หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 410 มีแค้นต้องชำระทันที
บทที่ 410 มีแค้นต้องชำระทันที
พูดจบ เสี่ยวเหลียนก็ตบต่อ หลังจากที่ตบไปจนพวกนางมึนไปหมดถึงจะหยุดลง
ถังมู่หวั่นเดินมาหน้าพวกนาง พูดเบาๆว่า:
“พวกเจ้าไม่ควรขอโทษข้า ควรจะขอโทษเทพธิดาที่สุด ถ้าเทพธิดาอารมณ์ดี ก็อาจจะไว้ชีวิตพวกเจ้า”
ชุนซวงและเสี้ยฮัวรีบหนีเข้าไปในห้องหรู ก้มหัวคำนับเทพธิดา “ปึกปึกปึก”
ไม่กี่ครั้ง หน้าผากของพวกนางก็มีเลือดออก
“เทพธิดา ข้าน้อยสำนึกผิดแล้ว ข้าน้อยไม่กล้าอีกแล้ว ขอเทพธิดาโปรดเมตตา โปรดยกโทษให้พวกเราครั้งนี้ด้วย ได้โปรด ขอท่านโปรดเมตตา ยกโทษให้พวกเราเถอะ!”
อา!
แผนของถังมู่หวั่นนี่สูงจริงๆ
ให้ตนเองสั่งสอนพวกนางอย่างรุนแรงก่อน แล้วก็ค่อยให้พวกนางมาขอโทษ พอเห็นพวกนางมีท่าทางที่น่าเวทนา ถ้านางยังจะลงโทษพวกหล่อนอีก หากเรื่องนี้แพร่ออกไป จะต้องมีเสียงนินทามากมายแน่
ถ้านางปล่อยพวกหล่อนไป
นั่นก็จะเห็นได้ชัดว่านาง เทพธิดานั้นไร้ประโยชน์มาก ขนาดมีคนใช้มาลามปามยันหัว นางก็ยังจัดการไม่ได้
แม้นางจะไม่กลัวคำนินทา
แต่ทว่า……
นางจะปล่อยให้แผนชั่วของถังมู่หวั่นสำเร็จได้ยังไง?
ดังนั้นนางจึงส่ายหัว ถอนหายใจหนักๆ แล้วพูดกับพวกนางสองคนว่า:
“ยังดีที่พวกเจ้าไม่ใช่สาวใช้ของจวนข้า ตามกฎของจวน หากเป็นสาวใช้ที่หลอกลวงเบื้องบนปิดบังทุกคน มีจิตใจโหดเหี้ยม ไม่เห็นหัวใคร ปกติข้าจะโบยก่อนสามสิบที แล้วค่อยไล่ออกจากจวน ปล่อยไปตามยถากรรม
เอาเถอะ ข้านั้นจิตใจดี จะไม่ลงโทษพวกเจ้า ถังเฉิงเสี้ยงนั้นเข้มงวดเคร่งครัดต่อตนเอง กฎเกณฑ์ในจวนน่าจะเยอะกว่าข้านัก
พวกเจ้าเป็นสาวใช้ในจวนเฉิงเสี้ยง งั้นก็ให้คุณหนูถังจัดการเอาเองก็แล้วกัน ข้าเชื่อว่าคุณหนูถังจะต้องให้คำอธิบายที่ดีแก่ข้า”
หลังจากได้ฟังคำของหลานเยาเยา
นัยน์ตาของถังมู่หวั่นก็ฉายความประหลาดใจ หลังจากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดกับเทพธิดาว่า:
“เทพธิดาโปรดวางใจ การสั่งสอนในจวนนั้นเข้มงวด เพียงแต่วันนี้ท่านพ่อไม่อยู่จวน ข้าจะลงโทษสาวใช้ต่ำต้อยนี้แทนท่านพ่อเอง”
“เช่นนั้นก็ดี!” สิ่งที่ต้องการก็คือเช่นนี้
เมื่อพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ถังมู่หวั่นทำได้เพียงแค่พูดกับเสี่ยวเหลียนว่า: “เสี่ยวเหลียน พาเสี้ยฮัวและชุนซวงออกไป โบยสามสิบที หลังจากนั้นก็ขับไล่ออกจากจวนเฉิงเสี้ยง”
“เพคะ คุณหนู”
เสี่ยวเหลียนตกใจเล็กน้อย หลังจากนั้นก็มองสีหน้าของถังมู่หวั่นและรีบสงบจิตใจทันที หลังจากนั้นก็ตำหนิเสี้ยฮัวและชุนซวงว่า: “พวกเจ้าจะอยู่ตรงนี้ทำสากกะเบืออะไร? ยังไม่รีบกลับไปกับข้าอีก?”
ชุนซวงและเสี้ยฮัวคิดไม่ถึงเลยว่ามาร้านประมูลเสินตูครั้งนี้จะไปยั่วยุเทพธิดาเข้าอย่างงงๆ โดนตบสิบกว่าทีอย่างงงๆ ตอนนี้ยังถูกโบยสามสิบทีอย่างงงๆ หลังจากนั้นยังต้องถูกไล่ออกจากจวนอีก……
พวกนางร้องขอความเมตตาอย่างสุดกำลัง ขอความเมตตาร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล สุดท้ายก็สู้ประโยคที่จะพาไปของถังมู่หวั่นไม่ได้
พอนางไป ห้องหรูที่เอะอะโวยวายก็สงบลงทันที
ตอนนี้ คนใช้ที่ถูกชุนซวงเตะต่อยก่อนหน้านี้ก็ได้พาท่านหานมา ด้วยตอนแรกที่กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ท้ายที่สุด คนที่ฮ่องเต้ไม่แม้แต่จะสนใจ เมื่อเห็นสาวใช้ที่หยาบคายเช่นนี้ ก็เกรงว่าในสายตาของเทพธิดา สาวใช้คนนั้นจะต้องตายแล้ว
เมื่อเห็นว่าเรื่องราวถูกจัดการแล้ว ท่านหานก็ขอโทษเทพธิดาอย่างยิ้มแย้ม
มาร้านประมูลเสินตูครั้งแรกก็เจอเรื่องเช่นนี้แล้ว ที่จริงเป็นความบกพร่องของร้านประมูลเสินตู สิ่งที่ทำให้คนยิ่งตกตะลึงก็คือ สาวใช้ที่ไร้ความคิดสองคนนั้น จะเป็นคนของจวนเฉิงเสี้ยง
เรื่องวุ่นวายขนาดนี้ แล้วก็ยังมีกลุ่มคนสองสามกลุ่มยืนดูอยู่ไกลๆ
เกรงว่าในไม่ช้า เรื่องก็คงแพร่ไปถึงหูของถังเฉิงเสี้ยงและฮ่องเต้ สำหรับเรื่องในภายหลัง ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะยุ่งด้วยได้……
ท่านหานคำนับหลานเยาเยา แล้วก็ไปทางถังมู่หวั่น:
“เพิ่มปัญหาให้เทพธิดาแล้ว ทั้งสองท่านอย่าทำลายมิตรภาพกันเลย”
“ท่านหานถ่อมตัวเกินไป เป็นเพราะมู่หวั่นผิดเอง มู่หวั่นขอโทษเทพธิดาแล้ว ยังต้องขอโทษท่านหานอีก วันหลังเรื่องเช่นนี้จะไม่ยอมโอนอ่อนให้คนผิดกำเริบเสิบสานอีก”
ใบหน้าของถังมู่หวั่นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ในใจเต็มไปด้วยความตำหนิตัวเอง ราวกับทำผิดพลาดครั้งใหญ่
ท่านหานเห็นดังนั้นก็ไม่สามารถตำหนิอะไรได้
หลานเยาเยากลับยิ้มแล้วพูดว่า:
“คุณหนูถัง หวังว่าอนาคตจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้อีก และขอให้ยิ่งระมัดระวังเวลาเลือกสาวใช้”
“เทพธิดากล่าวถูก”
หลังจากนั้น ถังมู่หวั่นก็ขอโทษอย่างจริงจังอีกครั้ง และยังบอกว่าจะหาเวลาที่เหมาะสมไปเยี่ยมเยียน
หลังจากถังมู่หวั่นไป
หลานเยาเยาก็มองจื่อเฟิง จื่อเฟิงก็เข้าใจทันที จากนั้นก็ออกจากห้องหรูไปอย่างไม่รู้ตัว
ท่านหานเดินเข้ามาในห้องหรู แล้วชดเชยให้แก่หลานเยาเยา ท่าทางละอายใจของเขาทำให้หลานเยาเยาทำอะไรไม่ถูก
พูดขอโทษมาห้า หกครั้งแล้ว
“ท่านหาน ไม่จำเป็นต้องตำหนิตนเองเลย คำพูดของพวกนาง ข้าก็ถือว่าเป็นเสียงหมาเห่าก็เท่านั้น หมาก็ได้ไล่ออกไปแล้ว ห้องหรูสงบได้ก็ดีแล้ว”
“เทพธิดาใจกว้างนัก ท่านหานนับถือ”
เอ่อ……
มีแค้นต้องชำระทันทีนี่เรียกใจกว้าง?
ท่านหานขี้โม้จริงๆ!
ท่านหานอยู่ในห้องหรูครู่หนึ่งก็ออกไป
ยกน้ำชา ขนม ผลไม้มาตามลำดับ ที่ทำให้หลานเยาเยาคิดไม่ถึงก็คือ ท่านหานยังสั่งให้คนเตรียมอาหารชั้นสูงเลิศรสมาขอโทษ
เมื่อเห็นของกิน
รอยยิ้มที่มุมปากของหลานเยาเยาก็สดใสขึ้นเล็กน้อย
ท่านหานฉลาดจริงๆ
หลานเยาเยากินไปเรื่อยๆ ก็หันไปมององครักษ์ที่ยืนเป็นสากกะเบืออยู่ตรงประตู สีหน้าของเขาดูไม่เป็นธรรมชาติ
ดังนั้น!
หลานเยาเยาจึงสั่งเขาว่า:
“เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีก เจ้าก็ยืนคุ้มกันประตูไป”
“ขอรับ!”
ผู้คุ้มกันคำนับตอบรับ จากนั้นก็ปิดประตูห้อง
……
ทันทีที่ถังมู่หวั่นออกจากร้านประมูลเสินตู ก็ไปที่ร้านอาหารหนึ่งเพื่อหาห้องส่วนตัว พอเข้าไปในห้องนัยน์ตาที่ยิ้มแย้มก็เปลี่ยนเป็นอึมครึมทันที
นางเดินไปยังข้างโต๊ะ หยิบแก้วเปล่าขึ้นมาวางลงบนโต๊ะแรงๆ และฝ่ามือที่เคยกำไว้ก็มีรอยเล็บทั้งห้าประทับไว้
ผ่านไปไม่นาน
ประตูห้องก็ถูกเปิดออก เสี่ยวเหลียนเดินเข้ามาพร้อมกับเรียกอย่างระมัดระวัง:
“คุณหนู?”
“ส่งพวกนางสองคนไปยังจวนแล้วเหรอ?”ถังมู่หวั่นถามเสียงเย็น
“เพคะ คุณหนู”เสี่ยวเหลียนเดินก้าวขึ้นมาสองสามก้าว และถามอย่างลังเลว่า “คุณหนู จะโบยชุนซวงและเสี้ยฮัวสามสิบที แล้วโยนออกจากจวนจริงๆหรือ?”
“ไม่เช่นนั้นหล่ะ? จะให้ผู้อื่นนินทารึไง?”
“แต่ว่า……”
แม้ชุนซวงและเสี้ยฮัวเพิ่งเข้าจวนได้ไม่นาน แต่คุณหนูก็เอาพวกนางอยู่ข้างกายตลอด ซ้ำยังตั้งใจเสี้ยมสอนพวกนางให้รังแกคนอ่อนแอ ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็เลี้ยงดูพวกนางได้มีนิสัยกลับกลอกใช้อำนาจบาตรใหญ่
นางรู้ว่าคุณหนูทำเช่นนี้ ก็ต้องมีประโยชน์ในการทำเช่นนี้
ถังมู่หวั่นมองเสี่ยวเหลียน พูดเย็นชาว่า: “เลี้ยงดูพวกนางอย่างดี แถมยังให้ความกล้าพวกนาง ก็เพื่อวันนี้ ตอนนี้ พวกนางสองคนถูกทอดทิ้งแล้ว หรือจะให้ปล่อยพวกนางไว้ทำลายชื่อเสียงข้า?”
“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”
จนถึงตอนนี้เสี่ยวเหลียนถึงเข้าใจเจตนาของถังมู่หวั่น
“ที่จริง ก่อนหน้าตอนที่อยู่ร้านประมูลเสินตู หลังจากที่คุณหนูเห็นเทพธิดามาแล้ว ก็สั่งให้ข้าน้อยไปบอกชุนซวงกับเสี้ยฮัวว่า คุณหนูได้จองห้องหรูไว้ ให้พวกนางสองคนไปรอก่อน จุดประสงค์ก็เพื่อให้นางไปปะทะกับเทพธิดา
แต่ว่า……คุณหนู จุดประสงค์ที่ท่านทำเช่นนี้คืออะไร?”
คุณหนูก็ดูเหมือนไม่มีความโกรธแค้นต่อเทพธิดาหนิ?