หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 220 ตำนานของหุบเขาจิ้น
บทที่ 220 ตำนานของหุบเขาจิ้น
หลังจากเสียงกรีดร้องดังขึ้น ก็ได้ยินเสียงสิ่งของบางอย่างหล่นลงมาจากต้อนไม้
พอหันหน้ากลับไปก็เจอกับจื่อซี
สีหน้าของเขาดูเจ็บปวด มือเท้าไม่ขยับ ราวกับโดนบางอย่างรัดตรึงเอาไว้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือร่างของเขาค่อยๆลอยขึ้นไปกลางอากาศ
เกิดอะไรขึ้น?
เห็นได้ชัดว่ารอบตัวเขานั้นว่างเปล่า แต่สภาพของเขานั้นราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังจู่โจมเขาอยู่อย่างนั้น
” เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ”
หลานเยาเยาหยิบมีดออกมาชโลมยาพิษ จากนั้นก็เดินตรงไปยังจื่อซี แต่ก็ถูกจื่อซีหยุดยั้งเอาไว้
” อย่า พระชายาอย่าเข้ามา มีบางสิ่งรัดตรึงข้าน้อยไว้ สิ่งนี้นั้นทั้งใหญ่และยากต่อการต่อกร ”
หลังจากที่จื่อซีพูดไม่กี่ประโยคออกมาอย่างยากลำบาก ก็พลันมองไปรอบๆทันที
เขามองไม่เห็นสิ่งใดเลย แต่สิ่งที่ตรึงเขาไว้อยู่นั้น ยิ่งรัดยิ่งแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เขาเกือบระเบิดเสียแล้ว
” เจ้าอดทนเข้าไว้ ”
หลานเยาเยาไม่หยุดก้าวเท้า แต่กลับรีบวิ่งเข้าไปหาจื่อซีด้วยความเร็ว
นางยังไม่ทันได้เข้าใกล้จื่อซี ก็เห็นเงาของใครบางคนบินมายังข้างกายของจื่อซี แต่ก็ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ร่างของเขาก็ถูกกระแทกออกมา
หลานเยาเยาค่อนข้างตะลึง !
เมื่อนางมองเห็นใบหน้าที่ชัดเจนของเขาคนนั้นก็รู้ว่าเขาคือองครักษ์ลับของเย่แจ๋หยิ่งผู้มีความสามารถด้านวรยุทธ์ที่สุด —— จื่อเฟิง
จื่อซีมีหน้าที่เป็นผู้ชำนาญวิชาการรักษาในเหล่าองครักษ์ลับ
ส่วนจื่อเฟิงมีหน้าที่เป็นผู้ชำนาญวรยุทธ์ในเหล่าองครักษ์ลับ
อยู่ๆเย่แจ๋หยิ่งสั่งให้เขาทั้งสองมาคอยอยู่ข้างกายนาง เขาคิดจะทำการสิ่งใดกันแน่?
พวกเขาตัดขาดกันแล้วไม่ใช่หรือ?
เหตุใดถึงไม่ตัดให้หมด ?
คำถามเหล่านี้แล่นขึ้นมาในสมองของนางเพียงครู่เดียว นางก็รีบขจัดความคิดฟุ้งซ่านเหล่านี้ทิ้งไป
หลังจากที่เดินมาอยู่ห่างจากจื่อซีไม่กี่ก้าว นางก็หยุดเท้าลง จากนั้นก็แทงไปยังฝั่งของจื่อซีซึ่งห่างจากจื่อซีไม่ไกลมากนัก แล้วมีดก็ถูกสะกัดเอาไว้
แล้วนางก็ได้กลิ่นบางอย่างที่มีกลิ่นเหม็นโชยมา ราวกับกลิ่นคาวที่ออกมาจากงู
งู?
ดูท่าแล้วคงจะเป็นงูยักษ์ที่พวกเขามองไม่เห็นกำลังรัดจื่อซีเอาไว้
แล้วนางก็ออกแรงแทงเข้าไปอีกทีจนมีดเข้าไปแล้วเล็กน้อย จากนั้นนางก็รีบดึงมีดออกมา
หลังจากที่ดูคราบเลือดบนมีด มุมปากของหลานเยาเยาก็ยกขึ้น
มีดอาบยาพิษ อีกทั้งยาพิษที่นางชโลมเข้าไปนั้นมีฤทธิ์ร้ายแรงอย่างมาก นางไม่เชื่อหรอกว่ามันจะไม่ตาย !
” บูม….” งูยักษ์นั้นราวกับกำลังเจ็บปวด ถึงได้มีการเคลื่อนไหวขึ้นมา แล้วจื่อซีก็ร่วงลงไปบนพื้น
“บูม……”
ลมแรงกับสิ่งที่มองไม่เห็นกระแทกเข้ากับหลานเยาเยาโดยตรง
แม่เจ้า !
หาเรื่องใส่ตัวเสียแล้ว
หลานเยาเยารีบหลบทันที….
แต่ทันทีที่นางหลบตัว กลับเข้าไปสู่พื้นที่ที่อันตรายกว่าเดิม
กลิ่นฉุนของงูลอยเข้าจมูกอย่างไม่ขาดสาย และยิ่งนานกลิ่นก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้น
แย่แล้ว ดูท่าแล้วงูยักษ์ที่มองไม่เห็นนั้นกำลังล้อมนางอยู่
นางจะต้องหาหนทางถือจะถูก
จริงด้วย หรดาลแดง !
งูกลัวหรดาลแดงไม่ใช่หรือไง?
เช่นนั้นนางก็จะใช้หรดาลแดงจัดการกับมัน
ถึงแม้นางจะไม่มีกำมะถันสำเร็จรูป แต่ในระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บมีส่วนผสมของเทียนบ้านตากแห้งอยู่ ซึ่งราก ลำต้นและดอกของเทียนบ้านล้วนมีกำมะถันผสมอยู่
จากนั้น ! นางจึงรีบหยิบเทียนบ้านจำนวนมากออกมา บางส่วนก็ถือไว้ในมือ บางส่วนก็ขยี้ทาไว้ทั่วร่าง
สิ่งของในระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บล้วนแต่เป็นของดีอันดับหนึ่ง ดังนั้นกลิ่นของดอกเทียนบ้านจึงมีความรุนแรงเป็นอย่างมาก
ผลที่ได้งั้นรึ! แน่นอนว่าสามารถเห็นได้ชัดเลยว่านางไม่ได้รู้สึกถึงการเข้าใกล้ของงูยักษ์ตัวนั้น แต่นางรู้ตัวดีว่านางยังไม่รอดพ้นจากอันตราย
งูยักษ์ตัวนั้นราวกับยังวงเวียนอยู่รอบตัวนาง เพียงแค่ไม่ได้เข้าใกล้นางก็เพียงเท่านั้น….
เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดพิษจึงยังไม่ออกฤทธิ์ ? มีดอาบยาพิษก็แทงเข้าไปในตัวงูแล้ว ต่อให้มันจะเป็นสัตว์ใหญ่เพียงใด เพียงไม่นานพิษก็ควรจะออกฤทธิ์แล้วสิ ?
แล้วสิ่งที่นางคิดไม่ถึงก็คือ งูยักษ์ไร้ตัวตนมันฉลาดกว่าที่นางคิดเอาไว้ ถึงแม้มันจะไม่เข้าใกล้ตัวนาง แต่มันกลับใช้ร่างกายรัดเอาก้อนหินก้อนใหญ่โยนมายังตัวนาง
หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ แผ่นหลังก็เย็นวาบขึ้นมา
แม่เอ้ย!
สติปัญญาของงูยักษ์ตัวนี้สูงเกินไปแล้ว !
ดวงตาจ้องมองไปยังหินก้อนใหญ่ที่กำลังลอยเข้ามา หลานเยาเยาที่คิดอยากจะหลบหนี แต่กลับไร้หนทางเพราะ
นางถูกงูยักษ์ล้อมเอาไว้
ต่อให้หลบไปได้ นางก็ยังคงอยู่ในวงล้อมของงูยักษ์อยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นคือนางมองไม่เห็นงูยักษ์ตัวนั้น และยิ่งไม่รู้ว่าส่วนหัวของมันอยู่ครงไหน
ช่างกลัวเสียจริงว่าหากไม่ทันระวังขยับตัวไปอยู่ใกล้ปากของมัน เช่นนั้นก็ไม่มีคุ้มค่ากับสิ่งที่เสียไป…..
แล้วในเวลานั้นเอง ! เอวก็ถูกรัดเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของใครบางคนทันที จากนั้นร่างก็ลอยจากพื้นดินออกไป บินไปยังต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล หลังจากที่หลานเยาเยายืนอย่างมั่นคงบนต้นไม้ใหญ่ นางก็มองไปยังคนที่อยู่ข้างกาย ก็เห็นกับใบหน้าอันหล่อเหลาของหานแสที่มุมปากกำลังค่อยๆยกขึ้นพอดี
ท่าทางเจ้าเล่ห์ที่แสนน่าหลงใหลเช่นนั้น ทำให้หลานเยาเยารู้สึกเอือมระอา
” คิดไม่ถว่าเจ้าจะช่วยผู้อื่นๆด้วย ? น่าประหลาดใจยิ่งนัก?
เมื่อสักครู่นี้เขายืนดูสถานการณ์อยู่ตลอด อีกทั้งก่อนหน้านี้นางก็จงใจทำให้โกรธอีกด้วย คิดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมาให้ความช่วยเหลือ
เห็นได้ชัดเลยว่าเขาเป็นคนที่ชอบทำตัวไร้อารมณ์….
แถมนางยังรู้เกี่ยวกับตัวตนของเขาไม่น้อย ตัวตนเช่นนั้น แผ่นหลังเช่นนั้น หลังจากที่เขาเปิดเผยตัวตนของเขากับในตอนที่เขาเข้ามาในชนเผ่าหยินไห่ นางก็คิดว่า คำว่า’ช่วยชีวิตคน’คำนี้หากใช้กับหานแส คงจะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
คิดไม่ถึงว่าเวลานี้เขากลับช่วยนาง…..
“น่าประหลาดใจ? เจ้าว่าหากตอนนี้ข้าโยนเจ้ากลับไปจะยิ่งน่าประหลาดใจกว่าหรือไม่? ”
เพียงแต่…..เขาที่ยังพูดไม่ทันขาดคำก็มองเห็นหลายเยาเยากอดกิ่งไม้ใหญ่ไว้แน่น พลางยิ้มให้กับเขาอีก สีหน้าเช่นนั้นราวกับกำลังบอกว่า ‘ ตอนนี่เจ้าโยนข้าลงไปสิ’
เดี๋ยว ! กลิ่นของต้นไม้นี้มันไม่ถูกต้อง แล้วหลานเยาเยาจึงรีบดมกลิ่นไปรอบๆ ในใจก็ยิ่งสงสัย
” หานแส เจ้าลองสัมผัสตรงนี้เสียหน่อย ดูว่ามีคนสร้างเขาวงกตเอาไว้ใช่หรือไม่? หรือว่าเป็นภาพลวงตา ”
อากาศที่ปลอดโปร่งสดใส แต่ลมกับพัดพาเอาความชื้นมาด้วย….
งูยักษ์ที่มองไม่เห็น……
ต้นไม้ใหญ่ที่มีกลิ่นไอดิน……
จากสัญญานแสดงให้เห็นว่าทุกสิ่งที่พวกเขามองเห็นไม่ใช่ของจริง
ดังนั้น ! ก็เป็นไปได้ที่ว่าจะมีผู้อื่นสร้างภาพลวงตาเอาไว้ แต่นางกลับดูไม่ออก แต่หานแสเป็นคนมีพลังภายในที่ล้ำลึก วรยุทธ์ที่แข็งแกร่ง บางทีเขาอาจจะมองกลออกบ้าง
ได้ยินเช่นนั้น ! หานแสก็มองไปรอบๆ ค่อยๆขมวดคิ้วสุดท้ายเขาก็ส่ายหน้า
” ที่นี่ไม่มีค่ายกล และก็ไม่เหมือนกับว่ามีคนร่ายภาพลวงตาด้วย ” แต่แล้วเขาก็นึกถึงอะไรบางอย่างก่อนจะขยับปากบางๆ
” แต่ว่า มีกมีตำนานที่ชนเผ่าหยินไห่เล่าสืบต่อกันมา ”
” ตำนาน? ”
ตำนานอะไรกัน?
คงจะไม่เป็นดังเรื่องบูชายัญอีกหรอกนะ? นั่นถือเป็นตำนานที่อันตราย
” ไม่กี่ร้อยปีมาก่อน ผู้ทรยศทำการรบราฆ่าฟัน การปกครองเกิดความปั่นป่วน ราษฎรล้มตาย มีกินหล่นลงมาจากฟ้า ทำลายหลุมฝังศพของผู้ทรยศเพื่อเป็นการลงโทษ ต่อมาผู้ทรยศถูกสังหาร ใต้หล้าถึงได้สงบสุขดังทุกวันนี้ แต่หลังจากการปรากฏของหินก้อนนั้น หมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับหินก้อนนั้นมักจะเกิดเรื่องประหลาดขึ้นอยู่เสมอ บ้านที่เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่สัตว์เหล่านั้นก็ไม่เป็นดังเป็นดังไก่ บามให้กำเนิดบุตร เด็กทารกก็มีหน้าตาราวกับสัตว์ประหลาด ปละยิ่งไปกว่านั้นเคยมีผู้ที่พบเห็นภูติผีปีศาจเสียด้วย ทุกคนต่างกล่าวว่าที่นี่เป็นหลุมศพของผู้ทรยศ ที่ถูกทับด้วยหินและสาปแช่งจากสวรรค์ จึงเป็นสถานที่เลวร้าย ดังนั้น! ผู้คนมากมายจึงค่อยๆหนีออกไปจากที่นี่ และที่นี่เองก็ค่อยๆถูกขนานนามเป็นหุบเขาจิ้น ”
ดวงตาของหลานเยาเยาประกายออกมาหลังจากฟังหานแสเล่าจบ
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ! หินที่ตกลงมาจากท้องฟ้าที่แท้ก็ไม่ใช่ก้อนหิน แต่เป็นอุกกาบาต
อุกกาบาตมีการแผ่รังสีที่รุนแรง สัตว์ปีกและทารกในหมู่บ้านคงจะได้รับการดูดซับรังสีเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดความผิดปกติ
ส่วนผู้ที่เห็นภูติผีปีศาจคงจะเป็ยเพราะว่าภาพลวงตาที่เกิดจากอุกกาบาต
เหอะ อุกกาบาต !
ตอนนี้นางก็เข้าใจเสียที ว่าเหตุใดที่ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บถึงไม่ทำงานตามปกติ
ดูท่าแล้วทุกอย่างล้วนแต่เกี่ยวข้องกับอุกกาบาต
แล้วตอนนี้ตำแหน่งของพวกเขาก็อยู่ใกล้กับอุกกาบาต สิ่งที่มองเห็น คงจะเป็นภาพลวงตาที่อุกกาบาตสร้างขึ้นมา.