หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 403 โจมตีด้านนอก ด้านในร่วมมือ
บทที่ 403 โจมตีด้านนอก ด้านในร่วมมือ
“คนที่นี่ระมัดระวังเป็นอย่างมาก แต่ข้าก็สืบมาได้แล้วว่า มีเพียงไม่กี่ร้อยคนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ แต่ข้ากล้าฟันธงว่ายังต้องมีคนอีกมากที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ”
“อื้ม ข้าก็สืบหาเรื่องนี้มาได้เหมือนกัน พวกเขาบอกว่าจะมีขุนนางของนายอำเภอตงเฉามา แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นเลย ทำให้พวกเขาระมัดระวังตัวกัน
พวกเราก็ต้องระวังหน่อย ห้ามเผยความลับเด็ดขาด ไม่งั้น ไม่เพียงแต่เราจะทำภารกิจที่เทพธิดามอบให้ไม่สำเร็จ พวกเราอาจต้องตายที่นี่อีก”
ขณะกำลังพูด ก็มีสายลมพัดมาจนเส้นผมของยู่หลิวซูและถิงเมี่ยนขยับ
พวกเขาสองคนหันไปมองทิศทางที่ลมพัดมาพร้อมกัน ในอากาศก็ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นควันจากการหุงอาหาร เพียงแต่ในตอนที่ลมพัดมาโดนจมูกของยู่หลิวซูและถิงเมี่ยนนั้น
เขาก็สัมผัสถึงความผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว
“ไม่ถูก อากาศของที่นี่มีปัญหา ถิงเมี่ยน รีบกลั้นหายใจ”
“ทำไม เจ้ารู้สึกถึงอะไรที่แปลกไป?”
ถิงเมี่ยนรู้ว่ายู่หลิวซูนั้นเก่งกาจ หลังจากที่ได้ยินยู่หลิวซูบอก ก็รีบปิดปากจมูกตัวเอง
“ในอากาศผสมไปด้วยกลิ่นควันที่ทำคนสลบ”
กลิ่นจางมาก แต่เขาก็ยังดมออก
“อะไร เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร หรือพวกเราจะเผยความลับอะไรไป?”
ถิงเมี่ยนทำหน้างวยงง เอ่ยคำถามที่เกิดขึ้นในใจ ยู่หลิวซูส่ายหัว พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม:
“ไม่ใช่หรอก!”
หลังจากพูดจบจู่ๆเขาก็มีความคิดเฉียบแหลมแว็บขึ้นมา เงยหน้ามองไปยังยอดเขาที่เทพธิดาเคยอยู่ก่อนหน้านี้ แม้จากตรงนี้จะมองไม่เห็นอะไร เพราะที่นี่ถูกต้นไม้ที่ขึ้นถี่ยิบบังเอาไว้
จู่ๆเขาคิดอะไรขึ้นมาได้……
หรือเทพธิดา?
จู่ๆยู่หลิวซูก็ตีหัวตัวเอง พวกเขาก็รีบมองไปที่เขาด้วยความสงสัย หลังจากนั้นก็จับมือนางไว้ ถามอย่างระวังว่า:
“เจ้าเป็นอะไร? ปวดหัว?”
“ไม่ใช่ พวกเราถูกเทพธิดาหลอกแล้ว”
“อะไรกัน? เทพธิดาหลอกพวกเรา? เป็นไปไม่ได้หรอก! เทพธิดาพวกเจ้านั้นสูงส่ง จะหลอกพวกเราทำไม?
แต่มันก็ดูเป็นเช่นนั้น! แต่ก่อนตอนอยู่บนเขา ข้าก็รู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ เมื่อได้ฟังเจ้าพูดเช่นนี้ ข้าก็รู้สึกว่าถูกหลอกแล้ว”
พวกเขาดึงทึ้งเส้นผมไม่หยุด คิดไม่ออกว่าทำไมเทพธิดาถึงหลอกพวกเขา
แต่ยู่หลิวซูคิดๆไป ก็ส่ายหัวอีกครั้ง
“เทพธิดาไม่ได้ตั้งใจจะหลอกพวกเรา นางแค่ทดสอบพวกเรา”
“ทดสอบ? ทดสอบอะไรพวกเรา?”
ถิงเมี่ยนคิดว่าตนเองนั้นฉลาด ทำการค้านั้นก็เป็นเรื่องง่ายๆ แต่ปัญหาเหล่านี้กลับทำให้เขางุนงง
คิดไม่ออกจริงๆว่าเทพธิดาอยากทดสอบอะไรพวกเขา?
“ในอากาศนี้มีกลิ่นของควันที่ทำให้คนสลบ เทพธิดาจะต้องสั่งให้คนมาปล่อยควันที่ทำให้คนสลบนี้ปนไปกับหมอกเป็นแน่ และควันที่ทำให้คนสลบนี้มันจางมากๆ
ถ้าเทพธิดาอยากให้คนที่นี่มึนหมดสติ คาดว่าต้องใช้เวลานาน ตอนนี้ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว เหล่าทหารที่แสร้งทำเป็นชาวบ้าน คาดว่าก็จะต้องนอน
เช่นนั้น ในช่วงเวลาที่พวกเขาสลบไสลก็จะยาวขึ้น ดังนั้นพวกเราก็ต้องทำให้พวกเขาขยับ”
ในเวลานี้ ยู่หลิวซูถึงจะเข้าใจเจตนาของหลานเยาเยาจริงๆ
“เจ้าจะหมายความว่า เป้าหมายจริงๆที่เทพธิดาให้พวกเราเข้ามาปะปนในหมู่บ้าน ไม่ใช่เพื่อสำรวจจำนวนคนในหมู่บ้านให้ชัดเจน แต่เพื่อร่วมมือกับนาง ทำให้ทุกคนโดนควันนี้และสลบไสลไม่ได้สติ?”
ถิงเมี่ยนเองก็จับประเด็นหลักได้ในทันที
“ดังนั้น สิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือ รีบทำให้พวกเขาสลบไป”
“จุดประสงค์ในการทดสอบของเทพธิดาก็รู้แล้ว แต่ว่าพวกเราจะทำอย่างไรหล่ะ?”
ยู่หลิวซูใช้มือข้างเดียวเท้าคางที่งดงาม และขบคิดเล็กน้อย
“ให้ทุกคนขยับ การออกกำลังสามารถเพิ่มความเร็วในการไหลเวียนของเลือด แบบนี้ก็จะช่วยย่นเวลาที่จะทำให้พวกเขาสลบ
“อ้อ! ข้าเข้าใจแล้ว ดูแล้วจะไม่ให้พวกเขาเห็นพวกเราก็คงไม่ได้”
พวกเขากลัว จนหลังจากที่เข้ามาในหมู่บ้านพวกเขาก็ระมัดระวังมาโดยตลอด ตอนนี้กลับดี ไม่ต้องระมัดระวังอะไร อีกทั้งยังต้องทำให้พวกเขาเจอตนเอง ว่าตนเป็นคนที่เข้ามาปะปนในหมู่บ้าน
เฮ้อ!
นี่มันอันตรายไปไหมนะ?
“ความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ!”
“เอ๋? แบบนี้พวกเราไม่ตายเหรอ?”
“ตายไม่ตาย ก็ต้องอาศัยความสามารถของพวกเราแล้ว”ยู่หลิวซูจับจมูก และพูดนิ่งๆ
ถิงเมี่ยนบึนปาก
ไม่มีทางอื่นแล้ว ทำได้เพียงร่วมมือกัน ดูท่าพวกเราสองคนจะต้องแยกกันทำ หากไม่ตาย พวกเราก็ได้สร้างวีรกรรมแล้ว!”
“อื้ม!”
……
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม สีท้องฟ้าก็มืดลง
หลานเยาเยาในตอนนี้ก็เดินลงมาจากเขาแสนไกลแล้ว ขณะนี้กำลังอำพรางตัวอยู่ในป่าปากทางเข้าหมู่บ้าน
นางเอาหน้ากากสีแดงเลือดมาบังหน้าตนเองไว้
เบื้องหลังคือกลุ่มคนสำนักหงอีที่ย้ายมาทันที พวกเขาซ่อนตัวกระจัดกระจายอยู่ในป่า มีประมาณสามสี่ร้อยคน
อย่างไรรังสำนักหงอีด้านนั้นก็ว่างเปล่าแล้ว
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด คนที่สามารถย้ายมาได้ นางก็ย้ายมาหมด
ผู้นำคนหนึ่งก้าวขึ้นมาคำนับและถามว่า:
“เจ้าสำนัก ทำไมในหมู่บ้านถึงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ?”
“รออีกหน่อย”
ยู่หลิวซูและถิงเมี่ยนไม่ทำให้นางผิดหวังแน่
พวกเขาสองคนฉลาดเป็นกรด ถ้าให้ยู่หลิวซูตระหนักได้ถึงยาสลบที่อยู่ในควันจากการทำอาหาร เชื่อว่าพวกเขาทั้งสองคนจะต้องรู้เจตนาที่แท้จริงของนางแน่
แม้พวกเขาจะเดาไม่ออกก็ไม่เป็นไร นางได้เตรียมแผนสำรองไว้แล้ว
แต่นางก็ยังเชื่อว่าพวกเขาสองคนจะทำได้
เป็นเช่นที่คิด!
รอจนเกือบครึ่งชั่วโมง จู่ๆในหมู่บ้านก็มีความเคลื่อนไหว ได้ยินเพียงเสียงเอิกเกริกแผ่วๆออกมาจากข้างใน
“มีนักฆ่า มีคนปะปนเข้ามา รีบจับนักฆ่าเร็ว”
จากนั้นคนในหมู่บ้านก็ตามจับนักฆ่าไปทุกที่ ทางฝั่งหมู่บ้านอีกด้านหนึ่งก็เกิดปัญหา
“ไฟไหม้แล้ว บ้านถูกเผาแล้ว ทุกคนรีบมาดับไฟเร็ว”
หมู่บ้านที่เคยเงียบสงบ ก็สว่างจ้าขึ้นมาทันที ท่าทางที่วุ่นวายนี้คึกคักกว่าตอนกลางวันมาก
เห็นไฟลุกไหม้ไปสองสามหลัง และก็ ‘ชาวบ้าน’ที่วิ่งมั่วซั่วไปมา หลานเยาเยาก็ยกรอยยิ้มขึ้น
“พวกเขาไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ”พูดจบก็หันหัวกลับไปพูดกับผู้นำว่า: “ส่งสัญญาณ บอกว่าคนในหมู่บ้านให้พวกเราจัดการ พลทหารและม้าที่เหลือของข้าอยู่ในถ้ำ ให้พลทหารและม้าอีกสี่กองโจมตี
“ขอรับ”
ผู้นำรับคำสั่ง และก็จุดระเบิดสัญญาณ พลทหารและม้าสี่กองที่เหลือได้รับระเบิดสัญญาณ ก็บุกเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกัน
คนในหมู่บ้านที่เดิมทีก็โกลาหลกันอยู่แล้ว ตอนนี้ถูกล้อมโจมตีอย่างกะทันหัน แถมรอบๆก็คือคบไฟที่ริบหรี่ คนที่พุ่งเข้ามานั้นเป็นผืนดำทะมึน ไม่รู้ว่าอีกฝั่งมีจำนวนคนเท่าไหร่
แม้จะเป็นในตอนปกติที่รู้อยู่แก่ใจแล้ว ตอนนี้พวกเขากลัวหัวหดแล้ว
แต่ละคนแย่งกันวิ่งหลบหนี ดังนั้นคนในหมู่บ้านจึงแพ้ยับเยิน พวกหลานเยาเยาโจมตีได้ง่ายกว่าที่คิดเอาไว้มาก
ทหารและม้าของนายอำเภอตงเฉาตาย บาดเจ็บ ถูกจับเป็น
แต่พวกนั้นเป็นเพียงพลทหารและม้าของหมู่บ้านที่อยู่แค่ภายนอก แต่พลทหารและม้ากับสนามฝึกซ้อมของจริงนั้นถูกขุดเข้าไปในถ้ำ
เมื่อจัดการพลทหารและม้าที่อยู่ภายนอกเสร็จ หลานเยาเยาก็พาสำนักหงอีทุกคนมายังปากถ้ำ ปากถ้ำ ณ ตอนนี้ได้ถูกพลทหารและม้าสี่กองที่เหลือกั้นไว้หมดแล้ว
“เจ้าสำนัก ปากถ้ำหน้าหลังได้ถูกพวกเราปิดตายแล้ว พวกเราจะบุกเข้าไปตอนนี้ หรือว่ารอพวกนั้นออกมาแล้วฆ่าทีละคน?”
“ไม่ต้อง การบุกเข้าไป พวกเรายังไม่รู้ลักษณะด้านในชัดเจน มีความเป็นไปได้ว่าจะสร้างความเสียหายให้กับทหาร ปล่อยควันที่ทำให้สลบเข้าไป และก็ต้องเพิ่มปริมาณเข้าไปด้วย ทำให้พวกนั้นทุกคนสลบอยู่ที่นี่”
เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะไม่สร้างความเสียหายให้กับทหาร และก็จัดการคนด้านในได้อย่างสบายๆ