CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 296

  1. Home
  2. หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม
  3. บทที่ 296
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 296

นางพักรักษาบาดแผลที่ขามานานพักหนึ่งเพิ่งหายสนิทก่อนหน้านี้ไม่นาน ทีแรกจะมาตั้งแต่สองสามวันก่อนก็ได้ แต่นางคำนวณเวลาแล้วว่าวันนี้เป็นวันที่หลีซานจะมาอารามซูอิ่งถึงเลือกออกมาวันนี้

ไม่มีเหตุผลอื่นใดก็แค่จะกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายสักคำ

นางมิใช่พวกไม่รู้คุณคน

กระนั้นในใจนาง หลีซานเป็นสตรีที่เป็นตัวของตนเองอย่างยิ่งคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงฝีมือรักษาอาการบาดเจ็บหรือว่าท่าทางไม่โอหังไม่เจียมตนในวันฝนตกหนักครั้งนั้น ล้วนทำให้นางรู้สึกว่าคนผู้นี้มิใช่ชั้นสามัญ

แต่คนที่ทำให้นางรู้สึกว่าไม่สามัญอย่างหาได้ยากผู้หนึ่งกลับไม่สวมกำไลหยกโลหิตงดงามปานนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะต้องเห็นว่ามันมีราคาเกินไปจึงหักใจสวมไม่ได้และเอามันเก็บรักษาไว้ในหีบดุจของล้ำค่า

ตามความคิดของนาง สิ่งของจะราคาแพงปานใด มีเพียงนำมาใช้ถึงมีคุณค่า หากเก็บไว้เป็นสมบัติก้นหีบ นั่นก็คือการเหยียบย่ำทำลายของดีๆ เหมือนเป็นหินก้อนหนึ่ง

เฉียวเจานั้นเดาความคิดที่สลับซับซ้อนของสตรีพรรค์นี้ไม่ออก ในความรู้สึกของนางมันเป็นกำไลวงหนึ่งเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นกำไลหยกโลหิตหรือว่ากำไลไม้ ยามนางไม่จำเป็นต้องใช้ก็หาได้แตกต่างอันใดไม่ ด้วยเหตุนี้นางจึงพูดอย่างตรงไปตรงมา “สวมกำไลเขียนหนังสือไม่สะดวกเพคะ”

องค์หญิงฟังถ้อยคำนี้แล้ว บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอีกครา “สวมแขนซ้ายก็ได้นี่นา”

“บางทีหม่อมฉันก็เขียนด้วยมือซ้ายเพคะ”

องค์หญิงเจินเจินนิ่งอึ้งไปก่อนกล่าวยิ้มๆ “ข้าเพิ่งพบว่าคุณหนูหลีเป็นคนน่าสนใจผู้หนึ่ง”

ไม่เสียทีที่นางตั้งใจรอวันนี้เพื่อพูดขอบคุณซึ่งหน้า

“องค์หญิงตรัสชมเกินไปแล้วเพคะ”

“แต่ไรมาข้าไม่ชมใครส่งเดช น่าสนใจก็คือน่าสนใจ น่าเบื่อก็คือน่าเบื่อ”

เฉียวเจาผลิยิ้ม “ปกติการพูดเช่นนี้จะแลดูอ่อนน้อมถ่อมตัวกว่าเพคะ”

องค์หญิงเจินเจินเปล่งเสียงหัวร่อ จากนั้นมองเหลียวหลัง “ดูเหมือนคุณหนูหลีจะเปลี่ยนสารถีแล้ว”

เฉินกวงที่ติดตามอยู่ข้างหลังเฉียวเจาจับต้นชนปลายไม่ถูก เขาเป็นแค่สารถีผู้หนึ่ง เพราะอะไรถึงกลายเป็นหัวข้อสนทนาขององค์หญิงกับคุณหนูสามได้

สารถีน้อยลอบกระตุกแขนเสื้อปิงลวี่

“เจ้าดึงข้าด้วยเหตุใด” ปิงลวี่เอ่ยถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ

เฉียวเจากับองค์หญิงเจินเจินหันมามองเฉินกวงพร้อมกัน

เฉินกวงพูดอะไรไม่ออก “…”

องค์หญิงเจินเจินหัวเราะเบาๆ “สารถีผู้นี้ดูท่าทางแข็งแรงกว่าคนเก่าอยู่มาก”

“หม่อมฉันก็รู้สึกเช่นเดียวกันเพคะ” เฉียวเจาอมยิ้มน้อยๆ

องค์หญิงเจินเจินรอครู่หนึ่งไม่เห็นเฉียวเจาเอ่ยปากถาม นางอดกล่าวขึ้นไม่ได้ “เจ้ามิได้สังเกตหรือว่าคนที่ข้าพามาก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว”

“คล้ายว่าจะพาคนมามากกว่าเก่าเพคะ” เฉียวเจาพูดด้วยสีหน้าเป็นปกติ

นางย่อมสังเกตเห็นแต่แรกแล้วว่าหนนี้หลงอิ่งองครักษ์ประจำตัวองค์หญิงผู้นี้มิได้มาด้วย ตามหลักแล้วองค์หญิงออกมาข้างนอก องครักษ์อย่างหลงอิ่งต้องตามติดเป็นเงาตามตัวจึงจะถูก ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าเป็นเพราะโดนลงโทษจากเรื่องที่องค์หญิงบาดเจ็บคราวก่อน

ดูจากพฤติกรรมขององค์หญิงเจินเจิน นางปฏิบัติต่อบ่าวไพร่ด้วยน้ำใสใจจริงอยู่หลายส่วน หากตนเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน จะมิเป็นการจี้ใจดำหรอกหรือ

ในเวลาที่ไม่อาจไม่จี้ใจดำได้ ถึงแม่นางเฉียวจะไม่เกรงใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่ถ้าไม่จำเป็นนางย่อมไม่อยากเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของผู้อื่นเปล่าๆ ปลี้ๆ แน่นอน

“หลงอิ่งไม่ได้ตามมาด้วย” องค์หญิงเจินเจินเป็นฝ่ายบอกเอง

เฉียวเจาเลิกคิ้วสูง นางเดาความคิดขององค์หญิงเจินเจินได้เลาๆ แล้ว

หลงอิ่งต้องมีบาดแผลที่ร่างกายเพราะโดนลงทัณฑ์ หรือไม่ก็ไม่สบายตรงใดเป็นแน่เลยจะมาขอยาจากนาง

สมดังคาด ความคิดนี้เพิ่งผุดขึ้นในหัวเฉียวเจา องค์หญิงเจินเจินก็เอ่ยขึ้นว่า “หลงอิ่งโดนลงโทษเพราะคุ้มครองข้าบกพร่อง ไม่รู้ว่าคุณหนูหลียังมียาลูกกลอนที่กินเข้าไปแล้วรู้สึกอุ่นไปทั้งตัวแบบที่ให้ข้าเมื่อคราวก่อนอีกหรือไม่”

“องค์หญิงตรัสถึงยาขับไอเย็นหรือเพคะ”

“ใช่ ยาขับไอเย็นนั่นล่ะ”

“ข้าพกติดกายไว้ขวดหนึ่ง มีเพียงไม่กี่เม็ด ธรรมดาถ้าไอเย็นแทรกเข้าร่างให้กินวันละหนึ่งเม็ด เมื่อกินในขวดนี้หมดก็เกือบจะหายดีแล้วเพคะ” เฉียวเจาหยิบขวดกระเบื้องเล็กๆ ใบหนึ่งในถุงผ้าปักออกมายื่นส่งให้

องค์หญิงเจินเจินรับมาเปิดฝาจุกออกดู นางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “หวังว่ากินหมดแล้วจะหายดีได้ ทุกครั้งที่ข้าออกมาข้างนอกล้วนพาหลงอิ่งมาด้วย คนอื่นยังเรียกใช้ไม่คุ้นเคยเลย”

ระหว่างที่พวกนางพูดกัน จู่ๆ มีลมเย็นพัดมาระลอกหนึ่ง ตามมาด้วยสายฝนโปรยปรายลงมาทันที

“ไฉนฝนตกอีกแล้ว!” องค์หญิงเจินเจินยังผวากลัวฝนตกไม่หาย นางหมดแก่ใจจะพูดคุยต่อ

นางกำนัลที่ติดตามอยู่ด้านหลังนางรีบกุลีกุจอกางร่มไม้ไผ่ที่พกติดตัวมา

ปิงลวี่กล่าวอย่างร้อนใจ “แย่แล้ว ไม่ได้เอาร่มมา คุณหนูมิต้องตากฝนหรือไร”

“ผู้ใดบอก” เฉินกวงเปิดถุงผ้าสะพายหลังออก หยิบของกันฝนออกมา

ปิงลวี่รีบหยิบร่มมากางแล้วถือบังเหนือศีรษะเฉียวเจาพร้อมกล่าวอย่างยิ้มแย้ม “คุณหนู เฉินกวงเตรียมของกันฝนมาด้วยเชียวนะเจ้าคะ”

เฉียวเจาหันศีรษะไปมองเฉินกวง

เฉินกวงเกาศีรษะยิ้มๆ “เผื่อไว้ไม่เสียหายขอรับ”

เผื่อไว้ไม่เสียหาย?

เฉียวเจาหัวเราะเบาๆ ต่อให้เป็นการเตรียมเผื่อไว้ ทำได้ถึงจุดนี้ก็ไม่มีทางเป็นเฉินกวงไปได้

เงาร่างของคนผู้หนึ่งวาบเข้าในห้วงความคิดกะทันหัน

บรรดาคนที่นางรู้จัก คนที่สามารถบอกเวลาฝนตกได้อย่างแม่นยำจะเป็นใครมิได้นอกจากคนผู้นั้น

ที่แท้เซ่าหมิงยวนเอาอกเอาใจเด็กสาวเก่งอย่างนี้เองสินะ!

ในใจเฉียวเจาปนเปไปด้วยความรู้สึกหลายหลากเป็นพิเศษ พาให้เท้าลื่นไถลโดยไม่ทันระวัง

“คุณหนู ระวังหน่อยเจ้าค่ะ” ปิงลวี่ลุกลนประคองนางไว้

องค์หญิงเจินเจินเอียงคอมองนางปราดหนึ่ง เอ่ยด้วยรอยยิ้มเอื่อยๆ “ข้ายังนึกว่าเจ้าไม่เคยเกิดปัญหาเช่นนี้เสียอีก”

สีหน้าของแม่นางเฉียวเรียบเฉย “องค์หญิงตรัสล้อเล่นแล้ว ข้ายังเป็นมนุษย์ผู้หนึ่งเพคะ”

บางคราในใจนางก็สับสนว่าควรเป็นเฉียวเจาหรือว่าหลีเจา จึงพาให้รู้สึกว้าวุ่นใจอยู่เหมือนกัน

ก่อนที่ฝนจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ เฉียวเจากับองค์หญิงเจินเจินก็รุดมาถึงอารามซูอิ่งในที่สุด

เพราะว่าฝนตก องครักษ์ขององค์หญิงเจินเจินกับเฉินกวงล้วนต้องอยู่ที่วัดต้าฝู ขณะที่ปิงลวี่กับนางกำนัลขององค์หญิงเจินเจินได้รับอนุญาตให้เข้าไปหลบฝนในอารามซูอิ่งได้เป็นกรณีพิเศษ

ในวันอากาศร้อนจัด สายฝนยังเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่นานนักก็กลายสภาพเป็นฝนฟ้าคะนองกรรโชกแรง

ตำแหน่งที่ตั้งของอารามซูอิ่งอยู่สูงกว่าวัดต้าฝู สถานที่อยู่ใกล้ชิดแผ่นฟ้าแห่งนี้ยิ่งรับรู้ได้ถึงอานุภาพของพายุฝน

ฝนตกไม่ขาดสายนานนับหนึ่งชั่วยามเศษถึงค่อยๆ ขาดเม็ด ผืนนภาเริ่มกลับมาสดใส

อู๋เหมยซือไท่สั่งให้ภิกษุณีนามจิ้งซีรั้งตัวพวกนางไว้อีกพักหนึ่ง “เมื่อครู่ฝนตกหนัก ลงเขาลำบาก สีกาทั้งสองรออีกสักหน่อยให้ทางเดินบนภูเขาไม่ลื่นเฉอะแฉะอย่างนั้นจะปลอดภัยกว่า”

ถึงกระนั้นก็ตามที รอจนถึงยามเซิน* องค์หญิงเจินเจินยังคงรอไม่ไหวแล้ว นางเอ่ยกับจิ้งซีว่า “ซือฟู่ หากยังไม่กลับ ประตูวังจะลงกลอนแล้ว ถึงเวลานั้นรบกวนพวกผู้อาวุโสให้ตกใจจะไม่เป็นการดี ข้าต้องไปแล้ว”

เฉียวเจาก็กล่าวอำลาด้วย

ยามนี้ไม่เช้าแล้วจริงๆ ประเดี๋ยวลงเขาไปกว่าจะกลับถึงในเมืองอย่างน้อยต้องหนึ่งชั่วยามเศษ นางยังต้องไปที่จวนกวนจวินโหวฝังเข็มให้เซ่าหมิงยวน การถอนพิษเพิ่งเริ่มต้นไม่กี่วันเป็นช่วงสำคัญที่สุด ทันทีที่ขาดตอนก็จะยุ่งยากแล้ว

ฝนตกหนักในฤดูร้อนเป็นเรื่องปกติ หลังแดดออกมาราวหนึ่งถึงสองชั่วยาม ถนนหนทางเริ่มแห้งแล้ว ขืนพวกนางสองคนรอคอยต่อไป ระหว่างทางกลับคงจะฟ้ามืด ถึงตอนนั้นจะไม่สะดวกยิ่งขึ้น จิ้งซีย่อมไม่เหนี่ยวรั้งพวกนางไว้อีก

ภูเขาหลังฝนโล่งโปร่ง กระไอชุ่มชื้นของต้นไม้ใบหญ้าลอยมาปะทะใบหน้าเจือกลิ่นหอมชวนดม องค์หญิงเจินเจินกลับอารมณ์หม่นหมองเพราะหวนประหวัดถึงความเคราะห์ร้ายในวันฝนตกหนักคราวก่อน

ฝ่ายเฉียวเจาชอบใจที่ได้อยู่สงบๆ นางเดินไปตามถนนบนเขาอย่างระมัดระวัง

* ยามเซิน คือช่วงเวลา 15.00 น. ถึง 17.00 น.

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 296"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์