หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 533 กลไกเริ่มทำงาน นกในกรง
บทที่ 533 กลไกเริ่มทำงาน นกในกรง
ขณะเดียวกันกับตอนนี้
เสียงร้องที่น่าเวทนาทางนั้นล้มลงพื้น ด้านหลังของหลานเยาเยาทางนี้ปรากฏเงาร่างร่างหนึ่งขึ้นทันใด มีดสั้นชี้ไปตรงด้านหลังต้นคอของนางโดยตรง ในนาทีนั้นที่มีดสั้นแทงเข้ามา หลานเยาเยาก็หายตัวไปต่อหน้าบุคคลผู้นั้นทันที
หลังจากที่งงงันครู่หนึ่ง
บุคคลผู้นั้นรีบมองดูสังเกตรอบๆ กระทั่งหมุนตัวตรวจดูด้านหลังหลายครั้งเพื่อป้องกันการซุ่มโจมตี แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย
ราวกับว่าหลานเยาเยาไม่เคยได้ปรากฏตัวโดยสิ้นเชิง
“เฮ้ ด้านบนนี่!”
เสียงที่มาอย่างกะทันหัน ทำให้คนผู้นั้นตกใจ ขณะที่เงยหน้าขึ้นในพริบตาอย่างไม่รู้ตัว ก็เบิกตาโพลงทันใด
ผงสีขาวเทลงมาในทันที ทำให้บนหน้าของคนผู้นั้น บนเส้นผม กระทั่งบนร่างกาย ล้วนเปรอะเปื้อนผงสีขาวแล้ว
ทำให้คนผู้นั้นตกใจจนหน้าถอดสี รีบปัดผงแป้งเหล่านั้นทิ้งอย่างลนลาน แต่จะปัดอย่างไรก็ไม่หมด
เขาตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง :
“บุก พวกเจ้ารีบบุก จับนางให้ข้า ต้องการจับเป็น”
นาทีนั้นที่เสียงของเขาสิ้นสุด หลานเยาเยาที่อยู่ด้านบนหัวของเขา แฉลบร่างกายทันที เหาะออกไปนอกสายตาของคนผู้นั้นอย่างฉับพลัน
ในความมืดสลัว ได้ยินเพียงเสียงต่อสู้ที่จอแจ รวมทั้งเสียงร้องที่เวทนาดังขึ้นไม่ขาดหู แต่ก็มองไม่เห็นสถานการณ์การต่อสู้ของคนเหล่านั้น ทำให้จิตใจคนที่ถูกผงสีขาวสาดผู้นั้นหวาดผวายิ่งขึ้น สีหน้ายิ่งซีดขาวเรื่อยๆ
จนถึงเสียงการต่อสู้หยุดลง เสียงร้องที่เวทนาสิ้นสุด
“ปึ่ง” เสียงหนึ่ง ศพไร้วิญญาณศพหนึ่ง ลอยตรงมาทางเขา จากนั้นก็เป็นทิศทางโค้งตกลงมาที่ข้างเท้าของเขา กระแทกบนพื้น ทรายบางๆฟุ้งขึ้น
หลังจากความกลัวของคนผู้นั้นก็ถอยหลังไปสองสามก้าว ผุดเหงื่อเย็นๆทั้งตัว
พริบตานั้นดาบยาวย้อมเลือดด้ามหนึ่งกดลงไปที่ทรวงอกของเขา หลานเยาเยาในชุดสีแดงปรากฏตัวขึ้นทันใด มุมปากยกขึ้นด้วยความพอใจเป็นอย่างมาก
“นี่ไม่ใช่หลานชายรุ่นที่……ของราชครูเทียนเวิงหรือ? รุ่นที่เท่าไหร่แล้ว ข้าลืมไปแล้ว”
เผชิญหน้ากับเทพธิดาที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน หลานของราชครูเทียนเวิง……หลานชายหวาดผวาในทันที เขาไม่กล้าขยับ เกรงกลัวมือของเทพธิดาจะสั่น หัวของเขาก็จะย้ายที่อยู่แล้ว
หลังจากเห็นหน้าคนตรงหน้าชัดเจนแล้ว
หลานชายรุ่นที่ห้าของใครคนนั้นก็เบิกตาโพลงอีกครั้ง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อหลานเยาเยา :
“ท่าน ท่านคือเทพธิดา?”
เทพธิดาที่เขาเคยพบงดงามหยาดเยิ้มเป็นที่สุด งดงามที่สุดในเมือง ไหนเลยจะเป็นแบบตอนนี้ที่ผมขาวพันศีรษะ ลักษณะโฉมหน้าหมองหม่น?
“ไม่เชื่อ? เช่นนั้นก็ลองดู”
เสียงของหลานเยาเยาเย็นชาลงทันใด ดาบยาวที่ชี้ตรงลำคอของเขาเคลื่อนไปด้านในลำคอเล็กน้อย เลือดไหลเป็นรอยลงมาตามรอยขวาง ยังไม่เข้าไปในเสื้อผ้า
“อย่าอย่าอย่า ข้าเชื่อ ข้าเชื่อว่าท่านเป็นเทพธิดา อย่าเพิ่งฆ่าข้า ความจริงข้าก็ไม่ได้มีความผิดมหันต์ พ่อแม่พี่น้องของข้าทั้งหมดอยู่ในมือของราชครูเทียนเวิง มาที่นี่ก็เพราะถูกบังคับทำอะไรไม่ได้”
เสียงที่ได้ยินเป็นเทพธิดาอย่างไร้ข้อกังขา
เพียงแค่ทำไมนางถึงได้กลายเป็นท่าทางเช่นนี้ นั่นก็ไม่รู้ได้ อาจเป็นเพราะฝึกฝนอะไรไม่ดีทำให้ประสบกับผลย้อนกลับ
“ราชครูเทียนเวิงอยู่ที่ไหน?”
ขี้เกียจพูดไร้สาระ เขาน่าสงสารหรือไม่ ถูกบังคับทำอะไรไม่ได้หรือไม่ไม่เกี่ยวกับนาง
ยิ่งไปกว่านั้น เช่นคนอย่างเขานี้หรือว่าบนมือไม่เคยเปื้อนเลือดของคนบริสุทธิ์สักหน่อยเชียวหรือ?
ตอนนี้นางอยากรู้เพียงราชครูเทียนเวิงอยู่ที่ไหน อย่างอื่นไม่สำคัญ
“พวกท่านล้วนไม่ใช่คู่ต่อกรของเขา ทำไมต้องรนหาที่ตาย เขาต้องการอะไรให้เขาก็ได้แล้ว เช่นนี้ทุกคนก็ล้วนปลอดภัยไม่มีเรื่อง”
แน่นอนว่าไม่ได้ดีที่สุด เพียงรอให้ราชครูเทียนเวิงแก่ตายแล้ว พวกเขาเหล่านั้นญาติพี่น้องที่ถูกบีบบังคับอย่างร้ายแรง ถึงจะสามารถหลุดพ้นจากสภาพที่เลวร้ายได้ ควบคุมอำนาจที่เขาเหลือไว้
“หยุดไร้สาระ นำทาง”
ก่อนหน้านี้ที่ส้งเย่นกุยได้เผยพละกำลังที่เหมือนกำลังภายในออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ อยู่เหนือราชครูเทียนเวิงอย่างแน่นอน ดังนั้นแม้ว่าจะหายาฉางตานพบก่อนก็ไร้ปัญหา ตอนนี้นางก็มีวิธีต่อกรกับราชครูเทียนเวิงแล้ว
หลังจากทิ้งเครื่องหมายที่มีเพียงหนึ่งเดียวให้ส้งเย่นกุยและจื่อเฟิงแล้ว หลานเยาเยาก็ขู่บังคับให้คนผู้นั้นไปตามหาราชครูเทียนเวิง
เดินได้ครู่หนึ่ง
หลานเยาเยามองดูรอบๆ และมองดูคนที่คล้ายกับกำลังหาทางอีก อดขมวดคิ้วไม่ได้
“เจ้ารู้ว่าเขาอยู่ไหนจริงหรือ?”
“รู้คร่าวๆ” คนผู้นั้นให้ความสนใจกับดาบบนคอที่เปื้อนเลือดอยู่ตลอด เวลานี้ได้ยินคำพูดของนาง เขารีบหยุดฝีเท้าลงทันที
“ชีวิตคนอย่าพวกเรานี้ ราชครูเทียนเวิงไม่ได้ใส่ใจโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ฝืนเปิดทางเข้าก็ใช้ชีวิตของพวกเราครึ่งหนึ่งแลกมา
ทันทีที่ทางเข้าเปิด เขาก็พาคนไม่กี่คนเข้ามาก่อน แต่ก่อนหน้านี้ ข้าเคยเห็นเส้นทางแผนที่ที่มือเขาชี้ เป็นทางนี้ ไม่ผิดแล้ว”
จุดนี้เขากล้ารับรอง
แต่ว่า ได้รับการบังคับจากผู้อื่น แน่นอนว่าเขาไม่สามารถพูดความจริงทั้งหมดได้
ชีวิต เขายังต้องการนะ!
“อ๋อ ใช่หรือ?”
หลานเยาเยาไม่ได้พลาดความเจ้าเล่ห์ที่แวบผ่านในตาของเขาอย่างกะทันหัน ในใจเปล่งเสียงไม่พอใจออกมาเสียงหนึ่งและไม่ได้พูดอะไร ก็ให้เขานำทางต่อ
คราวนี้เดินมาถึงพระราชอุทยานของภูเขาปลอม
หลานเยาเยารู้สึกถึงความผิดปกติ จึงได้หยุดฝีเท้าลง คนที่เดินอยู่ด้านหน้าก็รับรู้ถึงสถานการณ์หยุดลงด้วย
คนผู้นั้นแกล้งทำเป็นไม่รู้ : “ทำไมหรือ?”
“ดูท่าแล้วต้องเสียเวลาหน่อยแล้ว” หลานเยาเยามุมปากยกขึ้น
ที่นี่มีคนซุ่มอยู่
หนึ่งคน
สองคน
สามคน…….
จากกลิ่นอายที่นาสามารถรับรู้ได้ ไม่ต่ำกว่าห้าคนเด็ดขาด อีกทั้งวิทยายุทธกำลังภายในของคนเหล่านี้เทียบกับนักฆ่าก่อนหน้านี้ เป็นผู้ที่มีฝีมือเก่งกาจมากกับผู้ที่มีฝีมือธรรมดาอย่างแน่นอน
หลานเยาเยามองดูคนผู้นั้นแวบหนึ่ง
คนผู้นั้นรู้ว่าเทพธิดารู้แล้ว รีบโบกมืออธิบายทันที :
“ไม่ใช่คนของข้า พวกเขาฟังคำสั่งจากราชครูเทียนเวิงโดยตรง และฟังเพียงคำสั่งของราชครูเทียนเวิง พบพวกเขา นี่อธิบายได้ว่าข้าพามาถูกทางแล้ว”
“เหอะ!”
นางเปล่งเสียงไม่พอใจออกมาอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง
ในใจได้คิดแผนรับมือไว้ดีแล้ว กำลังวางแผนจะดำเนินการ ฉับพลันนั้นก็เกิดเสียงดังครั่นครื้นขึ้น เงาร่างคนในที่ลับวิ่งพล่านออกมาอย่างรีบร้อน แม้ว่าจะมาทางนาง แต่ก็ไม่ใช่มาโจมตีนาง
เหมือนว่าเป็น……การหนีตายมากกว่า
ถูก ก็คือหนีตาย!
เห็นเพียงคนผู้นั้นแฉลบตัวผ่านไปทางข้างกายนางอย่างฉับพลัน ด้านหลังตามมาติดๆภูเขาปลอมลูกหนึ่งที่สูงเท่าตัวคนก็เกิดเสียงดังสนั่นตาม ด้วยความรวดเร็ว เฉกเช่นฟ้าแลบ
หลานเยาเยากล้าพนัน นักฆ่านั้นโดนบีบบังคับให้ใช้แรงกำลังทั้งร่างกาย จึงไม่ได้ถูกภูเขาปลอมชนตายโดยตรง
“ปึ่ง” เสียงดังสนั่น
ภูเขาปลอมสูงเท่าตัวคนชนเข้ากับเสาทองคำตรงทางเดิน ทำให้เสาทองคำแตกเป็นสี่ห้าเสี่ยงในพริบตา นักฆ่าวิ่งหนีเร็วแค่ไหน ก็ถูกก้อนทองคำที่ระเบิดแตกตีเข้าที่ศีรษะ ชั่วพริบตาตกลงมาจากอากาศกระทบพื้น หลังจากนั้นก็ถูกชิ้นส่วนทองคำมากมายทับถม
หากคิดว่าเป็นเพียงเช่นนี้นั้นก็ผิดมหัต
ต่อจากนั้น ทำให้หลานเยาเยาเบิกตาโพลงตกตะลึงพูดไม่ออกก็คือ ภูเขาปลอมที่งดงาม เหมือนกับว่าจะสูญเสียการควบคุม ทั้งหมดวิ่งพล่านไปมาอย่างบ้าคลั่งรวดเร็ว จากนั้นก็ลอยกระโดดขึ้นมา
ทำให้นักฆ่าเก่งกาจหลายคนที่คิดว่าหลบซ่อนที่ภูเขาปลอมเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด ตกใจจนต้องเหาะจากไปโดยรอบๆเป็นการเฉพาะ
ทันใดนั้น!
ภูเขาปลอมสีทองอร่ามลูกหนึ่งประทับเข้าในม่านตา โจมตีมาทางด้านหน้าของนางอย่างเร็วเป็นสุด
แย่แล้ว!
เย็นหงทำบ้าอะไรอยู่?
นางตกใจจนกลืนน้ำลายไม่ทัน ก็ใช้ความสามารถที่มีทั้งหมด คิดต้องการสลัดการตามโจมตีของภูเขาปลอม
ทีแรกหลานเยาเยาคิดอยากเหาะจากไปจากที่ภูเขาปลอมก่อน กระทั่งเหาะออกจากพระราชอุทยาน กลับคิดไม่ถึง……
คนมีความคิดเช่นนี้ไม่ได้มีเพียงนางผู้เดียวแน่นอน
และนักฆ่าที่อยู่ด้านหน้าของนาง นางเห็นด้วยตาของตัวเองนาทีนั้นที่เขาเพิ่งจะต้องการเหาะออกไปจากพระราชอุทยาน ก็โดนด้ายสีทองที่เชื่อมต่อกันทั้งบนและล่างตัดเป็นเส้นๆ
“อึก……”
ในที่สุดหลานเยาเยาก็หักใจกลืนน้ำลายลงไป
ล่อให้ภูเขาปลอมที่โจมตีด้วยความเร็วเป็นที่สุดทั้งสองชนเข้าด้วยกัน เข้าไปดูใกล้ๆ
ให้ตายสิ!
การออกแบบกลไกหลุมพรางของที่นี่ไม่ต้องสมบูรณ์แบบเกินไป
ด้ายสีทองยกขึ้นมาจากพื้นทีละเส้นทีละเส้น ยืดออกไปถึงด้านบนสุด พันรอบพระราชอุทยาน เป็นวงแน่นขึ้นมา และคนที่อยู่ในพระราชอุทยานก็เหมือนกับนกในกรง ในขณะเดียวกันก็ไม่สามารถบินออกไปได้ ทั้งยังต้องรับการโจมตีจากภูเขาปลอม
เป็นเช่นนี้ต่อไป คนด้านในพระราชอุทยาน ไม่โดนภูเขาปลอมโจมตีตาย ก็จะหมดแรงตาย..