CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนชะตาแค้น - ตอนที่ 49 เกิดมาไร้สมอง

  1. Home
  2. หวนคืนชะตาแค้น
  3. ตอนที่ 49 เกิดมาไร้สมอง
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

มู่ชิงอีสูดหายใจเข้าลึก แล้วกล่าวว่า  ขอบคุณเถ้าแก่อย่างมาก  

เถ้าแก่เฝิงกำลังจะเอ่ยตอบก็มีเสียงดังมาจากชั้นล่าง ทั้งสองคนพลันขมวดคิ้ว มู่ชิงอีพูดขึ้น  เถ้าแก่เฝิง เราลงไปกันก่อนเถิด  

 ขอรับ  เถ้าแก่เฝิงตอบรับอย่างเชื่อฟัง มองไปยังมู่ชิงอีที่กำลังจะเดินลงไป อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามว่า  เหตุใดคุณหนูถึงไว้วางใจข้าน้อยล่ะขอรับ   

หลังจากตระกูลกู้ล่มสลาย ตนก็ถือครอบครองทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูลกู้เพียงผู้เดียว คงไม่แปลกหากคนตระกูลกู้จะคิดสงสัยว่าเขาต้องลอบขโมยทรัพย์สินเข้ากระเป๋าของตัวเอง หรือไม่ก็อาจจะลงมือหักหลักตระกูลกู้  

มู่ชิงอีหันหน้ากลับไป กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า  หากไม่เชื่อท่านเฟิ่งจังแล้วชิงอีจะเชื่อผู้ใดได้อีก ยิ่งไปกว่านั้น ชิงอีเชื่อในสายตาของกู้เซียง  

มองแผ่นหลังของมู่ชิงอีที่เดินจากไป เถ้าแก่เฝิงผู้ซึ่งสงบอยู่เสมอก็ตกตะลึง  

ท่านเฟิ่งจัง…ไม่มีใครเรียกขานนามนี้มาอย่างน้อยสิบปีแล้ว คุณหนูสี่ตระกูลมู่ผู้นี้พึ่งจะอายุสิบหกปี เหตุใดจึงทราบได้ 

เมื่อเดินลงจากชั้นสาม ใบหน้าที่งดงามของมู่ชิงอีก็แต่งแต้มด้วยรอยยิ้มแผ่วเบา แม้ว่าความจำของตนจะดีมาก แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่จำเฝิงจื่อสุ่ยได้ คนผู้นี้สมญานามเฝิงจื่อสุ่ย เดิมแซ่เฝิง นามเฟิ่งจัง เมื่อตอนที่เขายังเยาว์วัย นับว่าเป็นคนรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์ในเจียงหนาน หากเขาได้เข้ารับราชการมีชีวิตที่ปกติ หากเป็นไปด้วยดี ยามนี้ก็คงจะไต่เต้าไปถึงขุนนางระดับหนึ่งหรือสองแล้ว 

แต่น่าเสียดายที่คนผู้นี้โชคร้าย ยามเมื่อเขาอายุได้สิบแปดปีได้ไปสอบวัดความรู้ แต่กลับเจอการทุจริตในห้องสอบ กระดาษข้อสอบของเขาถูกสับเปลี่ยนกับบุตรชายของขุนนางคนสำคัญในราชสำนัก เขาจึงเสื่อมเสียชื่อเสียง แม้ว่าในที่สุดความจริงจะถูกค้นพบ แต่เฝิงจื่อสุ่ยก็ประสบความยากลำบากตั้งมากมาย ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ล้มเลิกความตั้งใจในการเป็นขุนนางมาเกือบสามสิบปีแล้ว ในช่วงหลายปีมานี้ รูปลักษณ์ของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่แปลกใจเลยที่ไม่มีผู้ใดจำได้ว่าเถ้าแก่ของศาลาชิงอานผู้นี้คือชายหนุ่มผู้มีพรสวรรค์เมื่อสามสิบปีก่อน 

มู่ชิงอีจดจำเขาได้เพราะนางเคยพบเฝิงจื่อสุ่ย ตอนที่ติดตามกับท่านปู่เมื่อเจ็ดปีก่อน หลังจากนั้นเฝิงจื่อสุ่ยก็จากเมืองหลวงไป ท่านปู่ของนางยังทอดถอนใจเสียดายอยู่นานสองนาน เพราะเฝิงจื่อสุ่ยนับว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยม ในตอนแรกที่มู่ชิงอีพบหน้าเขา ตนก็ยังจดจำเขาไม่ได้ เพียงแต่เมื่อได้ยินฉายาของเขาสักพักจึงคุ้นเคยถึงค่อยๆ จดจำได้ขึ้นมา 

เมื่อนางลงไปยังชั้นล่าง ก็พบจูเอ๋อร์ที่คอยอยู่ที่ประตูห้องโถง มู่ชิงอีเอ่ยถาม  ด้านนอกเกิดเรื่องอันใดอย่างนั้นหรือ  

จูเอ๋อร์ส่ายศีรษะ เอ่ยอย่างคาดเดาว่า  จูเอ๋อร์ไม่รู้แน่นชัด แต่ฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นน้ำเสียงของคุณหนูสามเจ้าค่ะ  

 มู่อวิ๋นหรง? เหตุใดนางถึงอยู่ที่นี่ เราไปดูกันสักหน่อยเถิด  มู่ชิงอีขมวดคิ้ว 

ที่โถงรับรองชั้นสองเต็มไปด้วยความวุ่นวาย มู่อวิ๋นหรงกำลังจ้องเขม็งไปยังหญิงสาวบอบบางในอาภรณ์สีฟ้าอ่อน มีหญิงสาวจากตระกูลสูงศักดิ์หลายคนห้อมล้อมอยู่ข้างตัวมู่อวิ๋นหรง ท่าทีของพวกนางล้วนแตกต่างกันไป บางคนกำลังเอ่ยห้ามปรามมู่อวิ๋นหรง บางคนเพียงมองดูด้วยใจลุ้นระทึก บางคนก็ส่งเสริมยุแยงเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟ แขกที่อยู่รายรอบต่างก็ชมเหตุการ์ณอย่างสนุกสนาน เสียงกระซิบกระซาบนินทาดังขึ้นไม่หยุดหย่อน สายตาจับจ้องไปที่มู่อวิ๋นหรงกับหญิงสาวในอาภรณ์สีฟ้าอ่อน 

 คุณหนู เราอย่าออกไปเลยเจ้าค่ะ  จูเอ๋อร์กล่าวเบาๆ แอบอยู่ข้างหลังมู่ชิงอี  

คุณหนูสามทำตัวขายหน้าจวนซู่เฉิงโหวยิ่งนัก หากคุณหนูของนางออกไปจะต้องติดบ่วงแหไปด้วยแน่นอน 

แต่จูเอ๋อร์กลับไม่รู้ว่า ยิ่งผู้คนดูถูกเหยียดหยามจวนซู่เฉิงโหว มู่ชิงอีก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น 

มู่ชิงอีตบมือจูเอ๋อร์เบาๆ อย่างเพลิดเพลิน เดินออกไปอย่างช้าๆ พูดขึ้น  เกิดอะไรขึ้นที่นี่หรือ  

แม้ว่าจะได้เผยตัวเข้าร่วมงานเลี้ยงที่จัดขึ้นโดยพระชายากงในวันนั้นไปแล้ว แต่ยังมีผู้คนจำนวนมากในเมืองหลวงที่ไม่รู้จักนาง เมื่อเห็นหญิงสาวปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ทุกคนจึงงุนงง มู่อวิ๋นหรงขมวดคิ้ว กัดฟันกล่าวว่า  มู่ชิงอี เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ศาลาชิงอานเป็นสถานที่ที่คนอย่างเจ้าคู่ควรงั้นหรือ  

อ้อ ที่แท้ก็เป็นคุณหนูสี่จวนซู่เฉิงโหว! แต่คำพูดของคุณหนูสามตระกูลมู่น่าสนใจไม่น้อย หากคุณหนูสี่ตระกูลมู่ไม่สามารถมาที่ศาลาชิงอานได้ แต่คุณหนูสามที่เป็นบุตรีที่เกิดจากอนุภรรยานั้นกลับสามารถมาได้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า…นางมาในฐานะว่าที่พระชายาหนิง 

มู่ชิงอีไม่ได้สนใจในคำยั่วยุของมู่อวิ๋นหรง นางเดินเข้าไปหาหญิงสาวในอาภรณ์สีฟ้าอ่อนแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า  แม่นางมีแซ่ว่าอะไรหรือ  

หญิงสาวผู้นั้นมองไปที่มู่ชิงอีอย่างระแวดระวัง เห็นได้ชัดว่านางมีความประทับใจที่ไม่ดีต่อจวนซู่เฉิงโหว หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยตอบ  ข้าแซ่หลี่  

มู่ชิงอีเข้าใจแล้ว คาดไม่ถึงว่ามู่อวิ๋นหรงและคุณหนูตระกูลหลี่จะมายังศาลาชิงอานแห่งนี้ หลังจากที่คนตระกูลหลี่ถอนหมั้นแล้ว มู่หลิงก็กลายเป็นตัวตลกในเมืองหลวงทันที เมื่อมู่อวิ๋นหรงได้พบนางที่นี่ก็คงเป็นธรรมดาที่นางจะระบายอารมณ์ฉุนเฉียวแทนพี่ชายของนาง 

 

ก่อนหน้านี้ มู่ชิงอีได้ยินคุณหนูหลี่โต้เถียงกับมู่อวิ๋นหรง จึงรู้ว่านางไม่ได้อ่อนแอบอบบางเหมือนรูปลักษณ์ภายนอก  

 พี่หญิงสามอารมณ์ไม่ค่อยดี หากพูดหยาบคายไปบ้าง คุณหนูตระกูลหลี่โปรดอภัยให้นางด้วย  มู่ชิงอีกล่าวด้วยรอยยิ้มขออภัย คุณหนูตระกูลหลี่มองมู่ชิงอีด้วยความแปลกใจเล็กน้อย ตระกูลหลี่ถอนหมั้นในยามนี้ แม้ว่าจวนซู่เฉิงโหวจะมีความผิดก่อน แต่จวนซู่เฉิงโหวย่อมต้องโกรธเคืองอยู่บ้างไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน แต่เมื่อเห็นว่ามู่ชิงอีนั้นท่าทีสงบเป็นมิตรต่างกับที่คาดคิดไว้ นางจึงไม่สามารถตอบสนองได้ทัน 

 คุณหนูสี่สุภาพเกินไปแล้ว  คุณหนูตระกูลหลี่เม้มริมฝีปากกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ นางรู้สึกได้ว่าคุณหนูสี่ที่อยู่ด้านหน้าของตนนั้นแตกต่างจากคุณหนูสามที่หยิ่งผยอง ในฐานะบุตรีของตระกูลหลี่ คุณหนูตระกูลหลี่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับมารดาและน้องสาวแท้ๆ ของอดีตคู่หมั้น แต่อย่างไรก็ตาม มู่อวิ๋นหรงก็เป็นถึงว่าที่พระชายาหนิง อีกทั้งยังมีกงอ๋องหนุนหลัง จึงต้องยอมหลีกทางให้นางอยู่บ้าง 

 มู่ชิงอี ใครให้เจ้าเข้ามาสอดเรื่องนี้!  มู่อวิ๋นหรงพูดอย่างหยาบคาย 

มู่ชิงอีหมุนตัวกลับมา เหลือบมองมู่อวิ๋นหรงเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า  การกระทำของพี่หญิงสามในวันนี้ ทันทีที่กลับถึงจวน คงต้องไปอธิบายให้ท่านพ่อฟังแล้ว  ทั้งกงอ๋องและซู่เฉิงโหวต่างก็ใช้ความพยายามอย่างมากคิดแผนรับมือตระกูลหลี่ จะเกิดอะไรขึ้นหากมู่อวิ๋นหรงพลาดพลั้งทำให้คุณหนูตระกูลหลี่เสื่อมเสียขึ้นมา ก็คงจะไม่ใช่เพียงมู่ฉังหมิงที่จะเดือดดาล  

เมื่อได้ยินเช่นนั้น มู่อวิ๋นหรงก็ราวกับหายใจไม่ออก นางเพียงบังเอิญเจอคุณหนูตระกูลหลี่ในศาลาชิงอานโดยบังเอิญ ก็พลันนึกถึงพี่รองของตนที่ยังคงนอนบาดเจ็บหนักอยู่บนเตียง อีกทั้งผู้คนทั่วเมืองหลวงต่างก็ซุบซิบนินทาจวนซู่เฉิงโหว จึงฉุนเฉียวขาดสติขึ้นมาเข้าไปหาเรื่องคุณหนูตระกูลหลี่ ลืมไปว่าบิดาได้กำชับไม่ให้นางสร้างปัญหาในยามนี้ แต่อยู่ต่อหน้ามู่ชิงอี มู่อวิ๋นหรงจะยอมเสียหน้าได้อย่างไร นางระงับความวิตกกังวลในใจ พูดด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง  ที่ข้าทำก็เพื่อพี่รองทั้งนั้น ท่านพ่อจะดุด่าข้าได้อย่างไร! เจ้าระวังตัวเอาไว้เถอะ รอข้ากลายเป็นพระชายาหนิง…  

 หุบปาก! อย่าทำให้ตัวเองน่าอับอาย  มู่ชิงอีขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์  

คนอย่างมู่อวิ๋นหรงนี่โง่งมยิ่งนัก ช่างต่างกับมู่เฟยหลวนที่มีไหวพริบเฉลียวฉลาด ในตอนที่อนุซุนให้กำเนิดบุตรทั้งสามนั้น นางได้มอบมันสมองแก่มู่เฟยหลวนเพียงผู้เดียวเช่นนั้นหรือ 

 มู่ชิงอี!  มู่อวิ๋นหรงกรีดร้อง 

 พวกเจ้า พาคุณหนูสามกลับไป!  มู่ชิงอีเหลือบมองบ่าวรับใช้ที่อยู่ข้างหลังมู่อวิ๋นหรงแล้วสั่งด้วยเสียงทุ้มต่ำ เดิมทีบ่าวรับใช้ของมู่อวิ๋นหรงล้วนไม่เห็นมู่ชิงอีที่เป็นบุตรีของซู่เฉิงโหวฮูหยินอยู่ในสายตา แต่ในยามนี้ที่ถูกจับจ้องด้วยสายตาเย็นเยียบของมู่ชิงอี ร่างกายของพวกนางก็พลันนิ่งแข็ง รีบเอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อของมู่อวิ๋นหรงอย่างกล้ำกลืนฝืนทน 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 49 เกิดมาไร้สมอง"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์