หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 603
บทที่ 603
แววตาของเจียงหย่วนเฉาแปรเปลี่ยนเป็นปึ่งชาในพริบตา “เจียงอู่ อย่าลากคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามา!”
“ไม่เกี่ยวข้อง?” เจียงอู่หัวเราะ “น้องสือซาน ถึงตอนนี้แล้วเจ้ายังคิดแต่จะปกป้องสตรีนางนั้นอีก เห็นได้ว่าเจ้ารักนางลึกซึ้งนัก!”
“ข้าไม่อยากฟังท่านพูดพล่ามเรื่องพวกนี้ อยากสืบสาเหตุการตายของท่านพ่อบุญธรรมนั้นง่ายดายมาก เชิญนักชันสูตรมาพลิกศพก็ได้แล้ว” เจียงหย่วนเฉาเดินไปข้างหน้าก้าวหนึ่งก็เห็นเจียงอู่ขวางทางตนไว้ เขาเอ่ยตะคอก “ถอยไป!”
เจียงอู่ไม่ขยับแม้สักนิด “เชิญนักชันสูตรมาพลิกศพ? น้องสือซาน ท่านพ่อบุญธรรมอยู่อย่างมีเกียรติมาทั้งชีวิต เจ้าถึงกับคิดจะให้คนชั้นต่ำพวกนั้นลบหลู่ร่างไร้วิญญาณของท่าน พวกพี่น้องทั้งหลายล้วนได้เห็นสภาพศพของท่านพ่อบุญธรรมแล้วว่าเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ดจนสิ้นใจ และมีหมอหลวงวินิจฉัยว่าท่านตายจากการโดนยาพิษอย่างไร้ข้อกังขา”
“พูดเช่นนี้คือพี่อู่ปักใจว่าข้าวางยาพิษเอาชีวิตท่านพ่อบุญธรรมหรือ”
“แน่นอนว่าไม่ใช่น้องสือซานคนเดียว”
เจียงหย่วนเฉาขมวดคิ้ว “นี่ท่านหมายความว่าอะไร”
เจียงอู่ตบมือ “เอาตัวเข้ามา”
เจียงหย่วนเฉามองเห็นเฉียวเจาโดนองครักษ์จินหลินพาเข้ามาแล้วตะลึงงันไปอย่างสุดระงับ
เฉียวเจามองเขานิ่งๆ ครู่หนึ่งก่อนเบนสายตาออก
เจียงอู่เห็นดังนั้นแล้วอดยิ้มไม่ได้ “ในคืนวันเทศกาลหยวนเซียวพวกเจ้าสองคนจูงมือเดินเที่ยวกัน ตอนนี้แสร้งทำไม่รู้จักกันก็หมดสนุกสิ น้องสือซาน กล้าทำไม่กล้ารับมิใช่วิสัยของเจ้าเลยนะ”
คำกล่าวนี้ทำให้หมู่องครักษ์จินหลินเริ่มระส่ำระสาย
คนหนึ่งเป็นว่าที่บุตรเขยของท่านผู้บัญชาการใหญ่ คนหนึ่งเป็นคู่หมั้นของกวนจวินโหว พวกเขาสองคนกลับจูงมือเดินเที่ยวกัน เรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่
หากท่านห้าพูดความจริง เช่นนั้นเป็นไปได้จริงๆ ว่าท่านสิบสามคือฆาตกรตัวจริงที่สังหารท่านผู้บัญชาการใหญ่กับคุณหนูเจียง เรื่องตีท้ายครัวกวนจวินโหวนี้อุกอาจเหลือเชื่อเกินไป ถูกคนรู้เข้าย่อมต้องฆ่าปิดปากอย่างแน่นอน
เฉียวเจาได้ยินถ้อยคำนี้แล้วเลือดขึ้นหน้าเป็นริ้วๆ นางยังแปลกใจอยู่ว่าเหตุไฉนองครักษ์จินหลินไม่ให้ความเกรงใจนางถึงเพียงนี้ ที่แท้ปักใจเชื่อว่านางไม่กระทำตัวอยู่ในกรอบประเพณีอันดีงาม กวนจวินโหวไม่มีทางปกป้องคู่หมั้นผู้นี้แล้ว
ดีไม่ดีในใจเจียงอู่ผู้นี้กวนจวินโหวยังต้องขอบคุณที่เขาเปิดโปง ‘ความสัมพันธ์ลับ’ ของนางกับเจียงหย่วนเฉาได้ทันท่วงทีอีกด้วย
เฉียวเจาอดมองไปทางเจียงหย่วนเฉาอย่างเย็นชาไม่ได้
ชาติที่แล้วนางต้องติดค้างเขาเป็นแน่ ถึงได้เจอะเจอเขาก็เคราะห์ร้ายทุกคราไป
สายตานี้ของเฉียวเจาทำให้เจียงหย่วนเฉาหน้าชาวาบๆ ด้วยความอับอาย เขากล่าวเสียงกระด้าง “เจียงอู่ ข้าบอกแล้วว่าอย่าลากคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามา”
เจียงอู่แค่นหัวเราะ “ไม่เกี่ยวข้อง? พวกข้ายังอยากฟังน้องสือซานบอกว่าเจ้าสมรู้ร่วมคิดกับคุณหนูหลีซานผู้นี้วางยาพิษสังหารท่านพ่อบุญธรรมได้เช่นไร”
“สมรู้ร่วมคิดกันวางยาพิษสังหารท่านพ่อบุญธรรม?” เจียงหย่วนเฉาเพียงรู้สึกว่าคำกล่าวหานี้ไร้สาระน่าขันสุดจะเปรียบ
“หรือว่าไม่ใช่” เจียงอู่ตบมืออีกที สาวใช้นางหนึ่งถูกพาตัวเข้ามาอย่างว่องไว
คนที่เข้านอกออกในจวนสกุลเจียงบ่อยๆ อย่างพวกเขาล้วนจำหน้าสาวใช้นางนี้ได้ว่าเป็นคนที่ดูแลการกินการอยู่ของเจียงถังนั่นเอง
เจียงถังซื่อสัตย์มั่นคงต่อภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากไม่เสื่อมคลาย หลังนางตายไปก็ไล่สาวใช้อ่อนเยาว์โฉมงามในจวนออกไป เหลือไว้เพียงบางคนที่สงบเสงี่ยมเจียมตัวเท่านั้น
สาวใช้ผู้นี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้จะบอกว่าเป็นสาวใช้ อันที่จริงมีอายุสามสิบเศษแล้ว รูปโฉมยังจัดอยู่ในชั้นสามัญ นางมีนามว่า ‘หงอิง’
“หงอิง เจ้ารับใช้ท่านผู้บัญชาการใหญ่มาสิบกว่าปี ท่านดีต่อเจ้าหรือไม่”
เบื้องหน้ามีคนมากมายอย่างนี้หงอิงก้มหน้างุดอย่างหวาดกลัว นางกล่าวตอบตามสัตย์จริง “ท่านผู้บัญชาการใหญ่ดีต่อข้ามากเจ้าค่ะ ทุกวันเทศกาลงานตรุษล้วนมอบเงินค่าจ้างให้ข้าเป็นสองเท่า” ว่าแล้วนางก็ปาดน้ำตาอย่างห้ามไม่อยู่
คนภายนอกล้วนรู้สึกว่าท่านผู้บัญชาการใหญ่น่ากลัว ความจริงแล้วการปรนนิบัติรับใช้ท่านนั้นแสนง่ายดายมาก แต่ไรมาพวกเรื่องที่ส่วนตัวเป็นพิเศษท่านจะทำด้วยตนเองเสมอ นางแค่ต้องปูเตียง พับผ้าห่ม และกวาดห้อง ดังนั้นเวลาส่วนใหญ่ล้วนได้อยู่ว่างๆ สบายๆ
“ในเมื่อท่านผู้บัญชาการใหญ่ดีต่อเจ้ามาก อย่างนั้นเจ้าคงไม่อยากให้ท่านตายตาไม่หลับกระมัง”
หงอิงสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ใบหน้าขาวซีดไปทันใด
เจียงอู่ทอดเสียงอ่อนลง “เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าถามอะไรเจ้า เจ้าก็ตอบตามความจริงเป็นพอ”
หงอิงพยักหน้าช้าๆ
“ใครเป็นปรุงอาหารสามมื้อในหนึ่งวันของท่านผู้บัญชาการใหญ่”
“อาหารของท่านผู้บัญชาการใหญ่ทั้งสามมื้อเหมือนกับของคุณหนูเจียงล้วนเป็นเรือนครัวเล็กทำเจ้าค่ะ” หงอิงตอบอย่างรวดเร็ว
ตำแหน่งผู้บัญชาการกององครักษ์จินหลินนี้มิได้เป็นกันง่ายๆ เจียงถังมีศัตรูมาก จึงระวังเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ ก่อนกินจะต้องมีคนชิมอาหารโดยเฉพาะ ซึ่งทุกคนในที่นี้ล้วนล่วงรู้จุดนี้ดี
เจียงอู่พยักหน้าแล้วซักถามต่อ “ในหนึ่งวันนอกจากอาหารสามมื้อแล้ว ท่านผู้บัญชาการใหญ่ยังกินอย่างอื่นอีกหรือไม่”
“เรื่องนี้…” หงอิงอึกอักเล็กน้อย
“พูด!” เจียงอู่ตวาดเสียงห้วน
หงอิงตวัดสายตามองเฉียวเจาแวบหนึ่งแล้วก้มหน้ากล่าวว่า “ท่านผู้บัญชาการใหญ่ยังกินยาด้วยเจ้าค่ะ”
พอได้ยินหงอิงกล่าวเช่นนี้ทุกคนประหลาดใจอยู่บ้าง
พวกเขาไม่รู้ว่าท่านผู้บัญชาการใหญ่ต้องกินยา เพราะท่านไม่เคยบอกว่าไม่สบายตรงที่ใด
“ท่านผู้บัญชาการใหญ่กินยาอะไร” เจียงอู่ถามอีก
หงอิงส่ายหน้า “ข้าไม่รู้ว่าท่านกินยาอะไร แต่ทุกๆ ตอนค่ำข้าต้องเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้ท่านกินยาเสมอเจ้าค่ะ”
“ท่านพ่อบุญธรรมกินยาแล้วเกี่ยวอะไรกับคนอื่น” ดวงตารียาวของเจียงหย่วนเฉาหรี่ลง
หงอิงตัวสั่นงันงก นางมองเขาแล้วรวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้น “ยาลูกกลอนที่ท่านผู้บัญชาการใหญ่กินเป็นคุณหนูหลีปรุงขึ้นเจ้าค่ะ”
เจียงหย่วนเฉาหันขวับไปมองเฉียวเจา เขาหน้าเปลี่ยนสีอย่างช่วยไม่ได้
ที่แท้เป็นเช่นนี้!
เขาแปลกใจเรื่อยมาว่าเหตุใดท่านพ่อบุญธรรมถึงให้ความสำคัญกับนาง และขบไม่แตกว่าระหว่างท่านกับนางมีอะไรเกี่ยวข้องกัน ที่แท้ทั้งสองคนเกี่ยวข้องกันด้วยเรื่องนี้!
ทุกคนพากันมองไปทางเฉียวเจา ในดวงตาฉายความรู้สึกต่างๆ กันไป บ้างตะลึงพรึงเพริด บ้างโกรธแค้น
เฉียวเจายืนอย่างสงบนิ่งดุจเก่าประหนึ่งว่าไม่แยแสต่อสายตาพินิจพิจารณาของทุกคนแต่อย่างใด
เจียงอู่ถอนใจยาวๆ เฮือกหนึ่ง “พี่น้องทุกคนต่างกระจ่างแจ้งแล้วกระมัง เจียงสือซานกับคุณหนูหลีซานผู้นี้มีความสัมพันธ์ที่ไม่อาจบอกให้คนนอกล่วงรู้ แล้วสุดท้ายก็ไม่อาจปิดบังความสัมพันธ์นี้กับน้องบุญธรรมได้ น้องบุญธรรมย่อมยอมรับไม่ได้อย่างแน่นอน บางทีพวกเขาอาจเกิดปากเสียงกัน หรือบางทีน้องบุญธรรมอาจตัดสินใจบอกให้ท่านพ่อบุญธรรมรับรู้ เมื่อเห็นว่าความสัมพันธ์ลับจะถูกเปิดโปง ยามคนเราเข้าตาจน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ล้วนทำออกมาได้ น้องสือซาน เจ้าว่าใช่หรือไม่”
เจียงหย่วนเฉาแค่นหัวร่อไม่กล่าววาจา
“น่าเสียดายที่เจ้าสังหารน้องบุญธรรมอย่างรีบร้อนจนทิ้งพิรุธไว้มากมายเหลือเกิน หลังจากเจ้ารู้ว่าท่านพ่อบุญธรรมสงสัยในตัวเจ้าและมีหลักฐานแน่นหนา จึงบังเกิดความคิดสังหารท่านเพื่อรักษาชีวิต ทว่าท่านพ่อบุญธรรมมีวรยุทธ์สูงส่ง ในจวนผู้บัญชาการก็มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา เจ้าซึ่งรู้ถึงจุดนี้ย่อมประจักษ์แก่ใจดีว่าปะทะกันตรงๆ นั้นเป็นไปไม่ได้ มีเพียงวางยาพิษสังหารถึงเป็นวิธีการที่ปลอดภัยที่สุด”
สายตาของเจียงอู่หยุดอยู่ที่ตัวเฉียวเจา “เวลานี้เองเจ้าพบว่ากระทั่งฟ้ายังเป็นใจกับเจ้า ท่านพ่อบุญธรรมกินยาของคุณหนูหลีซานมาโดยตลอด เช่นนั้นแค่แอบใส่บางอย่างปนลงในยา หมายสังหารท่านพ่อบุญธรรมก็จะเป็นเรื่องง่ายแสนง่าย ถึงอย่างไรมีแต่ยาที่ท่านพ่อบุญธรรมกินทุกวันที่ไม่ต้องทดสอบพิษโดยเฉพาะ”
กล่าวถึงตรงนี้เจียงอู่ตบมืออีกครั้ง หมอหลวงผู้หนึ่งก็ถูกพาตัวเข้ามาอย่างว่องไว
“หลังจากข้าสืบทั้งหมดนี้ได้ก็เชิญหมอหลวงทำการตรวจสอบยาลูกกลอนที่คุณหนูหลีซานปรุงขึ้นทันที ในนั้นมียาลูกกลอนที่เจือพิษรุนแรงปะปนอยู่ด้วยหลายเม็ดดังคาด ซึ่งดูจากภายนอกแล้วไม่อาจแยกแยะออกได้โดยสิ้นเชิง”
เมื่อเจียงอู่ให้สัญญาณ หมอหลวงเปิดตลับใส่ยาลูกกลอนออก ข้างในมียาลูกกลอนหลายสิบเม็ดนอนสงบนิ่งอยู่ ดูไปแล้วไม่แตกต่างกันเลย “ข้าขูดผงยาจากยาลูกกลอนพวกนี้แต่ละเม็ดมาตรวจสอบแล้ว สองสามเม็ดนี้เจือพิษรุนแรงเอาไว้”
“ตอนนี้พวกเจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกหรือไม่” เจียงอู่สืบเท้าขึ้นหน้าก้าวหนึ่งแล้วเอ่ยถามขึ้น