนี้ขี้อายเกินไปหน่อย แม้แต่แฟนตัวเองก็ยังไม่ยอมพามาแนะนำ ! ”
“คุณอาก็หนุ่มเกินไปหน่อยไหมคะ ? โดนคนเข้าใจผิดว่าเป็นพี่ชายของเจียงโม่หานบ่อย ๆ ใช่ไหมคะ ? ” ถ้าหลินเว่ยเว่ยอยากเอาใจใคร คนนั้นไม่มีทางต้านทานได้แน่นอน
เจียงเฉิงซู่หัวเราะเสียงดังลั่นอีกรอบ แต่แล้วทันใดนั้นสายตาของเขาก็โดนถ้วยชามีฝาปิดบนโต๊ะดึงดูด เหมือนแม่เหล็กปะทะกับเหล็ก ไม่ว่าอย่างไรก็ละสายตาไม่ได้
หลินเว่ยเว่ยมองตามทิศทางที่เขามอง ก่อนจะถามว่า “คุณอาหิวน้ำหรือคะ ? อยากดื่มน้ำหน่อยไหม ? ”
“ลูกสะใภ้ พ่อขอดูสิ่งนั้นหน่อยได้ไหม ? ” เจียงเฉิงซู่กลืนน้ำลายลงคอ แม้จะอยู่ห่างกัน แต่เขามั่นใจว่าสิ่งนั้นเป็นถ้วยชามีฝาปิดแบบโบราณแน่นอน !
หลินเว่ยเว่ยพยักหน้า “คุณอา เชิญตามสบายเถอะค่ะ…”
เจียงโม่หานเปิดกล่องเก็บอาหารแล้วตักน้ำแกงไก่ป้อนให้เธอ ขณะที่หลินเว่ยเว่ยกำลังกินเนื้อน่องไก่อย่างเอร็ดอร่อย เธอก็พูดกับเจียงเฉิงซู่ที่กำลังพลิกดูถ้วยชาอยู่ข้าง ๆ ว่า “คุณอาจะกินอะไรหน่อยไหมคะ ? ”
เจียงเฉิงซู่ส่ายหน้าแล้วถามว่า “ลูกสะใภ้…ถ้วยชาของเธอได้มาจากที่ไหนหรือ ? ”
หลินเว่ยเว่ยตอบ “ซื้อมาจากแผงลอยในหลิวหลีฉ่างค่ะ คนขายบอกว่าเดิมทีเจ้านี่ใช้สำหรับชงชา หนูคิดว่าเอามาใส่น้ำน่าจะดีจึงซื้อมา คุณอา มันมีอะไรผิดปกติหรือคะ ? ”
นางพูดถูกแล้ว เดิมทีถ้วยชามีฝาปิดใบนี้ก็ใช้สำหรับชงชาอยู่แล้ว สร้างขึ้นมาเพื่อให้เก็บความร้อนโดยเฉพาะ แต่ฝาถ้วยชาถูกสร้างขึ้นมาแน่นหนาอย่างดี น้ำจะได้ไม่หกออกมาง่าย ๆ
เจียงเฉิงซู่ส่ายหน้า “เธอซื้อ ‘ถ้วยชามีฝาปิด’ ใบนี้มาเท่าไหร่ ? ”
หลินเว่ยเว่ยคิดราคาตรงนั้นแบบง่าย ๆ “ไม่แพงค่ะ แค่ 50 กว่าหยวน”
“ห้าสิบกว่าหยวน ? ” เจียงเฉิงซู่ยกมือทาบหน้าอกตัวเอง…ของดีขนาดนี้ ทำไมเขาถึงไม่เจอก่อนนะ ? เขาหันไปมองลูกชายที่กำลังป้อนน้ำแกงให้เด็กสาวด้วยความเอาใจใส่ !
ทว่าน้ำไม่ได้รั่วออกนอกบ้าน เพราะหลังมองลูกชายแล้วเขาก็มองเด็กสาวที่ดูน่ารักข้าง ๆ จากนั้นถามว่า “ปีหน้าพวกเธอก็เรียนจบกันแล้ว คิดจะแต่งงานกันเมื่อใด ? ”
หลินเว่ยเว่ยหันไปมองโฉวฝู่ของตน ‘พ่อนายเป็นอะไร ? เพิ่งเจอกันก็ถามว่าจะแต่งงานเมื่อใด ? ลูกชายของท่านคงไม่ได้มีโรคร้ายซ่อนอยู่แล้วกลัวลูกชายจะขายไม่ออกหรอกนะ ? ’
เจียงโม่หานกลับรู้สึกว่าคนผู้นี้มาเพื่อถ้วยชามีฝาปิดโบราณในมือภรรยามากกว่า เพียงเพื่อวัตถุโบราณแล้วถึงขั้นขายลูกชายตัวเอง บิดาแบบนี้หาคนที่สองไม่ได้แล้วจริง ๆ !
เจียงเฉิงซู่ยื่นมือไปรับถ้วยชาที่หลินเว่ยเว่ยหยิบให้ เห็นเพียงเขากำลังพลิกถ้วยชาในมือไปมาด้วยความระมัดระวัง แถมตอนดูยังพูดพึมพำอะไรบางอย่างด้วย ล้วนเป็นคำพูดเฉพาะของวัตถุโบราณ หลินเว่ยเว่ยฟังด้วยความงุนงง เธอหันไปมองเจียงโม่หาน…พ่อของนายคงไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกนะ ?
“จากเนื้อสัมผัสด้านนอกแล้วน่าจะเป็นถ้วยชามีฝาปิดในสมัยราชวงศ์ซ่ง แต่พ่ออยู่กับวัตถุโบราณมาค่อนชีวิต ยังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ! โดยเฉพาะฝาที่ปิดสนิทมาก ออกแบบได้ทันสมัย เป็นอะไรที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน ! ”
หลินเว่ยเว่ยและเจียงโม่หานหันไปสบตากันอย่างรู้ใจ ‘คุณต้องไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่แล้ว เพราะเจ้าสิ่งนี้เป็นของที่โฉวฝู่ของนางสั่งคนมาทำให้นางโดยเฉพาะ ตอนนั้นเผาออกมาแค่ 20 ใบเท่านั้น ครึ่งหนึ่งมอบให้คนอื่น อีกครึ่งเก็บไว้ใช้เอง…เพราะกระเบื้องเคลือบแตกง่าย ดังนั้นเวลาออกไปข้างนอกจึงต้องเตรียมไว้หลายใบหน่อย’