หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 199 ให้คนมา ปล่อยเสี่ยวฮัวฮัวให้ข้า
บทที่ 199 ให้คนมา ปล่อยเสี่ยวฮัวฮัวให้ข้า
หลานเยาเยาที่โดนคนเข้าใจผิดว่าท้อง ในเวลานี้ก็มาถึงที่ประตูห้องของเย่แจ๋หยิ่ง นางหลับตาลงแล้วหายใจเข้าลึกๆ
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็มีสีหน้าเปลี่ยนเป็นท่าทีที่ดูน้อยใจ
“ก๊อกก๊อกก๊อก”
“เย่แจ๋หยิ่ง ท่านอยู่ข้างในใช่หรือไม่? ข้าเข้าไปแล้วนะ!”
ด้านในห้องไม่มีคนตอบ หลานเยาเยากำลังคิดจะผลักประตู ประตูห้องก็เปิดออกทันที จื่อเฟิงเดินออกมาจากด้านใน มองดูนางด้วยใบหน้าที่ดูเป็นกังวล
จากนั้นก็จากไป
สถานการณ์อะไรกัน?
ทำไมหน้าของจื่อเฟิงถึงได้สีหน้าแสดงออกว่าเข้าไปขอร้องเองจึงจะมีความสุขกว่าเช่นนั้น?
เมื่อหลานเยาเยาที่ในสมองมีแต่ความงงเพิ่งก้าวข้ามประตูเข้าไป ก็โดนสายตาเฉียบคมรุนแรงเพ่งมา สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่บนท้องของนาง
นางใส่ชุดคลุมของผู้ชาย ดังนั้นจึงเห็นได้ง่ายว่าท้องของนางป่องขึ่นมา
“มีตั้งแต่เมื่อไหร่?” น้ำเสียงที่เย็นชาและราบเรียบเย่แจ๋หยิ่งแว่วมาเอื่อยๆ
“ห๊ะ? มีอะไร?” สายตาของเย่แจ๋หยิ่งแปลกๆ
“ท้อง”
ท้อง?
หลานเยาเยารีบมองไปที่ท้องของตัวเองทันที จากนั้นก็ยังคงมีท่าทางพยุงเอวไปพลางและลูบท้องไปพลาง ไม่ต่างจากคนท้อง
“โอว~นี่สินะ! เมื่อตอนเที่ยงวันออกไปกินอาหารมื้อใหญ่ เช่นไรบ้าง? ข้าสุดยอดหรือไม่? แต่ว่า ตอนนี้ย่อยลงไปเยอะแล้ว” พูดจบ ก็ไม่ลืมที่ตีไปที่ท้องทีหนึ่ง
ได้ยินดังนั้น!
เย่แจ๋หยิ่งมุมปากกระตุก กุมหน้าผากแบบช่วยไม่ได้
“มานี่!”
“ได้เลย”
เห็นสีหน้าที่นิ่งสงบของเย่แจ๋หยิ่ง ไม่เหมือนท่าทางที่กำลังโกรธ จึงรีบเดินไปหาแต่โดยดี
เห็นเพียงเย่แจ๋หยิ่งที่นั่งที่ข้างๆโต๊ะด้วยท่าทางสบายๆ นางเดินเข้าไปแล้วเอามือทั้งสองข้างค้ำโต๊ะ ค่อยๆโน้มตัวไปด้านหน้า ถามอย่างระวังว่า :
“ท่านไม่โกรธแล้วหรือ?”
เป็นดังคาด เย่แจ๋หยิ่งหันหน้าไปอีกทาง เห็นดังนั้น หลานเยาเยาก็รีบปีนขึ้นโต๊ะไปทั้งตัว ยื่นคอไปตรงหน้าของเขา
“ยังโกรธอยู่หรือ?” เย่แจ๋หยิ่งยังคงสีหน้าเดิม นางรีบพูดด้วยความน้อยใจ :
“อาฝูและโม่ซางเป็นเด็กชายเด็กหญิงในชนเผ่าที่จะโดนเซ่นไหว้ และเป็นเพื่อนเล่นตั้งแต่เด็กของเสี่ยวฮัวฮัวสาวใช้ของข้า ยิ่งกว่านั้น พวกเราจะเข้าไปในชนเผ่าก็จะต้องเข้าใจสถานการณ์ภายในชนเผ่าซะก่อนนี่นา!
นี่ก็เพราะคิดเผื่อเรื่องความปลอดภัยของพวกเรา พวกเราคิดอยากจะเข้าใจสภาพความเป็นจริงของชนเผ่า ก็ไม่สามารถให้ผู้อื่นรู้ตัวตนที่แท้จริงของเราได้ เช่นนี้ เรื่องที่ท่านอยากตรวจสอบและเรื่องที่ข้าอยากรู้ ก็สามารถสืบค้นได้ง่ายขึ้น ท่านว่าใช่หรือไม่?”
ไม่ว่านางจะพูดดีแค่ไหนก็ตาม ตาของเย่แจ๋หยิ่งก็ไม่กระพริบสักนิด สุดท้ายถึงขั้นก็หันหลังให้นาง
หลานเยาเยาหงุดหงิดทันที จากนั้นก็กำหมัดขึ้นมาต่อยไปในอากาศทางแจ๋หยิ่งหลายหมัดโดยไม่มีเสียงใดใด
ทันใดนั้น!
นางหลบอย่างว่องไว เห็นได้ถึงความเจ้าเล่ห์ในดวงตาของนาง
ดังนั้นแล้ว นางอ้อมจากด้านหลังของเย่แจ๋หยิ่งไปทางใต้แขน จากนั้นคนทั้งคนก็มุดเข้าไปในอ้อมอกของเขา เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเย่แจ๋หยิ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นางก็ให้มือเรียวขาวละเอียดไปสัมผัสที่ริมฝีปากบางๆที่มีความเย็นเล็กน้อยของเขา
คราวนี้ ในที่สุดแววตาของเย่แจ๋หยิ่งกระพริบไปสองสามที ยื่นมือใหญ่ๆไปจับนิ้วมือที่ซุกซนของนาง จากนั้นก็มองตาของนาง
“มีลูกให้ข้าคนนึงเถอะ!”
เมื่อสักครู่เห็นหลานเยาเยาเอามือพยุงที่เอว อีกมือหนึ่งลูบที่ท้องท่าทางเหมือนคนท้องมากๆ เขาจึงอยากเป็นท่าทีหลานเยาเยาตั้งท้องจริงๆขึ้นมากะทันหัน
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เขาก็ยังอยากเห็น
“ห๊ะ?”
หลายเยาเยาอ้าปากเหวอทันที
การหักมุมของบทสนทนานี้ทำให้คนตกใจมากจริงๆ
แม้ว่าพวกเขาพวกเขาจะทำเรื่องนั้นกันหลายครั้งแล้วเกือบจะหุงข้าวดิบให้สุกแล้ว แต่ว่าก็ยังไม่ได้ข้ามขั้นตอนสุดท้ายไป แล้วทำไมเขาจึงคิดจะมีลูกนะ?
อยู่ต่อหน้าหลานเยาเยาที่ดูลังเล เย่แจ๋หยิ่งก็เก็บสีหน้าไป แล้วเปลี่ยนเป็นกอดนางเบาเบา
“ไม่เป็นไร ยังมีโอกาส”
หืม?
อะไรที่เรียกว่ายังมีโอกาส?
เพียงแค่หลังจากจัดการเรื่องที่นี่เรียบร้อย พวกเขาก็กลับเมืองหลวงแล้ว ไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสมากมายแล้วหรือ?
“โอกาสมากมาย ขอเพียงแค่ใจของท่านไม่เปลี่ยนแปลง คำสาบานไม่สูญสิ้น เรื่องเข้าหอ คลอดลูก ก็ล้วนเป็นเรื่องไม่ช้าก็เร็ว”
แต่ว่า……
หลายเยาเยาจะรู้ได้เช่นไร หลังจากที่กลับจากชนเผ่าหยินไห่ ทุกอย่างเปลี่ยนไป เรื่องราวเปลี่ยนไปเกินความคาดหมายของนาง
—
วันที่สองตอนเช้าตรู่
หลานเยาเยา เย่แจ๋หยิ่ง หานแสแล้วก็ฮัวหยู่อันทั้งสี่คนเดินทางเข้าไปในชนเผ่าหยินไห่ด้วยกัน จื่อเฟิงและจื่อซีจะตามไปอย่างลับๆในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม!
แม้ว่าจะถอนพิษของจื่อเฟิงได้แล้ว แต่บาดแผลที่ผิวหนังไม่สามารถหายได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงต้องดูแลรักษาอีกสองสามวัน
และจื่อซีทำไมรอผ่านไปสองสามวันถึงค่อยตามไปล่ะ?
จื่อซีแสดงออกอย่างช่วยไม่ได้
เจ้านายมีพระชายา และพระชายามีทั้งหน้าตามีนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งยังมีวิชาการรักษา เขาตามไปแล้วจะทำอะไรได้? เจ้านายไม่แยแสเขากับจื่อเฟิงไปตั้งนานแล้ว วันเวลาที่พวกเขาได้ติดตามเจ้านายเป็นแรมปีนั้นหวนคืนมาไม่ได้ตั้งนานแล้ว
สำหรับอาฝูและโม่ซาง พวกเขาจะพักที่โรงเตี๊ยมสักช่วงหนึ่ง รอให้บาดแผลดีขึ้นแล้วค่อยไปจากที่นี่
แน่นอน!
ยังมีคนที่สำคัญอีกคนหนึ่ง
นั่นก็คือคุณชายเหลียงเฉินโม่เหลียงเฉิน เพื่อที่จะชิงตัวเสี่ยวฮัวฮัวของเขา เขาก็ไม่ลังเลที่จะใช้อุบายชายรูปงาม หลังจากรอจนไม่มีข้อมูลที่ใช้ได้จากเสี่ยวฮัวฮัวแล้ว ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ฮัวหยู่อันคิดวางแผนว่าจะพาเขาไปเจอกับท่านพ่อของตัวเอง จากนั้นก็หาฤกษ์งามยามดีแต่งงาน
คิดไม่ถึงว่าเมื่อถึงเช้าวันนี้ คนก็หายไปอย่างไม่มีสาเหตุ ฮัวหยู่อันโกรธจนถือมีดคิดจะฆ่าคน
แต่ว่า ดีที่นางไม่ได้เสียใจมาก โกรธครู่หนึ่งก็ไม่มีปัญหาแล้ว
ชนเผ่าหยินไห่ไม่เหมือนกับหมู่บ้านธรรมดาๆ ไม่ใช่ว่าใครก็ได้จะเข้ามาได้ตามใจ
กลับกัน เข้าไปในเขตของชนเผ่าจะมีคนคอยเฝ้าอยู่โดยเฉพาะ ไม่เพียงมีคนเฝ้าโดนเฉพาะ แต่คนที่เฝ้านั้นยังมีร่างกายใหญ่โตแข็งแรงมากด้วย ในมือถือค้อนเหล็กที่มีหนาม มองแวบแรกก็คือนักรบที่ทรงพลังและโหดเหี้ยมมาก
พวกเขามีกันสองคน แยกกันยืนที่ประตูใหญ่ทางเข้าชนเผ่าสองฝั่ง
หลานเยาเยาพวกเขาหยุดยืนเรียงแถวหน้ากระดานตรงหน้าของพวกเขา
คนเฝ้าประตูทั้งสองก็รีบกวัดแกว่งค้อนเหล็กอันใหญ่โต เปิดปากถามด้วยความระมัดระวัง :
“ใครกัน?”
“ผู้บุกรุกชนเผ่าต้องตาย”
หลานเยาเยามองพวกเขา หลังจากนั้นก็ใช้นิวชี้โบกไปที่พวกเขา เปิดปากพูดว่า : “ไม่รู้ว่าพวกข้าเป็นใคร? ดวงตาสุนัขของเจ้าบอดไปแล้วจริงๆ ให้คนมา ปล่อยเสี่ยวฮัวฮัว”
เย่แจ๋หยิ่ง : “……”
หานแส : “……”
ฮัวหยู่อัน : “……”
ที่น่าอายที่สุดไม่พ้นฮัวหยู่อันที่โดนหลานเยาเยาเยาพูดเหมือนเป็นปล่อยสุนัข
ที่นี่เป็นถิ่นของนาง หลานเยาเยาไม่รู้จักไว้หน้านางบ้างหรือไง?
เวลานี้!
คนเฝ้าประตูเหมือนเผชิญกับศัตรู ดวงตาแสดงความดุดันในทันใด แววตาจ้องมองไปที่พวกเขาโดยตรง
หากเป็นคนปกติ คงไม่มีค่าให้พวกเขาสนใจ แต่พวกเขาเห็นเย่แจ๋หยิ่งและหานแสที่ยืนอยู่หลังหลานเยาเยา ร่างของทั้งสองมีรัศมีที่แข็งแกร่ง ทำให้พวกเขากดดันขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
แต่ว่า สิ่งที่ทำพวกเขาคิดไม่ถึงคือ ออกมาต่อต้านพวกเขานั้นคือผู้หญิงที่ร่างกายผอมอ่อนแอผู้หนึ่ง
และเป็นหญิงที่หน้าตายังดูคุ้นเคยอีกด้วย
“อาต้า อาเอ้อ ไม่เจอกันเพียงไม่นาน พวกเจ้าจำข้าไม่ได้แล้วหรือ?”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น อาต้าและอาเอ้อเบิกตาโพลงทันที หลังจากที่จำได้แล้ว ก็รีบคุกเข่าลงข้างเดียวให้ฮัวหยู่อัน : “คุณหนูกลับมาแล้ว!”
“อืม ยังขวางไว้อีกหรือ?”
“ไม่ขวางแล้ว ไม่ขวางแล้วขอรับ” อาต้าและอาเอ้อยอมทันที
ฮัวหยู่อันรู้สึกว่าในที่สุดตัวเองก็เงยหน้าอ้าปากได้ซักที
ดูๆ ที่มาของข้าก็ตำแหน่งใหญ่ หลังจากนี้ต้องดีต่อตัวเองหน่อย
แต่ว่าเมื่อนางหันกลับไปดูหลานเยาเยาพวกเขา กลับพบว่าสายตาของพวกเขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย ราวกับว่ารู้มานานแล้ว หงุดหงิดขึ้นมาในพริบตา