หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่125 อ๋องเยาปฏิบัติต่อนางต่างออกไป
บทที่125 อ๋องเยาปฏิบัติต่อนางต่างออกไป
น่าสนใจ!
ดังนั้น!
นางจึงรีบมองไปยังหลานเฉินมู๋กับจ้าวซื่อที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็พบว่ามีความกังวลในนัยน์ตาของหลานเฉินมู๋ ที่กลัวว่าอ๋องเย่จะไม่พอใจแล้วจิ่นเอ๋อสุดที่รักของเขาจะทนไม่ได้
แต่ทว่า
ก็ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เขาถึงวางใจ
หลานจิ่นเอ๋อกับอ๋องเย่รู้จักกันมาก่อนเหรอ?
แต่ปฏิกิริยาของจ้าวซื่อต่างกันกับหลานเฉินมู๋โดยสิ้นเชิง นางยืนหน้าชูคอยิ้มปริ่ม ดูเหมือนไม่กังวลสักนิด
ฮ่าฮ่า!
หลานเยาเยายิ้มเยาะในใจ แม้นางจะงงๆแต่นางก็ไม่ได้สนใจพวกเขา
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ข้างๆมีเสียงน่าดึงดูดดังขึ้น นางจึงดึงความคิดกลับมา
หลานเยาเยาหันกลับไปมองเย่แจ๋หยิ่งด้วยสายตาสงสัยราวกับกำลังถามเขาอย่างไร้เสียงว่า: “เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไร?”
“คิดอะไรอยู่?” เขาพูดอีกครั้ง
ตั้งแต่หลานเยาเยามาถึงจวนแม่ทัพก็ผิดปกติไป เมื่อครู่ก็ถือถ้วยชาไว้นานมากจนน้ำชาเย็นไปหมดแล้ว
นางไม่ได้ดื่มสักคำ ตาก็เอาแต่จ้องไปที่น้ำชา
ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่?
ข้ากำลังคิดว่าเมื่อไหร่ถ้วยชานี้จะถูกข้ามองน้อยลง”
“……”
คิดเรื่องนึงมาขัดจังหวะความคิดนาง ยังอยากมีชีวิตอยู่ไหม?
ต่อมาหลังจากทานข้าว นางไม่ต้องเสนอเลยว่าจะขออยู่ที่นี่สักช่วง หลานจิ่นเอ๋อก็ลากมือนางให้นางอยู่ที่นี่สักช่วงนึง
ถ้านางไม่รับปากก็คงจะไม่ปล่อยนางไป
เมื่อเห็นท่าทางกระตือรือร้นของนาง หลานเยาเยาก็ลังเลไปครู่ก่อนจะตอบรับ
เดิมทีนางคิดอยู่แล้วว่าจะอยู่ที่นี่สักช่วง จะมาปฏิเสธกระมิดกระเมี้ยนไปทำไม?
แม้หลานเฉินมู๋จะคุยกับนางน้อยมาก แต่สีหน้าก็ดูอบอุ่นต่อนาง
คาดว่าน่าจะรับรู้ได้ว่าจะพึ่งนางประจบอ๋องเย่ไม่ได้แล้ว!
ถึงอย่างไร!
หลังจากแต่งงานเข้าจวนอ๋องเย่แล้ว เขาก็ส่งคนมา ส่งจดหมายมาหลายครั้งให้นางกลับมาดูที่จวนแม่ทัพ
นางเมินมาโดยตลอด!
ตอนนี้มีหลานจิ่นเอ๋อแล้ว หลานเยาเยาดูออกว่าหลานเฉินมู๋รักหลานจิ่นเอ๋อมากกว่าหลานชิวหยุน
หลังจากกินจนอิ่ม
จ้าวซื่อสั่งให้คนจัดห้องอย่างเป็นกันเอง อีกทั้งยังจัดภายในลานที่นางเคยอยู่ก่อนแต่งงานให้ด้วย ของตกแต่งแต่ก่อนยังถูกวางไว้ที่เดิม
แต่หลานเยาเยาดูออกว่าในห้องมีร่องรอยของการถูกทำความสะอาด
แม้แต่ของตกแต่งก็มีการขยับ
พูดได้ว่า เหล่าคนใช้จัดเครื่องตกแต่งให้อยู่ที่เดิมอย่างเร่งรีบ
ฮ่าฮ่า!
จ้าวซื่อนี่เป็นคนมีความสามารถเสียจริง
แม้นางจะรู้ว่าในฐานะพระชายาเย่ ที่อยู่กับอ๋องเย่ก็ยังอยู่ที่จวนแม่ทัพอีก แม้จะมีคนดูแล้วรู้สึกขัดหูขัดตา แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรนางได้
แต่นางก็ตรวจในห้องอีกรอบด้วยความเคยชิน
หลังจากนั้นถึงจะเอนกายนอนกลางวันอย่างสงบ
หลังจากพักผ่อนไปเกือบจะสองยาม หลานเยาเยาถึงจะงัวเงียตื่นขึ้นมา
ยังรู้สึกมึนๆหัวอยู่ นางอยากจะลุกขึ้นแต่ก็ต้องพบว่ามันอ่อนแรงไปทั่วทั้งตัวออกแรงมากไม่ได้
ฮ่า!
หรือเจอเรื่องแย่ๆอย่างไม่รู้ตัว……
ดังนั้นนางจึงมองเครื่องหอมบนโต๊ะ แล้วหรี่ตาลงอย่างมองไม่เห็น
ที่แท้ก็อาศัยช่วงที่นางหลับ แอบมาวางเครื่องหอมที่ทำให้จิตใจผ่อนคลายไว้!
ไม่รู้ว่าเจตนาดีหรือไม่ดี?
หลังจากลงเตียงแล้วนางก็รีบเดินไปที่โต๊ะ หยิบยาจากระบบมาหนึ่งเม็ดแล้วโยนเข้าปาก “กร๊อบๆ”เคี้ยวมันลงไป
จากนั้นก็เปิดฝาเครื่องหอม เอาน้ำที่อยู่ในถ้วยชาเทลงไปทันที
ชั่วขณะเดียว!
“แกร๊ก……”
ประตูห้องเปิด
หลานเยาเยาเดินออกมาจากข้างใน
สาวใช้ที่ปกป้องอยู่ด้านนอกคำนับนางอย่างเคารพ
“พระชายาสวัสดีตอนกลางวันเพคะ ต้องการอาหารกลางวันเลยหรือไม่?”
“ไม่ต้องแล้ว ข้าจะออกไปเดินข้างนอก” หลานเยาเยายื่นมือมาจับหน้าผากส่ายอย่างอ่อนแรงจากนั้นก็เดินไปข้างหน้า
ใครจะรู้……
สาวใช้ที่เพิ่งพูดเมื่อครู่ก็ตามมา
“พระชายาต้องการความช่วยเหลืออันใดโปรดบอกข้าน้อย”
หลานเยาเยาหยุดเท้าลง มองเขานิ่งๆมุมปากยกยิ้มขึ้นแล้วพูดเรียบๆว่า: “ไปเอาเครื่องหอมบนโต๊ะไปซะ! ข้าไม่คุ้นกับการใช้เครื่องหอมแล้วก็ไม่ชอบกลิ่นหอม”
ถ้าเป็นกลิ่นเนื้อหอมๆก็ว่าไปอย่าง
เพิ่มไม้จันทน์เข้าไปก็ช่างเถอะ!
“……เพคะ!”
เห็นได้ชัดว่านัยน์ตาของสาวใช้งงงัน แต่ความงงงันนั้นก็ถูกซ่อนไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ด้านหลังไม่มีคนตามมา หลานเยาเยาก็วางแผนจะเดินไปทั่วๆ
อันดับแรกนางไปยังสถานที่ที่นางเคยอยู่มาก่อน ในลานนั้นยังคงมีร่องรอยของการถูกไฟไหม้อยู่ แต่ห้องหับศาลาต่างๆพังลงไปหมดแล้ว
พอนึกถึงสารพิษพวกนั้น
มุมปากของหลานเยาเยาค่อยๆยกขึ้น……
นิ่งซื่อถูกตัดศีรษะไปแล้ว หลานเฉินมู๋ก็ไม่ได้ส่งคนไปเก็บศพเลย ได้ยินว่าถูกโยนมั่วๆเข้าไปในสุสาน
ส่วนหลานชิวหยุนหลังจากวัดได้ถล่มลงก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
นางยืนละเมียดละไมถ้วยชาอยู่ตรงนั้นก่อนจะเดินออกจากลานรกร้างนั่น
พอเดินออกมาก็เห็นสาวใช้สองสามคนพักผ่อนอยู่ในศาลา ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันจ๊อกๆแจ๊กๆดูเหมือนสนุกมากๆ
“คุณหนูสามใจดีมากจริงๆ เช้าวันนี้ยังให้กำไลหยกข้ามาอยู่เลย กำไลหยกนี้สวยมากๆด้วย”
“ข้าก็มีนะ! คุณหนูสามก็ให้ปิ่นปักผมข้า! วันนี้ไม่รู้ทำไมคุณหนูสามถึงมีความสุขมาก”
“จะไม่มีความสุขได้เหรอ? วันนี้อ๋องเย่มา ได้ยินมาว่าพวกเขารู้จักกันมาก่อนนานแล้ว เจ้าดูวันนี้ที่อ๋องเย่ปฏิบัติกับคุณหนูสามสิแตกต่างจากคนอื่นมาก ตอนนี้พวกเขายังจิบชาอยู่ด้วยกันด้วย!”
“ว้าว……หาได้ยากมาก ถ้าท่านอ๋องรับคุณหนูสามกลับมาก่อนหน้านี้ คาดว่าตอนนี้คนที่แต่งงานกับอ๋องเย่ก็จะไม่ใช่คุณหนูหก”
“ใครว่าไม่ใช่หล่ะ! คุณหนูหกก็เหมือนโรคห่า เดินไปที่ไหนก็ซวยที่นั่น……”
“……”
สาวใช้สองสามคนนั้นยังพูดคุยกันอย่างครึกครื้น หลานเยาเยาก็เดินมาอยู่หลังพวกเขาแล้ว
นางกระแอมเบาๆกล่าวเตือนอย่างใจดีว่า: “พูดกันเบาๆหน่อย ระวังอ๋องเย่ได้ยินเข้าแล้วจะถูกโบยเอา”
พูดออกไปเช่นนั้น!
ตอนแรกเหล่าสาวใช้ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
“ชิ พระชายาเย่แล้วยังไง? ไม่มีการสนับสนุนจากจวนแม่ทัพ ถ้าสูญเสียความรักจากอ๋องเย่ไปแม้แต่คนนางก็ไม่ใช่”
“ก็คือ คุณหนูสามนั้นดี คุณหนูสามงดงามขนาดนั้นคู่ควรเหมาะสมกับอ๋องเย่ที่สุด”
ยังมีสาวใช้ที่ยังต้องการเปิดปากพูดทำร้ายหลานเยาเยาแต่ก็ถูกคนที่อยู่ข้างๆแทงเอวเพื่อเป็นสัญญาณว่าไม่ควรพูด
เหล่าสาวใช้ถึงรู้ตัวถึงการมีอยู่ของหลานเยาเยา
จากนั้นพวกนางก็คุกเข่าลงไปอยู่ที่พื้นอย่างเป็นระเบียบ เห็นได้ชัดว่าไม่มีลมแต่ทุกคนกำลังตัวสั่น
ได้ยินมาว่าหลานเยาเยาเปลี่ยนไปได้เก่งกาจมาก
นิ่งซื่ออดีตคุณหญิงแม่ทัพก็ถูกนางฆ่า แม้แต่คุณหนูสี่ที่ได้รับความรักจากนายท่านมากที่สุด ตอนนี้ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย……
พวกนางกลัวสิ!
ถ้าเกิดหลานเยาเยาทำให้พวกนางหายไปอย่างไร้ร่องรอยจะทำอย่างไรหล่ะ?
เมื่อเห็นสาวใช้ตกใจจนฉี่ราดออกมา หลานเยาเยาก็ถอนหายใจ
“ข้าจะบอกพวกเจ้านะว่าคราวหน้าตอนที่นินทาใครลับหลัง จำไว้ว่าต้องให้สักคนดูต้นทางไว้ ไม่งั้นก็จะอายอย่างวันนี้
พวกเจ้าพูดว่าข้าต้องการฆ่าพวกเจ้า? หรือจะทำให้พวกเจ้าเป็นอัมพฤกษ์? อันนี้……อันนี้ข้าต้องคิดแล้วหล่ะ”