หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 367 ดำเนินการทั้งหมดอย่างลับๆ
บทที่ 367 ดำเนินการทั้งหมดอย่างลับๆ
ความรักความแค้นของฉินหลิงเจียวและหลินเฟยหรัน มองจากผิวเผิน หลินเฟยหรันเป็นคนฆ่าฉินหลิงเจียว องค์ชายสี่โดนวางยาพิษ ก็เป็นการลงมือของหลินเฟยหรัน และหลินเฟยหรันก็ยังรับสารภาพแล้ว
นางไม่ได้เกี่ยวอยู่ในนี้เลย เป็นผู้ที่อยู่นอกนอกเกมโดยสิ้นเชิง
อีกทั้งปัจจัยที่ไม่เป็นผลดีต่อนางก็ถูกขจัดไปหมดแล้ว
เทพธิดาไม่มีทางเอาหลักฐานออกมาได้!
เห็นเทพธิดามองดูยาพิษในมือของนาง นางก็รีบหัวเราะเบาๆออกมา
“นี่เป็นยาวิเศษที่ข้าเอามาอย่างยากลำบากจากที่หมอดูนั่น เป็นผลดีต่ออาการป่วยขององค์ชายสี่และไม่ส่งผลเสียสักน้อย”
แม้จะโดนนางจับได้กับมือแล้วจะยังไง?
นางก็ยังคงสามารถปฏิเสธ
แสร้งทำเป็นว่าตัวเองไม่ผิดไม่รู้เรื่องทั้งหมด ยาก็เป็นหมอดูให้มา เทพธิดายังสามารถเป็นพยานให้นางได้!
หากตรวจสอบออกมาว่าเป็นยาพิษ
เช่นนั้นก็เป็นหมอดูคิดยืมมือนางวางยาฆ่าองค์ชายสี่ ไม่เกี่ยวกับนางนี่!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง!
วันนั้นเทพธิดาก็ได้เห็นนางกับตาตัวเอง ที่ไปหาหมอดูเพื่อไปขอความปลอดภัยให้กับองค์ชายสี่
หลานเยาเยาเห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง
ก็ได้เพียงยกมุมปากขึ้น จากนั้นก็ขยับมือเล็กน้อย ด้ายสีเงินที่พันอยู่ตรงข้อมือของหลานจิ่นเอ๋ออยู่ก็ถูกเก็บกลับมา
หลานจิ่นเอ๋อยังคิดว่าเทพธิดาจับพิรุธที่แท้จริงของนางไม่ได้ ดังนั้นจึงได้ปล่อยนาง
ด้วยเหตุนี้!
นางก็ลูบรอยมัดแดงๆที่ข้อมือเบาๆ เอาตัวมาเผชิญหน้ากับเทพธิดาอย่างสมบูรณ์แบบ
กำลังคิดจะอวดดีสักหน่อย……
“เจ้าว่า พวกเขาจะเชื่อถือข้า หรือว่าจะเชื่อข้ออ้างตลบตะแลงไม่ลงตัวรอบนี้ของเจ้า
จะวางยาพิษองค์ชายสี่ โดนจับได้จะจะ ยังคิดอยากจะเถียงข้างๆคูๆ กลับคิดว่าตัวเองสำคัญมาก
“เจ้าพูดถูก พวกเขาไม่เชื่อข้าแน่ แต่แม้ว่าจะจับข้า ก็ต้องมีพยานหลักฐานที่แท้จริงสิ?”
สีหน้าของหลานจิ่นเอ๋อบิดเบี้ยวเล็กน้อย ท่าทางเปลี่ยนเป็นชั่วร้ายขึ้นมา
นางรู้เป็นแน่ คนอื่นไม่สามารถจะเชื่อนาง แต่ว่าทั้งหมดก็จะต้องมีพยานหลักฐานที่แท้จริง
มองดูท่าทางแบบหมูโง่ที่ไม่กลัวน้ำร้อนลวกของหลานจิ่นเอ๋อ เลิกคิ้วเล็กน้อย เดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความไม่รีบร้อนและไม่ได้เชื่องช้า
ยังจะมีอะไรที่อธิบายได้ดีไปกว่าการโดยจับได้คาที่อีก?
ดีสิ!
เช่นนั้นก็ทำให้หลานจิ่นเอ๋อตายใจอย่างถึงที่สุด
“เอาหลักฐานยังไม่ง่ายอีกหรือ? ยังไงซะหมอดูก็ยังไม่ตาย เขาได้สารภาพหมดแล้ว”
เมื่อคำพูดนี้หลุดไป หลานจิ่นเอ๋อรีบโต้แย้งทันที
“เป็นไปไม่ได้ เขาตายแล้ว เจ้าคิดจะหลอกข้า ไม่มีทาง อย่าคิดว่าเจ้าเป็นเทพธิดา จะสามารถใส่ร้ายคนดีมั่วซั่วได้”
พูดก็พูดเช่นนี้ได้
แต่ว่า!
เมื่อได้ยินว่าหมอดูยังไม่ตายในขณะนั้น ทั้งร่างกายของนางก็เริ่มสั่นเทาขึ้นมาแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น นางไม่ได้ตรวจสอบศพของเขาด้วยตัวเอง……
“ยังจะไม่ยอมแพ้อีกหรอ? ดูสินี่คืออะไร?”
หลานเยาเยาหยิบคำสารภาพแผ่นหนึ่งออกมา หลานจิ่นเอ๋อเดินเข้าไปดูด้วยความสั่นเทา ทันใดนั้นคนทั้งคนก็ทรุดลงไปอยู่ที่พื้น
นางจำลายมือนี้ได้……
ที่แท้เขายังไม่ตายจริงๆ……
“คาดไม่ถึงว่ายังไม่ตาย? ทำไมถึงยังไม่ตาย? ……แต่ว่า เช่นนั้นแล้วยังไง?”
ในเวลานี้หลานจิ่นเอ๋อพร้อมด้วยใบหน้าที่ปราศจากเลือด ฟันที่กัดริมฝีปากจนแตกแล้ว ยังมีเลือดไหลออกมาอีก
กล่าวต่อว่า :
“เจ้าได้โดยยาพิษที่ข้าวางไว้แล้ว ไม่มียาถอนพิษเจ้าก็มีชีวิตต่อไม่ได้แล้ว เพียงต้องการ……เพียงต้องการให้เจ้าทำลายหลักฐานในมือทิ้ง แล้วก็ฆ่าพยานผู้นั้น ข้าก็จะให้ยาถอนพิษ เป็นเช่นไร?”
เห็นเทพธิดาไม่พูดจา
เพียงมองนางนิ่งๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความเย้ยยั่น นางก็ได้ถามอย่างสิ้นหวังอีกรอบด้วยเสียงอันดัง
“เป็นเช่นไร?”
“เจ้าพูดถึงไร้สีไร้รสชนิดนั้น และยังเป็นยาพิษที่ออกฤทธิ์ช้าไม่คู่ควรให้พูดถึง? หลานจิ่นเอ๋อ เจ้าชั่งประเมินข้าต่ำไปแล้ว อย่าลืมไป ข้าเป็นถึงหมอ”
“อะไร?” คิดไม่ถึงว่านางจะรู้ เช่นนั้นนางทำไมยัง……
“เจ้า……เจ้า……”
หลานจิ่นเอ๋อชี้ไปที่เทพธิดา พูดจาไม่ออกสักประโยค
“เอาล่ะ ใช้กลอุบายหมดแล้วใช่ไหม?”
เมื่อคำพูดของหลานเยาเยาหลุดไป
ที่ประตูก็มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา มีองค์ชายรัชทายาทเย่หลีเฉิน ยังมีฮ่องเต้ และยังมี สายราชวงค์และขุนนางอีกหลายคน
มองเห็นพวกเขา
หลานจิ่นเอ๋อยังมีอะไรไม่เข้าใจอีกล่ะ?
ทันใดนั้นน้ำตาแห่งความปวดร้าวก็หลั่งริน นางร้องไห้อย่างหนัก
ก่อนที่จะโดนนำตัวไป นางก็หัวเราะเหมือนคนเป็นบ้า
“ที่แท้ก็เป็นแผนการที่วางแผนมาอย่างรอบคอบ ตั้งอกตั้งใจเป็นอย่างยิ่ง!”
“เขาพูดถูก คนที่ถูกเทพธิดาเพ่งเล็ง ล้วนไม่ได้ตายอย่างสงบ”
“เจ้า พวกเจ้า ยังมีพวกเจ้า ก็ล้วนเหมือนกันหมด ไม่ได้ตายอย่างสงบ ไม่ได้ตายดี ทั้งหมดล้วนต้องตาย”
“……”
หลานจิ่นเอ๋อโดนนำตัวออกไปแล้ว
เสียงตะโกนแหลมเสียดหูของยางยิ่งเบาลงเรื่อยๆ สุดท้ายก็ค่อยๆหายออกไปจากหูของทุกคน
ณ ขณะนี้!
หลานเยาเยามองดูกลุ่มคนตรงหน้าที่ประจบสอพลอ อดไม่ได้ที่จะเอาสายตาไปมองยัง ร่างขององค์ชายสี่ที่นอนอยู่บนเตียงยาว……
……
หลานเยาเยาที่ได้กลับมาถึงตำหนักเทพธิดา ปีนขึ้นไปยังศาลาที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบที่คนสร้างขึ้น บางคราวก็มองไปยังใบบัวในทะเลสาบ บางคราวมองไปยังก้อนเมฆบนขอบฟ้า ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ถึงยามพระอาทิตย์ตกดินอีกแล้ว ไม่พูดแล้ว ไม่พูดแล้ว”
ช่าจื่อเย็นหงที่อยู่เป็นเพื่อนข้างกายนาง ได้ฟังเรื่องราวเพียงครึ่งหนึ่ง กำลังรู้สึกตื่นเต้น เทพธิดาก็หยุดพูดกะทันหันแล้ว
พวกนางรีบทุบหลับก็ทุบหลังไป เทชาก็เทชาไป
ขยันได้มากเท่าไหร่ก็ขยันเท่านั้น
“เทพธิดา ท่านรีบพูดเถอะเจ้าค่ะ! หลานจิ่นเอ๋อหลอกใช้ฉินหลิงเจียวและหลินเฟยหรันเช่นไรเจ้าคะ? นางทำเช่นนี้เพื่ออะไรหรือเจ้าคะ?”
“ถูกต้องเจ้าค่ะ! เทพธิดา ทำไมฉินหลิงเจียวและหลินเฟยหรันถึงได้หลงใหลยู่หลิวซูของตึกฟังงิ้วขนาดนี้เชียวเจ้าคะ?”
ภายใต้แววตาแห่งการรอคอยที่ผิดปกของพวกนางทั้งสอง
หลานเยาเยายื่นมือออกไปเกียจคร้าน น้ำชาอุ่นๆแก้วหนึ่งก็วางไว้ในมือของนาง
หลังจากที่แก้กระหายน้ำ นางก็ขี้เกียจจะทำให้พวกนางอยากรู้ กล่าวต่อว่า :
“เพราะว่าหลานจิ่นเอ๋อมีบิดาที่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ผลประโยชน์ผู้หนึ่ง เพื่อหนทางการเป็นขุนนางของตัวเอง แม้จะเป็นแก้วตาดวงใจของตัวเอง เขาก็ยินยอมที่จะเชื่อฟังมอบให้คนเจ้าชู้เป็นนิสัย ทั้งเป็นผู้ที่ชื่นชอบการได้ใหม่ลืมเก่าอย่างองค์ชายสี่
แต่หลานจิ่นเอ๋อเพื่อที่จะสลัดการแต่งงานกับองค์ชายสี่ วิธีการมีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือทำให้องค์ชายสี่ตาย เพื่อจะทำให้ตัวเองปลีกตัวออกนอกเรื่องราว นางก็เลยต้องหาตัวตายตัวแทน
และฉินหลิงเจียวกับหลินเฟยหรันก็เป็นคนที่ได้รับการเลือกไว้เป็นเป้าหมายในใจของนาง
นางจงใจกับผู้ที่จริงใจเปิดเผย และเชื่อมสัมผัสที่ดีกับฉินหลิงเจียวที่จิตใจตรงไปตรงมาพูดจาไม่อ้อมค้อม ทั้งยังเอาอกเอาใจ กลายเป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทของนาง
ด้วยเหตุนี้ นางก็ยังได้แอบหาผู้ที่ชำนาญการใช้พิษอย่างลับๆ ทั้งยังเป็นนักฆ่าที่ชอบปลอมเป็นหมอดู ได้ซื้อยาพิษที่สามารถทำให้หลอนประสาทและตกอยู่ในความบ้าคลั่งจากที่เขานั้น
หลังจากที่หลินเฟยหรันหลงกล ก็ได้คลั่งไคล้ยู่หลิวซูของตึกฟังงิ้วเป็นอย่างหนัก จากนั้นก็คิดวางแผนทำให้ฉินหลิงเจียวพบกับหลินเฟยหรันที่นัดพบกับยู่หลิวซูแบบส่วนตัว
ความขัดแย้งระหว่างพวกนางก็รุนแรงขึ้น จากนั้นก็ได้วางยาพิษในแบบเดียวกันให้ฉินหลิงเจียว ทำให้ฉินหลิงเจียวก็เกิดการลุ่มหลงยู่หลิวซูอย่างหนัก
ล้วนเป็นเพราะผลกระทบที่ทำให้เกิดภาพหลอนของยาพิษ หลินเฟยหรันจึงได้เห็นยู่หลิวซูและฉินหลิงเจียวมีความสัมผัสกันขึ้นในความรู้สึกหลอน จึงทำให้เพิ่มโกรธแค้นฉินหลิงเจียวไปถึงกระดูก
เพื่อยู่หลิวซู และเพื่อเรื่องราวของตัวเองจะไม่ถูกแพร่กระจายออกไป นางก็มีใจคิดจะสังหารแล้ว
หลานจิ่นเอ๋อรู้ว่าองค์ชายสี่เจ้าชู้เป็นนิสัย ดังนั้นจึงตั้งใจทำให้องค์ชายสี่พบเข้ากับหลินเฟยหรันที่นัดพบกันอย่างลับๆกับยู่หลิวซู
เป็นไปตามที่นางคาดการณ์ องค์ชายสี่ใช้ข้ออ้างนี้ในการขู่เข็ญหลินเฟยหรัน และยึดครองร่างกายของหลินเฟยหรัน
หลินเฟยหรันที่หมดอาลัยตายอยากรู้สึกว่าฆ่าคนผู้หนึ่งก็คือฆ่า ฆ่าคนสองคนก็คือฆ่า
ดังนั้น ภายใต้การจัดการอย่างลับๆของหลานจิ่นเอ๋อ องค์ชายสี่โดนทำให้สลบ หลินเฟยหรันจึงได้ลงมือวางยาพิษ……”