หวนแค้นชะตารัก - ตอนที่ 532 เสบียงถูกปล้น / ตอนที่ 533 ฟู่เฉินหรงคนใหม่
ตอนที่ 532 เสบียงถูกปล้น
จางอิ่งยังไม่ทันพูดต่อฟู่จิ่งก็ตัดบท “เพื่อขัดขวางฟู่เฉินหรง หมากอันตรายตานี้ข้าจำเป็นต้องเดิน วันหลังค่อยจัดการกับซาหลัว รบแพ้ค่อยรบใหม่ภายหลัง
ถ้าฟู่เฉินหรงกลับมา โอกาสก็ไม่ย้อนกลับมาอีก ข้าไม่มีวันนิ่งเฉยมองดูฟู่เฉินหรงควบคุมกำลังทหาร คราวนี้เขาต้องไปไม่หวนกลับ ต้องรบแพ้ และไม่มีหน้ากลับมาอีก ใช้ความตายชดเชยความผิดจึงจะสาสม
จางอิ่ง เรื่องนี้มอบหมายให้เจ้าจัดการ เวลานี้ฟู่เฉินหรงมีเสบียงพออยู่ได้ครึ่งเดือน พ้นครึ่งเดือนไปแล้วเสบียงคงลำเลียงไปถึง
หากตัดการลำเลียง พวกมันคงตายแน่ ฟู่เฉินหรงออกรบครั้งแรก ถ้ากำลังใจทหารไม่ดี เขาไม่มีทางคุมทหารได้ ตอนนี้ปล่อยให้เขาพออกพอใจไปก่อน พอถึงตอนนั้นเรารอดูละครสนุกก็แล้วกัน”
พูดจบ ฟู่จิ่งก็เผยรอยยิ้มอำมหิตที่มุมปาก ฟู่เฉินหรงเอ๋ยฟู่เฉินหรง เจ้าจะต่อสู้กับข้า ยังอ่อนหัดเกินไป คิดหรือว่าเจ้าไปซาหลัวครั้งเดียวก็ยืนได้อย่างมั่นคง ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้หรือ
“ผู้น้อยเข้าใจความหมายของนายท่าน จะรีบสั่งการ”
จางอิ่งไม่กล้าพูดอะไร รีบรับปาก แล้วออกไปทันที
หลังจากนั้นทางฟู่เฉินหรงก็ส่งข่าวด่วนมาอย่างต่อเนื่อง เขาใช้เวลาห้าวันยึดเมืองเทียนเฉิงได้สำเร็จ ผู้คนทุกระดับในแคว้นเจียงตกตะลึง ทั้งในและนอกราชสำนักต่างยินดีทั่วหน้า
บรรดาขุนนางที่ไม่เห็นด้วยกับฟู่เฉินหรงพากันชมฟู่เฉินหรงไม่ขาดปาก ทุกคนนิ่งเงียบ เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ทั่วตูเฉิง ไม่ว่าคนชั้นสูงหรือราษฎรทั่วไปต่างเล่าขานเรื่องนี้ในยามว่าง
การบาดเจ็บในสนามรบหลีกเลี่ยงได้ยาก ซูจิ่วซือมักจะรู้สึกเจ็บอกบ่อยๆ เพียงแต่ไม่เจ็บมาก แสดงว่าฟู่เฉินหรงได้รับบาดเจ็บไม่หนัก หากเขาบาดเจ็บหนัก นางคงเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง
หลังจากรับฟังข่าวด่วนที่ส่งมาไม่ขาดระยะ ซูจิ่วซือดีใจกับฟู่เฉินหรงจริงๆ นับวันรอฟู่เฉินหรงกลับมา
เทียนเฉิง
ฟู่เฉินหรงดูแผนที่อยู่ในห้อง ปิงอวิ๋นกับชิงซานเฝ้าอยู่ข้างๆ นอกจากสองคนนี้แล้ว ยังมีเด็กหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีคนหนึ่ง เป็นรองแม่ทัพที่ฟู่เฉินหรงแต่งตั้งเป็นพิเศษ และเป็นผู้ช่วยคนสำคัญเวลานี้
ตั้งแต่เล็กฟู่เฉินหรงก็ชอบศึกษาตำราพิชัยสงคราม สนใจตำราพิชัยสงครามเป็นพิเศษ แต่ไม่มีโอกาสเข้าสู่สนามรบ แม้เขาจะมั่นใจ แต่จำเป็นต้องอาศัยคนที่ผ่านประสบการณ์มาช่วยเหลือ ทั้งสองช่วยเสริมซึ่งกันและกันจึงจะเป็นผลดี
ตอนที่เขาเพิ่งมาถึงตูเฉิงก็อยากเดินหมากตานี้ จึงค้นหาคนที่เหมาะสมจากทหารและนายทหารระดับล่าง ในที่สุดก็เลือกเซียวลั่ว
เซียวลั่วเป็นทหารเมื่ออายุสิบสามปี เป็นอัจฉริยะในกองทัพ กล้าหาญรบเก่ง รู้จักวางกำลัง เนื่องจากไม่สันทัดในการพูด ไม่รู้จักประจบ จึงไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง อายุยี่สิบสามปียังเป็นเพียงนายกองเล็กๆ ไม่ได้รับหน้าที่สำคัญ หลังจากสังเกตระยะหนึ่ง ฟู่เฉินหรงจึงเลือกเซียวลั่วเป็นคนใกล้ชิด
เซียวลั่วซาบซึ้งที่ฟู่เฉินหรงมอบหมายหน้าที่ให้ตน จึงทุ่มเททำงาน ทั้งสองต่างเสริมกัน รบที่ไหนชนะที่นั่น ฟู่เฉินหรงจึงเลื่อนตำแหน่งให้เซียวลั่วเป็นรองแม่ทัพ
ขณนี้มีทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน “องค์รัชทายาท แย่แล้ว เกิดเรื่องขึ้น”
ฟู่เฉินหรงมองดูทหารท่าทางลนลาน จึงวางแผนที่ในมือลงอย่างไม่พอใจ “เกิดอะไรขึ้น?”
“เสบียงที่จิ่นโจวถูกปล้น”
ทหารพูดอย่างร้อนใจ เสบียงถูกปล้นเป็นเรื่องใหญ่ เซียวลั่วเป็นคนใจร้อนอยู่แล้ว พอได้ยินว่าเสบียงถูกปล้น ก็ไม่รอให้ฟู่เฉินหรงพูด รีบซักถาม “จริงหรือ?”
“แม่ทัพเซียว จริงแท้แน่นอน ทำอย่างไรดี” ทหารที่รายงานสีหน้าร้อนใจ ถ่าปู้ยกทัพมาแล้ว ถ้าไม่มีเสบียง พวกเขาคงเอาชนะถ่าปู้ไม่ได้
ถ่าปู้เป็นศัตรูสำคัญที่พวกเขาจะเผชิญหลังจากนี้ และเป็นกองทัพกล้าหาญอันดับหนึ่งของซาหลัว
ตอนที่ 533 ฟู่เฉินหรงคนใหม่
“เวลานี้เสบียงของเรายังอยู่ได้นานเท่าไร?” แม้สถานการณ์คับขัน ฟู่เฉินหรงยังสงบ เวลานี้เรื่องสำคัญที่สุดคือรักษาขวัญกำลังใจกองทัพ เขาจะร้อนรนไม่ได้
“อย่างมากห้าวัน” เซียวลั่วตอบ วันนี้เขาเพิ่งไปถามเรื่องเสบียง จึงรู้ดี เขาพูดด้วยสีหน้าร้อนใจ “องค์รัชทายาท ข้าเคยรบกับถ่าปู้ เราประมาทเขาไม่ได้ เขารีบมาครั้งนี้คงจะรบยืดเยื้อ
ถ้าเรามีเสบียงไม่พอ คงรบแพ้แน่นอน แย่จริงๆ เรื่องนี้คงจะมีเบื้องหลัง ทหารลำเลียงล้วนแต่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว มีคนดูแลเสบียงตั้งมากมาย ทำไมจึงถูกปล้น”
ฟู่เฉินหรงสีหน้าเครียด เรื่องนี้เขารู้ว่ามีเบื้องหลังแน่ เสบียงเป็นยุทธปัจจัยสำคัญ
การรบทุกครั้งเสบียงจึงเป็นเรื่องสำคัญ คนทำหน้าที่ลำเลียงเสบียงล้วนแต่เป็นทหารที่เก่งกาจ และมีจำนวนมาก ถ้าเป็นโจรธรรมดา ไม่สามารถปล้นเสบียงได้ ครั้งนี้เสบียงถูกปล้นอย่างไม่มีที่มาที่ไป นี่เป็นการจงใจหรือไม่ เขาสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของฟู่จิ่ง
ฟู่จิ่งควบคุมแคว้นเจียงมาหลายปี มีสมุนทั่วแผ่นดิน เรื่องนี้คงทำได้ไม่ยาก การต่อสู้ครั้งนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของแคว้นเจียง ฟู่จิ่งกำจัดทหารทั้งหมดเพื่อผลประโยชน์ของตน คนอย่างนี้ถ้าเป็นฮ่องเต้ อนาคตของแคว้นเจียงคงน่าวิตก มิน่าซุ่นตี้จึงไม่วางพระทัยให้ฟู่จิ่งครองบัลลังก์
แม้แต่ฟู่เฉินหรงเองก็นึกไม่ถึงว่าฟู่จิ่งจะกล้าลงมืออย่างนี้ ถ้าตนแพ้ ไม่เพียงแต่กองทัพถูกทำลาย เทียนเฉิงก็จะตกเป็นเมืองขึ้นอีกครั้ง เมืองเล็กโดยรอบก็ตกอยู่ในอันตราย พอถึงตอนนั้นซาหลัวคงสังหารผู้คนมากมาย เลือดท่วมแผ่นดิน บาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน เพื่อฆ่าเขาคนเดียว ฟู่จิ่งถึงกับก่อเรื่องต่ำช้าน่าละอาย
พอคิดได้อย่างนี้ ฟู่เฉินหรงก็กำหมัดในแขนเสื้อแน่น สีหน้าโกรธเกรี้ยว
เดิมทีเขาเป็นคุณชายสูงศักดิ์ไมใส่ใจเรื่องราวในโลก ใช้ชีวิตสุขสบาย ในใจมีความทะเยอทะยานทำการใหญ่
แต่เขาไม่เคยเข้าสู่สนามรบอย่างแท้จริง และไม่ได้สัมผัสกับราษฎรอย่างใกล้ชิด ที่ว่าความทุกข์ยากของราษฎรเป็นเพียงคำพูดว่างเปล่าสำหรับเขา
ตั้งแต่ออกรบ เขาก็ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับทหาร ค่อยๆ สร้างความผูกพันลึกซึ้ง ท่ามกลางภัยอันตราย เขาเริ่มรู้สึกมีความรับผิดชอบต่อพวกเขา
นอกจากนี้ยังมีราษฎรชาวเทียนเฉิง หลังจากยึดเทียนเฉิงคืน ราษฎรก็พากันมายืนสองข้างทางต้อนรับพวกเขาเข้าเมือง มีราษฎรเอาอาหารมาให้ไม่ขาดระยะ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสถึงความรักใคร่สนับสนุนจากราษฎร ทำให้เขาตัดสินใจแน่วแน่ที่จะเป็นฮ่องเต้ที่ดี
ตลอดเวลาหนึ่งเดือนกว่า เขากลายเป็นคนใหม่ที่หนักแน่นมั่นคงขึ้น เริ่มรับรู้ถึงภารกิจหนักที่ต้องรับผิดชอบ จากคุณชายสูงศักดิ์กลายเป็นองค์รัชทายาทที่เอาใจใส่ราษฎร
เขาอยากปกป้องคนเหล่านี้ ไม่มีวันปล่อยให้เทียนเฉิงซึ่งเพิ่งพ้นจากความทุกข์ทรมานกลับมาหลั่งเลือดอีกครั้ง
เขารับปากซูจิ่วซือแล้วว่าจะกลับไปอย่างปลอดภัย เขาไม่อาจทำให้นางผิดหวัง
“จิ่นโจวอยู่ไม่ไกลจากเทียนเฉิง ไปรวบรวมเสบียงจากที่อื่นก็ไม่ทันแล้ว องค์รัชทายาท เวลานี้ได้แต่ไปรวบรวมเสบียงจากพื้นที่ใกล้เคียง”
ปิงอวิ๋นก็ร้อนใจ เสบียงถูกปล้น ไม่ใช่เรื่องเล็ก นางไม่เข้าใจเรื่องอื่น หน้าที่ของนางคือคุ้มกันฟู่เฉินหรง
“ด่านชายแดนเดิมทีก็ขัดสนเสบียงอยู่แล้ว ราษฎรเองก็ไม่มีอะไรจะกิน จะรวบรวมเสบียงมากมายอย่างรวดเร็วได้หรือ”
เซียวลั่วเคยอยู่ด่านชายแดนมาตลอด จึงเข้าใจสภาพชายแดนดี
“ชิงซาน ปิงอวิ๋น พวกเจ้ารีบไปสำรวจ ใครเป็นคนปล้นเสบียง” ฟู่เฉินหรงสั่ง “หลี่ฉวน จำไว้ ต้องไม่ให้เรื่องเสบียงถูกปล้นเปิดเผยออกไปแม้แต่น้อย เบื้องหน้าศัตรู ต้องไม่ทำให้ทหารเสียขวัญ ใครขัดขืนคำสั่งลงโทษทางวินัย”