หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 24
เป็นลมไปแล้ว? ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงเพ่งสายตามองฮูหยินผู้เฒ่าเติ้ง ด้วยลูกตาดำข้างขวาของนางเป็นสีขาวขุ่น ยามจับจ้องผู้อื่นจะทำให้รู้สึกขนลุกขนพองอย่างสุดระงับ
ทว่าฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งครองตัวเป็นม่ายตั้งแต่วัยสาว ประสบผ่านมรสุมมาไม่น้อยย่อมไม่สะทกสะท้าน นางพยักหน้ายืนยัน ใช่น่ะสิ เป็นลมไปแล้ว
ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงแค่นเสียงเยาะ ฮึ ข้าไม่นำพาว่านางจะเป็นลมหรือว่าตายไปแล้ว นางจะอยู่ในจวนสกุลหลีไม่ได้
ดวงตาที่ตาดำเป็นสีขาวขุ่นข้างหนึ่งของนางคู่นั้นจ้องหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งเป็นคำรบที่สอง มุมปากเม้มแน่น ริ้วรอยตรงร่องแก้มลึกเป็นพิเศษ น้องสะใภ้ ข้ารู้ว่าท่านใจอ่อน แต่เรื่องพรรค์นี้จะผ่อนผันมิได้ เรื่องที่หลีซานหายตัวไป ถ้ายังไม่เล่าลือออกไป จะปั้นแต่งเหตุผลว่าป่วยตายกลบเกลื่อนก็แล้วกันไปเถอะ แต่เผอิญว่าตอนนั้นปิดไม่อยู่ พักนี้ชื่อเสียงของจวนสกุลหลีเริ่มได้รับผลเสียแล้ว แน่นอนว่าหลายปีมานี้ใช่ว่าตระกูลต่างๆ ในเมืองหลวงจะไม่มีเรื่องลูกหลานพลัดหลงหายไป หากเป็นสตรี ตอนนั้นอาจสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ครอบครัว แต่เมื่อผ่านไปนานๆ ผู้คนก็จะลืมเลือนไปเอง แต่หลีซานพันไม่ควรหมื่นไม่ควรกลับมาอีก! น้องสะใภ้ นางเป็นหลานสาวของท่านไม่ผิด แต่หลานสาวของท่านหาได้มีนางผู้เดียวไม่! นางรอดชีวิตกลับมา ซ้ำยังเป็นคุณหนูของสกุลหลี แล้ววันหน้าคุณหนูคนอื่นๆ จะออกเรือนอย่างไร
พอเห็นฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งนิ่งเงียบไม่กล่าววาจา ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงก็พูดเสียงเย็นว่า ตราบใดที่นางอยู่ในจวน ผู้อื่นก็จะซุบซิบนินทาอยู่ตราบนั้น จวนสกุลหลีเราก็จะไม่มีวันโงหัวขึ้นตลอดไป
ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งไม่ปริปากดุจเก่า
ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงหลากใจอยู่สักหน่อย นางเลิกคิ้วขึ้นและชายตาข้างที่เป็นปกติมองอีกฝ่าย น้องสะใภ้ ท่านมีหลานสาวมากมายหลายคนอย่างนั้น ปกติท่านไม่ชอบหน้าหลีซานมากที่สุดมิใช่หรือ ไฉนยังหักใจไม่ได้อีกเล่า ถ้าท่านทำใจแข็งไม่ได้ ข้าจะรับหน้าที่เป็นคนเลวผู้นี้เอง ไม่ว่าอย่างไรหลีซานก็อยู่ที่นี่ไม่ได้!
ท่าทียืนกรานของอีกฝ่ายไม่เหนือความคาดหมายของฮูหยินผู้เฒ่าเติ้ง นางรอให้ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงระบายโทสะออกมาแล้วถึงเอ่ยอธิบาย ข้าเข้าใจในความหวังดีของท่านเซียงจวิน เจ้าเด็กอกตัญญูนั่นทำให้จวนสกุลหลีต้องอับอายขายหน้าจริงๆ แต่เรื่องราวไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ทุกคนคิดกัน แม้นางจะโดนโจรค้าทาสล่อลวงไป แต่ระหว่างทางได้หมอเทวดาหลี่ช่วยพากลับมา…
หมอเทวดาหลี่?
ใช่ หมอเทวดาที่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเคยเอื้อนโอษฐ์ตรัสยกย่องอย่างสูงท่านนั้น
นี่เป็นไปได้เช่นไรกัน! ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงไม่อยากจะเชื่อ
ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งคลี่ยิ้มแล้ว วันนี้เป็นท่านหมอเทวดาพาหลานเจาส่งกลับมาด้วยตนเอง พวกเพื่อนบ้านล้วนมองเห็น
คงมิใช่เป็นใครที่ใดปลอมตัวมากระมัง ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงยังคงไม่เชื่อ
ถ้าปลอมตัวเป็นคนอื่นยังพอเป็นไปได้ ท่านเซียงจวินลองตรองดู หมอเทวดาเป็นใครกัน หากกล้าปลอมตัวเป็นเขา จะไม่ถูกใต้เท้ากององครักษ์จินหลินที่รอบรู้ทุกสิ่งพวกนั้นจับกุมทันทีหรือ
คนมีชื่อเสียงดุจต้นไม้มีเงา ใจกล้าปลอมตัวเป็นคนโด่งดัง นั่นย่อมมีความเสี่ยง
ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงดูจะเข้าใจเหตุผลนี้อย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าที่ฉายแววดุร้ายเต็มเปี่ยมผ่อนคลายลง
ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งคลายใจลงเล็กน้อย กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจ ท่านคิดดูนะ หมอเทวดาหลี่ส่งหลานเจากลับมาด้วยตนเอง ถ้าพวกเราขับไล่ไสส่งนางอีก อย่างนั้นจะไม่ทำให้เขาไม่พึงใจหรือ
นี่จะเป็นการเคลือบแคลงในคุณธรรมของหมอเทวดาอย่างโจ่งแจ้ง ล่วงเกินหมอเทวดาผู้หนึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ชาญฉลาดอย่างที่สุด
ฮูหยินผู้เฒ่าเจียงเป็นธิดาของเชื้อพระวงศ์ เคยคลุกคลีใกล้ชิดกับเหล่าราชนิกุลชนชั้นสูงมากกว่าอีกฝ่าย จึงประจักษ์ชัดถึงความสำคัญของหมอเทวดาหลี่ในใจผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายอย่างลึกซึ้งยิ่งกว่า นางยอมเปลี่ยนใจในที่สุด ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็รอไปก่อนค่อยว่ากันอีกที วันหน้าหลีซานไม่จำเป็นต้องไปที่สำนักศึกษาแล้ว ท่านให้นางเก็บตัวอยู่ในเรือน อย่าออกมาบ่อยๆ ให้เป็นเป้าสายตาผู้อื่น
ต่อให้หลีซานได้หมอเทวดาช่วยกลับมา เพราะเห็นแก่หน้าเขาถึงจัดการนางทันทีไม่ได้ แต่ผู้คนภายนอกเห็นอยู่กับตารู้อยู่กับใจ อนาคตหลีซานคงออกเรือนไม่ได้แล้ว
สตรีที่ออกเรือนไม่ได้แล้วอย่างแน่นอนผู้หนึ่ง ในสายตาของฮูหยินผู้เฒ่าเจียงไม่ต่างอันใดกับเบี้ยที่สละทิ้ง
จวบจนฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งอำลากลับไป นางมองตามแผ่นหลังที่หายลับไปของอีกฝ่ายแล้วส่ายหน้ายิ้มเยาะ
เติ้งซื่อผู้นี้ยังคงปกป้องคนของตนเองแบบไม่ลืมหูลืมตา ชราจนเลอะเลือนแล้วจริงๆ
ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งรับหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเจียงไว้ได้ชั่วคราวแล้วลอบถอนใจเฮือก นางกลับถึงเรือนชิงซงยังไม่ได้ดื่มน้ำชาสักอึกก็ได้ยินสาวใช้เข้ามารายงานว่า ฮูหยินผู้เฒ่า นายหญิงรองขอพบเจ้าค่ะ
นางขมวดคิ้วก่อนกล่าว เชิญนายหญิงรองเข้ามา
ไม่นานนักม่านลูกปัดถูกเลิกขึ้น สตรีออกเรือนแล้ววัยราวสามสิบเศษผู้หนึ่งเดินเข้ามา
นายหญิงรองหลิวซื่อเป็นลูกสะใภ้คนรองของฮูหยินผู้เฒ่าเติ้ง นายท่านรองหลีกวงซูถูกส่งตัวไปรั้งตำแหน่งต่างเมืองเมื่อสามปีที่แล้ว ส่วนนางรั้งอยู่ในจวนกับบุตรสาวสองคน แต่ไรมาเป็นพวกคารมคมคายผู้หนึ่ง
นางเข้ามาแล้วแสดงคารวะ รินน้ำชาถ้วยหนึ่งยื่นให้ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งด้วยตนเองแล้วอ้าปากพูด ฮูหยินผู้เฒ่า ข้าได้ยินว่าคุณหนูสามกลับมาแล้วตกใจจริงๆ เจ้าค่ะ
เจ้าไม่ได้ไปที่เรือนหยาเหอหรือ
ไปแล้วเจ้าค่ะ พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่าคุณหนูสามไม่สบาย ไม่สะดวกจะพบใคร หลิวซื่อเบ้มุมปากยามเอ่ยคำว่า ‘พี่สะใภ้ใหญ่’
เหอซื่อ สะใภ้คนโตของจวนตะวันตกเป็นภรรยาคนที่สอง อ่อนวัยกว่านาง สติปัญญาก็ไม่เฉียบแหลม หลิวซื่อดูแคลนอีกฝ่ายอยู่ในใจเสมอมา
ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งอ่านความคิดของหลิวซื่อออก แต่การเป็นภรรยาคนที่สองนั้นยากเย็น ตัวเหอซื่อเองก็ไม่เอาไหน นางในฐานะมารดาสามีก็ไม่อาจออกหน้าแทนเหอซื่อเพราะเหตุนี้
เฮ้อ…นิสัยอย่างเหอซื่อนั่น ข้าไม่เหยียบย่ำซ้ำเติมไปด้วยอีกแรงก็นับว่าใจกว้างเหลือเกินแล้วจริงๆ
ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านเพิ่งกลับจากจวนตะวันออกกระมัง ท่านเซียงจวินกล่าวว่าอย่างไรบ้างเจ้าคะ หลิวซื่อมาที่นี่เพื่อสืบข่าวอย่างเห็นได้ชัด
ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งทำทีไม่เข้าใจ ท่านเซียงจวินน่ะหรือ นางเห็นว่าหลานเจาได้พบกับผู้อุปถัมภ์เป็นความโชคดีอย่างแท้จริง
เท่านี้เองหรือเจ้าคะ
ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งฉีกยิ้มกล่าวขึ้น อื้อ ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงหลานเจาในฐานะอาสะใภ้ สงสารที่นางเคราะห์ร้าย แต่จะพะเน้าพะนอเจ้าเด็กอกตัญญูผู้นั้นจนเกินไปดังเช่นส่งโสมหรือส่งรังนกไปให้ไม่ได้ หากไม่สบายใจจริงๆ ประเดี๋ยวส่งของจำพวกนมผึ้งหรือเห็ดหูหนูขาวไปให้เล็กๆ น้อยๆ ก็พอ
หลิวซื่อแทบสำลัก ใครคิดจะส่งโสมกับรังนกไปให้กัน นางเด็กน่ารังเกียจผู้นั้นทำชื่อเสียงป่นปี้หมดแล้วยังกล้ากลับมา ถ้าเป็นคนที่มีศักดิ์ศรีรู้กาลเทศะ ก็น่าจะแอบกระโดดน้ำตายให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไป
ปกติฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งเห็นคุณหนูสามก็ขัดหูขัดตามาก ด้วยเหตุนี้หลิวซื่อจึงไม่คาดฝันว่าหลังเกิดเรื่องเช่นนี้กับหลีซาน หญิงชรากลับมีท่าทีเฉกนี้
ฮูหยินผู้เฒ่าคงจะไม่ได้ถูกผีเข้ากระมัง
หลิวซื่อกล่าวด้วยความโมโหจนทนไม่ไหว ฮูหยินผู้เฒ่า ข้าสงสารคุณหนูสามมิใช่เรื่องเท็จ แต่ข้าสงสารพวกเจี่ยวเอ๋อร์มากกว่า คุณหนูในจวนเรายังไม่ได้ออกเรือนสักคนเลยนะเจ้าคะ คุณหนูสามประสบกับเรื่องพรรค์นั้น แต่จวนเรายังไม่มีคำอธิบายสักคำ แล้วผู้คนภายนอกจะมองอย่างไร
หลิวซื่อกล่าวจบแล้วไม่เห็นฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งพูดตอบ นางช้อนตาขึ้นมองเห็นหญิงชราหรี่ตาลงอย่างสุขุมเยือกเย็น ดื่มน้ำชาจากถ้วยในมือหมดถึงมองนางพลางกล่าวอย่างมีนัยลึกซึ้ง หลิวซื่อ เจ้ายังเยาว์วัยเลยไม่เข้าใจ ความคิดของผู้คนภายนอกเปลี่ยนแปลงเร็วเหลือเกิน
ความคิดของผู้คนภายนอกจะบอกว่าสำคัญก็สำคัญ บอกว่าไม่สำคัญบางครั้งยังไร้ค่ายิ่งกว่าสุนัขผายลม
ฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งเลี้ยงดูบุตรชายสองคนจนเติบใหญ่ นางกระจ่างแจ้งดีกว่าใคร ว่าหากชีวิตของนางอะไรๆ ก็ขึ้นอยู่กับสายตาของคนภายนอก นางคงอยู่ไม่รอดแต่แรกแล้ว
นางอาจไม่ชมชอบหลีซาน แต่หลีซานยังเป็นเด็กผู้หนึ่ง แม้แต่หมอเทวดาที่พบกันโดยบังเอิญยังเต็มใจหาทางรอดให้แก่นางสายหนึ่ง หรือว่าเพราะสายตาของคนภายนอก คนเป็นท่านย่าเช่นนางก็เลยบีบนางเข้าสู่ทางตันใช่หรือไม่
วันนี้นางสามารถเอาชีวิตของหลีซานได้เพราะสายตาของคนภายนอก แล้วพรุ่งนี้นางต้องเอาชีวิตของใครอีกเล่า
แต่ว่า… หลิวซื่อฟังเข้าหูเสียที่ไหน นางคิดจะพูดต่อ กลับได้ยินเสียลมหายใจอ่อนเบาๆ ของฮูหยินผู้เฒ่าเติ้งลอยมา
ฮูหยินผู้เฒ่าหลับไปอย่างรวดเร็วเสียแล้วหรือนี่!
หลิวซื่อทำหน้าบึ้งตึง สะบัดแขนเดินออกไปทันที