หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 688
บทที่ 688
“บอกจุดประสงค์ของเจ้าให้ข้ารู้ เงินพวกนี้ก็จะเป็นของเจ้าแล้ว” เฉียวเจาเคาะพื้นโต๊ะเบาๆ
หลังจากการสะกดจิตเมื่อวาน นางแน่ใจได้ว่าพี่สะใภ้ของอาจูรักเงินทองเป็นชีวิตจิตใจ
“เป็นของข้าหมดเลยหรือ” ดวงตาของพี่สะใภ้อาจูลุกวาวทันใด จับจ้องไปที่เงินเต็มหีบอย่างละโมบ
“หากพูดเท็จ ไม่เพียงไม่ได้เงิน ข้ายังจะส่งตัวเจ้าให้ท่านย่า ให้ท่านย่าส่งตัวเจ้าไปให้ทางการ”
พอได้ยินว่าเงินหลุดลอยไปแล้วยังจะถูกส่งตัวไปให้ทางการ พี่สะใภ้ของอาจูก็ตาค้างตกใจทันใด จากนั้นเอ่ยเสียงรัวเร็ว “ข้าบอกๆ”
เฉียวเจาหยิบถ้วยน้ำชาที่อาจูยื่นส่งให้มาดื่มหนึ่งคำ นางมองอีกฝ่ายโดยไม่เอื้อนเอ่ยวาจาสักคำ
พี่สะใภ้ของอาจูก้มหน้าหลบตา “ข้า…มีคนให้ข้ามาหาหนังสือเล่มหนึ่ง…”
เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้น
นางอดใจเงยหน้ามองเด็กสาวที่นั่งด้วยท่าทางสง่างามไม่ได้
เฉียวเจาถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เจ้าแน่ใจว่ามาหาหนังสือเล่มหนึ่ง มิใช่…”
นางกล่าวถึงตรงนี้แล้วหยุดเว้นจังหวะนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดช้าลงอย่างชัดถ้อยชัดคำ “มิใช่สร้อยประคำข้อมือเส้นหนึ่ง?”
พี่สะใภ้ของอาจูหน้าถอดสีทันควัน นางกล่าวเสียงหลง “เจ้า…เจ้ารู้หมดแล้วหรือ”
ปิงลวี่เงื้อเท้าเตะทีหนึ่ง กล่าวเสียงฮึดฮัดว่า “เจ้าๆ อะไร พูดจาอย่างนี้กับคุณหนูได้อย่างไร!”
คุณหนูก็แปลกพิกลนัก ทั้งที่เมื่อวานถามได้เรื่องแล้ว เพราะอะไรวันนี้ยังต้องให้พี่สะใภ้ของอาจูพูดซ้ำอีกรอบด้วยเล่า
แต่แน่นอนว่าคุณหนูทำแบบนี้ต้องมีเหตุผลแน่!
“ปิงลวี่ มัดนางเอาไว้แล้วพาไปหาฮูหยินผู้เฒ่า” เฉียวเจายกถ้วยน้ำชาขึ้นด้วยหน้าตาเย็นชา
“ไปกันเลย” ปิงลวี่หยิบเชือกเส้นหนึ่งออกมาสะบัดๆ
พี่สะใภ้ของอาจูโขกศีรษะดังตุบๆ “ข้าบอกๆ คุณหนูสามโปรดอย่าส่งข้าให้ฮูหยินผู้เฒ่าเลย…”
นางพูดจบแล้ว แต่เฉียวเจาหลุบตาลงไม่พูดจา
พี่สะใภ้ของอาจูใจคอไม่ดี ลอบเหลือบตาขึ้นพิศดูสีหน้าเฉียวเจานิดหนึ่งก่อนส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปทางน้องสาวสามี
อาจูเบือนหน้าหนี
เวลาล่วงผ่านไปทีละน้อยทีละนิด ภายในห้องเงียบเชียบไร้สุ้มเสียง พี่สะใภ้ของอาจูกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง ขยับตัวไปมาอย่างกระสับกระส่าย
ขณะที่นางจะอ้าปากพูดอย่างทนไม่ไหว เฉียวเจาวางถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะเล็กด้านข้างเบาๆ เอ่ยเสียงเรียบในที่สุด “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เจ้าก็ไปทำตามที่คนผู้นั้นบอกเถอะ”
พี่สะใภ้ของอาจูตกอกตกใจ “คุณหนูสาม ความหมายของท่านคือ…”
“วันนี้เจ้าไปทางฟากตะวันออกของเมืองซื้อเต้าหู้ที่แผงขายเต้าหู้ตรงปากตรอกถงเฉียนได้แล้ว”
“ไม่ได้ๆ ถ้าข้าโกหกคนผู้นั้น เขาต้องสังหารข้าแน่นอน” นางสั่นศีรษะอย่างหวาดกลัว
“สังหารเจ้า?”
“ใช่เจ้าค่ะ คุณหนูสาม ท่านไม่ทราบว่าคนผู้นั้นน่ากลัวปานใด เขาเคยเตือนข้าว่าหากข้านำเรื่องที่เขาสั่งให้ทำแพร่งพรายออกไปสักคำ เขาก็จะตัดลิ้นข้าทิ้ง จากนั้นสังหารข้า!”
เฉียวเจามองนางอย่างเฉยชา จู่ๆ ก็ล้วงมีดสั้นเล่มหนึ่งในแขนเสื้อออกมาเคาะตรงหน้านางพลางส่งยิ้มน้อยๆ ให้ “พี่สะใภ้เสียง เจ้าอาจไม่รู้ว่าข้าเคยสังหารคนมาก่อนเช่นกัน อีกทั้งไม่ถือสาที่จะสังหารอีกคน”
พี่สะใภ้ของอาจูคาดไม่ถึงว่าคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ผู้หนึ่งจะทำท่าและพูดจาน่ากลัวเฉกนี้อย่างเห็นได้ชัด นางอ้าปากกว้างอย่างตะลึงพรึงเพริด นานครู่ใหญ่ถึงพูดตะกุกตะกัก “คุณ…คุณหนูสาม ท่านสังหารข้าไม่ได้นะ ถ้าท่านสังหารข้าแล้วจะต้องเดือดร้อน…”
เฉียวเจาแค่นหัวร่อเสียงหนึ่ง “เดือดร้อนอะไรหรือ เจ้าเป็นแค่หญิงคนงานที่มาทำงานในเรือนข้า ไม่มีแม้แต่สัญญาขายตัวเป็นทาสด้วยซ้ำ ขโมยของในเรือนข้าแล้วหนีไป พวกข้าอยากตามล่าตัวแทบไม่ทันเลยนะ พี่สะใภ้เสียง เจ้าว่าข้าสังหารเจ้าแล้วฝังไว้ที่สวนดอกไม้ด้านหลัง ใครจะจำได้ว่าต้องตามหาเจ้า อาจูอย่างนั้นหรือ”
พี่สะใภ้ของอาจูส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัว
“หรือว่าสามีเจ้า”
นางพยักหน้าทันที
เฉียวเจาหัวเราะเบาๆ เลื่อนเงินทั้งหีบไปตรงหน้านาง “ถ้าข้าให้อาจูนำเงินหีบนี้ไปให้พี่ชายของนางล่ะ เจ้าว่าพี่ชายของนางจะออกตามหาเจ้าไปทั่วแผ่นดิน หรือว่ารับเงินไว้แล้วตบแต่งภรรยาคนใหม่”
“เจ้า…เจ้า…” พี่สะใภ้ของอาจูเบิกตากว้างมองเฉียวเจาราวกับเห็นผี
เหตุใดถึงมีคุณหนูสูงศักดิ์พรรค์นี้ หรือว่าที่ผ่านมานางเข้าใจผิดๆ ไปเอง
เฉียวเจายิ้มละไม “หรือว่าไม่สังหารเจ้าก็ได้ ถึงอย่างไรการสังหารคนมิใช่การกระทำของกุลสตรี ข้าส่งตัวเจ้าให้ฮูหยินผู้เฒ่าดีกว่า รอเมื่อท่านย่าของข้าส่งเจ้าไปเข้าคุกหลวงของทางการ ข้าจะให้อาจูนำเงินหีบนี้มอบให้พี่ชายนางตามเดิม เจ้าว่าพี่ชายของนางจะตั้งตารอคอยเจ้าออกมาโดยเร็ว หรือจะคิดว่าเจ้าตายไปแล้วและตบแต่งภรรยาใหม่”
พี่สะใภ้ของอาจูขบคิดไปตามที่เฉียวเจากล่าวสมมติขึ้นก็เริ่มร้อนรุ่มไปทั้งตัวอย่างทนไม่ไหวแล้ว
เจ้าสามีน่าชังผู้นั้นต้องชมชอบสตรีวัยขบเผาะงามน่ารักสดใสเป็นแน่ ขืนนางติดคุกจริงๆ อย่าพูดถึงว่าตั้งตารอคอยนางออกมาโดยเร็ว ไม่แอบติดสินบนผู้คุมนักโทษกำจัดนางทิ้งก็ไม่เลวแล้ว
ไม่ได้ ข้าติดคุกไม่ได้ แล้วก็ตายไม่ได้ด้วย!
เห็นสีหน้าของนางเริ่มเปลี่ยนไป แต่น้ำเสียงของเฉียวเจายังสงบนิ่งดังเก่า “เอาล่ะ เจ้าตามปิงลวี่ไปได้แล้ว ถึงอย่างไรข้าไม่มีของหาย ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ”
“อย่าเจ้าค่ะ คุณหนูสามอย่าส่งข้าไปเลย ข้าจะไปซื้อเต้าหู้แล้ว” พี่สะใภ้ของอาจูโพล่งออกมาด้วยความร้อนรน
เฉียวเจายิ้มแล้ว “ซื้อเต้าหู้ทีเดียวได้เงินหีบหนึ่ง ดูทีว่าพี่สะใภ้เสียงยังรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะคุ้มค่านะ”
นางหัวเราะแห้งๆ รอซื้อเต้าหู้เสร็จแล้วนางเอาเงินหนีไปซ่อนตัวไกลๆ ไม่ให้คนผู้นั้นตามพบอย่างเด็ดขาดทันที!
“แน่นอนว่าแค่ซื้อเต้าหู้ก็คิดจะเอาเงินทั้งหีบนี้น่ะไม่ได้หรอก พรุ่งนี้ยังต้องให้เจ้าไปที่ร้านบะหมี่สกุลจางด้วย”
“คุณหนูสาม ข้า…”
“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะส่งคนตามไปคุ้มครองเจ้า” เฉียวเจาบอกกล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ “คนที่คุ้มครองเจ้าเป็นยอดฝีมือใต้อาณัติของกวนจวินโหว เคยติดตามกวนจวินโหวเข้าสมรภูมิรบสังหารชาวต๋าจื่อนับไม่ถ้วน รับมือคนผู้นั้นได้อย่างสบายมือ ดังนั้นเจ้าวางใจเรื่องความปลอดภัยได้เต็มที่”
พอเห็นอีกฝ่ายยังทำหน้าลังเลใจ สีหน้าของเฉียวเจาก็ขรึมลง นางกล่าวเสียงเย็นๆ “พี่สะใภ้เสียง หรือเจ้านึกว่าเมื่อมอบสร้อยประคำข้อมือให้คนผู้นั้นไปแล้วจริงๆ เขาจะให้เงินเจ้า มิใช่สังหารคนปิดปาก”
พี่สะใภ้ของอาจูสั่นสะท้านไปทั้งตัว ตอนนี้นางถึงพยักหน้าอย่างยอมรับชะตากรรมโดยสิ้นเชิง “ข้าจะทำตามที่คุณหนูสามสั่งทุกอย่างเจ้าค่ะ ขอแค่ท่านอย่าให้คนผู้นั้นตามหาครอบครัวของพวกข้าพบเท่านั้นเป็นพอ”
“เจ้าสบายใจได้ ต่อให้ข้าไม่สนใจความเป็นความตายของเจ้า แต่ยังมีพี่ชายกับหลานชายของอาจูนะ” เฉียวเจาเห็นนางยอมสยบอย่างราบคาบแล้ว ถึงผงกศีรษะกับอาจู “อาจู ออกไปกับพี่สะใภ้ของเจ้าเถอะ”
พอบอกให้พี่สะใภ้ของอาจูออกไปแล้ว เฉียวเจาสั่งให้ปิงลวี่ไปตามเฉินกวงมา
“อะไรนะ คุณหนูสามจะไปพบกับคนที่อยากขโมยสร้อยลูกประคำของท่านวันพรุ่งนี้หรือขอรับ”
“ใช่ เรื่องนี้ไม่ง่ายดายอย่างที่เห็นเด็ดขาด ข้าสงสัยว่าคดีนองเลือดในอารามซูอิ่งครั้งนั้นรวมถึงการลักพาตัวอู๋เหมยซือไท่ล้วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”
ในใจนางมีข้อกังขาเกี่ยวกับสร้อยประคำไม้กฤษณาหายากล้ำค่าที่อู๋เหมยซือไท่มอบให้เส้นนี้มานานแล้ว ทว่าขบคิดต้นสายปลายเหตุของมันไม่ออกเรื่อยมา บัดนี้กลับคาดเดาได้หลายส่วนแล้ว
สร้อยประคำข้อมือเส้นนี้ต้องมีความลับอะไรอยู่เป็นแน่แท้!
รัชศกหมิงคังปีที่ห้าแฝงปริศนาชาติกำเนิดของเซ่าหมิงยวนไว้ เช่นนั้นอู๋เหมยซือไท่ซึ่งเคยลงเขาไปในปีเดียวกันนั้นยังมีความลับใดเล่า
คนที่บงการพี่สะใภ้ของอาจูให้มาขโมยสร้อยลูกประคำผู้นั้นน่าจะเป็นเบาะแสเล็กๆ ที่ไขปัญหาซึ่งเปรียบดังเชือกที่พันกันยุ่งกองนี้ได้ นางต้องถามให้รู้เรื่อง
“คุณหนูสาม ในเมื่อเรื่องนี้พัวพันในวงกว้างขนาดนี้ ท่านอย่าเข้าไปเสี่ยงอันตรายจะดีกว่า พรุ่งนี้ข้าไปที่ร้านบะหมี่สกุลจางแห่งนั้นแล้วพาคนกลับมาให้ท่านเป็นอันสิ้นเรื่องขอรับ”