หวนคืนอีกครา สู่ห้วงเวลาแสนงาม - บทที่ 691
บทที่ 691
นี่มันอะไรกัน นอกจากข้าแล้วยังมีคนอื่นเคาะหน้าต่างของเจาเจาด้วยหรือนี่
เซ่าหมิงยวนมองเฉียวเจาปราดหนึ่งทันที
เสียงเคาะหน้าต่างรัวเร็วขึ้น คล้ายว่าคนข้างนอกชักร้อนใจที่ไม่ได้รับเสียงตอบ
เซ่าหมิงยวนเดินฉับๆ ไปยื่นมือเปิดหน้าต่างออก
“คุณหนูสาม…” ชั่วพริบตาที่เห็นเซ่าหมิงยวน เฉินกวงตัวเซไปวูบหนึ่งจนต้องรีบเกาะขอบหน้าต่างไว้ถึงไม่ล้มคะมำไป เขาพูดติดอ่าง “ทะ…ท่านแม่ทัพ…ท่านมาได้อย่างไรขอรับ”
เซ่าหมิงยวนเหยียดมุมปากทำหน้าตาเฉยเมย “นั่นสิ ถ้าข้าไม่มา จะพบเจ้าได้อย่างไรเล่า”
เฉินกวงเกาะขอบหน้าต่างไว้แทบหลั่งน้ำตานองหน้า “ท่านแม่ทัพ ท่านอย่าทำให้ข้าตกใจเสียขวัญสิขอรับ ข้าเป็นคนใจเสาะ ทนรับไม่ไหว…”
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะอะไรท่านแม่ทัพที่เคารพถึงมาอยู่ในห้องคุณหนูสาม
แย่แล้วๆ ไหน้ำส้มใบใหญ่แตกโพละแล้ว ท่านแม่ทัพในตอนนี้ข้าจะตอแยมิได้
เฉินกวงส่งสายตาละห้อยไปขอความช่วยเหลือจากเฉียวเจา
เซ่าหมิงยวนเห็นดังนั้นก็โกรธจนควันออกหู
ต่อหน้าข้ายังกล้าแอบเล่นหูเล่นตากับเจาเจา เจ้าหนุ่มบัดซบผู้นี้ชักผยองลืมตัวแล้วใช่หรือไม่
“ถิงเฉวียน ข้าสั่งให้เฉินกวงมาเอง” เฉียวเจากระตุกแขนเสื้อเขาเบาๆ
ชายหนุ่มหันหน้าไป สุ้มเสียงอ่อนโยนดังเก่า “พบเจอปัญหาใดหรือ”
“เรื่องนี้ต้องเท้าความกันยาว…”
เซ่าหมิงยวนนั่งลงยื่นมือไปดึงนางมานั่งตักตนเอง
อยู่ต่อหน้าเฉินกวง ทำแบบนี้จะไม่ให้เฉียวเจากระดากใจได้เช่นไร นางรีบลุกขึ้นยืน
“ไหนบอกว่าต้องเท้าความกันยาวมิใช่หรือ นั่งลงค่อยๆ เล่า” เขาดึงนางนั่งลงอีกครั้ง
เฉียวเจากระอักกระอ่วนสุดจะกล่าว นางส่งเสียงเรียกต่ำๆ เป็นเชิงเตือน “เซ่าหมิงยวน!”
เฉินกวงเบนหน้าไปอีกทางเงียบๆ รำพึงในใจ คุณหนูสาม ขอร้องล่ะท่านรีบนั่งลงเถอะ ขืนท่านไม่นั่งลงอีก ข้าคงต้องคุกเข่าลงแล้วนะ!
ครั้นเห็นเฉียวเจาหน้าแดงก่ำ สุดท้ายเขาหักใจให้นางลำบากใจไม่ได้ ลากเก้าอี้มาให้นางนั่งลงแล้วเผยรอยยิ้มแจ่มกระจ่าง “เจ้าเล่าเถอะ ข้าฟังจบแล้วยังต้องเร่งเดินทางนะ”
“เรื่องทางนี้ข้าสะสางได้ ท่านไม่ต้องวุ่นวายใจ รีบกลับไปเถอะ”
เซ่าหมิงยวนยกยิ้ม “เจ้าจะให้ข้ากลับไปอย่างกังวลใจหรือ”
เฉียวเจาคับใจเสียแล้ว
เขากำลังเข้าสู่สมรภูมิรบ นางย่อมต้องให้เขากลับค่ายทหารไปพร้อมกับความพะวักพะวนไม่ได้แน่นอน
นางบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดคร่าวๆ รอบหนึ่ง
“จับเป็นมาได้แล้วหรือ” เซ่าหมิงยวนเอ่ยถามเฉินกวง
เฉินกวงพยักหน้าตอบ “ข้าตีหัวเขาสลบไป ตอนนี้นอนอยู่ตรงใต้หน้าต่างขอรับ”
เซ่าหมิงยวนมององครักษ์น้อยพลางเลิกคิ้วยิ้มเย็นๆ
ดีมาก ที่แท้เจ้าหนุ่มบัดซบผู้นี้ไม่ได้ปีนหน้าต่างคนเดียว ยังพาคนมาอีกคนด้วย!
แม้นจะรู้ว่าเป็นเรื่องงาน แต่ไม่ว่าเป็นบุรุษคนใดก็ตามเห็นบุรุษอื่นปรากฏตัวอยู่ในห้องส่วนตัวของคู่หมั้นตนตอนดึกดื่นค่ำคืน ล้วนต้องรู้สึกหึงหวงปนเสียดแทงใจเป็นพิเศษ เซ่าหมิงยวนย่อมมิใช่ข้อยกเว้นเป็นธรรมดา
อดทนไว้ จะให้เจาเจารู้สึกว่าข้าใจแคบไม่ได้ ถึงอย่างไรยังมีเวลาถมเถไป วันหลังค่อยคิดบัญชีก็ยังไม่สาย
เฉินกวงทำคอตกอย่างสิ้นหวัง
จบเห่แล้ว คุณหนูสามท่านต้องรับผิดชอบข้าด้วยนะ ข้ายังไม่ได้ตบแต่งภรรยาเลย น่าสงสารยิ่งนัก!
“พาเข้ามาเถอะ” เซ่าหมิงยวนกล่าวเสียงเรียบ
“ขอรับ” เฉินกวงรีบปีนหน้าต่างออกไปเหมือนได้รับอภัยโทษก็ไม่ปาน ชั่วครู่ต่อมาก็แบกคนผู้หนึ่งกระโดดเข้ามาทางหน้าต่าง
“ท่านแม่ทัพ คุณหนูสาม คนที่ไปฆ่าคนปิดปากที่เรือนของพี่สะใภ้อาจูวันนี้ก็คือคนผู้นี้ขอรับ ข้ากลัวเขาจะฆ่าตัวตายเลยแอบดักตีหัวเขาในที่มืดขอรับ”
เซ่าหมิงยวนก้มตัวไปตรวจดู “ดึงกรามออกหรือ”
“ใช่ขอรับ จะได้ไม่ให้เขากัดฟันซี่ที่ซ่อนยาพิษไว้หรือกัดลิ้นฆ่าตัวตาย”
เฉียวเจาหยิบเชิงเทียนมายัดใส่มือเฉินกวง “ถือเอาไว้ส่องแสงให้ข้า”
เซ่าหมิงยวนชายตามองเขาแวบหนึ่ง
“ท่านแม่ทัพ ท่านจะถือหรือไม่ขอรับ” เฉินกวงยื่นเชิงเทียนส่งให้ผู้เป็นนายด้วยสีหน้าประจบประแจง
“คุณหนูสามให้เจ้าถือ เจ้าก็ถือสิ จะพูดพล่ามอะไรให้มากนักหนา”
องครักษ์น้อยน้ำตาตกเงียบๆ
เป็นข้ามันง่ายดายนักหรือ เพื่อให้ท่านแม่ทัพได้ตบแต่งภรรยา ขันอาสามาเป็นสารถีให้คุณหนู ซ้ำยังช่วยชี้แนะท่านแม่ทัพว่าต้องตามเกี้ยวสาวเจ้าให้มาเป็นภรรยาได้อย่างไร แต่ท้ายที่สุดท่านแม่ทัพยังคิดจะเอาชีวิตข้าอีก!
ท่านแม่ทัพขอรับ จะทำคุณบูชาโทษเยี่ยงนี้มิได้นะ
เฉินกวงยืนถือเชิงเทียนด้วยหน้าตาหมดอาลัยตายอยาก
เฉียวเจาเอ่ยเตือนขึ้นว่า “เข้ามาใกล้ขึ้น”
เมื่อแสงสว่างมากพอ เฉียวเจาเห็นรูปพรรณสัณฐานของคนผู้นั้นได้ชัดถนัดตาแล้ว นางยื่นมือไปดันปลายคางเขา แต่พบว่ามันไม่ขยับเลย นางจำต้องเอ่ยขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่ม “ถิงเฉวียน ช่วยง้างปากเขาให้ข้าที”
เซ่าหมิงยวนยื่นนิ้วมือสองนิ้วไปงัดปากของคนผู้นั้นให้อ้าออกอย่างคล่องแคล่ว
เฉียวเจาหยิบที่คีบซึ่งเตรียมไว้แต่แรกมาคีบกระเปาะพิษในปากคนผู้นั้นออกมา นางเดินกลับไปที่ข้างโต๊ะหนังสือเอามันวางลงบนจานกระเบื้อง จากนั้นใช้เข็มเงินแทงกระเปาะให้แตกแล้วก้มหน้าลงดมกลิ่น
“เป็นอย่างไรบ้าง” เซ่าหมิงยวนเดินไปหานาง
เฉียวเจาเงยหน้ามองเขา “ยังจำคนที่ลักพาตัวอู๋เหมยซือไท่ได้หรือไม่ หลังเขากัดฟันที่ซ่อนพิษไว้ฆ่าตัวตาย ข้าเคยตรวจสอบฟันพิษซี่นั้นมิใช่หรือ พิษที่อยู่ในฟันของสองคนนี้เป็นชนิดเดียวกัน”
“แมงมุมหมาป่านารีที่พบแต่ในเขตแดนหลิ่งหนานหรือ”
เฉียวเจาผงกศีรษะ “ใช่ กลิ่นของพิษชนิดนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ข้าเคยได้ดมครั้งหนึ่งก็ไม่มีวันลืม”
เซ่าหมิงยวนหันไปมองคนที่สลบไสลไม่ได้สติอยู่ “นี่แสดงว่าพวกเขาเป็นคนกลุ่มเดียวกัน จึงเป็นไปได้มากว่าผู้ทรงอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังมีส่วนเกี่ยวข้องกับซู่อ๋องที่ก่อกบฏในรัชศกหมิงคังปีที่ห้า”
“ข้าคาดคะเนไว้เช่นนี้เหมือนกัน ถิงเฉวียน ท่านรอสักครู่” เฉียวเจาเดินฉับๆ ตัดผ่านโถงกั้นไปที่ฝั่งขวาของห้อง ไม่นานนักก็ย้อนกลับมาพร้อมกับสร้อยลูกประคำในมือ
นางเอามันยัดใส่มือเขา “ในเมื่ออีกฝ่ายใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สร้อยลูกประคำเส้นนี้ ข้าจะไม่ให้พวกเขาสมหวังเสียอย่าง เรือนข้าเล็กไม่เหมาะจะซ่อนของ ถิงเฉวียน ท่านช่วยเก็บรักษามันไว้ให้ข้าเถอะ”
เซ่าหมิงยวนชั่งใจนิดหนึ่งก่อนสอดสร้อยลูกประคำเก็บไว้ในอกเสื้อ
“ยังมีสิ่งนี้ด้วย” เฉียวเจายื่นพู่แดงส่งให้เขา นางตวัดตามองเฉินกวงอย่างฉับไวแล้วเอ่ยบอก “ข้าถักเอง ถ้าท่านไม่ติว่ามันน่าเกลียดก็ห้อยไว้เถอะ”
ดวงตาของชายหนุ่มฉายแววตื่นเต้นดีใจ “บนหมวกเกราะของข้ายังโล่งโจ้งอยู่ตลอด กลับไปแล้วจะห้อยติดไว้เลย ฮ่าๆๆ ข้าไม่ติว่าน่าเกลียดแน่นอน ขอแค่เจ้าเป็นคนถัก จะน่าเกลียดปานใดข้าก็ชมชอบ”
“น่าเกลียดขนาดนั้นจริงๆ หรือ” เฉียวเจาทำหน้าปึ่งชา
รอยยิ้มบนหน้าเซ่าหมิงยวนนิ่งค้างไป
เฉินกวงกลอกตาขึ้นเงียบๆ ท่านแม่ทัพ ท่านโง่งมใช่หรือไม่ พูดความจริงส่งเดชได้หรือไร!
“ก็ไม่ได้น่าเกลียดขนาดนั้น” เซ่าหมิงยวนรีบพูดกู้สถานการณ์
“ก็แสดงว่ายังน่าเกลียดอยู่ดีสินะ”
เซ่าหมิงยวนส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากเฉินกวง
องครักษ์น้อยเบะปาก นี่เข้าตำราที่ว่าวิหคสิ้นเกาทัณฑ์ซ่อน กระต่ายม้วยย่างสุนัขอย่างแท้จริง เมื่อครู่ยังคิดจะเชือดข้าทิ้ง ตอนนี้อยากให้กุนซืออย่างข้าช่วยออกอุบายวางแผนให้อีกแล้ว
ดังนั้นถึงบอกว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนจะดีกว่า!
เฉินกวงกระแอมไอให้คอโล่งแล้วจะอ้าปากช่วยพูด เฉียวเจากลับหลุดหัวเราะพรืด “เอาล่ะ ไม่กระเซ้าท่านแล้ว รีบไปเถอะ อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย”
เซ่าหมิงยวนถอนใจโล่งอก เขาวาดแขนสวมกอดนาง “ถ้าอย่างนั้นข้าไปแล้วนะ เจ้าต้องระวังตัวด้วย พยายามออกจากเรือนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“อื้อ ข้ารู้แล้ว” เด็กสาวซุกซบกับแผงอกกว้างกำยำของชายหนุ่มอย่างน่ารักรู้ความเป็นพิเศษ
เฉินกวงปาดน้ำตาออก คุณหนูสาม ท่านไม่ให้ความร่วมมือกันบ้างเลย ข้าอุตส่าห์ทำงานให้ท่านมาโดยตลอดนะ กลับไม่แม้แต่จะให้โอกาสข้าได้ฉายรัศมี นี่คือเตรียมรอเก็บศพให้ข้าใช่หรือไม่
เซ่าหมิงยวนผละจากเฉียวเจามองไปทางเฉินกวง “คุ้มครองคุณหนูสามให้ดี อย่าให้ใครคนใดเล็ดลอดเข้าจวนสกุลหลีได้”
เฉินกวงยืดอกทันที “ท่านแม่ทัพ ท่านวางใจได้ ข้ารับรองว่าจะไม่ให้แมลงวันจากข้างนอกเข้ามาในสกุลหลีได้สักตัวเดียวขอรับ”
เซ่าหมิงยวนพยักหน้าแล้วเดินไปที่ริมหน้าต่าง เขาเหลียวหน้ามองเฉียวเจา “รอข้ากลับมานะ”