หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 13 โรคประหลาด
บทที่ 13 โรคประหลาด
ดังนั้น!
หลานเยาเยาจึงค่อยๆเดินตามเสียงนั้นไป จนมาหยุดอยู่ที่ลานเบื้องหน้าที่ดูงดงามนัก
มีหญิงสาวผู้หนึ่งใส่ชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนนอนคว่ำอยู่บนพื้น มีเชือกมัดอยู่รอบตัวเธอทั้งท่อนบนและท่อนล่าง ดูท่าทางอึดอัด สีหน้าซีดเผือดราวกับแผ่นกระดาษ เหม่อมองดูท้องฟ้าด้วยความอ้างว้าง
“ในที่สุดก็ได้เห็นท้องฟ้าเห็นก้อนเมฆเสียที!”
ไม่รู้เพราะเหตุใด อยู่ดีๆสีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป และก้มหัวลงทันที
“แคก แคก แคก……”
“แหวะ……”
มีเลือดไหลทะลักออกจากปาก กระเด็นไปทั่วพื้น หลังจากนั้นก็ยังไออย่างต่อเนื่อง
“แคก แคก แคก……”
เมื่อเห็นดังนั้น หลานเยาเยาก็เปลี่ยนท่าที รีบวิ่งเข้าไปประคองนางขึ้นมา
“เฮ้ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
หลังจากประคองหญิงสาวในชุดสีฟ้าขึ้นมาแล้ว หลานเยาเยาก็พบว่านางไอจนแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว จึงตัดสินใจว่ายังไงก็จะต้องช่วยแก้มัดให้นางก่อน
แต่คิดไม่ถึงว่า……
หญิงสาวในชุดสีฟ้ากลับถอยหนีด้วยความกลัว แล้วส่ายหน้าพลางพูดเบาๆว่า:
“อย่า……แก้มัด อย่าแก้มัด ไม่เช่นนั้นเจ้าจะต้องตายแน่ๆ……”
หลานเยาเยาไม่สนใจคำพูดของนาง เชือกมัดแน่นออกอย่างนี้ ถ้าไม่รีบแก้มัดตอนนี้ ไม่ช้านางจะต้องตายแน่ๆ
ดังนั้น !
ไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็แก้มัดเชือกให้แก่นาง
“เจ้าจงอยู่ให้ห่างข้า รีบไปซะ ข้าอาจทำร้ายเจ้าได้……แคก แคก แคก……”
เมื่อห้ามนางไม่ให้แก้มัดไม่ได้ หญิงสาวในชุดสีฟ้าก็ “แหวะ” เป็นเลือดออกมาอีกครั้ง……
หญิงสาวผู้นั้นถอยหลังออกไปสองสามก้าวทันที ราวกับรู้ว่าอีกประเดี๋ยวจะมีเรื่องที่น่ากลัวเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้นางมาเข้าใกล้นาง
หลานเยาเยามุ่งตรงไปข้างหน้าโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แล้วรีบพาหญิงสาวในชุดสีฟ้าไปนั่งพิงที่กำแพง ใช้มือของนางหยิบสเปรย์ยาออกมา
แล้วนางก็ใช้มือบีบที่ขากรรไกรของหญิงสาวในชุดสีฟ้า เพื่อบังคับให้นางเปิดปาก
“ชีด ชีด ชีด……”
นางฉีดยาเข้าไปในปากของหญิงสาวในชุดสีฟ้า แล้วหญิงสาวในชุดสีฟ้าก็ค่อยๆหยุดไอ
หลานเยาเยาเริ่มรู้สึกผ่อนคลายลง แต่ทันใดนั้นเอง เริ่มมีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นกับหญิงสาวในชุดสีฟ้า ดวงตาที่งดงามคู่นั้นกลับเปลี่ยนเป็นสีแดงในชั่วพริบตา ใบหน้าเริ่มดูดุร้ายขึ้นมาทันที
หญิงสาวในชุดสีฟ้ายิ้มด้วยรอยยิ้มที่น่ากลัวบนริมฝีปาก ยกมือที่มีเล็บยาวขึ้น แล้วมุ่งหน้ากลับมาทางนี้
“เฮ้ย!”
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?
หลานเยาเยากระโดดโหยงขึ้นทันที จึงสามารถหลบพ้นกรงเล็บที่นางเหวี่ยงมาได้ทัน เล็บนั่นทั้งยาวทั้งแหลมคม เหวี่ยงโดนกำแพงยังทำให้เป็นรูกว้าง
หญิงสาวที่ดูเหมือนจะอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงในตอนแรก ตอนนี้กลับกลายเป็นเหมือนปีศาจที่มีพลังมหาศาลและดุร้าย
“เลือด ข้าต้องการดื่มเลือด อ่า……ข้าต้องการดื่มเลือดของเจ้า……”
หญิงสาวในชุดสีฟ้าที่ตอนนี้กำลังบ้าคลั่ง นางหันหัวของนาง บิดจนได้ยินเสียงคอดัง “เอี๊ยด เอี๊ยด” พอเห็นคอของหลานเยาเยาก็รีบบินมาอย่างรวดเร็ว ทำท่าราวกับจะมาดูดเลือดของนางให้หมดตัว
หลานเยาเยาหลบหนีได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง ในเวลานี้ มือหนึ่งถือกระบอกฉีดยา ส่วนมืออีกข้างเปิดขวดยา……
หลังจากนั้นไม่นาน!
หลานเยาเยาหยุดนิ่ง แล้วหันหลังกลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับยิ้มเยาะ แล้วยกเข็มฉีดยาในมือของนางขึ้น
หญิงสาวในชุดสีฟ้าพุ่งตรงมาที่ด้านหน้าของเธอพอดี มือสองข้างคว้าจับไปที่แขนของนาง อ้าปากกว้าง พุ่งตรงมาเพื่อจะดูดเลือดที่คอของนาง……
หลานเยาเยาเอี้ยวตัวเพื่อที่จะเลี่ยงการโจมตี แล้วจึงอ้อมไปทางด้านหลังของนาง ล็อคคอนางไว้ และกดเข็มฉีดยาลงไปที่คอของนาง
หญิงสาวในชุดสีฟ้าที่กำลังบ้าคลั่ง พยายามดิ้นรน ใช้กรงเล็บกวัดแกว่งไปมา หลังจากนั้นจึงค่อยๆสงบลง และหมดสติไปในที่สุด
“ฮู้……”
เจ้าช่างโชคดีจริงๆ ! ถือเป็นโชคของเจ้าที่ได้พบข้า มิเช่นนั้นวันนี้ถ้าไม่ขาดใจตาย ก็คงกระอักเลือดตายเป็นแน่
เมื่อมองดูชุดของหญิงสาวในชุดสีฟ้าอย่างพิจารณาสักครู่ ก็พบว่าบนกระโปรงมีด้ายสีทองเย็บอยู่ แล้วนางก็ยิ้มขึ้นมาอย่างสดใส
เหอะ เหอะ……
นางรู้สึกสัมผัสได้ถึงกลิ่นของคนมีเงินอย่างแรง!
หลานเยาเยา “มีเจตนาดี” จึงช่วยอุ้มหญิงสาวในชุดสีฟ้ากลับเข้าไปในลาน สุ่มเลือกห้องห้องหนึ่ง แล้วพานางเข้าไปวางไว้บนเตียง
หลังจากถอนหายใจเฮือกใหญ่ นางจึงเช็ดเหงื่อให้ตัวเอง
“ไม่ได้ถูกพิษ ไม่ได้มีสิ่งกระตุ้น ตาทั้งสองข้างมีเลือดคั่ง ควบคุมสติไม่ได้ บ้าคลั่งเหมือนปีศาจ อีกทั้งยังกระหายเลือด
เหอะ เหอะ โรคนี้ช่างน่าสนใจจริงๆ”
หลานเยาเยาแสดงความสนใจอย่างมาก
นางไม่คิดว่าหญิงสาวในชุดสีฟ้าจะเป็นซอมบี้หรือผีดูดเลือดประเภทนั้น ถึงแม้ว่าพวกมันจะดื่มเลือดเช่นกัน แต่มีลักษณะนิสัยธรรมชาติที่ไม่เหมือนกันเลย
ช่างมันเถอะ ตอนนี้ช่วยชีวิตนางก่อนละกัน!
ดังนั้น!
นางจึงถอดชุดของหญิงสาวในชุดสีฟ้าออก มองดูใบหน้าอันบอบบางที่อยู่ตรงหน้า แววตาเต็มไปด้วยความกลัว!
“อื้อฮือ รูปร่างของนางช่างงดงามจริงๆ มีส่วนเว้าส่วนโค้ง รูปร่างอ่อนช้อย ผิวขาวราวกับหิมะ ต่อไปหากชายใดได้สู่ขอเจ้าไป คงจะนับว่าโชคดีไม่น้อย”
ขณะที่ยังรู้สึกแปลกใจ หลานเยาเยาก็ได้นำเข็มเงินออกมา แล้วฝังไปยังจุดต่างๆบนตัวของนาง
ในมุมหนึ่งนอกบ้าน!
อ๋องเย่ผู้ใส่หน้ากากสีเงินกำลังยืนอยู่ข้างต้นไม้โบราณ มองดูเข็มสีเงินเรียวยาวเล่มหนึ่งอย่างพิจารณา แววตาดูลึกลับ
ขณะนี้!
องครักษ์ลับรายหนึ่งเข้ามารายงาน
“เรียนเจ้านาย หลานเยาเยากำลังฝังเข็มให้แก่องค์หญิงด้วยวิธีที่ชาญฉลาด ถือว่ามีทักษะการแพทย์ที่สมบูรณ์”
องครักษ์ลับผู้นี้มีนามว่าจื่อซี เป็นองครักษ์ลับที่มีฝีมือทางด้านการแพทย์ดีที่สุดในบรรดาองครักษ์ลับของอ๋องเย่ ในจักรวรรดิ ด้านการแพทย์เขาเองก็ไม่เป็นสองรองใคร
ตอนนี้แม้แต่เขายังกล่าวว่า หลานเยาเยามีทักษะการแพทย์ที่เหนือกว่าตนเอง นั่นแสดงว่าจะต้องเหนือกว่าเขาจริงๆ
เจ้านายตั้งใจจะนำหลานเยาเยาเข้ามาที่นี่ เพราะตั้งใจจะดูทักษะทางการแพทย์ของนางว่าเป็นเช่นไร?
คิดไม่ถึงว่า……
แท้จริงแล้วเป็นยอดฝีมือที่ไม่เปิดเผยตัว
ดูเหมือนว่าวันนั้น ที่นางใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืน ก็สามารถถอนพิษออกจากร่างกายของเจ้านายได้ คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ได้พบกับคนมีความสามารถเช่นนี้ ทำไมเจ้านายถึงไม่ดีใจ?
“นางสามารถช่วยจาวหยางได้?” พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและอ่อนโยน
ตอนนี้เย่แจ๋หยิ่งมีท่าทีที่ประหลาด ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
“เรื่องนี้……หม่อมฉันเองก็ไม่รู้!”
คงมีเพียงตัวหลานเยาเยาเองเท่านั้นที่รู้
เป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง ในที่สุด หลานเยาเยาก็ดึงเข็มเงินออก
จากนั้นจึงขยี้ตา ลุกขึ้น และเตรียมจะไปเทน้ำชาเพื่อนำมาดื่ม
ทันใดนั้น!
ชาที่ร้อนกำลังดีถูกยื่นมาให้
“ขอบใจนะ!”
หลานเยาเยารับน้ำชามาดื่มด้วยท่าทีอ่อนน้อม เมื่อฉุกคิดขึ้นได้ว่ามีสิ่งผิดปกติจึงหันกลับไปดู พบกับจื่อซีผู้สง่างามยืนอยู่เบื้องหน้า
และแววตายิ่งเป็นประกายเมื่อได้เห็นอ๋องเย่นั่งพิงอยู่ที่เก้าอี้
“พรวด……”
น้ำชาที่ยังไม่ทันได้กลืน ถูกพ่นไปใส่จื่อซีเต็มๆ
จื่อซีรู้สึกตกตะลึง!
เขาเพียงแค่หวังดีส่งถ้วยน้ำชาให้ หลานเยาเยากลับทำราวกับเห็นผีอย่างนั้นหรือ?
“โอ๊ะ ขอโทษด้วยนะพี่ชาย ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ อย่าถือสากันเลย ดูสิเสื้อคลุมก็ยังไม่ทันเปียก!”
จื่อซี: “……”
น้ำชาพ่นไปอยู่บนหน้าของเขาหมดแล้ว เสื้อผ้าจะเปียกได้อย่างไรกัน?
เรื่องนี้เขาไม่ได้ติดใจเอาความแล้ว เห็นหลานเยาเยารีบนำผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา ก็เข้าใจว่านางจะนำมาให้เขาเช็ดหน้า แต่ที่ไหนได้ นางรีบวิ่งอย่างเชื่องๆไปที่เจ้านาย และพัดลมให้แก่เขา
“วันนี้พระอาทิตย์ดวงใหญ่ร้อนแรง อ๋องเย่ร้อนหรือไม่? ข้าพัดลมให้แก่ท่าน ท่านดูสิว่ารู้สึกเย็นขึ้นหรือไม่?”
จื่อซีทนดูไม่ได้!
ถึงแม้วันนี้ท้องฟ้าจะดูสดใส แต่ก็ไม่มีพระอาทิตย์ไม่ใช่หรือ?