CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 129

  1. Home
  2. หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม
  3. บทที่ 129
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

“คราก่อนข้าเห็นเจ้า” องค์หญิงเจินเจินยกมือเด็ดใบโพธิ์มาหนึ่งใบขยำเล่นในมือ “บนถนน”

“เพคะ” เฉียวเจาไม่ค่อยเข้าใจความหมายของถ้อยคำนี้นัก

“เจ้ากับญาติผู้พี่ของข้าเป็นอะไรกันกันแน่” พอเห็นเฉียวเจาทำน้ำเสียงเรียบเฉย องค์หญิงเจินเจินชักขุ่นใจ โยนใบไม้ที่ขาดวิ่นทิ้งลงบนพื้น จ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาวาวโรจน์ “อย่าหลอกข้าเหมือนเป็นคนโง่เขลา ด้วยนิสัยของญาติผู้นี้ ถ้าแค่เพราะอยากรู้อยากเห็นการแสดงกลหยิบเหรียญในหม้อน้ำมันที่งานวัด เป็นไปไม่ได้ที่จะยื่นไมตรีต่อเจ้าถึงเพียงนี้”

มิใช่ยื่นไมตรีเท่านั้น หลายปีมานี้พี่ฉือแทบจะไม่เคยพูดจาดีๆ กับสตรี ตอนอยู่ที่ประตูเมืองวันนั้นแทบจะทำให้นางนึกว่าตนเองตาฝาดไปเลยทีเดียว

บุรุษที่ถึงโดนยั่วโทสะก็ยังคงทำใจแข็งไม่ลงกับท่าทางที่ทั้งห่วงใยทั้งจนปัญญาอย่างนั้น เป็นญาติผู้พี่ที่ปากร้ายหยิ่งยโสของนางจริงหรือ

“เจ้าพูดสิ ร้อนใจแล้วรึ หือ?” องค์หญิงเจินเจินทอดหางเสียงยาวๆ

เฉียวเจากลั้นยิ้มไม่อยู่ “หม่อมฉันไม่ทราบว่าที่แท้จำเป็นต้องทูลรายงานเรื่องพวกนี้ต่อพระองค์ด้วยเพคะ”

องค์หญิงเจินเจินโดนตอกกลับถึงกับสะอึกไป นางทำหน้าบึ้งทันควัน “บังอาจ! ข้าถามความเจ้าอยู่ เจ้าแสดงท่าทีเยี่ยงนี้หมายความว่าอะไร”

เฉียวเจาหุบยิ้ม กล่าวอย่างสุภาพเรียบร้อย “หม่อมฉันกับคุณชายฉือนับเป็นสหายกันกระมัง”

“เป็นสหายกัน?” องค์หญิงเจินเจินไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด นางสืบเท้าขึ้นหน้าหนึ่งก้าวเข้าไปใกล้ๆ เฉียวเจา “เป็นไปได้อย่างไร ญาติผู้พี่ของข้าจะเป็นสหายกับเจ้า เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใคร”

คนอย่างฉือชั่นนั้น กระทั่งองค์หญิงเช่นนางยังไม่เห็นอยู่ในสายตา แต่กลับเป็นสหายกับเด็กสาวผู้นี้หรือ

“จะอย่างไรก็คงมิใช่คุณชายฉือหลงใหลในความงามของหม่อมฉันกระมังเพคะ” เฉียวเจาย้อนถาม

“เจ้านี่นะ?” องค์หญิงเจินเจินไม่เพียงไม่โกรธ กลับหัวเราะออกมา “อย่าล้อเล่นเลย หากว่ากันถึงเรื่องความงาม ญาติผู้พี่ข้าไม่มีวันถูกตาต้องใจเจ้าหรอก”

นางโฉมงามกว่าเด็กสาวผู้นี้ตั้งมากชัดๆ ญาติผู้พี่ก็ไม่เหลียวแลไยดีนางมิใช่หรือ แล้วเขาจะให้ความสนใจกับเด็กสาวที่ยังไม่เจริญวัยเต็มที่ผู้นี้เพราะความงามได้อย่างไรกัน

“เช่นนั้นหม่อมฉันก็ไม่ทราบแล้วเพคะ ถ้าองค์หญิงทรงอยากทราบจริงๆ ไยไม่ไปถามคุณชายฉือดูเล่า”

ถามญาติผู้พี่? นางไม่หาเรื่องฉีกหน้าตนเองหรอก

“เอาเป็นว่าวันหน้าเจ้าเจียมเนื้อเจียมตัวสักหน่อย อย่าได้เล่นลูกไม้อะไร” องค์หญิงเจินเจินกล่าวเตือน

นางลืมไม่ลงว่าเด็กสาวผู้นี้พิลึกพิลั่นอย่างมาก

“หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ” เฉียวเจาพูดเรียบๆ

“ข้าจะถามเจ้าเรื่องหยิบเหรียญในหม้อน้ำมันที่เห็นในงานวัดวันนั้น มันทำได้อย่างไรกันแน่” ถึงองค์หญิงเจินเจินจะโมโหเฉียวเจามาก แต่ยังคงอดมิได้ที่จะถามปัญหาที่กวนใจนางมาหลายวันนี้

“เพราะด้านล่างของน้ำมันเป็นน้ำส้มเปรี้ยวเพคะ” เฉียวเจาอธิบายเหตุผลให้องค์หญิงเจินเจินฟัง

นี่คือจุดที่ทำให้คนจนใจ บางคราศักดิ์ฐานะอาจไม่สลักสำคัญอะไรทั้งนั้น แต่จะไร้ศักดิ์ฐานะเลยก็ไม่ได้เป็นอันขาด

ดังเช่นเวลานี้ นางต้องการศักดิ์ฐานะของหลีเจาบุตรสาวของอาลักษณ์ในสำนักราชบัณฑิต แต่ด้วยศักดิ์ฐานะนี้จะไม่ก้มศีรษะให้องค์หญิงก็ทำไม่ได้

บางทีนางน่าจะทำให้ตนเองกลายเป็นคนสำคัญมากขึ้น เป็นต้นว่าเช่นท่านปู่หลี่…

ความคิดนี้ผุดขึ้นในหัวเฉียวเจากะทันหัน แต่นางปัดมันทิ้งไป

“แล้วเหตุไฉนเจ้าไม่เปิดโปงนักต้มตุ๋นผู้นั้น” องค์หญิงเจินเจินฟังจบแล้วถามไล่เลียง

เป็นการแสดงกลหลอกลวงคนดังคาด เจ้าคนโกหกต้มตุ๋นพวกนั้นช่างน่าชังจริงๆ

น้ำเสียงของเด็กสาวเรียบเฉย “แค่เป็นการประทังชีพ และคนเต็มใจติดเบ็ดเอง แล้วจะตัดทางทำมาหากินของผู้อื่นไปไย”

องค์หญิงเจินเจินนิ่งขึงไป นางอยากโต้เถียง แต่ไม่รู้เพราะอะไรถึงรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าวาจาของเด็กสาวตรงหน้ามีเหตุผลอยู่บ้าง ส่วนองค์หญิงอย่างนางกลับกลายเป็นดูก้าวร้าวบีบคั้นผู้อื่น นางจึงกลืนคำพูดที่จ่อรอตรงปลายลิ้นกลับลงคอไป

เพลานี้เองภิกษุณีจิ้งซีเดินมาประนมมือคำนับพวกนาง “สีกาทั้งสอง ซือไท่บอกว่าท้องฟ้าเริ่มขมุกขมัวกลัวจะฝนตก ให้พวกท่านรีบกลับไป”

นางพูดพลางยื่นร่มสองคันส่งให้คนทั้งคู่

เฉียวเจากับองค์หญิงเจินเจินต่างคนต่างรับไว้และกล่าวลากับจิ้งซี

พวกนางออกจากอารามซูอิ่งแล้วลงเขาไปขึ้นรถม้าของตน

วันนี้ไม่ใช่วันพิเศษอะไร ทั้งครึ้มฟ้าครึ้มฝนตลอด ผู้คนตามถนนหนทางบางตา มีเพียงรถม้าขององค์หญิงเจินเจินกับเฉียวเจาสองคันแล่นตามหลังกัน

รถม้าขององค์หญิงเจินเจินวิ่งเร็วรี่จนหายลับไปในเวลาอันสั้น

ปิงลวี่มองท้องฟ้าไม่หยุดพร้อมกับพูดเร่งสารถีซ้ำๆ “เร็วขึ้นหน่อย จะฝนตกอยู่แล้วนะ ไม่เห็นรถม้าของคนอื่นที่ออกมาพร้อมกันวิ่งแล่นไปไกลแล้วรึ”

สารถียิ้มฝืดๆ อย่างจนปัญญา “พี่สาว นี่จะเทียบกันมิได้นะ ม้าเทียมรถของผู้อื่นเป็นม้าอะไร แล้วของเราเป็นม้าอะไรเล่า”

ชีวิตความเป็นอยู่ของจวนตะวันตกมิได้ร่ำรวยเหลือเฟือ เพียงเลี้ยงดูสารถีสูงวัยไว้ผู้หนึ่งกับม้าแก่ไว้ตัวหนึ่งเท่านั้น

ปิงลวี่จะพูดอะไรอีกก็ไม่ถนัดปาก นางบอกเสียงขุ่นๆ “เอาล่ะ ให้เร็วขึ้นเท่าที่จะทำได้ก็แล้วกัน”

นางปล่อยม่านประตูลง ล้วงหาฟักเชื่อมในถุงผ้าปักออกมาส่งให้เฉียวเจา “คุณหนู ท่านยังไม่ได้กินอะไรเลย กินขนมหวานสองสามชิ้นรองท้องเถอะ รถม้าของเรือนเราวิ่งเร็วไม่ไหว ยังไม่รู้ว่าจะถึงเรือนได้เมื่อไร ดีไม่ดีอาจเจอฝนด้วยเจ้าค่ะ”

เฉียวเจารับฟักเชื่อมไว้ นางเลิกม่านหน้าต่างขึ้นดูแวบหนึ่งแล้วพูดเสียงเรียบๆ “ฝนใกล้จะตกแล้ว”

ปิงลวี่ยื่นหน้าออกไปดูอย่างไม่ใคร่เชื่อ “จริงหรือเจ้าคะ ฟ้าครึ้มตั้งแต่เช้าตรู่จนตอนนี้ ไม่แน่ว่าจะครึ้มเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ก็ได้นะเจ้าคะ”

“ไม่หรอก อีกประเดี๋ยวฝนก็ตกแล้ว”

ตอนท่านปู่ยังสุขภาพดีอยู่ชอบพานางกับท่านย่าออกท่องชมธรรมชาติ ท่านจึงสนใจการเปลี่ยนแปลงของอากาศเป็นอันมาก นางจึงพอรู้ไปด้วยบ้างเป็นธรรมดา

ฝนฤดูร้อนนั้นอยากจะตกก็ตก เพิ่งสิ้นเสียงเฉียวเจาไม่นาน เกิดลมพัดระลอกหนึ่งฉับพลัน เมฆดำทะมึนบนฟ้าม้วนตัวละม้ายคลื่นยักษ์ปั่นป่วน จากนั้นสายฝนก็เทกระหน่ำลงมา

ม่านหน้าต่างรถม้าปลิวสะบัดพรึบพรับ ลมพัดกรูเข้ามาพร้อมละอองฝน

ปิงลวี่จับม่านไว้จนมือเป็นระวิง ครั้นเห็นว่าไม่ได้ผลก็ใช้ตัวบังไว้เสียเลย

เฉียวเจาดึงนางมาหา “ไม่ต้อง ปล่อยให้พัดเข้ามาเถอะ ฝนตกเช่นนี้จะโดนสาดจนเปียกก็ช่วยไม่ได้”

“ข้ากลัวคุณหนูโดนความเย็นเจ้าค่ะ”

“ไม่หรอก” เฉียวเจาตบแขนนางเบาๆ ล้วงยาลูกกลอนในถุงผ้าปักติดตัวออกมาสองเม็ด เม็ดหนึ่งกินเอง อีกเม็ดให้ปิงลวี่

ปิงลวี่กินยาลูกกลอนแล้วถามนางอย่างสนใจใคร่รู้ “คุณหนู นี่คืออะไรเจ้าคะ”

เฉียวเจาแย้มยิ้ม “ของที่กินแล้วทำให้เจ้าไม่โดนความเย็น”

“น่าอัศจรรย์ถึงเพียงนี้เลยหรือเจ้าคะ” ปิงลวี่ชำเลืองมองถุงผ้าปักที่เหน็บอยู่ตรงเอวเฉียวเจา

ถุงผ้าปักรูปทรงแปลกพิกลใบนั้นยังคงดูน่าเกลียดขัดนัยน์ตา ทว่านับตั้งแต่วันไปที่สำนักศึกษาหญิง ดูคล้ายคุณหนูจะพกติดกายไว้เสมอ คิดไม่ถึงว่าในนั้นจะใส่ของดีๆ อย่างนี้เอาไว้ด้วย

พอกินยาลูกกลอนเมื่อครู่นี้เข้าไปก็ได้รสชาติหวานละมุนและละลายในปากทันที ตอนนี้เริ่มรู้สึกอุ่นผะผ่าวในโพรงท้องแล้ว

คุณหนูเก่งกาจจริงๆ สาวใช้น้อยคิดคำนึงในใจ

ฝนตกหนักขึ้นตามลำดับ ในสภาพเฉกนี้ต่อให้นั่งรถม้าก็รู้สึกได้ว่าสะเทือนโคลงเคลงไม่หยุด มุ่งหน้าต่อไปได้ยากลำบาก

อสนีบาตสายหนึ่งพาดผ่านกลางนภาฟาดผ่าลงพื้นดิน ตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องดังครืนๆ

รถม้าแล่นฝ่าสายฝนอย่างทุลักทุเลเป็นเวลานานราวหนึ่งเค่อแล้วหยุดจอดกะทันหัน

“เหล่าเฉียน เกิดอะไรขึ้นหรือ!” ปิงลวี่ตะโกนถามสุดเสียง

“คุณหนูสาม ทางข้างหน้าไปต่อไม่ได้ มีต้นไม้ล้มขวางถนนไว้” จู่ๆ สารถีก็ตะเบ็งเสียงดังขึ้น “ซ้ำยังทับรถม้าคันข้างหน้าด้วยขอรับ!”

“อะไรนะ!” ปิงลวี่ตกอกตกใจ แหวกม่านประตูรถม้าออกทันที

ลมฝนซัดเข้ามาปะทะใบหน้า สาวใช้น้อยขยี้ตามองภาพเบื้องหน้าแล้วเบิกตากว้างอย่างสุดระงับ

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 129"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์