หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 81 ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้
บทที่ 81 ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้
พวกเขาหลานเยาเยาเพิ่งออกไปจากทางเดินแล้วก็เข้าไปในห้องหินแล้วเส้นทางเดินเมื่อครู่ก็ระเบิดขึ้นส่วนห้องหินก็สั่นคลอนราวกับพื้นดินจะยุบลงได้ตลอดเวลา
ยังไม่ทันได้คิดอะไรมากนางก็พาจื่อเฟิงออกไปยังอีกทางเดินที่ยังไม่ทันได้ถล่มลงมา
แต่ทว่า!
เท้าของพวกเขาที่เพิ่งจะเหยียบลงบนทางเดินนั้น……
“ซ่า”ก็มีเสียงเกิดขึ้น!
จู่ๆใต้เท้าก็เกิดรอยแตกขึ้นหลังจากนั้นชั่วพริบตาก็มีสิ่งที่เหมือนเส้นเลือดของร่างมนุษย์กระจายออกมา
หลานเยาเยาแอบสบถออกมาแล้วก็พูดออกเสียงมาว่า:
“ไปเร็ว!”
ตอนนี้นางก็แทบจะไม่สนใจประคองจื่อเฟิงเพราะถ้าประคองขึ้นมาทั้งสองก็จะเกะกะกันและกัน
ความเร็วของทั้งคู่นั้นเร็วมากแต่ความเร็วของรอยแยกทางเดินนั้นเร็วกว่าพวกเขา ตอนที่พวกเขาวิ่งไปจนถึงสุดทางเดินก็มีทางแยกสองทางปรากฏขึ้นมา
แต่ด้านหน้าของทางแยกสองทางนั้นกลับทรุดลงไปประมาณสี่ห้าเมตร
สถานการณ์นี้!
ความเร็วของพวกเขาสองคนไม่ได้ลดลงเลยเมื่อพอใกล้จะถึงจุดที่ทรุดลงไป จื่อเฟิงก็เตรียมพร้อมพาหลานเยาเยาบินข้ามไปด้วยกัน
แม้ตอนนี้เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจนบินข้ามไม่ได้ แต่ตอนที่อยู่กลางทางเขาก็สามารถผลักนางไปยังทางด้านหน้าก่อนได้
ตอนที่มือของเขากำลังคิดจะโอบรอบเอวหลานเยาเยา จู่ๆหลังของเขาก็ถูกผลักอย่างแรงและเขาก็บินออกไปทันที
“พระชายา!”
เขาหันกลับไปร้องเรียกหลานเยาเยาเสียงดัง ก็เห็นนางเก็บมือที่ผลักเขาพอดี!
ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้พระชายาเลือกที่จะให้เขามีชีวิตอยู่ก่อน……
ที่จริง!
หลานเยาเยาอยากแสดงให้เห็นว่า นางไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้นจริงๆเพียงแต่ว่าชาติที่แล้วเป็นความเคยชินจากการเป็นทหารมันกำเริบก็เท่านั้นเอง
เมื่อเห็นว่าจื่อเฟิงถึงทางเดินฝั่งซ้ายแล้วแต่กลับไม่ยอมไปไหนยืนอยู่ตรงนั้นรอนางข้ามไป
หลานเยาเยาก็ไม่พูดอะไรคิดจะหยิบบันไดยาวออกมาจากระบบแต่ยังไม่ทันได้หยิบออกมาจู่ๆเอวก็ถูกรัดแน่น มีเส้นเส้นหนึ่งที่ไม่รู้ว่าเป็นเชือกหรือของอย่างอื่นมารัดนางไว้แล้วก็ลากนางไปยังทางเดินฝั่งขวา
จนนางได้สติกลับมาก็เห็นเงาขาวๆหายไปที่ทางเลี้ยวของทางเดิน
เงาขาวอีกแล้ว!
นึกไม่ถึงเลยว่าเขาช่วยนาง ใครกัน?
หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะอยากรู้จึงรีบไล่ตามไปด้วยความเร็วเมื่อตอนที่ไล่ตามไปถึงทางเลี้ยวก็เห็นเงาขาวนั้นเข้าไปในห้องหินพอดี
หลานเยาเยาตามไปทันทีโดยไม่สนว่าในห้องหินนั้นจะมีกับดักอะไรหรือเปล่า!
หลังจากนั้นตอนที่นางพุ่งเข้าในห้องใต้เท้าก็เหยียบลงไปในความว่างเปล่าแล้วก็หล่นลงไปทั้งตัว……
ข้าไป!
มันเป็นกับดักจริงๆ
กับดักลึกขนาดนี้ นางตกลงไปต้องตายแน่ๆ
โชคดีที่นางเพิ่งตกลงไปไม่นานเอวก็ถูกของที่คล้ายๆเชือกรัดเอาไว้อีกครั้งซึ่งช่วยลดความเร็วที่รวดเร็วของนาง
หลานเยาเยาดีใจเงยหน้าขึ้นมองอย่างรวดเร็ว
ก็เห็นเพียงเงาขาวอยู่เหนือนางไปเพียงสองสามเมตร เขา
ในมือก็หยิบเชือกสีดำไว้แน่น
นางไม่พูดอะไรเพียงแต่ยิ้มหวานให้เขา!
จนกระทั่งหลังจากลงพื้นอย่างปลอดภัย นางมองไปรอบๆก็ต้องพบว่าที่นี่น่าจะเป็นชั้นในสุดของเขาวงกต
“นี่ ท่านจะไปไหน?”
หลังจากที่เงาขาวนั่นเห็นนางลงพื้นอย่างปลอดภัยก็เก็บเชือกสีดำแล้วเตรียมจะจากไปแต่กลับถูกหลานเยาเยาเรียกไว้
เงาขาวไม่ได้ตอบ เดินไปข้างหน้าไม่หยุด
“ตาเฒ่าเย่น ใช่ท่านใช่ไหม?”
บอกนางมาตรงๆว่าผู้นี้คือตาเฒ่าเย่นที่ชี้ทางให้นางหลายต่อหลายครั้งแล้วยังช่วยชีวิตนางไว้อีก
ได้ยิน!
เงาขาวก็หยุดแต่ยังไม่พูดอะไร
เสียงของหลานเยาเยาดังมาอีกครั้ง: “บนโลกนี้ข้านึกไม่ถึงว่าจะมีใครที่สนใจความเป็นความตายของข้าแม้จะเป็นการเปิดเผยตัวตนของเขา”
พูดจบ!
นางก็รีบเดินไปด้านหน้าไปยังด้านหน้าของเงาขาวแล้วเปิดหมวกคลุมที่คลุมหัวเขาอยู่ออกโดยไม่พูดไม่จา
“เจ้า นังหนูไม่กลัวข้าฆ่าเจ้ารึไง?”
เดิมคิดอยากจะแกล้งเป็นตาเฒ่าเย่นที่เงียบขรึมแต่ก็ต้องพังลงในวิเดียว
“ถ้าท่านคิดฆ่าข้า ก่อนหน้านี้ท่านก็ไม่ช่วยข้าไว้หรอก แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าจะเป็นท่านตาเฒ่าเย่น ทำไมท่านถึงคุ้นเคยกับสถานที่นี้นัก?”
แม้จะรู้ว่าตัวตนของตาเฒ่าเย่นนั้นไม่ธรรมดา!
แล้วก็รู้ว่าเขาคือคนของราชวงศ์ก่อน
แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะคุ้นเคยกับของล้ำค่าของราชวงศ์ก่อนขนาดนี้
จากความสัมพันธ์ของเขาและนางกับตาเฒ่าเย่น จะได้รับของล้ำค่าเพิ่มคือใช่หรือไม่?
“หึ! นังหนู เจ้าควรจะรู้ไว้นะว่าที่นี่คือที่ฝังศพของราชวงศ์ก่อน คิดไม่ถึงว่าผู้ที่เห็นแก่เงินตัวน้อยอย่างเจ้าแม้แต่ของล้ำค่าของราชวงศ์ก่อนก็ยังกล้าคิดเพ้อเจ้อ หรือไม่รู้ว่าคำว่าตายมันเขียนอย่างไร?
ก็เป็นเพราะข้าใจอ่อนถ้าเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นคนอื่นหล่ะก็เจ้าตายร้อยครั้งก็ไม่พอ
ไป ตอนนี้ข้าจะส่งเจ้าออกไปส่วนคนที่เหลือกล้ามาบุกรุกที่นี่ก็มีแต่ทางตายเท่านั้น”
เหตุที่เขาถูกขังมานานหลายปีก็ยังมีชีวิตรอดไปวันๆได้ก็เพราะว่าเขาปกป้องที่นี่แทนราชวงศ์ก่อน
ตอนนี้ทางเข้าถูกพบแล้ว แม้จะไม่สามารถปกป้องเงินทองเพชรพลอยที่อยู่ในนี้ได้ แต่ที่นี่ก็ยังมีของที่สำคัญยิ่งกว่ารอเขาปกป้องอยู่
หลานเยาเยาช่วยชีวิตเขาไว้ก็รู้ว่าเขาคือคนราชวงศ์ก่อนแต่ก็ยังยอมรับว่าเขาเป็นคุณปู่ แม้ว่านางจะมีเจตนาร้ายหรือมีจุดประสงค์แอบแฝงเขาก็ต้องปกป้องหลานสาวผู้นี้ให้ดี
“ตาเฒ่าเย่น พวกเขาต้องตายหรือ?”
หลานเยาเยาดึงชายแขนตาเฒ่าเย่นแล้วส่ายๆราวกับออดอ้อน
“เจ้านี่! ไม่อยากให้เด็กเย่แจ๋หยิ่งนั่นตายสิ!ข้าจะบอกเจ้านะว่า คนในเหล่าราชวงศ์ปัจจุบันนี้ไม่มีสิ่งดีเลย
เพียงแค่พูดเย่แจ๋หยิ่งเด็กคนนี้ ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ความมีอำนาจนี่ไม่ต้องพูดถึงแล้วยังร่ำรวยมั่งคั่ง ความทะเยอทะยานของคนเช่นนี้มองแวบแรกก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่คนที่เจ้าจะสามารถฝากชีวิตไว้ได้”
แม้หลานเยาเยาจะแต่งงานกับจวนอ๋องเย่แต่ด้วยรูปลักษณ์นางตอนนี้ที่ไม่ได้รับความโปรดปรานแล้วอาจจะยังต้องตายอยู่หลังลานคนเดียวก็ได้
ผู้ที่จะไม่ได้รับความโปรดปรานที่สุดก็คือเหล่าจักรพรรดิผู้ไร้ความปรานี!
ประโยคนี้พูดไม่ผิดเลย!
ก็แม้แต่ราชวงศ์ก่อนก็ยังไม่สามารถรอดพ้นมาได้
“ที่จริงถ้าเป็นเมื่อก่อน หลังจากเรื่องนี้ข้าก็จะรู้สึกว่าไม่มีอะไรแต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิม โชคชะตาของข้ากับโชคชะตาของเขาได้ผูกกันไว้
เขาตายไม่ได้ ถ้าเขาตายข้าก็จะรู้สึกว่าข้าน่าจะอยู่ได้ไม่นาน ท่านทนดูข้าตายได้หรือ?”
ตั้งแต่ตอนที่รู้ว่ากลุ่มเลือดของเย่แจ๋หยิ่งคือกรุ๊ปเลือด A3 ก่อนที่จะเชื่อมกันอีกครั้งการเลื่อนขั้นระบบต้องการการช่วยเหลือของเป้าหมายก็ได้รู้ว่าระหว่างนางและเขามีความสัมพันธ์บางอย่างอยู่และไม่สามารถแยกกันได้
หลังจากที่นางพบความลับนี้แล้ว!
ระบบก็ได้ประกาศภารกิจเลื่อนขั้นใหม่ ภารกิจนั้นง่ายมากแต่ก็ยากลำบากมากเช่นกันถ้าไม่ระวังนิดเดียวก็อาจหัวหลุดได้
ภารกิจนี้ก็คือ: ต้องได้จูบของคนที่กรุ๊ปเลือด A3!
ตอนภารกิจนั้น นางเพียงคิดคำอยู่คำเดียว: กะหรี่
แต่ทว่า!
ตาเฒ่าเย่นกลับเข้าใจผิด
เขามองหลานเยาเยาอย่างคาดไม่ถึงแล้วถามอย่างกระตือรือร้น: “เจ้าชอบเขาไปจนถึงขั้นไหนกัน? ไม่มีเขาเจ้าไม่สามารถอยู่คนเดียวได้หรือ?”
“……”
นี่อะไรกับอะไรเนี่ย?
นางจะสามารถชอบคนคนนึงจนถึงขั้นไม่สามารถอยู่คนเดียวได้อย่างไร?
“ตาเฒ่าเย่นไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้น ท่านเข้าใจถูกแค่ครึ่งเดียว”หลานเยาเยาพูดอธิบาย
“เข้าใจถูกแค่ครึ่งเดียว? แล้วอีกครึ่งหล่ะ? ถึงยังไงเขาก็ตายไม่ได้ใช่ไหม?”ตาเฒ่าเย่นมองนางอย่างรังเกียจ
“ใช่!”จริงที่เขาตายไม่ได้
แต่ไม่ได้มีความหมายอย่างที่เขาเข้าใจแน่นอน……