CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 271

  1. Home
  2. หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม
  3. บทที่ 271
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 271

“ขอบคุณ” เซ่าหมิงยวนรับชามยามาดื่มรวดเดียวเกลี้ยง ใบหน้าเขาเหยเกชั่วพริบตาแล้วกลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว จากนั้นยื่นถ้วยยาส่งให้องครักษ์ด้านข้างด้วยสีหน้านิ่งสนิท

เฉียวเจาหยิบก้อนน้ำตาลดอกหอมหมื่นลี้ในถุงผ้าปักออกมาวางในมือเขา

เซ่าหมิงยวนนิ่งขึงไป

“กินน้ำตาลก้อนก็จะไม่ขมปากถึงเพียงนั้นแล้ว”

“อ้อ” เซ่าหมิงยวนสัมผัสได้อย่างเฉียบไวว่าเด็กสาวเบื้องหน้าอารมณ์ไม่ค่อยดี แม้จะเห็นว่าชายชาตรีกินน้ำตาลก้อนต่อหน้าผู้คนเป็นเรื่องน่าอายอยู่สักหน่อย แต่เขายังเอามันใส่ปากอย่างว่าง่าย

รสชาติหวานละมุนเจือกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้กำจายในโพรงปาก ขับไล่กลิ่นยาขมฝาดไปได้ทันควัน

“เป็นเด็กน้อยหรือไร!” ฉือชั่นถลึงตาใส่เฉียวเจาด้วยความโมโหแทบตาย

มีหมอเช่นนี้ด้วยหรือ ถึงกับเตรียมน้ำตาลก้อนให้คนป่วย?

นางต้องคิดอะไรๆ กับเซ่าหมิงยวนเป็นแน่!

ฉือชั่นยิ่งคิดยิ่งมีน้ำโห เขาทำอะไรกับเฉียวเจาไม่ได้เลยแอบยกเท้าเตะสหายทีหนึ่ง

เซ่าหมิงยวนที่อมก้อนน้ำตาลดอกหอมหมื่นลี้ไว้ในปากงงงัน “…”

เขากลืนมันลงไปเงียบๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “อืม สายป่านนี้แล้ว…”

“ยังต้องต้มยาอีกเทียบหนึ่ง” เฉียวเจาพูดดักคอก่อนชายหนุ่มจะกล่าวประโยคต่อมา

ตอนนี้เวลายังเช้าอยู่แท้ๆ เซ่าหมิงยวนเอ่ยเช่นนี้ จริงๆ แล้วคิดจะไล่นางกลับ

ในเวลาอย่างนี้นางจะกลับไปได้เช่นไร

ความรู้สึกหวานหอมละม้ายยังอ้อยอิ่งอยู่ในปาก เซ่าหมิงยวนคิดคำนึงในใจ นี่ก็คือเข้าตำราที่ว่ากินของผู้อื่นต้องเสียงอ่อนกระมัง

“อย่างนั้นก็รบกวนคุณหนูหลีด้วย”

“ข้าจะไปจัดยา แม่ทัพเซ่ากับพี่ฉือคุยกันตามสบายนะเจ้าคะ”

หลังจากนั้นเฉียวเจาก็เฝ้าหม้อยาหน้าเตาไฟพลางเงี่ยหูฟังชายหนุ่มสองคนคุยกัน

น่าเสียดายที่เซ่าหมิงยวนไม่ได้พูดถึงคดีไฟไหม้เรือนสกุลเฉียวอย่างละเอียด แต่ไพล่ไปถามถึงจุดประสงค์ที่ฉือชั่นมาหา

ฉือชั่นกล่าวตอบ “ข้าคะเนว่าวันนี้ฮ่องเต้ต้องเรียกคุณชายเฉียวไปเข้าเฝ้า ดังนั้นจึงมาเตือนเจ้าสักคำ”

เฉียวเจากำด้ามพัดแน่นขึ้นอย่างสุดระงับ

ฮ่องเต้เรียกพี่ใหญ่เข้าเฝ้า?

นางอดมองไปทางเซ่าหมิงยวนไม่ได้

“อื้อ” เขาเอียงคอรอฉือชั่นกล่าวต่อ

ยามเอ่ยถึงโอรสสวรรค์องค์ปัจจุบัน น้ำเสียงของฉือชั่นไม่ใคร่นับถือยำเกรงมากนัก กลับแฝงความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก “ฮ่องเต้ที่เป็นเสด็จลุงของข้านั่นน่ะนะ ถิงเฉวียนเจ้าไม่ได้อยู่เมืองหลวงมานานคงไม่รู้หรอก…จะพูดเช่นไรดีนะ เอ่อ…ไม่ค่อยเหมือนคนทั่วไป เขาไม่ชมชอบของอะไรก็ตามที่ไม่สวยงาม ฉะนั้นถ้าคุณชายเฉียวต้องไปที่วังหลวงเข้าเฝ้าจริงๆ ทางที่ดีปกปิดใบหน้าซีกที่เสียโฉมสักหน่อยจะดีกว่า”

“เข้าใจแล้ว” เซ่าหมิงยวนคิดๆ แล้วเอ่ยสั่งองครักษ์ “ไปหยิบหน้ากากเงินอันนั้นมาที”

องครักษ์รับคำสั่งออกไป ไม่นานนักก็กุลีกุจอถือหน้ากากอันหนึ่งด้วยสองมือมามอบให้เซ่าหมิงยวนอย่างเคารพนบนอบ

เฉียวเจามองไปอย่างห้ามใจไม่อยู่ มันเป็นหน้ากากทำจากเงินขาวบางเฉียบดุจปีกจักจั่น ฝีมือทำประณีตบรรจงล้ำเลิศยิ่ง

เซ่าหมิงยวนยื่นมือรับมาถือไว้ในมือแล้วลูบไล้ไปมา จากนั้นออกคำสั่ง “ไปเชิญคุณชายเฉียวมาที่นี่”

ไม่นานนักเฉียวโม่ก็ก้าวเข้ามาด้วยท่าทางสงบเยือกเย็นดังเดิม

“พี่เฉียวโม่ วันนี้ทางวังหลวงอาจจะเรียกตัวท่านเข้าไป”

“อื้อ” สีหน้าของเฉียวโม่เรียบเฉย เขายกมือสัมผัสรอยแผลเป็นขรุขระ กล่าวด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน “สารรูปนี้ของข้าต้องไม่เจริญตาเจริญใจกระมัง นั่นจะเป็นการหมิ่นพระเกียรติฮ่องเต้อย่างมาก”

เฉียวเจาฟังแล้วเหมือนโดนผึ้งต่อยทีหนึ่ง นางรีบหลุบตาลงเก็บงำแววตาปวดใจเอาไว้

“พี่เฉียวโม่ลองสวมนี่ดู” เซ่าหมิงยวนยื่นหน้ากากเงินไปให้

เฉียวโม่อึ้งงันไปเล็กน้อย ก่อนจะรับมาสวมบนใบหน้าโดยไม่อิดออด

เส้นสายโครงหน้าของเขานุ่มนวล ขณะที่รูปหน้าของเซ่าหมิงยวนคมเข้มเป็นสันเหลี่ยมชัดกว่าบ้าง

เซ่าหมิงยวนมองดูเฉียวโม่ที่สวมหน้ากากไว้อย่างพินิจครู่หนึ่ง ถึงยกมือไปปลดมันออก

เขาบีบมือออกแรง เพียงได้ยินเสียงเบาๆ ดังขึ้น หน้ากากก็ถูกฉีกแบ่งออกเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน จากนั้นเขาใช้นิ้วมือดัดรูปทรงสองสามจุดแล้วยื่นกลับไปให้เฉียวโม่

“พี่เฉียวโม่ลองสวมดูอีกที”

หน้ากากครึ่งเสี้ยวแนบติดบนใบหน้าซีกซ้ายของเฉียวโม่อย่างเหมาะเจาะปิดรอยแผลน่ากลัวไว้พอดี

ครึ่งหนึ่งเป็นหน้ากากเงิน ครึ่งหนึ่งเป็นใบหน้าซีกขวาที่ปกติดีทุกอย่าง กลับกลายเป็นความงามแปลกตาน่าอัศจรรย์

เซ่าหมิงยวนอมยิ้มพยักหน้า “เช่นนั้นน่าจะได้แล้ว หน้ากากทำจากวัสดุพิเศษ แนบติดผิวกายคนแล้วจะไม่ร่วงหล่น”

องครักษ์ด้านข้างทำปากเบะอยู่ตลอดด้วยความเสียดาย

ก็ต้องพิเศษอยู่แล้ว วัสดุของหน้ากากนี้ล้ำค่าราคาแพง ท่านแม่ทัพมักสวมบ่อยๆ ตั้งแต่ตอนอายุสิบกว่าปี

“ไม่เลวจริงๆ” ฉือชั่นที่จู้จี้จุกจิกเป็นนิจยกสองมือกอดอกและพยักหน้าอย่างจำใจ

เฉียวเจามองอยู่เงียบๆ ไม่เอื้อนเอ่ยวาจาสักคำ

ฝ่ายเฉียวโม่คล้ายว่าไม่สังเกตเห็นเฉียวเจา สายตาของเขาไม่เคยทอดมองไปทางที่นางอยู่

ยามนี้เองมีองครักษ์วิ่งมารายงาน “ท่านแม่ทัพ วังหลวงส่งคนมาถ่ายทอดราชโองการขอรับ”

เซ่าหมิงยวนกับฉือชั่นสบตากัน จากนั้นเบนหน้าไปมองเฉียวโม่ “พี่เฉียวโม่ พวกเราออกไปกันเถอะ”

เฉียวโม่พยักหน้าตอบรับ

พวกเขาเดินเคียงไหล่กันออกไป เฉียวเจายืนอยู่ที่เดิมมองตามอย่างไม่ละสายตา ฉือชั่นจึงกระแอมกระไอให้คอโล่ง “มองอะไร ลูกตาจะถลนออกมาแล้ว”

เขาไม่อยากยอมรับหรอกว่าชั่วอึดใจที่เฉียวโม่สวมหน้ากากครึ่งเสี้ยว ทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างมาก

ไม่ถูกสิ เขาไม่ได้รู้สึกไม่ปลอดภัยสักหน่อย บุรุษมีรูปโฉมงดงามใช่ว่าจะกินแทนข้าวได้!

“ไยพี่ฉือไม่ตามไปด้วยเจ้าคะ” เฉียวเจาถามเสียงเบา

นางจะทำหน้าหนาขอตามไปด้วยก็ย่อมได้ แต่หากทำเช่นนั้น พี่ใหญ่ต้องไม่ชอบหน้านางมากขึ้นแน่

ใจเร็วด่วนได้พาพลาดพลั้ง ก่อนหน้านี้นางร้อนใจอยากแสดงตัวกับพี่ใหญ่เกินไปถึงตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นในตอนนี้

“ตามไปจะมีอะไรน่าดูกัน ก็แค่ขันทีขานบอกเสียงแหลมแล้วพาเฉียวโม่ไปเท่านั้นเอง เหตุการณ์เช่นนี้ข้าเคยเห็นมาตั้งกี่ครั้งกี่หนก็ไม่รู้”

“โอรสสวรรค์…” เฉียวเจาอยากถามว่าฮ่องเต้ที่หมกมุ่นใฝ่ฝันอยากเป็นอมตะพระองค์นั้นจะพึ่งพาไม่ได้เช่นที่ท่านย่าเคยบอกกับนางจริงๆ หรือไม่ แต่เรื่องนี้จะพูดตามตรงก็ไม่เหมาะสม นางได้แต่เกริ่นนำขึ้น หวังว่าฉือชั่นจะเข้าใจความหมาย

ชายหนุ่มเข้าใจว่าเฉียวเจาจะถามอะไรดังคาด เขาบอกอย่างตรงไปตรงมา “อารมณ์แปรปรวน ประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวร้าย”

เฉียวเจาพูดไม่ออก “…”

โชคดีที่นางมิใช่หญิงสาวที่ต้องการคนปลอบขวัญพรรค์นั้น หาไม่แล้วความขวานผ่าซากเฉกนี้ของฉือชั่นคงทำให้คนตกใจตายไปแต่แรก

อันว่าพะวักพะวนจนเสียกระบวนเอง ถึงแม้เฉียวเจานับว่าควบคุมอารมณ์ได้ดี แต่ได้ยินคำกล่าวของฉือชั่นแล้ว ในใจนางยังคงถูกปกคลุมด้วยเงามืดชั้นหนึ่ง

ราวสองเค่อให้หลัง เซ่าหมิงยวนย้อนกลับมา

“ไปแล้วหรือ”

“อื้อ”

ฉือชั่นยื่นมือไปตบไหล่สหายรัก “อย่าเอาแต่ทำหน้าเคร่งอยู่เลย ข้าเห็นเฉียวโม่สวมหน้ากากแล้วพอดูได้ เสด็จลุงของข้าคงไม่ขุ่นเคืองพระทัย เหตุไฟไหม้เรือนสกุลเฉียวรู้ผลลัพธ์แล้ว อาจารย์เฉียวผู้ล่วงลับก็เป็นจอมปราชญ์นามกระเดื่องทั่วหล้า วันนี้ที่เรียกตัวเขาเข้าวังเดิมทีก็มีนัยอยากปลอบใจแฝงอยู่ ฮ่องเต้ไม่น่าจะทรงสร้างความลำบากใจให้เขา”

ถึงกระนั้นเอ่ยถึงพฤติกรรมของเสด็จลุงฮ่องเต้แล้วล่ะก็ เขาจาระไนไม่หมดจริงๆ เรื่องที่เล่นงานคนเพราะแค่ขัดนัยน์ตาเคยกระทำไว้มิใช่น้อยๆ

แน่นอนว่าถ้อยคำพรรค์นี้เขาไม่จำเป็นต้องพูดออกมาให้เสียอารมณ์ ในวังกับนอกวังเป็นคนละโลกกัน เรื่องในวังหลวงใครก็ยื่นมือเข้าไปไม่ได้ พูดไปก็ป่วยการเปล่า

“เข้าไปรอข้างในเถอะ” เซ่าหมิงยวนพูดจบแล้วมองไปทางเฉียวเจา “คุณหนูหลี ข้ามิสู้จัดคน…”

“อืม ประเดี๋ยวต้มยาเสร็จก็สมควรแก่เวลากินอาหารแล้วเจ้าค่ะ”

เซ่าหมิงยวนอ้าปากแล้วหุบปาก

เอาเถอะ ยังต้องเลี้ยงอาหารด้วย

อาหารกลางวันยังนับว่าพร้อมพรั่ง น่าเสียดายที่กินไปได้กลางคันก็มีองครักษ์เข้ามารายงานอย่างร้อนรน

“ท่านแม่ทัพ คุณชายเฉียวถูกจับเข้าคุกหลวงแล้วขอรับ”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 271"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์