หวนแค้นชะตารัก - ตอนที่ 582 ไม่ยอมแพ้ / ตอนที่ 583 ชาติกำเนิดของเจ้าแม่
ตอนที่ 582 ไม่ยอมแพ้
จวนซิ่นอ๋อง
พอรู้ว่าฟู่เฉินหรงได้รับชัยชนะกลับมา ฟู่จิ่งก็รู้สึกหงุดหงิด สู้อุตส่าห์ลงแรง สุดท้ายก็ขัดขวางฟู่เฉินหรงไม่ได้ ฟู่เฉินหรงเอาชนะถ่าปู้ได้สำเร็จ
ข่าวกระจายไปทั่วแคว้นเจียงนานแล้ว ไม่ว่าขุนนางหรือชาวบ้านต่างเปลี่ยนความรู้สึกต่อฟู่เฉินหรงทันที ฟู่เฉินหรงได้รับการยกย่องจากราษฎรในแคว้นเจียงมาก
เรื่องที่ทำให้ซิ่นอ๋องวิตกมากก็คือฟู่เฉินหรงจะอาศัยบารมีในกองทหาร ยืนได้อย่างมั่นคง และยังพบอัจฉริยะอย่างเซียวลั่ว
เหตุการณ์ทุกอย่าง ล้วนไม่เป็นผลดีต่อเขา
ฟู่จิ่งโยนรายงานลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด ยื่นมือไปนวดขมับ ระยะนี้ไม่มีข่าวดีอะไรเลย ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาคงแพ้ฟู่เฉินหรงแน่
เขาปกครองตูเฉิงมาหลายปี ตำแหน่งฮ่องเต้เป็นของเขาอย่างแน่นอน ในยามคับขันอย่างนี้ถ้าถูกฟู่เฉินหรงชิงไป เขาจะยอมแพ้ได้อย่างไร ตำแหน่งที่ควรจะเป็นของเขา เพื่อตำแหน่งนี้ เขาลงมือวางแผนมานานถึงยี่สิบกว่าปี
“ท่านอ๋อง องค์รัชทายาทได้รับชัยชนะกลับมาแล้ว เราควรจะทำอย่างไร?”
เวลานี้เขาไม่อาจสังหารฟู่เฉินหรงได้ ฟู่เฉินหรงนำกองทัพกลับมา จะขัดขวางไม่ให้ฟู่เฉินหรงกลับตูเฉิงก็ไม่ได้ เขาเหลือหมากตาสุดท้ายแล้ว
ถ้าไม่จวนตัวจริงๆ เขาไม่เดินหมากตานี้แน่ เพราะหากแพ้ เขาก็ไม่มีทางถอย แต่เวลานี้สถานการณ์ไม่เป็นผลดีต่อเขา เขาไม่อาจนั่งรอความตาย มองดูฟู่เฉินหรงครองบัลลังก์อย่างราบรื่น
พอคิดได้อย่างนี้ ดวงตาฟู่จิ่งก็ฉายแววอำมหิต “ในเมื่อพระบิดาไม่ยอมมอบตำแหน่งฮ่องเต้ให้ข้า ข้าก็จำเป็นต้องบังคับให้พระองค์ลงจากตำแหน่ง เวลานี้ฟู่เฉินหรงยังไม่เข้มแข็งพอ ถ้าลงมือตอนนี้ มีโอกาสชนะ”
จางอิ่งตกใจ เขาเข้าใจคำพูดของฟู่จิ่งทันที รีบเตือน “ท่านอ๋องโปรดคิดให้รอบคอบ หมากตานี้เดินออกไปแล้วเปลี่ยนใจไม่ได้”
แต่โบราณกาลก่อกบฏต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างหนัก ถ้าสำเร็จก็ได้เป็นเจ้า ถ้าแพ้ก็ถูกประหารทั้งตระกูล แม้สำเร็จ ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นกบฏตลอดไป ไม่ใช่เรื่องที่มีเกียรติ
โดยเฉพาะเวลานี้บ้านเมืองสงบสุข การก่อกบฏยิ่งอันตรายมาก จางอิ่งจึงเตือนฟู่จิ่งให้คิดอย่างรอบคอบ
“ถ้าไม่เดินหมากตานี้ ข้าก็ขวางฟู่เฉินหรงไม่อยู่ รอให้เขาปีกกล้าขาแข็ง เขาคงจัดการข้า เราต้องชิงลงมือก่อน ไม่เข้าถ้ำเสือไฉนจะได้ลูกเสื้อ นี่เป็นเพราะท่านพ่อบีบข้า จางอิ่ง ไปเชิญจ้าวซิ่งมานี่ ข้ามีเรื่องจะปรึกษากับเขา”
จ้าวซิ่งเป็นขุนนางใหญ่ในราชสำนัก เป็นคนใกล้ชิดของฟู่จิ่งมาแต่ไหนแต่ไร เขาต้องการปรึกษากับจ้าวซิ่งเรื่องนี้ การก่อกบฏไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเตรียมการอย่างรอบคอบค่อยลงมือ จึงจะไม่พลาด
เมื่อเห็นว่าฟู่จิ่งตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จางอิ่งก็ไม่พูดอะไร รีบออกไป
ฟู่จิ่งกำหมัดแน่น ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไร เขาจะแพ้ไม่ได้ รอคอยมาหลายปี แคว้นเจียงต้องเป็นของเขา
วันรุ่งขึ้น ซูจิ่วซือกับฟู่เฉินหรงก็เดินทางออกจากเขาเป่าหลิง จงโม่เจียงไม่ได้มาส่ง พอทั้งสองไปแล้ว เจ้าแม่ก็ตบไหล่จงโม่เจียง “เจ้าก็กลับไปเถอะ!”
“เจ้าแม่ …”
จงโม่เจียงยังนึกว่าตนหูฝาด เจ้าแม่ปล่อยเขาจริงๆ
“เจ้าไม่เต็มใจก็ไร้ความหมาย ข้ามีเฟิงเยว่ก็พอแล้ว กำลังรักษาเกือบหายแล้ว โม่เจียง เจ้าดื่มเหล้าได้มาก วันหลังมีเวลามาดื่มกับข้าบ้าง”
จงโม่เจียงโล่งอก เขายิ้มอย่างร่าเริง “ไม่มีปัญหา วันหลังถ้าว่างข้าจะมาหาเจ้าแม่บ่อยๆ”
ตอนที่ 583 ชาติกำเนิดของเจ้าแม่
“พูดอย่างนี้ก็ดีแล้ว เจ้ากลับไปเถอะ! ข้าขอเตือนเจ้า อย่าคิดถึงมู่ซือซืออีก เด็กนั่นกับเจ้าไม่มีวาสนาต่อกัน เจ้าคิดถึงก็ไม่มีประโยชน์ สุดท้ายมีแต่จะทำให้เจ้าเป็นทุกข์ ทางที่ดีลืมนางเสีย”
เจ้าแม่เตือนด้วยความหวังดี
“ลืมคนคนหนึ่งมันง่ายอย่างนี้หรือ?”
เจ้าแม่ไม่ตอบ การเตือนคนอื่นทำได้ง่าย ความจริงแล้วนางเองก็เป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรือ นางใช้เวลาหลายสิบปีก็ยังไม่ลืมเขาคนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะฟู่เฉินหรงพูดขึ้นมา นางยังนึกว่าตนลืมได้จริงๆ แต่ปรากฏว่าคำพูดประโยคเดียวก็ทำให้นางเข้าใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา นางยังจำได้อย่างชัดเจน
การลืมคนคนหนึ่งเป็นเรื่องยาก
“หาแม่นางคนใหม่ ไม่แน่อาจจะลืมได้”
“ไม่สนใจ ขี้เกียจหา เจ้าแม่ ดูแลสุขภาพด้วย ข้ากลับสำนักวิหคเขียวละ”
เจ้าแม่พยักหน้า ไม่พูดอะไรอีก แหงนหน้ามองท้องฟ้า ดวงตาฉายแววโดดเดี่ยว นางเริ่มอยากไปเยี่ยมเขาคนนั้น หรือว่าปล่อยวางเสีย! เวลาผ่านมานานหลายปีแล้ว
จงโม่เจียงตามซูจิ่วซือไปจนทัน พอเห็นจงโม่เจียงมา ซูจิ่วซือก็ประหลาดใจ ไม่รอให้ซูจิ่วซือพูด จงโม่เจียงก็พูดขึ้นก่อน “แม่นาง เจ้าไม่ต้องรู้สึกผิด เจ้าแม่ปล่อยข้าแล้ว ข้าเตรียมจะกลับสำนักวิหคเขียว เจ้าดูแลตัวเองให้ดี”
“เจ้าแม่ยอมปล่อยเจ้าจริงหรือ?”
“จริงแท้แน่นอน คงเป็นเพราะเจ้าแม่สนใจเฟิงเยว่ ข้าไปก่อนละ” พูดจบก็หันไปหาฟู่เฉินหรง “จำคำที่ข้าพูดไว้เมื่อวานให้ดี ดูแลนางให้ดี”
พูดจบจงโม่เจียงก็จากไป ชั่วพริบตาก็ไม่เห็นเงาแล้ว
เขารีบบอกข่าวให้ซูจิ่วซือรู้เพราะอยากให้ซูจิ่วซือสบายใจ นางจะได้ไม่รู้สึกว่าติดหนี้เขาอยู่ ทั้งหมดนี้เขาทำด้วยความยินดี ไม่ต้องการให้ซูจิ่วซือชดใช้คืน
การจากกันคราวนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไรจึงจะพบกันอีก บางทีต่อไปอาจจะไม่มีโอกาสเจอกันอีกเลย
“เจ้าแม่ปล่อยเขาไปก็ดีแล้ว ไม่งั้นในใจข้ารู้สึกผิด เฉินหรง เจ้ารู้สึกหรือไม่ว่าวันนี้เจ้าแม่มีอะไรไม่ปกติ”
ซูจิ่วซือตื่นขึ้นมาก็รู้สึกอย่างนี้ เห็นเจ้าแม่ถือจี้หยกยืนเหม่ออยู่ที่บันไดหน้าประตู ท่าทางเหมือนหวนรำลึกถึงอะไรบางอย่าง
ฟู่เฉินหรงจูงมือซูจิ่วซือ พูดอย่างราบเรียบ “คงคิดถึงคนที่เคยรู้จัก”
“เจ้ารู้ชาติกำเนิดของเจ้าแม่? นางเคยเกี่ยวข้องกับราชตระกูลใช่หรือไม่”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร”
“ฟังจากน้ำเสียงของนาง”
ฟู่เฉินหรงหัวเราะร่า “จิ่วเอ๋อของข้าฉลาดจริงๆ”
“นางเป็นใคร?”
เกี่ยวกับชาติกำเนิดของเจ้าแม่ ซูจิ่วซืออยากรู้
“นางเคยเป็นลูกสาวของพ่อค้าในแคว้นเจียง ครอบครัวร่ำรวย ฝึกวรยุทธตั้งแต่เล็ก เป็นคุณหนูใหญ่ ต่อมานางไปที่แคว้นเสว่ รู้จักฮุ่ยตี้แห่งแคว้นเสว่ เป็นพระสนมที่ฮุ่ยตี้ทรงรักและเอาใจมากที่สุด
ต่อมาเกิดอะไรขึ้นข้าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าจู่ๆ นางก็หายไปจากวังในแคว้นเสว่ ฮุ่ยตี้ประกาศต่อภายนอกว่านางเสียชีวิตกระทันหัน นึกไม่ถึงว่านางจะเปลี่ยนโฉมหน้ามาโลดแล่นอยู่ในวงการนักเลง”
พอได้ยินเรื่องราวของเจ้าแม่ ซูจิ่วซือก็รู้สึกประหลาดใจ ถ้าไม่ใช่ฟังจากปากของฟู่เฉินหรง คงคาดไม่ถึงว่าเจ้าแม่เคยเป็นพระสนมมาก่อน
เวลานี้เจ้าแม่เอาแต่ใจตัวเอง เป็นคนละคนกับตอนอยู่วังในซึ่งเข้มงวดกับแบบแผน เกิดอะไรขึ้น จึงทำให้เจ้าแม่เปลี่ยนไปมากอย่างนี้
“ฮุ่ยตี้กับเจ้าแม่คงมีความทรงจำร่วมกันในอดีต เสียดายที่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า”
“แต่โบราณคนเป็นเจ้าแผ่นดินมักจะละทิ้งความรักเพื่ออะไรบางอย่าง”
ซูจิ่วซือถอนหายใจ
“ข้าไม่ใช่คนอย่างนั้น” ฟู่เฉินหรงทำท่าน้อยใจ กลัวว่าซูจิ่วซือจะจัดเขาเป็นคนประเภทนั้น
พอเห็นฟู่เฉินหรงทำท่าอย่างนี้ ซูจิ่วซือก็ปิดปากหัวเราะ
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนอย่างนี้ รีบเดินทางเถอะ เจ้าต้องเดินทางเข้าเมืองพร้อมกับเซียวลั่ว”
ฟู่เฉินหรงพยักหน้า “ได้ ข้าเชื่อฟังเจ้า”