หวนแค้นชะตารัก - ตอนที่ 524 หัวใจที่ชาด้าน / ตอนที่ 525 ต่อไปจะมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง
- Home
- หวนแค้นชะตารัก
- ตอนที่ 524 หัวใจที่ชาด้าน / ตอนที่ 525 ต่อไปจะมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง
ตอนที่ 524 หัวใจที่ชาด้าน
พักครู่หนึ่ง ฟู่เยว่อี้ก็เดินโซเซกลับไปห้องที่เคยอยู่ เหม่ยพ่านรีบตามไป
นางไม่รู้ว่าฟู่เยว่อี้กับฟู่จิ่งพูดคุยกันอย่างไร รู้แต่ว่าไม่เคยเห็นฟู่เยว่อี้ย่ำแย่อย่างนี้มาก่อน ราวกับมีอะไรบางอย่างดูดพลังในตัวไปหมด แม้แต่ยืนยังยืนไม่ติด
พอฟู่เยว่อี้ไปแล้ว ฟู่จิ่งก็รู้สึกปวดหัว เขายังอยากพูดหว่านล้อมลูกสาวต่อ
“ไปเรียกพระชายามานี่”
ฟู่จิ่งสั่ง
ในเมื่อไม่ยอมฟังคำพูดของเขา ก็ให้พระชายาไปเตือนฟู่เยว่อี้ ผู้หญิงเหมือนกัน บางเรื่องให้พระชายาพูดจะดีกว่า หมากตานี้เดินมาถึงขั้นนี้แล้ว เขายังอยากเดินต่อ ไม่มีวันล้มเลิกแน่
แม้เป็นลูกสาวของเขาเองก็ต้องเล่นต่อไป ในสายตาของเขาฟู่เยว่อี้เพียงแต่ลำบากใจบ้าง ความลำบากใจนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต ในเมื่อแต่งงานเป็นเมียคนอื่น ความบริสุทธิ์ไม่ใช่เรื่องสำคัญ งานใหญ่ของเขาต่างหากที่สำคัญที่สุด
วันหลังเขาค่อยชดเชยให้ เขาจะแต่งตั้งนางเป็นองค์หญิง กลายเป็นองค์หญิงผู้สูงส่งที่สุดในแคว้นเจียง เมื่อมีอำนาจอยู่ในมือ ใครจะกล้ามาพูดถึงอดีตของฟู่เยว่อี้
ขณะที่ฟู่เยว่อี้ออกจากจวนซิ่นอ๋องนั้นฟ้ามืดแล้ว นางนึกไม่ถึงว่าเรื่องนี้ตอนบ่ายมารดาแท้ๆ ก็มาเตือนนาง ยืนอยู่บนจุดยืนของบิดา นางไม่ได้โต้แย้งใดๆ เหมือนเชื่อฟังคำพูดของคนทั้งสอง พอฟ้ามืดก็ออกจากจวนซิ่นอ๋องไม่พูดไม่จา หัวใจของนางชาด้านแล้ว
บิดาเป็นอย่างนี้ มารดาก็เป็นอย่างนี้ นางอยากถามคนทั้งสอง ในใจของพวกเขา นางเป็นอะไรกันแน่
รถม้ามาได้ครึ่งทาง จู่ๆ ฟู่เยว่อี้ก็ให้รถม้าหยุด เหม่ยพ่านกำลังว้าวุ่น พอเห็นฟู่เยว่อี้ให้รถม้าหยุดกระทันหัน ก็ถามด้วยความสงสัย “องค์หญิง มีอะไรหรือ?”
“อย่าเพิ่งกลับตระกูลเฟิง ไปจวนตระกูลมู่ก่อน”
“องค์หญิง องค์หญิง…”
“ไม่ต้องถามมาก”
เหม่ยพ่านไม่กล้าถามอีก รีบสั่งคนขับรถม้าให้ไปจวนตระกูลมู่ ฟู่เยว่อี้จับผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น จวนซิ่นอ๋องไม่ใส่ใจ นางจะไม่ไปจวนซิ่นอ๋องอีก เรื่องนี้ต้องอาศัยตัวเอง ถึงอย่างไร นางไม่มีวันกลับตระกูลเฟิงแน่ ไม่มีวันให้คนตระกูลเฟิงย่ำยีนางอีก
ทนรับการข่มเหงไม่ใช่คนอย่างนางจะทำได้ โดยเฉพาะเรื่องอย่างนั้น นางทำไม่ได้
ซูจิ่วซือกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องหนังสือ จู่ๆ ปิงซินก็เข้ามารายงาน “คุณหนู องค์หญิงจวนซิ่นอ๋องมาหา”
พอได้ยินว่าฟู่เยว่อี้มา ซูจิ่วซือก็รู้สึกคาดไม่ถึง รีบวางหนังสือในมือ ค่ำแล้ว ฟู่เยว่อี้มาหาตน เป็นครั้งแรกที่ฟู่เยว่อี้มาหา
ดูแล้วนางคงอยู่ในตระกูลเฟิงไม่มีความสุข ทำให้นางรีบกลับจวนซิ่นอ๋อง
ฟู่เยว่อี้มีจุดหมายอย่างไร นางอยากรู้มาก แม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ตระกูลเฟิง แต่นางรู้ว่าฟู่เยว่อี้มาคราวนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลเฟิงแน่
“ต้อนรับให้ดี ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
ซูจิ่วซือขานรับ ให้ปิงซินช่วยแต่งหน้า แล้วจึงไปห้องโถงใหญ่เรือนคะนึงหา ฟู่เยว่อี้รออยู่ที่นั่น
พอเห็นซูจิ่วซือเข้ามา ฟู่เยว่อี้ซึ่งเหม่ออยู่ก็พยายามทำตัวให้สดชื่น แม้ปกปิดเต็มที่แล้ว ก็ยังดูออกว่าเวลานี้นางย่ำแย่จริงๆ
ซูจิ่วซือพยักหน้าให้ฟู่เยว่อี้ “ฮูหยินเฟิง ขออภัย ค่ำแล้ว ข้าพักผ่อนเร็ว กำลังพักอยู่ ทำให้รอนาน”
คำเรียกฮูหยินเฟิงเสียดหูฟู่เยว่อี้มาก พอได้ยินคนอื่นเรียกตนว่าฮูหยินเฟิงนางก็นึกถึงเรื่องเมื่อคืน ความทรงจำที่เลวร้ายประดังเข้ามาในสมอง นางพยายามสะกดอารมณอย่างเต็มที่
ตอนที่ 525 ต่อไปจะมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง
“คุณหนูมู่เรียกข้าว่าองค์หญิงอย่างเมื่อก่อนเถอะ!” วันนี้ข้ามาเพราะอยากร่วมมือกับคุณหนูมู่ทำอะไรอย่างหนึ่ง”
เดิมทีนางกับฟู่เยว่อี้เป็นคู่ปรับกัน ไม่อาจร่วมมือกันได้ แต่เวลานี้ฟู่เยว่อี้กลับมาขอร่วมมือ มีความเป็นไปได้เพียงสองทาง
คือหมดหนทาง หรือเป็นกับดัก จากสภาพเวลานี้ นางคิดว่าฟู่เยว่อี้น่าจะหมดหนทางแล้ว นางเคยเจอเฟิงเยว่ รู้สึกว่าเขาไม่น่าจะใจดีกับฟู่เยว่อี้
ฟู่เยว่อี้ชะงักเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “การตายของพี่ใหญ่ของข้าเกี่ยวข้องกับเจ้า การตายของพี่รองของเจ้าเกี่ยวข้องกับข้า เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นอันว่าเราไม่ติดค้างกัน ข้าไม่ติดใจ เจ้าเองก็ไม่ต้องติดใจ เดิมทีเราสองคนก็ไม่มีความแค้นต่อกัน เพียงแต่จุดยืนไม่เหมือนกัน ไม่เช่นนั้นเราอาจจะเป็นเพื่อนกัน
เวลานี้ข้ามาเจรจากับเจ้าเรื่องตระกูลเฟิง เราร่วมมือกันกำจัดตระกูลเฟิงเถอะ!
เจ้าต้องการแต่งงานไปอยู่วังตะวันออก เฟิงชิงสุ่ยคืออุปสรรคสำคัญสำหรับเจ้า เราสองคนร่วมมือกัน มีแต่จะเป็นผลดีต่อเจ้า เมื่อไม่มีตระกูลเฟิง เจ้าก็แต่งงานกับองค์รัชทายาทได้อย่างราบรื่น
ทั้งสองเคยปะทะกันไม่กี่ครั้ง ฟู่เยว่อี้ก็ยื่นมือมาจะร่วมมือกับนาง เป็นการร่วมมือเพื่อจัดการตระกูลเฟิง ซูจิ่วซือย่อมไม่รับปาก ไม่มีตระกูลเฟิง คนที่ได้ประโยชน์คือจวนซิ่นอ๋อง
“แม้มีตระกูลเฟิง ข้าก็แต่งงานไปอยู่วังตะวันออกได้ ตระกูลเฟิงไม่อาจขัดขวางข้าได้ องค์หญิงต้องการจัดการตระกูลเฟิงคงมาหาไม่ถูกคนแล้ว ข้ากับตระกูลเฟิงลงเรือลำเดียวกัน”
“เฟิงชิงสุ่ยเพียงแต่อยากช่วยรัชทายาท แต่ไม่เคยคิดจะลงเรือเดียวกับเจ้า นางต้องการชีวิตเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้าวิตกเรื่องอะไร ข้าจะจัดการตระกูลเฟิงไม่ใช่เพื่อจวนซิ่นอ๋อง แต่เพื่อตัวข้าเอง ตั้งแต่นี้ไปข้าไม่มีวันช่วยจวนซิ่นอ๋องอีก”
ฟู่เยว่อี้พยายามสะกดอารมณ์อย่างเต็มที่ ยังคงเผยให้เห็นการดิ้นรนและความเจ็บปวด “ไหนๆ ก็มาแล้ว ข้าไม่กลัวที่จะบอกเจ้า เมื่อคืนเฟิงเยว่ผลักข้าให้เฟิงซุน พวกเขาย่ำยีข้า ข้าไม่มีวันปล่อยคนตระกูลเฟิงแน่
ท่านพ่อท่านแม่ของข้าก็เหมือนกัน เรื่องนี้ ทั้งสองไม่ได้ยืนข้างเดียวกับข้า
หลายปีมานี้การทุ่มเทของข้าเพื่อจวนซิ่นอ๋องกลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะ ข้าไม่มีวันช่วยจวนซิ่นอ๋องอีก ต่อไปข้าจะอยู่เพื่อตัวเอง
แน่นอนคุณหนูมู่ไม่เชื่อข้าก็ได้ จะยอมเสี่ยงหรือไม่ขึ้นอยู่กับสายตาของเจ้า ถ้าคุณหนูมู่ยินดีเสี่ยง ข้าจะให้คุณหนูมู่สมความตั้งใจ”
ซูจิ่วซือรู้สึกประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่าตระกูลเฟิงจะย่ำยีฟู่เยว่อี้อย่างนี้ มิน่าฟู่เยว่อี้จึงกลับจวนซิ่นอ๋องในวันต่อมา นางคงคิดว่าบิดาจะปกป้องนาง
พอถึงเวลานี้ ฟู่เยว่อี้คงมองเห็นชัดเจนแล้วว่านางเองมีฐานะอย่างไรในใจของซิ่นอ๋อง
ซิ่นอ๋องทำอย่างนี้ซูจิ่วซือไม่รู้สึกประหลาดใจ เท่าที่นางรู้จักซิ่นอ๋อง ฟู่จิ่งเป็นคนที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุจุดหมาย เขาให้ลูกสาวแต่งงานกับเฟิงเยว่ เรื่องนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ใส่ใจความสุขของฟู่เยว่อี้
“ถ้าองค์หญิงแค้นเฟิงเยว่กับเฟิงซุน องค์หญิงก็หาโอกาสกำจัดคนทั้งสองได้ ไม่ต้องร่วมมือกับข้า”
ฟู่เยว่อี้รู้ว่าซูจิ่วซือเป็นคนฉลาด
ในเมื่อต้องการให้ซูจิ่วซือร่วมมือ นางจึงไม่อาจปิดบังจุดหมายของตัวเอง
การมาครั้งนี้ เดิมทีนางไม่คิดจะใช้เล่ห์กลกับซูจิ่วซือ แต่เป็นความคิดที่ผุดขึ้นมาในสมองทันที ในเมื่อจวนซิ่นอ๋องปกป้องนางไม่ได้ นางก็ต้องกำหนดอนาคตของตนเอง