หวนแค้นชะตารัก - ตอนที่ 522 รับอาหลานเป็นองครักษ์ / ตอนที่ 523 ไม่มีอะไรต่างกัน
ตอนที่ 522 รับอาหลานเป็นองครักษ์
วงการนักเลง ให้ความสำคัญกับคุณธรรมที่สุด คุณหนูเผยช่วยชีวิตข้า ชีวิตข้าก็เป็นของคุณหนูเผย ในเมื่อเป็นคำสั่งของคุณหนูเผย ข้าต้องปฏิบัติตาม”
ซูจิ่วซือพูดช้าๆ สีหน้าอ่อนโยนลงมาก “รอให้ทุกอย่างจบแล้ว เจ้าอยากกลับเข้าวงการนักเลงข้าก็ไม่ห้าม เจ้าจะไปเมื่อไรก็ได้ ข้าไม่บังคับ”
อาหลานรู้สึกประหลาดใจ ตอนมานางเตรียมไว้แล้วว่าจะอยู่กับซูจิ่วซือไปตลอดชีวิต นึกไม่ถึงว่าซูจิ่วซือจะยอมปล่อยนางไป
พอเห็นอาหลานประหลาดใจ ซูจิ่วซือก็ยิ้ม “เวลานี้ข้าต้องการคนอย่างเจ้ามาอยู่ใกล้ชิดจริงๆ เจ้าอยู่กับข้าดีแล้ว เรื่องวันหลังไม่บังคับเจ้า”
“ขอบใจคุณหนูมู่”
ใบหน้าของอาหลานซึ่งเดิมทีไร้ความรู้สึกเผยความดีใจที่สังเกตได้ยาก ซูจิ่วซือมองเห็นอย่างชัดเจน
ว่ากันว่าคนวงการนักเลงรักอิสระ ซูจิ่วซือไม่เคยอยู่ในวงการนักเลง ตั้งแต่เล็กก็อยู่ในตระกูลใหญ่ คุ้นเคยกับชีวิตอย่างนี้
อิสระของนางก็คือการแต่งงานกับคนที่นางอยากแต่งงานด้วย อยู่กับเขาไปตลอดชีวิต สำหรับนางแล้วนี่เป็นอิสระที่สำคัญที่สุด
สำหรับอาหลาน ซูจิ่วซือพอใจ ดูลักษณะเป็นคนหนักแน่น จื่อหลานก็เป็นคนหนักแน่น แต่นางให้จื่อหลานอยู่รับใช้ซูเหิง ปิงซินเองก็ใช้ได้ แต่ถ้าเทียบกับจื่อหลานก็ยังด้อยกว่า
นางต้องการองครักษ์ ยิ่งเวลานี้สถานการณ์ซับซ้อน อันตรายรอบด้าน เมื่อมีอาหลานนางจึงพอใจ
“ปิงซิน เจ้าพาอาหลานไปที่ห้องก่อน ทำความคุ้นเคยกับจวนตระกูลมู่ให้ดี”
“ได้ อาหลาน ตามข้ามา มาถึงเรือนหวนคะนึงแล้วไม่ต้องเกรงใจ ต่อไปที่นี่คือบ้านของเจ้า คุณหนูเป็นคนใจดี ดูแลพวกเราดี เจ้าไม่ต้องกลัว มีอะไรก็มาหาข้าได้”
ปิงซินยิ้มให้อาหลานอย่างเมตตา พาอาหลานออกไป
คำพูดของปิงซินทำให้อาหลานสบายใจขึ้น นางเพิ่งมาตูเฉิงยังวิตกอยู่บ้าง เคยได้ยินว่าคนตระกูลใหญ่ไม่น่าใกล้ชิด ความคิดซับซ้อน
แม้ว่าเผยปิงปิงจะบอกนางครั้งแล้วครั้งเล่า ซูจิ่วซือไม่ใช่คนอย่างนั้น ในใจนางก็ยังคงไม่ยินยอม ถ้าไม่ได้รับปากเผยปิงปิงไว้ นางไม่มีวันมาบ้านตระกูลใหญ่แน่
คนวงการนักเลงสามารถไปไหนมาไหนอย่างอิสระ บ้านตระกูลใหญ่มีแบบแผนมาก สำหรับนางแล้วเป็นการจำกัดอิสรภาพ
รอยยิ้มของปิงซินทำให้อาหลานหายวิตก นางโล่งอก จึงยิ้มให้ปิงซิน พี่สาวคนนี้เป็นเหมือนที่เผยปิงปิงกับกู้หลียวนพูดไว้ นางไม่เหมือนคนอื่น
ห้องหนังสือจวนซิ่นอ๋อง
ฟู่เยว่อี้ยืนหันหน้าให้ฟู่จิ่ง ฟู่จิ่งเอนพิงเก้าอี้ ใบหน้าโกรธเกรี้ยว สองมือเคาะโต๊ะโดยไม่รู้ตัว ฟู่เยว่อี้เริ่มเครียด นางเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนางในตระกูลเฟิงให้เขาฟังโดยไม่กลัวเสียหน้า
นางเล่าให้ฟู่จิ่งฟังด้วยจุดหมายประการเดียว คือให้นางออกไปจากตระกูลเฟิงตอนนี้ นางไม่อยากกลับไปอีก ขอแต่ให้ฟู่จิ่งพยักหน้ารับ แม้นางไม่กลับตระกูลเฟิง คนตระกูลเฟิงก็ไม่กล้าว่าอะไร
นางสามารถอยู่ในตระกูลฟู่ได้อย่างเปิดเผย แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่นางไม่ใส่ใจ เทียบกับเหตุการณ์ที่ประสบในตระกูลเฟิง เสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่มีความหมาย
ฟู่จิ่งไม่พูดไม่จา นางเองรู้สึกวิตก ไม่รู้ว่าฟู่จิ่งจะพูดอย่างไร ฟู่จิ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของนาง เป็นไปไม่ได้ที่จะไร้น้ำใจกับนางอย่างนี้ นางปลอบใจตัวเองตลอดเวลา
“เยว่อี้…” ในที่สุดฟู่จิ่งก็เอ่ยปากพูด
ฟู่เยว่อี้พยักหน้า มองฟู่จิ่งด้วยสายตาคาดหวัง รอให้ฟู่จิ่งพยักหน้ารับ บอกนางว่าจวนซิ่นอ๋องจะปกป้องนาง
ตอนที่ 523 ไม่มีอะไรต่างกัน
“เจ้ากลับไปตระกูลเฟิงก่อนเถอะ!”
“ท่านพ่อ ท่านพ่อ…รู้อยู่แล้วว่าเฟิงเยว่ทำกับข้าอย่างไร ยังจะให้ข้ากลับตระกูลเฟิง?”
ฟู่เยว่อี้เบิ่งตากว้าง เกือบนึกว่าตนฟังผิด ความหวังในดวงตามลายทันที ความผิดหวังอย่างรุนแรงครอบงำหัวใจ ทั้งๆ ที่รู้ว่านั่นเป็นกองเพลิง บิดาของนางก็ยังผลักนางเข้าไป
“เวลานี้เจ้าเสียความบริสุทธิ์แล้ว เป็นคนของตระกูลเฟิง ไม่มีเหตุผลสมควรที่จะอยู่จวนซิ่นอ๋อง
เยว่อี้ ข้ารู้ว่าทำอย่างนี้เจ้าจะลำบากใจ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เรายังต้องเดินหน้าต่อ เฟิงซุนเป็นลุงของเฟิงเยว่ เจ้าชนะใจเฟิงซุนได้ก็ดี จะได้อาศัยเฟิงซุนมาทำลายตระกูลเฟิงให้ย่อยยับ เจ้าเป็นคนฉลาด ถ้าใส่ใจจริงๆ ต้องทำได้แน่
ข้ายังยืนยันคำเดิม หลายปีมานี้เจ้าลำบากหน่อย ถ้างานสำเร็จ พ่อจะชดเชยให้เจ้า พอถึงตอนนั้นจะรับเจ้าออกจากตระกูลเฟิง ผู้ชายทั่วแคว้นเจียงเจ้าเลือกตามสบาย อยากแต่งงานกับใครก็ได้”
ฟู่จิ่งยังคงเตือนต่อไป อยากให้ฟู่เยว่อี้อดทน
ฟู่เยว่อี้มาด้วยความหวัง เวลานี้กลับสิ้นหวัง
นางนึกถึงจูอวี้ซิ่วขึ้นมาทันที ที่ผ่านมานางนึกว่าตัวเองไม่เหมือนจูอวี้ซิ่ว พอถึงตอนนี้จู่ๆ ก็เข้าใจทันที นางกับจูอวี้ซิ่วไม่มีอะไรต่างกัน ในสายตาของท่านพ่อ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือตำแหน่งนั่น
นางรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจการตัดสินเด็ดขาดของจูอวี้ซิ่ว ความรู้สึกที่ถูกคนในครอบครัวทอดทิ้งช่างเจ็บปวดจริงๆ
นางสะกดความรู้สึกปวดร้าวในใจ ย้อนถาม “ท่านพ่อ ข้าเป็นลูกสาวของท่านพ่อ ไม่ใช่นางบำเรอในซ่องนางโลม ท่านพ่อให้ข้าปรนนิบัติเฟิงซุนต่อไป ท่านพ่อนึกถึงความรู้สึกของข้าหรือไม่ ในฐานะเป็นองค์หญิง ข้าจะทำเรื่องน่าละอายอย่างนี้ได้อย่างไร”
“เจ้าแค่รับมือกับเฟิงซุนคนเดียวเท่านั้น เยว่อี้ ทำการใหญ่ต้องเสียสละ ข้ารู้ว่าเจ้าลำบากใจ แต่บางเรื่องก็ต้องทำต่อไป ไม่งั้นที่ทำมาก็สูญเปล่า
เยว่อี้ เจ้ารู้สถานการณ์มาตลอด ครั้งนี้ทำไมจึงเลอะเลือน เจ้าเป็นคนจวนซิ่นอ๋อง ในทางเปิดเผยพวกเขาไม่อาจทำอะไรเจ้าได้ และไม่กล้าทำอะไรเจ้า ในเมื่อเจ้าเสียความบริสุทธิ์แล้ว ก็ต้องก้าวต่อไป”
ฟู่เยว่อี้แทบยืนไม่ติด นางถอยหลังก้าวหนึ่ง สั่นหัวอย่างหนักแน่น “ข้าไม่มีวันกลับไปตระกูลเฟิงแน่ ท่านพ่อ การเสียสละอย่างนี้ข้าทำไม่ไหว ถ้าท่านพ่อบังคับข้า ก็ฆ่าข้าเสียเถอะ”
ฟู่จิ่งผุดลุกขึ้น เดินมาหาฟู่เยว่อี้ “เรื่องนี้เราตกลงกันไว้แล้ว เวลานี้จะเปลี่ยนใจภายหลังไม่เป็นผลดีต่อเราเลย เยว่อี้ ถือเสียว่าเจ้าแต่งงานกับเฟิงซุน”
ฟู่เยว่อี้กัดริมฝีปากไม่พูดไม่จา ชั่วขณะนี้ นางสิ้นหวังในตัวฟู่จิ่งอย่างสิ้นเชิง นึกไม่ถึงว่าฟู่จิ่งจะให้นางกลับตระกูลเฟิงอย่างไม่ลังเล และให้นางปรนนิบัติเฟิงซุนต่อไป…
แต่นางเป็นลูกสาวของเขา เขาไร้น้ำใจกับนางอย่างนี้ได้อย่างไร
พอเห็นฟู่เยว่อี้ไม่พูดไม่จา ฟู่จิ่งแม้จะโกรธ แต่รู้ว่าไม่อาจบีบคั้นมากเกินไป เขายังต้องการลูกสาวคนนี้ เขาอยากยื่นมือไปลูบไหล่ฟู่เยว่อี้ แต่ฟู่เยว่อี้หลบ
“เยว่อี้ เจ้ากลับห้องไปคิดให้ดี ก่อนฟ้ามืดข้าจะให้คนพาเจ้ากลับตระกูลเฟิง เจ้าเป็นคนฉลาดรู้จักสถานการณ์ ต้องไม่ทำให้งานใหญ่เสียหาย
วันหลังข้าจะชดเชยให้เจ้า เจ้าเป็นลูกสาวคนโตของข้า ข้าไม่อาจทนเห็นเจ้าลำบากใจอย่างนี้ แต่บางครั้งเราต้องรู้จักอดทน ถ้าสำเร็จแล้ว ให้เจ้าเป็นคนจัดการเฟิงซินเอง”
“ลูกขอลาก่อน”
ฟู่เยว่อี้คารวะ แล้วออกไปจากห้องหนังสือฟู่จิ่งอย่างรวดเร็ว พอพ้นจากห้องหนังสือ ฟู่เยว่อี้ก็เกือบยืนไม่ติด นางจับเสาทางเดินไว้ เหม่ยพ่านอยู่ข้างหลังจะเข้ามาประคอง นางก็ไม่ยอมให้ช่วย