หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่ 90 ท่านอ๋อง รบกวนจ่ายเงินก่อน
บทที่ 90 ท่านอ๋อง รบกวนจ่ายเงินก่อน
ตอนแรกทุกคนไม่ยอมปล่อยด้านหลังยิ่งเล่นก็ยิ่งตื่นเต้น ยิ่งเล่นก็ยิ่งติด ในใจทุกคนก็อยากเห็นคนอื่นทำหน้าน่าเกลียดหรือทำเสียงสัตว์
ข้าไป!
นี่มันสนุกมากจริงๆ……
เร็วสิ ส่งให้อ๋องเย่ อ๋องเย่มีแต่หน้าเย็นชาไม่รู้ว่าเขาทำหน้าบ้าบอจะเป็นยังไง?
พวกเขาจะเก็บหัวเราะตลอดทั้งปีเลยไหม?
ตอนแรกพวกเขาไม่กล้าหัวเราะออกมาหลังจากนั้นก็ค่อยๆ ตราบใดที่มีคนทำเสียงสัตว์หรือทำหน้าบ้าบอพวกเขาก็จะหัวเราะจนปากฉีก
ที่พวกเขาหวังที่สุดก็คือตอนที่เสียงเพลงหยุด กระสอบทรายจะไปหยุดอยู่บนโต๊ะของอ๋องเย่
แต่ทว่า!
ยิ่งพวกเขาหวัง กระสอบทรายก็ยิ่งไม่หยุดอยู่บนโต๊ะของอ๋องเย่
มีหลายครั้งที่เกือบจะตรงแล้วแต่สุดท้ายกระสอบทรายก็เฉียดผ่านไปอีกหรือเสียงเพลงก็หยุดก่อนจะไปถึง
อาจจะเป็นการเล่นคนที่มีอำนาจไม่เคยเล่นอะไรที่เรียบง่ายผ่อนคลายมาก่อน
ดังนั้น!
เกือบจะผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว เสียงร้องของหลานเยาเยาก็แหบแห้ง นางเอาเพลงที่มีอยู่ในหัวร้องออกมาแทบหมดแล้วโดยไม่สนว่าจะตรงไม่ตรงจังหวะ
แต่……
พวกเขาดูเหมือนยังไม่มีความสุข……
ทันใดนั้น!
เย่แจ๋หยิ่งพรวดพราดลุกขึ้น ห้องโถงที่คึกคักก็เงียบลงทันที เสียงตื่นเต้นก้องกังวานก็หยุดลง
เย่แจ๋หยิ่งคำนับพระราชินี
“ลูกยังมีธุระอยู่ ขอลาไปก่อน”
พูดจบก็ไม่รอพระราชินีตอบกลับก็เดินไปยังประตูห้องโถงตอนที่มาถึงตัวหลานเยาเยาก็ลากนางไป
เฮ้เฮ้เฮ้!
อ๋องเย่ เจ้าจะไปก็ไปสิ! มาลากพระชายาเย่ไปด้วยทำไม?
พระชายาเย่ไปแล้วใครจะมาร้องเพลง?
ใครจะมาเป็นผู้ตัดสิน?
การเล่นนี้ขาดเจ้าได้ แต่ขาดพระชายาเย่ไม่ได้เด็ดขาดนะ!
แต่ว่า!
เสียงตะโกนร้องในใจของทุกคน เย่แจ๋หยิ่งและหลานเยาเยาไม่ได้ยิน
แต่ว่า!
ยังอยากเล่นอีกนะ!
“ฮองเฮา เจ้ามาร้องเพลง พวกเราจะเล่นต่อ!”ฮ่องเต้ที่อยากเล่นต่อเอ่ยขึ้นมา
“ฮ่องเต้ นี่……หม่อมฉันร้องเพลงไม่ได้!”
ฮองเฮาก็อยากเล่นแต่นางร้องเพลงไม่ดีแล้วก็ไม่รู้ว่าตอนไหนควรหยุด ตอนไหนไม่ควรหยุด
“เรื่องง่ายๆแค่นี้ พระชายาเย่ทำได้เจ้ากลับทำไม่ได้ ข้า……”มีเจ้าไว้ทำไม?
แต่เขาไม่ได้พูดออกไป
ดังนั้น!
จึงไปถามหาเหล่านางสนมที่สามารถร้องเต้นได้ มีนางสนมคนนึงที่มารับหน้าที่หลานเยาเยาร้องเพลงก็เพราะแต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ ทุกคนจากที่ตื่นเต้นเร้าใจกลายเป็นขาดความสนใจ
จากนั้นก็เปลี่ยนไปหลายคนแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
สุดท้ายพระราชินีกับฮ่องเต้ก็เรียกให้ถังมู่หวั่นมารับหน้าที่แทนหลานเยาเยา แม้ผลมันจะดีกว่าก่อนหน้าเล็กน้อย
ถ้าอยากเล่นก็สามารถเล่นไปต่อได้
แต่ทว่า!
เปลี่ยนไปหลายคนเช่นนี้
ทุกคนก็ไม่ได้
มีกระจิตกระใจขนาดนั้นแล้ว สุดท้ายก็ต่างแยกกันไป
——
ในร้านอาหาร
หลานเยาเยามองไปยังโต๊ะที่มีกับข้าวกลิ่นหอมด้วยตาประกาย
แต่นางก็ใช้ความพยายามเต็มที่ในการควบคุมความอยากอาหาร กลืนน้ำลายไปถามไปว่า:
“ท่านอ๋องก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้บอกหรือว่ามีธุระ?”
“หรือการกินข้าวไม่ใช่ธุระ?”เย่แจ๋หยิ่งลดสายตาแล้วถาม
พระเจ้ารู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาวันนี้?
เห็นๆอยู่ว่าไม่ชอบการเล่นที่ปัญญาอ่อนแบบนั้นแต่ก็ถูกดึงดูดด้วยน้ำเสียงของนาง
เอ่อ……
หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง!
ดูเหมือนการกินข้าวจะเป็นธุระสำหรับนางเท่านั้น!
เย่แจ๋หยิ่งเอาเรื่องนี้เป็นธุระตั้งแต่เมื่อไหร่?
แต่ว่า!
ใครสนเขากัน!
ควรกินก็กินควรดื่มก็ดื่มยังไงเขาก็ไม่โดนวางยา
ดังนั้นหลานเยาเยาก็หัวเราะแหะแหะ: “งั้นตอนนี้พวกเราจัดการธุระกันเลย?”
เหล่าอาหารดีๆกับข้าวดีๆ กูจะเผด็จการพวกเจ้าเดี๋ยวนี้!
“อื้ม กินเถอะ!”
ที่จริง เขาเพิ่งอ้าปากเสียงยังไม่ทันออกมาหลานเยาเยาก็เริ่มกินแล้ว
เห็นท่าทางตะกละตะกลามของนางแล้ว เย่แจ๋หยิ่งก็รู้สึกดีใจอย่างแปลกประหลาด!
ครู่เดียวหลานเยาเยาก็พบว่า
คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามนางไม่ขยับแม้แต่ตะเกียบแก้วก็ไม่ขยับจึงอดไม่ได้ที่จะคะยั้นคะยอ
“เจ้าก็รีบกินเร็ว!เจ้าดูขาไก่นี่สิอวบเชียว!”
พูดไป ก็หนีบขาไก่นั้นใส่ถ้วยตนเอง
ที่จริงแล้วนะ!
ก็คือนางไม่ยอมที่จะแบ่งอาหารอร่อยกับเขา
ยังไงอาหารเลิศรสนี่ก็เป็นเขาที่สั่ง นางไม่ยอมออกเงินเองหรอกดังนั้นก็ทำๆเป็นเรียกให้เขากิน
เมื่อเห็นเย่แจ๋หยิ่งหยิบตะเกียบขึ้นมาจริงๆ
ความเร็วในการกินของหลานเยาเยาก็ยิ่งเร็วขึ้นทำให้เย่แจ๋หยิ่งอดไม่ได้ที่จะกระแอมสองสามที
ทั้งสองคนเพิ่งกินได้แค่ครึ่ง!
องครักษ์ลับคนหนึ่งปรากฎตัวเข้ามาพูดอะไรไม่รู้อยู่ที่ข้างหูเย่แจ๋หยิ่งทำให้สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นจริงจังจากนั้นก็ลุกขึ้นหมุนตัวจากไป
แต่ทว่า!
ทันทีที่ก้าวพ้นประตูเขาก็หมุนตัวเดินกลับมาอีก
มายังข้างตัวนางพูดเรียบๆว่า: “ข้ามีเรื่องด่วนต้องไปจัดการ”
พูดจบเขาก็ยังไม่ไปดูเหมือนจะรอคำตอบของนาง
เมื่อเห็นเขานิ่งๆและท่าทางจริงจัง หลานเยาเยาก็ “อ้อ”อย่างโง่ๆ
ในใจชอบขั้นสุด!
ไปแล้วก็ดี!
ไปแล้วก็ไม่มีใครแย่งอาหารนาง แม้กินไม่หมดนางก็สามารถห่อกลับได้!
เมื่อเห็นเย่แจ๋หยิ่งจะหันจากไป หลานเยาเยาก็ดูเหมือนคิดเรื่องสำคัญอะไรออกพรวดลุกขึ้นรีบกลืนเนื้อในปากเข้าไป
“เดี๋ยวเดี๋ยวเดี๋ยว……รอก่อน”
น้ำเสียงนั่นดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่โต เย่แจ๋หยิ่งหยุดเดินแล้วหันมา
“คือว่า……อย่าลืมจ่ายเงินก่อนนะ!”
“……”
เป็นอย่างที่คิด!
ในสายตานางกินและเงินสำคัญที่สุด
องครักษ์ลับที่อยู่ข้างๆต่างตะลึง
เรื่องเร่งด่วนขนาดนี้เจ้านายยังมีเวลาพูดกับพระชายานี่ดีมากทีเดียว
จะรู้ที่ไหนว่าพระชายาจะเอ่ยคำขอเช่นนั้น?
อีกอย่างสิ่งที่สำคัญสำคัญที่สุดก็คือเจ้านายยังตกลง
แปลก!
ตั้งแต่เจ้านายเริ่มเจอพระชายาที่ใต้หน้าผา เจ้านายก็เริ่มไม่ปกติ
ทันใดนั้น!
องครักษ์ลับก็รู้สึกลมหนาวๆเย็นๆ องครักษ์ลับที่ตกอยู่ในห้วงความคิดก็ดึงสติกลับมาทันที มองสายตาเจ้านายตนเองที่ราวกับดาบคมเหมือนกับต้องการแล่เขาเป็นพันหมื่นชิ้น
“เรื่องสำคัญเช่นนี้ เจ้ากล้าโอ้เอ้สบายใจ?”
ในใจขององครักษ์ลับพังทลายทันที!
ดูเหมือนว่าที่กำลังโอ้เอ้อยู่คือเจ้านายนะ?
เขาก็แค่จมอยู่ใจความคิดรอเจ้านายนะ!ฮื่อฮื่อฮื่อ……
หลังจากเย่แจ๋หยิ่งเดินไป
ความเร็วในการกินของหลานเยาเยาก็ช้าลงมาก จนกระทั่งตอนที่กินจนท้องกลมนางก็ถอนหายใจอย่างหนัก
“กินอิ่มไปแล้ว ไม่สนละค่อยไปถนนของว่างหาของอร่อยกิน”
พูดว่าจะทำก็ทำ
หลังจากหลานเยาเยาออกจากร้านอาหารก็ตรงไปยังถนนของว่างที่นางเคยไปมาแล้วสองสามครั้ง!
หลังจากหาอยู่ในถนนของว่างอยู่รอบนึง ในมือนางก็เต็มไปด้วยอาหารอร่อยทุกขนาดจนแทบจะต้องห้อยคอ
ตอนที่เพิ่งออกมาจากมุมหนึ่งของถนนของว่าง หลานเยาเยาก็พบว่ามีสายตาแปลกๆคู่หนึ่งมองมายังนาง
อีกทั้งพอมองมาที่นางก็ไม่ได้ขยับอะไร!
หลานเยาเยาก็หันไปไล่จับสายตาคู่นั้นทันที
คนที่จ้องนางอย่างหลบๆซ่อนๆอยู่นั้นนั่งอยู่ในมุมพอเห็นนางมองมาก็รีบเก็บสายตาทันที
เอ่อ……
ผมยุ่งกระเซิง เสื้อผ้ายุ่งเหยิงแต่ก็ดูออกว่าเสื้อผ้าขอทานนั้นทำมาจากวัสดุชั้นดี
อายุของขอทานคนนี้น่าจะพอๆกับนางๆอีกทั้งยังเป็นผู้หญิง
ที่สำคัญที่สุดก็คือ นางดูแล้วรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก……