หวนแค้นชะตารัก - ตอนที่ 646 การตายของมู่อวิ๋นชาง / ตอนที่ 647 ใครบงการเจ้า
ตอนที่ 646 การตายของมู่อวิ๋นชาง
แคว้นเจียงมีธรรมเนียมเอาเส้นผมของคู่แต่งงานมารวมกัน และต้องเป็นการแต่งงานครั้งแรกเท่านั้น ภรรยารองและภรรยาน้อยไม่มีการเอาเส้นผมมารวมกัน เป็นธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติตั้งแต่ราชตระกูลจนถึงชาวบ้านทั่วไป
มีการตัดผมของคนทั้งสองแล้วใช้ด้ายแดงผูกใส่ไว้ในถุงผ้าสีแดง บนถุงผ้าปักชื่อคนทั้งสองไว้ จากนั้นจึงนำไปไว้ในศาลบรรพชน เพื่อให้บรรพชนคุ้มครอง
นี่เป็นเพียงธรรมเนียมในแคว้นเจียง แคว้นเว่ยกลับตรงกันข้าม
ในแคว้นเว่ย การตัดผมตามใจชอบไม่เป็นมงคล จะทำให้โชคร้าย การตัดผมในคืนแต่งงานจึงเป็นเรื่องต้องห้าม
คนแคว้นเว่ยรักเส้นผมตัวเองมาก การตัดผมตามใจชอบเป็นความผิด อาจจะถูกต่อต้านอย่างรุนแรง ถูกขับออกจากบ้าน ตั้งแต่ราชตระกูลจนถึงชาวบ้านทั่วไปล้วนเป็นเช่นนี้
พอผมยาวถึงระดับหนึ่ง ก็จะให้ผู้อาวุโสที่มีบารมีสูงสุดของตระกูลเป็นคนตัดผม คนอื่นจะมาแตะต้องผมไม่ได้ ก่อนตัดต้องอาบน้ำ มีการจัดพิธีใหญ่
ซูจิ่วซือเป็นคนแคว้นเว่ย ฟู่เฉินหรงแม้ไม่ใช่คนแคว้นเว่ย แต่โตในแคว้นเว่ย ทั้งสองรับความคิดจากแคว้นเว่ย จึงไม่ยอมตัดผมในคืนแต่งงาน
แต่เพื่อให้เป็นไปตามธรรมเนียมปฏิบัติ ฟู่เฉินหรงจึงใช้เส้นผมของฮูหยินมู่กับมู่อวิ๋นชางแทน ซูจิ่วซือเองก็เห็นด้วย ทั้งสองเป็นสามีภรรยาที่รักใคร่กันดี เอาเส้นผมของทั้งสองมาใช้ถือว่าเป็นมงคล
“อาหลาน เจ้าไปสืบเรื่องนี้ให้ดี ดูว่าเอาเส้นผมไปทำอะไร เรื่องนี้ต้องสืบให้แน่ชัด”
อาหลานพยักหน้า “พระชายารัชทายาทวางใจเถิดเพคะ เรื่องนี้บ่าวจะไปสืบ”
แม้ในถุงนั้นเป็นเส้นผมของมู่อวิ๋นชางกับฮูหยินมู่ แต่ซูจิ่วซือก็ยังเป็นห่วง จึงอยากให้อาหลานไปสืบให้ชัดเจน ป้องกันเหตุที่ไม่คาดฝัน ไม่รู้ทำไม นางรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก
วันต่อมา ขณะที่ซูจิ่วซือกำลังกินมื้อเย็นกับฟู่เฉินหรง จู่ๆ ชิงซานก็เข้ามาอย่างรีบร้อน เดินมาที่ห้องอาหาร ชิงซานก้มหน้าลง ลอบมองซูจิ่วซือแวบหนึ่งแล้วพูดขึ้น “ทูลองค์รัชทายาท พระชายารัชทายาท เกิดเรื่องขึ้นกับใต้เท้ามู่เพคะ”
ซูจิ่วซือกำลังซดน้ำแกง พอได้ยินคำพูดนี้ก็รีบวางชามลง “ท่านพ่อเป็นอะไรไป”
“ใต้เท้ามู่เสียชีวิตแล้ว”
“เรื่องราวเป็นอย่างไร”
ฟู่เฉินหรงสีหน้าเครียด ฮูหยินมู่เพิ่งฝังไม่นาน มู่อวิ๋นชางก็เกิดเรื่อง เขายื่นมือไปจับมือซูจิ่วซือ รู้สึกว่ามือนางเย็นเฉียบ
“ใต้เท้ามู่อ่านหนังสืออยู่ในห้องหนังสือ มีคนบอกว่าตอนไปที่ห้องหนังสือยังดีๆ อยู่ แต่ตอนเอาชาไปให้ใต้เท้ามู่สิ้นลมแล้ว ห้องหนังสือไม่มีคนเข้าไป ตามตัวไม่มีบาดแผล เวลานี้ยังไม่รู้สาเหตุการเสียชีวิต”
ซูจิ่วซือไม่เชื่อว่ามู่อวิ๋นชางจะเสียชีวิตโดยไม่มีสาเหตุ สุขภาพของมู่อวิ๋นชางดีมาตลอด จู่ๆ นางก็นึกถึงเส้นผมที่ถูกขโมยไป หรือว่าการตายของมู่อวิ๋นชางกับถุงผ้าจะเกี่ยวข้องกัน เส้นผมทำให้คนตายได้อย่างไร
สายตาของซูจิ่วซือฉายแววอำมหิต นางสะกดความรู้สึกไว้ มองหน้าอาหลาน แล้วถาม “อาหลาน เรื่องถุงผ้าสืบได้ความว่าอย่างไร”
“เดิมทีบ่าวคิดว่าจะรอให้พระชายารัชทายาททานอาหารเสร็จก่อนค่อยรายงาน บ่าวกับสหายวงการนักเลงสอบถามมาแล้ว เรื่องนี้เป็นที่ชัดเจน บ่าวได้ยินสหายบอกว่าคนแถบทะเลใต้นิยมการสาปแช่ง ฆ่าคนด้วยการสาปแช่ง สามารถฆ่าได้อย่างไร้ร่องรอย มีการสาปแช่งวิธีหนึ่งคือใช้เส้นผม แต่ส่วนใหญ่เป็นการเอาชีวิตแลกชีวิต”
อาหลานรายงานเรื่องราวที่สืบมาให้ซูจิ่วซือกับฟู่เฉินหรงฟังอย่างละเอียด
พอได้ยินว่าเป็นการสาปแช่งของคนแถบทะเลใต้ ฟู่เฉินหรงก็ขมวดคิ้ว “ทะเลใต้อยู่ห่างจากที่นี่เป็นหมื่นลี้ ต้องนั่งเรือข้ามทะเลเป็นเวลานานกว่าจะมาถึงจงหยวน”
ตอนที่ 647 ใครบงการเจ้า
“หมอผีทะเลใต้จึงมาถึงแคว้นเจียงได้อย่างไร พระอัยกาทรงห้ามการทำคุณไสยมนตร์ดำพวกนี้ ทรงรังเกียจสิ่งนี้มาก หากตรวจพบจะประหารทั้งครอบครัว ใครจะกล้ามาก่อเรื่อง
คนโดยทั่วไปไม่มีใครให้หมอผีมาทำพิธี คนที่เชิญหมอผีมาได้ คงแค้นเรามาก และก็มีแต่ตระกูลเฟิง เรื่องนี้เกรงว่าจะเป็นการกระทำของเฟิงชิงสุ่ย ผู้หญิงคนนี้เสียโฉมไปแล้วยังไม่รู้จักเลิกรา ยังไปเกี่ยวข้องกับเรื่องคุณไสยมนตร์ดำ”
ซูจิ่วซือมีความเห็นเช่นเดียวกับฟู่เฉินหรง นางสงสัยเฟิงชิงสุ่ย
“เฉินหรง เราไปที่จวนตระกูลมู่ก่อน ครั้งนี้ข้าไม่เพียงแต่ต้องการชีวิตของเฟิงชิงสุ่ย ยังต้องให้ตระกูลเฟิงชดใช้”
ซูจิ่วซือแววตามีไอสังหารเข้มข้น แม้จะฉายออกมาเพียงแวบเดียว แต่ก็ทำให้สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ สะดุ้ง
หลังจากเฟิงชิงสุ่ยเสียโฉม ซูจิ่วซือรู้ว่าชีวิตของเฟิงชิงสุ่ยทรมานยิ่งกว่าตาย เฟิงเชียนก็เข้าใจสถานการณ์ เขาควบคุมเฟิงชิงสุ่ยอยู่
พอรู้ว่าเฟิงชิงสุ่ยถูกกักบริเวณอยู่ในเรือนของตัวเอง ซูจิ่วซือก็คิดจะวางมือ นึกไม่ถึงว่าเฟิงเชียนควบคุมลูกสาวไม่อยู่ เฟิงชิงสุ่ยไม่ใส่ใจชะตากรรมของตระกูลเฟิง
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องไว้ชีวิตเฟิงชิงสุ่ย และตระกูลเฟิงเองก็ต้องชดใช้
ครั้งนี้นางจะสับเฟิงชิงสุ่ยเป็นชิ้นๆ
“เรื่องของเฟิงชิงสุ่ยยกให้ข้า”
ฟู่เฉินหรงเป็นห่วงซูจิ่วซือ ช่วงนี้เขามีงานยุ่ง นึกไม่ถึงว่าเฟิงชิงสุ่ยจะก่อเรื่อง ผู้หญิงคนนั้นเป็นบ้าไปแล้ว
“ข้าจะจัดการนางด้วยตัวเอง ท่านพี่ควรจะทูลฝ่าพระบาทเรื่องที่ตระกูลเฟิงร่วมมือกับหมอผี”
“ตระกูลเฟิงหมดปัญญาอบรมลูกสาว ครั้งนี้ยากที่จะพ้นเคราะห์กรรม” ฟู่เฉินหรงน้ำเสียงเย็นชา รีบจูงมือซูจิ่วซือไปที่ประตูวังตะวันออก รถม้าเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว
ฟู่เฉินหรงขึ้นรถม้าแล้วยื่นมือประคองซูจิ่วซือจับขึ้นรถม้า จับมือนางไว้ตลอดเวลา “ข้าจะให้ปิงอวิ๋นพาองครักษ์พิทักษ์อุทยานตะวันออกตามหาหมอผีนั่น คนทะเลใต้หน้าตาคล้ายพวกเรา แต่ก็ดูออกง่าย”
ซูจิ่วซือพยักหน้า ไม่พูดไม่จา ได้แต่เอนตัวพิงไหล่ฟู่เฉินหรง
ระหว่างนางกับเฟิงชิงสุ่ยรู้มานานแล้วว่าใครแพ้ใครชนะ แต่เฟิงชิงสุ่ยไม่ยอมแพ้ คนฉลาดอย่างเฟิงชิงสุ่ย พอแพ้ก็คลั่ง กระทบถึงตระกูลเฟิง เมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็จะทำให้เฟิงชิงสุ่ยเห็นให้เต็มตาก่อนตาย ว่าตระกูลเฟิงถูกทำร้ายอย่างไร
จวนแม่ทัพสยบปฐพี
นางมารยืนข้างหน้าเฟิงชิงสุ่ย สีหน้าบูดบึ้งถามเฟิงชิงสุ่ย “คุณหนูเฟิง เรื่องเส้นผมเป็นอย่างไรกันแน่ ทำไมคนที่ตายกลับเป็นมู่อวิ๋นชาง เรื่องแค่นี้คนของเจ้าจัดการให้ดีไม่ได้”
เฟิงชิงสุ่ยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนที่นางส่งไปเป็นองครักษ์คนสนิทที่สุดของนาง ความสามารถในการทำงานของแต่ละคนนางไม่เคยสงสัย ทำไมถุงผมของสองคนนี้จึงมาอยู่ที่ศาลบรรพชนของราชตระกูล ทำไมฟู่เฉินหรงจึงใช้ผมของคนทั้งสองแทน
จู่ๆ เฟิงชิงสุ่ยก็นึกขึ้นได้ว่าแคว้นเว่ยมีธรรมเนียมไม่ตัดผม นางดูเหมือนจะเข้าใจแล้ว เป็นความสะเพร่าของนางเอง ได้แต่พออกพอใจจนลืมว่าฟู่เฉินหรงเติบโตในแคว้นเจียง
พอคิดได้อย่างนี้ ในใจนางก็รู้สึกว่างเปล่า โอกาสที่นางจะเอาชีวิตเข้าแลก สุดท้ายคนที่ตายกลับกลายเป็นมู่อวิ๋นชางซึ่งไม่เกี่ยวข้อง
เรื่องนี้แม้เป็นความสะเพร่าของนาง แต่ในฐานะที่เป็นคนชั้นสูง ไม่ใช่เรื่องที่จะให้คนวงการนักเลงต่างแดนมาซักถาม นางจ้องหน้านางมารอย่างเย็นชา “ทำไมคนที่ตายกลายเป็นมู่อวิ๋นชาง คนที่เจ้าคิดจะฆ่าไม่ใช่ซูจิ่วซือ ใช่หรือไม่”
นางมารไม่ได้โต้แย้ง และไม่พูดอะไรออกมา
เฟิงชิงสุ่ยรู้ว่าตนเดาถูก นางซักต่อ “เจ้าต้องการฆ่าองค์รัชทายาท ใครบงการเจ้า เจ้าบังอาจจริงๆ ถึงขั้นมาอาศัยข้าฆ่าคน ข้าไม่เคยคิดจะฆ่าองค์รัชทายาท”