CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 6

  1. Home
  2. หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม
  3. บทที่ 6
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 6

 

สวนซิ่งจื่อมิใช่ชื่อของคฤหาสน์นอกเมืองอันใด แต่เพราะด้านหลังสวนซิ่งจื่อผืนนั้นเป็นเรือนหลังใหญ่ของสกุลเฉียว ที่พำนักของจอมปราชญ์นามกระเดื่องทั่วหล้า นานวันเข้าถึงถูกชาวบ้านบริเวณรอบๆ เรียกว่า ‘สวนซิ่งจื่อ’ แทนเรือนสกุลเฉียว

อยากไปสวนซิ่งจื่อก็ต้องผ่านหมู่บ้านไป๋อวิ๋น

ขณะใกล้ถึงยามโพล้เพล้ เสียงฝีเท้าม้าก็ดังทำลายความสงบเงียบของที่นี่

คนในหมู่บ้านยืนจับตัวกันเป็นกลุ่มเล็กๆ จับจ้องผู้มาเยือน

พวกเขานิ่งเงียบมาก แต่คนทั้งสี่สัมผัสได้ถึงบรรยากาศชอบกลบางอย่างในความเงียบที่ชวนให้อึดอัดนี้ได้

ไม่มีชาวบ้านพูดคุยหัวเราะกันเสียงดัง ไม่มีเด็กเล็กๆ ล้อมวงมุงดูคนแปลกหน้า ทุกคนที่นี่สวมชุดสีขาวทั้งๆ ที่เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว เมื่อมีแสงสีทองทั่วท้องนภาเป็นพื้นหลังกลับทำให้หนาวยะเยือกในอก

 สือซี ไฉนข้ารู้สึกว่าชาวบ้านเหล่านี้แปลกๆ จะลงม้าถามไถ่ดูสักหน่อยหรือไม่  หยางเอ้อร์ชักม้าไปหาฉือชั่นแล้วเอ่ยถาม

เฉียวเจาซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าตัวฉือชั่นมองดูทุกๆ อย่างที่ทั้งคุ้นเคยทั้งแปลกตา นางกวาดสายตามองดวงหน้าเฉยชาแกมเศร้าหมองของชาวบ้านไปทีละคน ในใจพลันหนักอึ้ง ลมหายใจก็เริ่มติดขัด

นางบอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร คลับคล้ายตรงกลางอกถูกหินก้อนมหึมากดทับไว้ เสียงฝีเท้าม้านั่นราวกับไม่ได้ย่ำกับพื้น หากแต่เหยียบลงบนหัวใจนาง

 รีบไปเถอะ…  เฉียวเจาพยายามไม่ให้ใครสังเกตเห็นความผิดปกติของตนอย่างสุดกำลัง นางเปล่งเสียงพูดคำนี้อย่างยากเย็น

ฉือชั่นรับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากลเช่นเดียวกัน เขาบอกกับหยางเอ้อร์  ไม่ต้องเสียเวลาแล้ว ข้าจำทางได้ 

เขาใช้สองเท้ากระทุ้งท้องม้าแรงๆ มันก็ออกวิ่งเร็วขึ้น จูเยี่ยนกับหยางเอ้อร์รีบไล่ตามไป

อาชาพ่วงพีสามตัวห้อฝีเท้าเต็มเหยียดจากไปจนฝุ่นตลบตลอดทาง พวกชาวบ้านสบตากันแล้วส่ายหน้าทอดถอนใจ จากนั้นแยกย้ายกันไปเงียบๆ

พอข้ามหมู่บ้านนี้ไป แลเห็นสวนซิ่งจื่อผืนนั้นอยู่ลิบๆ

ยามนี้ดอกซิ่งผลิบานแล้ว มองจากไกลๆ ดุจดั่งปุยเมฆย้อมแสงสนธยางดงามผืนใหญ่ ส่องสะท้อนกับแสงทองสุดท้ายของวันตรงปลายฟ้าทอประกายเรืองรองละลานตา

ขอบตาของเฉียวเจาแดงเรื่อโดยไม่รู้ตัว

ท่านปู่เคยบอกว่าดอกซิ่งทนความหนาวได้ อากาศยิ่งหนาวยิ่งผลิบานเร็วขึ้น อีกทั้งช่วงเวลาออกดอกยาวนานกว่าดอกท้อ

ท่านปู่ชื่นชอบดอกซิ่ง

บัดนี้ดอกซิ่งยังอยู่ แต่คนที่นางเคารพรักมากที่สุดกลับหลับใหลไปชั่วนิรันดร์แล้ว

 ย่าห์…  ฉือชั่นไม่มีแก่ใจชมความงามของทิวทัศน์อย่างเห็นได้ชัด พริบตาเดียวก็มาถึงหน้าสวนซิ่งจื่อ เขาพลิกกายลงจากหลังม้าแล้วผูกโยงมันไว้กับต้นไม้ต้นหนึ่ง พาทุกคนเดินลัดเลาะไปตามทางเดินเล็กๆ ในสวน

เฉียวเจาลอบกำมือเป็นหมัด กลางอุ้งมือเต็มไปด้วยเหงื่อ

นางตื่นเต้นถึงเพียงนี้เชียวหรือนี่ กระทั่งตอนเข้าพิธีมงคลใหญ่โตยังไม่เคยเป็นเช่นนี้

นี่คงเป็นดังคำกล่าวที่ว่ายิ่งใกล้บ้านเกิดยิ่งพรั่นใจกระมัง เป็นธรรมดาของปุถุชน เฉียวเจาปลอบใจตนเองเช่นนี้

ฉือชั่นที่เดินอยู่ข้างหน้านางจู่ๆ ก็หยุดฝีเท้า

เฉียวเจาใจกระตุกวูบ  เกิดอะไร… 

ถ้อยคำหลังขาดหายไปกะทันหัน ภาพซากปรักหักพังเบื้องหน้าทำให้ใบหน้านางซีดเผือดทันควัน ร่างโงนเงนไปมาจนนางต้องคว้าอะไรบางอย่างใกล้ๆ ไว้แน่นถึงฝืนทรงตัวไว้ได้

ฉือชั่นไล่สายตาลงมองมือของเด็กสาวที่จับแขนเสื้อตนไว้

ฝ่ามือข้างนั้นเรียวเล็กบอบบางและขาวเนียนดุจหยก เห็นเส้นเลือดสีเขียวบนนั้นได้ชัด

เขานิ่งเงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะมองหยางเอ้อร์แวบหนึ่ง

หยางเอ้อร์พยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วเข้าไปสำรวจดู

ผ่านไปครู่หนึ่งเขาย้อนกลับมาบอกด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด  เป็นเพลิงไหม้ ดูท่าว่าจะเกิดเรื่องขึ้นไม่นาน 

คนทั้งสามมองหน้ากันไปมา พลันก็กระจ่างแจ้งถึงความผิดปกติของชาวบ้านเหล่านั้น

ด้วยชื่อเสียงและคุณงามความดีของสกุลเฉียวในที่แห่งนี้ เมื่อเกิดเหตุร้ายกับคนในตระกูลนี้อย่างไม่คาดฝัน ชาวบ้านจะสวมชุดสีขาวเพื่อพวกเขาก็มิใช่เรื่องแปลก

สายลมพัดมา ดอกซิ่งร่วงพรูประหนึ่งเกล็ดหิมะสีขาวโปรยปรายลงมาชวนให้วังเวงหนาวเหน็บใจ

ไม่มีผู้ใดเอื้อนเอ่ยวาจา

หัวใจของเฉียวเจาเจ็บปวดยิ่งกว่าโดนลูกธนูดอกนั้นเสียบทะลุอกบนกำแพงเมืองเยี่ยน

ไม่สิ นี่มิอาจยกมาเปรียบเทียบกันได้เลย

ตอนนั้นลูกธนูเสียบทะลุอก นางเจ็บแค่ชั่วประเดี๋ยวเดียว ถึงขั้นไม่ทันได้ลิ้มรสชาติของมันให้ดีๆ ก็จมลงสู่ความมืดมิด ลืมตาขึ้นอีกทีก็กลายเป็นแม่นางน้อยหลีเจาไปแล้ว

ทว่าเสี้ยวเวลานี้ ความเจ็บปวดนี้ยังต่อเนื่องไม่หยุดหย่อนและคงไม่มีวันจบสิ้นตลอดไป

นางกระทำผิดอันใดเล่า ถึงต้องตายแล้วเกิดใหม่มาเผชิญกับเหตุการณ์น่าเศร้าสลดเยี่ยงนี้

เฉียวเจากำมือแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว

 เจ้าทำข้าเจ็บแล้วนะ  ฉือชั่นกล่าวเสียงเรียบ

หยางเอ้อร์กับจูเยี่ยนสบตากัน

คนอื่นอาจไม่รู้ แต่พวกเขาในฐานะสหายรักกลับแจ่มแจ้งดีว่าขณะนี้ฉือชั่นกำลังอารมณ์เสียอย่างมาก

ดั้นด้นเดินทางมานับพันลี้กลับลงเอยเช่นนี้ ไม่ว่าเป็นใครคงไม่มีทางอารมณ์ดีได้ ยิ่งกว่านั้นนอกจากเป้าหมายล้มเหลวแล้ว ได้เห็นสกุลเฉียวประสบเคราะห์กรรมต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ คงไม่มีผู้ใดที่รู้สึกสบายใจได้

เฉียวเจาดึงสติคืนมา เมื่อสายตาปะทะเข้ากับดวงหน้าเฉยเมยเย็นชาของบุรุษรูปงามหาที่เปรียบมิได้ผู้นั้นก็คลายมือออกช้าๆ

ท่านปู่สอนสั่งให้นางทะนงตนไม่พึ่งพาผู้ใด ย่อมจะรบกวนให้ผู้อื่นมาปลอบประโลมจิตใจนางไม่ได้

 ไปกันเถอะ ไปถามชาวบ้านพวกนั้นดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่  ฉือชั่นหมุนกายย่างเท้าไปทางสวนซิ่งจื่อ

เฉียวเจาเดินโผเผตามไป สองเท้าหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงด้วยกระสอบทรายจนค่อยๆ รั้งท้ายในที่สุด

จูเยี่ยนหันหลังกลับหยุดฝีเท้าแล้วรอคอยนาง แม้ว่าแม่นางน้อยมิได้ร่ำไห้ แต่เขารู้สึกได้ว่านางโศกเศร้าอย่างสุดแสน

เหตุใดนางถึงเป็นเช่นนี้

 เจ้ายังสบายดีกระมัง 

เฉียวเจามองเขาพลางเหยียดมุมปากออก  คงเห็นได้ชัดสินะเจ้าคะว่าข้าไม่สบายมาก 

จูเยี่ยนชั่งใจเล็กน้อยก่อนล้วงผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดที่พับทบกันอย่างเรียบร้อยจากแขนเสื้อยื่นส่งให้  หากทุกข์ใจ ร้องไห้ออกมาจะดีกว่า 

แม้เขาไม่รู้ว่าแม่นางน้อยเสียใจถึงเพียงนี้เพราะอะไร ในใจกลับบังเกิดความรู้สึกสงสารอยู่หลายส่วน

ที่แท้บางครั้งสตรีไม่ร้องไห้น่าปวดใจยิ่งกว่าร้องไห้เสียอีก

น้ำใจในช่วงเวลาที่ไม่ปกติเฉกนี้ เฉียวเจาไม่อาจปฏิเสธได้ ทั้งไม่คิดจะปฏิเสธด้วย

นางยื่นมือรับผ้าเช็ดหน้ามาซับๆ ดวงตาแล้วก็เช็ดจมูก จากนั้นจึงกล่าวขอบคุณจากใจจริง  พี่จู* ท่านช่างแสนดีจริงๆ เจ้าค่ะ 

‘พี่จูผู้แสนดี’ ถึงกับพูดอะไรไม่ออก  … 

ชั่วครู่ใหญ่ เขาถึงกล่าวตอบคำหนึ่ง  เจ้าสบายขึ้นแล้วก็ดี 

เมื่อเดินทะลุสวนซิ่งจื่อออกมา จูเยี่ยนมองดูฉือชั่นที่มีท่าทางห่อเหี่ยวอย่างชัดเจน เขาลังเลใจครู่หนึ่งถึงไต่ถามเฉียวเจา  หรือไม่เจ้ามานั่งซ้อนกับข้า 

เฉียวเจาชะงักไป

ฉือชั่นตวัดมองตาขุ่น พูดอย่างหงุดหงิด  มัวยืดยาดอะไรอยู่ ยังไม่ขึ้นม้าอีก 

เขายื่นมือดึงเฉียวเจาขึ้นมาบนหลังม้าแล้วควบตะบึงไปข้างหน้า

ทั้งสี่คนย้อนกลับมาที่หมู่บ้านไป๋อวิ๋นอีกครั้ง เอาก้อนเงินเล็กๆ ให้เด็กหนุ่มรุ่นกระทงผู้หนึ่งพาพวกตนไปหาผู้ใหญ่บ้าน

 ท่านผู้มาเยือนคงจะมาเยี่ยมคารวะใต้เท้าเฉียวกระมัง  ผู้ใหญ่บ้านถามเข้าเรื่องทันที

ฉือชั่นกำลังอารมณ์ไม่ดี จูเยี่ยนจึงอ้าปากตอบแทน  ไม่ผิด พวกข้าเดินทางไกลมาเพื่อเยี่ยมคารวะใต้เท้าเฉียว คาดไม่ถึงว่าพอผ่านสวนซิ่งจื่อไปกลับได้เห็น… 

ผู้ใหญ่บ้านถอนใจเฮือกหนึ่ง  ท่านทั้งหลายคงไม่ล่วงรู้ว่าหลายวันก่อนเรือนสกุลเฉียวโดนไฟไหม้ครั้งใหญ่ ครอบครัวของใต้เท้าเฉียวฝังร่างกลางทะเลเพลิงกันหมดแล้ว… 

เฉียวเจาสั่นเทาไปทั้งสรรพางค์กาย โชคดีที่นางนั่งอยู่ในมุม จึงไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น

 จู่ๆ เหตุใดถึงไฟไหม้ได้  ฉือชั่นพูดโพล่งขึ้น

ผู้ใหญ่บ้านมีสีหน้าระทมหม่นหมอง เขากล่าวทอดถอนใจ  ใครจะรู้เล่า เกิดไฟไหม้ตอนพลบค่ำ กว่าพวกข้าจะเห็น ไฟก็ลุกลามโหมแรงมากจนเข้าไปไม่ได้เลย บุรุษหน้าหยกสกุลเฉียวไม่ฟังเสียงห้ามปรามของทุกคน เสี่ยงตายบุกเข้ากองเพลิงช่วยน้องสาวคนเล็กของเขาออกมาได้ หลังจากนั้นเรือนทั้งหลังก็พังทลาย… 

 บุรุษหน้าหยกสกุลเฉียว?  เฉียวเจารับฟังด้วยหัวใจที่แหลกสลาย จวบจนได้ยินคำนี้หัวใจนางถึงเริ่มเต้นแรงขึ้น

พี่ใหญ่ของข้ายังมีชีวิตอยู่?

 คุณชายเฉียวยังมีชีวิตอยู่หรือ  จูเยี่ยนถามสิ่งที่เฉียวเจาอยากถามมากที่สุด

 ก็ชาวสกุลเฉียวออกทุกข์แล้วมิใช่หรือ วันนั้นคุณชายเฉียวออกจากเรือนไปเยี่ยมสหายพอดีถึงพ้นเคราะห์ภัยนี้มาได้ ตอนคุณชายเฉียวกลับมาพบว่าเรือนกำลังไฟไหม้ ถึงได้ฝ่าทะเลเพลิงเข้าไปช่วยชีวิตน้องสาวคนเล็กไว้  ผู้ใหญ่บ้านพูดอธิบาย

 ถ้าเช่นนั้นคุณชายเฉียวกับคุณหนูเฉียวล้วนปลอดภัยดี?  เฉียวเจาเพียรเก็บงำความรู้สึกเต็มที่ นางกล่าวถามเสียงเบา

คุณหนูเฉียวตามคำเรียกขานจากปากผู้ใหญ่บ้านคือเฉียวหว่าน น้องสาวต่างมารดาของนาง

ผู้ใหญ่บ้านมองปราดไปที่เฉียวเจาก่อนเอ่ยขึ้น  ดูคล้ายคุณหนูเฉียวจะไม่เป็นอะไร ส่วนคุณชายเฉียว… 

 เป็นอย่างไร  ทั้งสี่คนร้องถามเป็นเสียงเดียวกัน

 คุณชายเฉียวเสียโฉมแล้ว  ผู้ใหญ่บ้านตอบแล้วถอนหายใจยาวเหยียด

เสียโฉมแล้ว?

พวกฉือชั่นสามคนต่างเคยเห็นหน้าเฉียวโม่มาก่อน รูปลักษณ์ที่โดดเด่นเลอเลิศเหนือใครในแผ่นดินของเขาผุดวาบขึ้นในหัวสมองอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อครั้งเฉียวโม่อยู่ในเมืองหลวง มีกิตติศัพท์ความหล่อเหลาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าฉือชั่น ยากจะนึกภาพออกว่าใบหน้านั้นเสียโฉมไปแล้วจะมีสภาพเช่นไร

 ช่างน่าเสียดายจริงๆ  ผู้ใหญ่บ้านพูดสิ่งที่ทุกคนคิดอยู่ในใจออกมา

เฉียวเจาอ้าปากขมุบขมิบ ไม่น่าเสียดาย ขอแค่พี่ชายของข้ามีชีวิตอยู่ก็พอแล้ว!

 เช่นนั้นตอนนี้คุณชายเฉียวอยู่ที่ใด 

 เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้แล้ว ศพของชาวสกุลเฉียวยังต้องอาศัยคนในหมู่บ้านช่วยกันจัดการฝังพร้อมกับคุณชายเฉียว พอเสร็จเรียบร้อย เขาก็พาน้องสาวจากไปโดยไม่ล่ำลา ใบหน้ายังมีบาดแผลแท้ๆ ไม่รู้ว่าไปที่ใดได้ 

 เมืองหลวง  เฉียวเจาหลุดปากพูดออกมา

ทุกคนหันมามองอย่างหลากใจ

* คำว่า จู พ้องเสียงกับคำที่มีความหมายว่า  หมู  ซึ่งมักใช้เป็นคำด่าในเชิงว่าไม่มีสมอง

 

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 6"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์