หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 214
บทที่ 214
อะไรกัน อย่างนี้ยังจำหน้าได้หรือนี่ เฮ้อ…นี่ก็คือข้อเสียของคนที่มีหน้าตาโดดเด่นกระมัง เฉินกวงนึกในใจ
“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
“ข้า…”
ฉือชั่นรวบพัดแล้วเคาะกับฝ่ามือทีหนึ่ง “นี่แสดงว่าคุณหนูหลีอยู่ที่นี่เช่นกัน เอ๊ะ? เมื่อครู่เจ้าบอกว่าท่านแม่ทัพของเจ้าไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นคุณหนูหลีอยู่ที่นี่คนเดียวทำอะไร ไม่ถูก เจ้าหลอกข้าสินะ ท่านแม่ทัพของเจ้ายังอยู่ที่นี่แน่ๆ”
“มิใช่ขอรับ คุณชายฉือ ท่านเข้าใจผิดแล้ว…”
ฉือชั่นผลักเฉินกวงออก กล่าวเสียงปึ่งชาว่า “ตอนแรกข้าไม่ได้เข้าใจผิด แต่ตอนนี้เข้าใจผิดแล้วจริงๆ ข้ากลับอยากดูว่าเขากับนางสองคนทำเรื่องอะไรที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้!”
ฉือชั่นผลักเขาออกไป จากนั้นเดินฉับๆ ไปข้างหน้า เฉินกวงอยากร่ำไห้ทว่าไร้น้ำตา
คุณชายฉือจะเฉียบแหลมเพียงนี้ไปด้วยเหตุใด เขาปรากฏตัวที่นี่เพราะมีเรื่องมารายงานท่านแม่ทัพไม่ได้หรือ
ใต้ระแนงเถาองุ่น เซ่าหมิงยวนกับเฉียวเจาทำหน้าตะลึงงันเช่นกันเมื่อเห็นปิงลวี่หน้าตาตื่นเข้ามาหา
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น” เฉียวเจาถาม
ปิงลวี่วิ่งจนหายใจหายคอไม่ได้ “คุณ…คุณหนู…รีบซ่อนตัวเร็วเข้า…”
“หือ?” ใบหน้าเฉียวเจาฉายแววฉงนฉงาย
“ไม่ทันการแล้วเจ้าค่ะ” ปิงลวี่ฉุดเฉียวเจาลุกขึ้น หันรีหันขวางก่อนจะลุกลี้ลุกลนดึงตัวนางเข้าไปหลบหลังเถาองุ่นด้วยกัน
เซ่าหมิงยวนลุกขึ้นยืน เขาไล่ตามสองก้าวโดยไม่ทันคิด แต่พอเห็นคนที่เดินหน้าตาถมึงทึงเข้ามาก็ชักเท้ากลับ
“ค่อยยังชั่ว” ปิงลวี่ลูบอกอย่างโล่งใจ
“มันเรื่องอะไรกันแน่” เฉียวเจาลดสุ้มเสียงลงเอ่ยถาม
“คุณ…คุณชายฉือผู้นั้น เขามาที่นี่แล้วเจ้าค่ะ” ปิงลวี่ตอบเสียงปนหอบเฮือกใหญ่ๆ
เฉียวเจาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “คุณชายฉือมา แล้วเพราะอะไรข้าต้องซ่อนตัวด้วย”
“เอ๊ะ?” ปิงลวี่อึ้งงันไป
นั่นสิ คุณชายฉือมาแล้วจะมีอันใด คุณหนูของข้ากับแม่ทัพเซ่านัดพบกันอย่างเปิดเผย!
พอเห็นสาวใช้น้อยอ้าปากค้างพูดไม่ออก เฉียวเจาโคลงศีรษะก้าวขาจะเดินออกไป พลันได้ยินเสียงคุ้นหูดังลอยมา
“ถิงเฉวียน วันนี้เจ้าครึ้มอกครึ้มใจเหลือเกินนะ”
แม่นางเฉียวลอบชักเท้ากลับ ทีแรกไม่มีอะไร แต่ออกไปในเวลานี้ก็จะกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง
“ดื่มชาคนเดียวหรือ” ฉือชั่นหย่อนตัวลงนั่ง นิ้วมือเรียวยาวหมุนถ้วยสีเขียวใสที่เหลือน้ำชาอยู่ไม่ถึงครึ่งตรงหน้าเล่นๆ เขาเลิกคิ้วขึ้นพลางกล่าว “ไม่ถูกสิ มีถ้วยน้ำชาสองใบ”
เขาโน้มกายไปข้างหน้า ยกมุมปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มงามจับตา “หรือว่าถิงเฉวียนรู้แต่แรกว่าข้าจะมาเลยเตรียมไว้รอท่าล่วงหน้า?”
เซ่าหมิงยวนยังทำหน้าเหลอหลาด้วยความงุนงง
ใครช่วยบอกเขาทีว่านี่มันเรื่องอะไรกัน เขากับคุณหนูหลีพูดคุยเรื่องงานกันอยู่ ไฉนสหายรักก็เข้ามาด้วยท่าทางราวกับบุกจับชู้…ดูแล้วน่ากลัวอยู่สักหน่อย
เขานั่งลงเงียบๆ
“ไยไม่พูดไม่จาล่ะ หรือว่าเห็นข้าแล้วดีใจอย่างคาดไม่ถึง” ฉือชั่นชายตามองสหายรักแล้วยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบคำหนึ่ง
สายตาของเซ่าหมิงยวนจับอยู่ถ้วยสีเขียวใสที่ฉือชั่นถือไว้นิ่งๆ
ฉือชั่นหลุบตาลงมองตามสายตาของเขาอย่างแปลกใจ ใบหน้างามดุจหยกขาวแดงซ่านอย่างรวดเร็ว เขาเริ่มไอเป็นชุด “แค่กๆๆ นี่เป็น…”
ไฉนข้าไม่ทันระวังจนหยิบถ้วยน้ำชาที่แม่นางน้อยผู้นั้นดื่มไปแล้วมาใช้เสียได้ นี่จะมิใช่…มิใช่…
ฉือชั่นยิ่งคิดยิ่งหน้าแดง นอกจากกระดากอายแกมขัดเคืองแล้ว ในใจยังระคนไปด้วยความอิ่มเอมใจที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูกไว้ด้วยอย่างไร้สาเหตุ แล้วก็เพราะเหตุนี้ เขาเลยหน้าแดงมากขึ้น
“นี่เป็นถ้วยน้ำชาที่ข้าใช้ดื่มเมื่อครู่นี้” เซ่าหมิงยวนกล่าว
“อะไรนะ!” ฉือชั่นอึ้งงันไป เขาต้องฟังผิดไปแล้วแน่ๆ
“เจ้านั่งอยู่ตรงนั้น…” คุณชายฉือไม่อาจยอมรับความจริงเรื่องที่ใช้ถ้วยน้ำชาใบเดียวกับบุรุษคนหนึ่ง เขาพูดอย่างแข็งขืน
ในใจแม่ทัพเซ่าก็สับสนปนเปไปด้วยอารมณ์หลายหลาก แต่เพื่อมิให้สหายรักคิดว่าตนใช้ถ้วยน้ำชาของคุณหนูหลี เขาจำต้องเอ่ยอธิบายขึ้น “ก่อนหน้านี้ข้านั่งอยู่ที่ที่เจ้านั่งตอนนี้ เมื่อครู่ข้าไม่ทันนั่งลง เจ้าก็ชิงนั่งไปก่อน”
ฉือชั่นกุมขมับ ข้าไม่อยากฟังสักนิด!
แม่ทัพเซ่าไม่ได้ยินเสียงในใจของสหายแม้แต่น้อย เขากล่าวเอื่อยๆ “ฉะนั้นเจ้าไม่ต้องคิดมากไป”
ถึงอย่างไรใช้ถ้วยน้ำชาของเขาก็ดีกว่าใช้ของคุณหนูหลีโดยไม่ทันระวัง
ฉือชั่นลุกขึ้นยืนสีหน้าบูดบึ้ง แค่นเสียงพูดไปทางระแนงเถาองุ่น “หลีเจา เจ้าคิดจะซ่อนตัวไปถึงเมื่อไร หรือต้องให้ข้าเชิญเจ้าออกมา”
เถาองุ่นแกว่งไกวเบาๆ เฉียวเจาก้าวออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ฉือชั่นเห็นแล้วโมโหจนควันออกหูทันใด นางยังกล้าทำสีหน้าเฉยเมยหรือนี่
“มีเรื่องใดที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้ ถึงเจอข้าแล้วยังต้องหลบหน้าด้วย”
“สือซี มีอะไรก็พูดดีๆ”
ฉือชั่นยิ้มเยาะ “ปวดใจรึ”
แววตาของเซ่าหมิงยวนเคืองขุ่นเต็มที่ เขาตวัดสายตามองเฉียวเจาแวบหนึ่งแล้วยื่นมือไปกุมไหล่สหาย กล่าวอย่างขอลุแก่โทษ “คุณหนูหลี ขออภัยด้วย ข้าพาเขาไปถอนฤทธิ์สุราสักหน่อย”
“เซ่าหมิงยวน ปล่อยมือนะ”
จวบจนคนทั้งคู่ลับร่างไปแล้ว เสียงตะโกนเกรี้ยวกราดของคนบางคนยังดังข้ามระแนงเถาองุ่นเข้ามา
เฉียวเจาปรายตามองปิงลวี่ด้วยสีหน้าเย็นชา “ไปกันเถอะ”
“คุณหนู จะกลับไปเช่นนี้หรือเจ้าคะ”
“ไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไรเล่า รอพวกเขาสู้กันจนรู้ผลแพ้ชนะหรือ”
ปิงลวี่เห็นคุณหนูทำสีหน้าไม่ดีก็แลบลิ้นไม่กล้ากล่าววาจา นางเดินตามหลังเฉียวเจาต้อยๆ ออกไป
นางรู้สึกอยู่ไม่วายว่าคุณหนูสามเพิ่งพูดคุยกับท่านแม่ทัพได้ไม่กี่คำก็กลับไปเช่นนี้ออกจะน่าเสียดายเกินไป
ยามนี้เองเฉินกวงกลับโพล่งขึ้นคำหนึ่งอย่างไม่กลัวตาย “คุณหนู คุณชายฉือจะสู้กับท่านแม่ทัพของข้าให้รู้ดำรู้แดง ประเดี๋ยวเดียวก็รู้ผลแล้วแน่นอนขอรับ หรือไม่ท่านรออีกครู่หนึ่ง”
“หรือว่าเจ้าอยู่ที่นี่ ข้าเปลี่ยนสารถีคนใหม่”
“ไปทันทีเลยขอรับ” เฉินกวงน้ำตาคลอเบ้า จะข่มขู่กันเยี่ยงนี้มิได้นะ!
เซ่าหมิงยวนหิ้วตัวฉือชั่นไปถึงข้างกำแพง ปล่อยมือออกแล้วถอนใจเฮือกหนึ่ง “สือซี ยามอยู่ต่อหน้าคุณหนูหลี อย่าพูดจาส่งเดชได้หรือไม่”
ฉือชั่นยกสองมือกอดอก แค่นเสียงพูด “มีคำใดที่ข้าพูดจาส่งเดช เจ้ากล้าพูดว่าเจ้าไม่ได้ให้ความสนใจนางเป็นพิเศษ?”
“ข้าให้ความสนใจคุณหนูหลีเป็นพิเศษ เพียงเพราะว่าท่านหมอเทวดาหลี่ฝากฝังไว้ ไม่มีอย่างอื่นเด็ดขาด”
เมื่อเห็นเซ่าหมิงยวนทำสีหน้าหนักแน่นไม่คล้ายเสแสร้ง ฉือชั่นจึงนิ่งขึงไปไม่ปริปากอยู่ชั่วขณะ
เซ่าหมิงยวนมองเขาด้วยสายตาพินิจ “แล้วเจ้าล่ะ”
สหายรักเป็นคนหัวดื้อเกินไป ขืนทำเหลวไหลเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จะทำให้ทุกคนเสียหายกันหมด มิสู้อาศัยจังหวะนี้พูดกันให้รู้เรื่อง
“ข้าเหตุใดรึ”
เซ่าหมิงยวนถอนใจ “เพื่อพบกับคุณหนูหลี กระทั่งปลอมตัวเป็นสตรี เจ้ายังกระทำออกมาได้ หรือว่าแค่เพราะนึกสนุก”
ฉือชั่นตอบคำถามของสหายไม่ออก ใบหน้าฉายอารมณ์แปรปรวน เขาใคร่ครวญอย่างละเอียดแล้วเอ่ยขึ้น “ก็มิใช่ ข้าแค่เจ็บใจกระมัง”
“เจ็บใจ?”
“ใช่น่ะสิ ข้าเป็นคนที่ช่วยแม่นางน้อยคนนั้นมาจากปากเสือ นางกลับไม่ซาบซึ้งใจน้ำมูกน้ำตาไหล ไม่สำนึกบุญคุณ ไม่พลีกายตอบแทนอะไรสักอย่าง มิหนำซ้ำยังชักสีหน้าใส่ข้าอยู่บ่อยๆ!” ฉือชั่นยิ่งพูดยิ่งไม่พอใจ “หลังจากครั้งนั้นผ่านมานานหลายปีถึงเพียงนี้ข้าเคยช่วยสตรีหรือไม่ อุตส่าห์ออกโรงสักครั้งกลับได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ คิดอย่างไรก็ล้วนไม่สบอารมณ์”
“นี่แสดงว่าเจ้ามิใช่ทำไปเพราะชมชอบคุณหนูหลี?”
ฉือชั่นเต้นผางๆ ราวกับถูกเหยียบหางก็ไม่ปาน “ล้อเล่น ข้าจะชมชอบสตรีได้อย่างไร”
ประเดี๋ยว ดูเหมือนประโยคนี้จะมีตรงที่ใดทะแม่งๆ
ครั้นสังเกตพบว่าตรงใดผิดปกติเซ่าหมิงยวนก็ขยับออกห่างเขาในชั่วพริบตา
ฉือชั่นสีหน้าบูดบึ้ง “นี่กำลังหลบกลิ่นผายลมรึ เจ้าคิดจะไปถึงที่ใด!”