หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 519 ใครจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้?
บทที่ 519 ใครจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้?
หลังจากกลุ่มพวกเขาเดินไป
บนเนินทรายที่อยู่ห่างออกไปด้านหลังพวกเขา ก็มีคนหัวที่คลุมด้วยผ้าดำหัวนึงปรากฏออกมา หลังจากตรวจสอบสองสามทีก็วิ่งลงเนินทรายด้วยความเร็ว
กองขบวนยาวกองหนึ่งซ่อนอยู่ด้านล่าง พวกเขาคือนักฆ่ากลุ่มหนึ่งที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี สวมชุดกะทัดรัดดูมีประสบการณ์ ถ้าเป็นตอนปกติ จะต้องเป็นท่าทางที่ดุเดือดแน่ๆ
แต่ทว่าในเวลานี้ แต่ละคนต่างเหมือนกับขาดพลังงาน ไม่มีชีวิตชีวา
ผู้ที่ตรวจสอบนั้นวิ่งมาตรงหน้าชายชราผมขาว คำนับรายงานว่า
“เรียนราชครูใหญ่ พวกเทพธิดาเปลี่ยนทิศทางแล้ว”
ถูกต้อง!
กองขบวนคนและม้านี้คือผู้ที่แอบติดตามพวกหลานเยาเยาอยู่ด้านหลังมาโดยตลอด
เดิมทีกองขบวนมีอาหารเพียงพอและมีคนเยอะ หลังจากที่โดนการโจมตีของมรสุมทะเลทราย งูทอง และกองทัพมดทะเลทราย ก็ทำให้ทหารบาดเจ็บล้มตายไปครึ่ง
“อื้ม ตรวจสอบต่อ”
“ขอรับ!”
นักสืบรายงานเสร็จ ก็วิ่งไปบนเนินทรายเพื่อสำรวจสถานการณ์อีกครั้ง
ราชครูใหญ่มองลูกน้องที่นั่งพักผ่อนอยู่บนพื้นด้านหลัง แสงในดวงตาหมองคล้ำ ย้ายสายตาไปมองมือที่แห้งเหี่ยวของตนเอง
เห็นได้ชัดว่ามีกำลังภายในล้ำลึก แต่เพราะเนื่องจากความชราภาพ จึงทำให้เรี่ยวแรงไม่พอขึ้นเรื่อยๆ
ยาฉางตาน!
ถ้ารอบนี่ไม่ได้ยาฉางตาน ในเวลาที่เขามีชีวิตอยู่ จะต้องเข่นฆ่าทุกคนบนโลก ให้ทุกคนตายอยู่ตรงหน้าตนเอง
ในตอนนั้นเขาจะต้องเป็นคนสุดท้ายในผืนทวีปนี้ เหมือนกับยุคก่อนที่ซอมบี้ออกอาละวาด และเขาก็กลายเป็นคนสุดท้ายที่มีชีวิตรอด
ขณะนั้น ก็มีลูกน้องอีกคนมาข้างหน้าด้วยความเร็ว
“เรียนราชครูใหญ่ กระหม่อมพบฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าที่นั่น และขันทีเกากงกงอยู่ข้างกายเขา”
“ยังไม่ตายหรอ?” เสียงแก่และทุ้มดังขึ้นมาเบาๆ ไม่ปิดบังเจตนาของการถากถางแม้แต่น้อย “ก็ดี พามาที่นี่”
เขารู้นิสัยของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าดี ว่าเป็นคนโลภมากที่สุด และไร้ประโยชน์ที่สุด แต่คนแบบนี้มีการเอาตัวรอดที่แข็งแกร่ง
เพื่อมีชีวิตอยู่รอด ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำออกมาได้
พอเอาฮ่องเต้ประเทศก่วงส้ามาถาม ถึงได้รู้ว่าในกองขบวนของเทพธิดา มีหมอคนนึงที่ออกมาจากหมู่บ้านฝันฮั๋ว ชื่อว่าส้งเย่นกุย หลังจากเข้าทะเลทรายมาก็ยิ่งดูลึกลับยากจะคาดเดา
แม้แต่แผนที่ภูมิประเทศม้วนหนังแกะ ก็เป็นเขาที่มอบให้เทพธิดา
ภายใต้อาหารและน้ำที่น่ายั่วยวน ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าจึงพูดทุกอย่างหมดเปลือก
“หมู่บ้านฝันฮั๋ว?”
ราชครูเทียนเวิงพูดทวนสี่คำนี้อีกรอบ
คิ้วขมวดแน่น ความคิดก็หนักขึ้นเรื่อยๆ ตาสองข้างที่เต็มไปด้วยรอยย้นก็ค่อยๆหรี่ลง
หมู่บ้านฝันฮั๋วไม่มีอยู่จริง หายไปตั้งแต่พันปีก่อนแล้ว หมู่บ้านฝันฮั๋วที่ทรุดโทรม มีโครงกระดูกล้อมรอบของพวกเขา
ตอนนี้กลับมาบอกเขาว่า หมู่บ้านฝันฮั๋วยังมีคนมีชีวิต อีกทั้งยังอยู่กับพวกเทพธิดาอีก
มันแปลกมากจริงๆ!
แต่พอคิดถึงยาฉางตานและชายที่ออกมาจากหมู่บ้านฝันฮั๋ว ที่ชื่อว่าส้งเย่นกุย ซ้ำยังเป็นหมอ ในใจก็มีความคิดขึ้นมา
สำหรับการหายาฉางตาน ก็มีความมั่นใจขึ้นมาอีก
แต่ว่า……
รอยยิ้มของราชครูเทียนเวิงที่ยกขึ้นยังไม่ลดลง คนที่สำรวจความเคลื่อนไหวของเทพธิดาก่อนหน้านี้วิ่งมารายงาน
“ราชครูใหญ่ พวกเขาหายไปแล้ว”
“อะไรนะ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของราชครูเทียนเวิงแข็งกร้าว และกลายเป็นภาพเบื้องหลัง รีบบินไปยังบนเนินทราย มองไปยังทิศทางที่พวกหลานเยาเยาเดินไป
คน ไม่เห็นแล้วจริงๆ!
เทพธิดาจะต้องให้อุบายอะไรแน่ๆ!
ราชครูเทียนเวิงชี้มั่วๆไปห้าคน พูดอย่างเฉียบขาดว่า:
“พวกเจ้ารีบไปตรวจสอบสถานการณ์”
“ขอรับ ราชครูใหญ่”ทั้งห้าคนนั้นรับคำสั่งและรีบไป
ผู้ที่มีความสามารถผู้หนึ่งก็มายังบนเนินทราย มองไปทางพวกฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าและพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา
“ราชครูใหญ่ จะจัดการสองคนนี้อย่างไรดี?”
“พวกเขา? เฮอะ ให้มีดพวกเขาคนละเล่ม ดูว่าใครจะรอดชีวิตไปได้”
คนนึงรักตัวกลัวตาย นิสัยโหดเหี้ยม; อีกคนประจบประแจงผู้มีอิทธิพล ถนัดเสี้ยมยุยง
เขาหล่ะอยากจะเห็น ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าใครจะชนะ?
“ขอรับ!”
……
ราชครูใหญ่พาคนที่เหลือไป โดยเหลือเพียงฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าและขันทีติดตามฮ่องเต้แค่สองคน
พวกเขายืนเผชิญหน้ากัน กริชแหลมคมวางอยู่ตรงกลางบนทรายเหลือง
ราชครูใหญ่พูดว่า มีเพียงต้องฆ่าอีกฝ่ายเท่านั้น ถึงจะมีคุณสมบัติตามพวกเขา
“เกาจื้อ”
ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าตะโกนเรียกขันที
ขันทีรีบตอบรับก้มตัวคุกเข่า: “ข้าน้อยอยู่นี่”
น้ำเสียงยังคงปกติ แต่แววตาจ้องมองกริชที่อยู่บนพื้นนิ่ง
ฮ่องเต้เป็นคนยังไง เขาเข้าใจดี
“ตลอดหลายปีมานี้ข้าปฏิบัติต่อเจ้าเป็นอย่างไร?”
“ดีมาก!” เกาจื้อตอบอายๆ ใจก็เย็นชาขึ้นไปอีก เขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
“รู้ก็ดี หลายปีมานี้ข้าโอบเจ้าอยู่ในมือ ให้เกียรติยศสูงสุดแก่เจ้า แม้กระทั่งทำผิดร้ายแรงหลายครั้ง ก็ไม่ได้ลงโทษเจ้า เจ้ารู้จักตอบแทนบุญคุณหรือไม่?”
ตอบแทนบุญคุณ?
ฮ่องเต้อยากให้เขาไปตาย!
ในใจก็หัวเราะเยาะขึ้นมาทันที ตลอดชีวิตนี้เขาระมัดระวังมาก ติดตามฝ่าบาทไปทุกที่เหมือนกับสุนัข เรื่องลับๆก็ปล่อยให้เขาทำ แต่ตอนนี้กลับมาบอกว่าเขาทำผิดเอง
ฮ่าๆๆ ปัดความรับผิดชอบเก่งจริงๆ
ยิ่งในใจโกรธแค้น ใบหน้าของเกาจื้อก็ยิ่งทรมานทนไม่ไหว เขาคุกเข่าบนพื้นทันที
“ฝ่าบาท ข้าน้อยเป็นคนรู้จักตอบแทนบุญคุณ เพียงแค่ฝ่าบาทสั่งมา ข้าน้อยยินดีที่จะเชือดคอตาย”
ได้ยินดังนั้น!
คิ้วที่ขมวดของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าก็คลายลงทันที
จากนั้นก็ถอนหายใจยาวๆ “เฮ้อ……เจ้าลงมือเองเถอะ!”
ตอนนี้เกาจื้อตาแดง ในตอนที่ขันทีถูกตัดลูกรัก เขายังไม่เคยร้องไห้ แต่ตอนนี้ถูกกำหนดเป็นตายเช่นนี้ กลับตาแดง
“ข้าน้อย……รับทราบ ขอบพระทัยฝ่าบาทที่มีรับสั่งให้ฆ่าตัวตาย”
มือเท้าของเกาจื้อเคลื่อนไหวไปพร้อมกัน ค่อยๆปีนมายังกริช หยิบกริชที่เปื้อนฝุ่นทรายขึ้นมาด้วยตัวที่สั่นเทา กริชอันแหลมคมจ่ออยู่ที่อก……
ชีวิตนี้เขาทำเรื่องแทนฮ่องเต้ ฆ่าพระสนม ฆ่าองค์ชาย ฆ่าขุนนางซื่อสัตย์ ฆ่าคนต่ำต้อย
ใครที่ยังไม่เคยฆ่า?
ก็มีเพียงแต่ฮ่องเต้เท่านั้น!
มองกริชที่คมกริบประกายแสงเย็นชา ดวงตาของเกาจื้อก็ฉายความอาฆาตอย่างดุร้าย
เขายืนขึ้นอย่างรวดเร็ว ถือกริชแทงไปยังอกของฮ่องเต้ประเทศก่วงส้า
น่าเสียดาย ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้ากลับส่งเสียงเฮอะอย่างเย็นชา เหมือนกับคาดไว้ก่อนแล้ว เขาจับแขนเกาจื้อ และแย่งกริชมา
“เกาจื้อนะเกาจื้อ จิตใจเจ้าโหดร้ายเช่นนี้ แม้แต่ข้าเจ้าก็กล้าฆ่า”
เผชิญกับสายที่โกรธจนยั้งอารมณ์ไว้ไม่ได้ของฮ่องเต้ เกาจื้อกลับหัวเราะเบาๆ เสียงของเขาโศกเศร้า
“ฝ่าบาท ข้าน้อยรู้ว่าท่านเคยรบมาก่อน เคยฆ่าศัตรู รู้ศิลปะการต่อสู้ และมีกำลังภายใน แต่ข้าน้อย นอกจากปากที่ช่วยชีวิตให้อยู่รอดแล้วก็ไม่เป็นอะไรอีก ถึงอย่างไรก็คือตาย ก่อนที่ข้าน้อยจะตาย เพียงแค่อยากลองดูว่าการฆ่าฮ่องเต้รสชาติมันเป็นอย่างไร”
ตอนนี้ก็ได้ลิ้มรสแล้ว
ที่แท้ก็คือเกาจื้อ คนที่เข้าใจเขามากที่สุด
รู้อยู่แล้วว่าในใจเขาคิดอย่างไร
ถึงแม้ว่าจะติดตามเขามาครึ่งชีวิต ก่อนตายให้เขาพูดให้จบก่อนก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นของพระราชทานให้ก่อนตาย
“รสชาติเป็นอย่างไร?”
เกาจื้อยิ้มอย่างขมขื่น ส่ายหัว ตาแดง น้ำตาถูกบังคับให้กลับเข้าไป พูดสี่คำสุดท้าย
“ตาย!ดี!กว่า!อยู่!”
ยังจำคนแรกที่เขาฆ่าแทนฮ่องเต้ได้ ก็คือขุนนางซื่อสัตย์คนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะตายก็คำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง:
“ฮ่องเต้ต้องการให้ขุนนางตาย ขุนนางจำเป็นต้องตาย”
ตอนนี้ก็มาถึงตาเขาแล้ว เดิมคิดว่ามันจะเป็นความสิ้นหวังเหมือนกัน คิดไม่ถึงว่าจะตายดีกว่าอยู่
“พรึ่บ!”
เสียงกริชแหลมแทงเข้าไปที่อกดังขึ้นทันที ฮ่องเต้ประเทศก่วงส้าจับกริชไว้แน่น มองเกาจื้อตายไป ดึงกริชออกมา และแทงเข้าไปแรงๆอีกรอบ