หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 512 ในทะเลทรายพบสวนแตงโมอย่างไม่คาดฝัน
บทที่ 512 ในทะเลทรายพบสวนแตงโมอย่างไม่คาดฝัน
ในยามราตรีรอจนทุกคนนอนหลับหมด ด้านฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าและองครักษ์วังหลวงเริ่มเคลื่อนไหว
ฮ่องเต้มีคำสั่งตายให้พวกเขา เป้าหมายคือน้ำและอาหารของพวกเทพธิดา ถ้าพวกเขาทำภารกิจสำเร็จ ก็สามารถได้รับน้ำและอาหารกินอิ่มท้อง
ถ้าทำภารกิจไม่สำเร็จ พวกเขามีแต่ต้องตายสถานเดียว
ตอนนี้พวกเขาเข้าใจอย่างชัดเจนและวิตกกังวลว่าจะกลายเป็นผู้ที่ถูกดูดเลือดแล่เนื้อ สู้ไปสู้ตายอย่างยิ่งใหญ่สง่างามดีกว่า อย่างน้อยก็ได้ตายอย่างมีคุณค่า
เมื่อมาถึงที่วางน้ำและอาหารของเทพธิดา มองเห็นมีเพียงสองคนที่คุ้มกันอยู่ ในขณะนั้นทั้งสองคนกำลังนัดกันไปห้องน้ำ
น้ำและอาหารของพวกเขา ยังมีม้าทั้งหมดวางรวมอยู่ด้วยกันนะ! แบบนี้พวกเขายังวางใจ กล้าไปห้องน้ำ ไปเรียกคนอื่นให้มาคุ้มกัน?
แม้ว่าพวกเขาจะมีความสงสัย แต่ความเย้ายวนความสดใหม่ของน้ำและอาหารทำให้ไม่อยากคิดมาก เพียงแต่แอบดีใจ
น้ำและอาหารอยู่ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาต้องนำมันมาให้ได้
ถ้าถูกผู้อื่นพบเข้า ก็จะขี่ม้าหลบหนีไป องครักษ์วังหลวงทั้งสี่คนแอบไปยังที่ไว้อาหาร ดวงตาเบิกกว้างเป็นประกายขึ้นมาทัน กลืนน้ำลายไม่หยุด ยังไม่ทันได้ยื่นมือไปหยิบ จู่ๆด้านบนหัวก็แสงเหมือนดวงอาทิตย์ส่องลงมา
ทำให้เหล่าองครักษ์วังหลวงตกใจรีบเหลือบมองดู
สิ่งที่เห็นก็คือเทพธิดาซึ่งอยู่ในชุดสีแดง ในมือถือมุกเย่หมิง ยิ้มมุมปากมองมาที่พวกเขา ความเคลื่อนไหวของพวกเขาเมื่อครู่ล้วนอยู่ในสายตา
ในสายตาของนางพวกเขาเป็นเพียงแค่ตัวตลก
มุกเย่หมิงส่องประกาย ผู้ที่แอบอยู่ในมุมมืดล้อมออกมา และล้อมพวกเขาไว้แน่นแม้แต่น้ำสักหยดไม่สามารถเล็ดลอดผ่านไปได้
เมื่อรู้ว่าไม่มีทางที่จะถอยหนีไปได้ พวกเขาองครักษ์วังหลวงคุกเข่าลงกับพื้น โขกศีรษะร้องขอความเมตตาไม่หยุด โดยหวังว่าหลานเยาเยาจะรับพวกเขาไว้ พวกเขายินยอมเป็นวัวเป็นม้า
อย่างไรก็ตาม!
อยู่ข้างกายฮ่องเต้ประเทศก่วงส้า ไม่เพียงแต่ต้องความวิตกกังวล ซ้ำยังต้องเผชิญหน้ากับความตายตลอดเวลา
แต่มาทาด้านเทพธิดานั้นไม่เหมือนกัน พวกเขามีน้ำมีอาหาร ถ้าพวกเขาเป็นวัวเป็นม้าแล้วมีน้ำกิน แม้ตายพวกเขาก็ยอม
แววตาของทุกคนที่มองพวกเขา เหมือนกำลังมองคนโง่อย่างไรอย่างนั้น
เจ้านายของพวกเขาขายพวกเขาแล้วยังไม่รู้อีก ยังจะคิดเพ้อเจ้ออยากเป็นวัวเป็นม้าให้น้ำพวกเขาหรือ?
อีกอย่าง
ที่พวกเขาไม่รู้คือ หลังจากที่ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าสั่งให้คนไปขโมยน้ำและอาหาร เขาได้พาคนที่เหลือจากอีกด้านหนึ่งมา เตรียมบังคับคนที่พูดจามีน้ำหนักมาต่อรองกับหลานเยาเยา
เพียงแต่ขณะที่กำลังจะเข้าใกล้
มีสองสามร่างปรากฏต่อหน้าพวกเขา ซึ่งคือ เย่หลีเฉิน ยู่หลิวซู ยังมีตาเฒ่าเย่น
“อะไรหรือ?ฮ่องเต้เฒ่า คิดจะใช้อุบายเดิมๆอีกครั้งหรือ” ตาเฒ่าเย่นพูดจาเยาะเย้ย
ก่อนหน้านี้ใช้พระราชธิดาจาวหยางซึ่งถูกไฟคลอกตายมาเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขา ตอนนี้คิดที่จะใช้ชีวิตขององครักษ์วังหลวงไม่กี่คนมามาเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขา จะปล่อยให้พวกเขาทำแผนชั่วสำเร็จหรือ?
น่าสงสาร……
เจ้าสำนักได้เตรียมการไว้เรียบร้อยนานแล้ว
เมื่อรู้ว่าแผนที่ตนวางไว้ล้มเหลว ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าไม่อยากประมือกับพวกของยู่หลิวซูจึงวางอาวุธในมือ
ยู่หลิวซูมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า:
“ท่านรีบออกไปให้ไกลๆ”
ถ้าไม่ใช่ว่าเจ้าสำนักมีประโยชน์ ไม่ฆ่าพวกเขา เขาอดไม่ได้ที่จะต้องการชีวิตของฮ่องเต้สุนัขผู้นั้น
ในฐานะฮ่องเต้ผู้สง่างาม ถูกคนตำหนิเช่นนี้ เขากลับต้องกล้ำกลืนความเจ็บช้ำ นำคนของตนเองถอยกลับไปอย่างเศร้าหมอง
และองครักษ์วังหลวงสองสามคนที่เขาส่งไปก่อนหน้านี้ถูกตี และเตะพวกเขากลับมายังข้างกายของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้า
ฮ่องเต้เห็นพวกเขาก็รู้สึกโกรธ แต่ก็ดุด่าเพียงไม่กี่ประโยคไม่ได้ลงมือตบตีพวกเขา
เป็นคืนหนึ่งที่ผ่านไปอย่างน่ากลัว แต่ไร้เหตุอันตราย
เพียงแต่ในคืนนั้นหลานเยาเยานอนหลับไม่สนิท
นางเหมือนรู้สึกถึงบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหวหลบหนีอย่างขวักไขว่ซึ่งอยู่ใกล้กับพวกเขามาก นางจงใจลุกขึ้นสำรวจรูปปั้นหิน แต่กลับไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
เพียงแต่เสียงที่ได้ยินเหมือนดังในภาพหลอน
วันที่สอง ขณะฟ้ากำลังสว่าง พวกเขาถูกเสียงร้องด้วยความตกใจปลุกให้ตื่น
“ฝ่าบาท ฝ่าบาท ท่านรีบมาดูเร็ว นั่นคือแตงโม ที่นั่นมีแตงโมมากมาย”
เสียงที่ทั้งแหลมทั้งบางนั้น เพียงได้ยินก็รู้ว่ามาจากปากของขันที
แตงโม?
ในทะเลทรายจะมีแตงโมได้อย่างไร?
เมื่อวานนางสำรวจแล้ว ทั้งสี่ด้านล้วนเป็นทะเลทรายที่ไร้ขอบเขต ไม่น่ามีแตงโม
คนของฮ่องเต้นั้นคงเห็นภาพหลอนเข้าแล้ว
ดังนั้นหลานเยาเยาจึงไม่ได้สนใจเสียงร้องด้วยความตกใจนั้น
แต่ว่า!
ไม่นานหลานเยาเยาก็พบว่ามีสิ่งไม่ปกติ คนที่ร้องตะโกนว่ามีแตงโมยิ่งนานยิ่งมากขึ้น แม้แต่กำลังพลของนางยังร้องด้วยความตกใจ
หลานเยาเยารีบลืมตาลุกขึ้น มองเห็นเย่หลีเฉินรีบเดินมาทางนาง นัยน์ตามีประกายของความยินดี
“เยาเยา เจ้ารีบมาดู ที่นี่มีสวนแตงโมอยู่จริงๆ”
“เจ้าสำนัก คนในกองทุกคนล้วนเห็นกับตาไม่ใช่ภาพลวงตา พวกเรารีบไปดูกันเถอะ” ยู่หลิวซูเดินเข้ามาน้ำเสียงไม่ได้มีความตกใจด้วยความยินดีเหมือนคนอื่น ในใจกลับยิ่งมีข้อสงสัย
เมื่อวานเขาสำรวจแล้ว รอบด้านทั้งสี่ล้วนเป็นทะเลทรายที่ไร้ขอบเขต ไม่มีแตงโมอะไรนั้น
วันนี้ตอนเช้ากลับพบสวนแตงโม เป็นเรื่องผิดปกติมาก
แตงโมพวกนั้นมาจากไหน?
คงไม่ใช่ผีหลอกตาหรอกนะ?
ยู่หลิวซูเกาๆหัว คิดว่าตนเองคิดเรื่อยเปื่อยไปเอง
หลานเยาเยาที่ลุกขึ้นแล้ว มองดูท่าทางของพวกเขา จากนั้นจึงมองไปทางที่พวกเขาชี้
ไกลออกไปหนึ่งร้อยเมตรมีสวนแตงโมอยู่จริงๆ แม้ว่าจะไม่ใช่สีเขียวสด แต่สามารถเห็นว่าเป็นแตงโมผลใหญ่
มองแล้วยิ่งทำให้น้ำลายไหล นี่คือสิ่งที่น่ายั่วยวนใจ
ไม่ใช่ภาพลวงตา!
หลานเยาเยาแน่ใจมาก
และก็ไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติในภาพลวงตา
หรือว่าแท้จริงแล้วมีสวนแตงโมอยู่จริงๆ ?
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือปลอม ต้องไปตรวจสอบถึงจะรู้
ดังนั้นนางจึงให้คนไปแล่เนื้อม้าที่ตายแล้วโยนออกไปที่ทะเลทรายที่ไกลหนึ่งร้อยเมตร
หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่!
ไม่พบงูทองปรากฏตัว
น่าแปลก งูทองไม่รอเหยื่อก็หนีออกไปแล้ว?
คิดใคร่ครวญอยู่ชั่วครู่ หลานเยาเยาตัดสินใจที่จะไปดูจึงรีบพูดกำชับขึ้น:
“หาคนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมาหลายคนหน่อยไปดูพร้อมกับข้า จำไว้ไม่ได้รับอนุญาตจากข้าใครก็ไม่สามารถแตะต้องแตงโมพวกนั้น รอข้าตรวจสอบเรียบร้อยแล้วค่อยตัดสินใจ คนที่เหลือคุ้มกันอยู่ที่นี่ ต้องตรวจสอบรอบด้าน ปกป้องอาหารของพวกเราให้ดี”
นางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไม่มีเสียงความดีใจที่เห็นแตงโมสักน้อย
ทุกคนรู้ว่านางระแวดระวังมากกว่าปกติ ตอนนี้ยิ่งรู้สึกว่าที่นางทำแบบนี้สมเหตุสมผล
แม้ว่าแตงโมจะเป็นที่เย้ายวน
แต่ว่าพวกเขามีน้ำมีอาหาร ต้องไม่รีบร้อน
หลานเยาเยาเลือกคนมาไม่กี่คน และมองไปที่จื่อเฟิง
“เจ้าไปกับข้า”
“ขอรับ คุณหนู!”
จากนั้น หลานเยาเยานำคนออกไป
ความเคลื่อนไหวของหลานเยาเยาอยู่ในสายตาของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้า เห็นหลานเยาเยานำเนื้อม้าโยนไปข้างนอกร้อยเมตรเพื่อที่จะดูว่างูทองอยู่หรือไม่
เขาจึงให้องครักษ์วังหลวงทำบ้าง แต่พวกเขาไม่มีเนื้อม้าจึงแล่เนื้อคนตายแทน เมื่อเห็นว่าบนพื้นทะเลทรายไม่มีความเคลื่อนไหวจึงวางใจ
สายตามองที่พวกหลานเยาเยาซึ่งกำลังเดินไปทางสวนแตงโม เขาจึงออกคำสั่งอย่างหนักแน่น
“ไปแย่งมาให้ข้า แตงโมทั้งหมดเป็นของข้า”
“ขอรับ!”
มีแตงโมแก้กระหาย ใครจะอยากดื่มเลือดที่ยากจะดื่มนั้น?
หลังจากที่มีบัญชาจากฮ่องเต้ พวกเขารีบวิ่งไปทางสวนแตงโมอย่างบ้าคลั่ง ราวกับกลัวว่าช้าเพียงวินาทีแตงโมจะถูกแย่งชิงไปอย่างไรอย่างนั้น