หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่95 เจอกันที่หลุมศพ
บทที่95 เจอกันที่หลุมศพ
ฉินหลิงเจียวไม่คิดอะไร ก็หยิบตั๋วเงินหนึ่งพันออกมาหลายใบ ยื่นให้ทันที
“พอหรือยัง?”
“อันนี้…… ยังไม่เท่าเศษเสี้ยวหนึ่งที่ท่านอ๋องมอบให้หมอเทวดา นี่เป็นยาที่สามารถทำให้เจ้าสวยงามขึ้น ในโลกนี้หายาก!”
หลานเยาเยาใช้คำพูดหว่านล้อม
“ให้เจ้าหมดเลย”
ฉินหลิงเจียวรีบเอาตั๋วเงินที่ติดตัวมาให้นางหมดเลย
แค่ให้นางถืออยู่ในมือมีความสุขสักพัก
พอได้ยาแล้ว จะต้องสั่งสอนนางให้เข็ด
ถึงเวลานั้น ตั๋วเงินพวกนี้ก็กลับมาอยู่ในมือของนางเหมือนเดิม?
หลานเยาเยาสังเกตฉินหลิงเจียวอย่างระมัดระวัง พบว่าเธอได้หยิบตั๋วเงินทั้งหมดออกมาจริงๆ แล้วหันกลับมามองหลิน
เฟยหรัน แล้วถาม
“เจ้าหล่ะ อยากได้ไหม?”
“ข้า……”
ให้นางไม่ได้เลยเหรอ? เมื่อกี้นางยังช่วยนางเลย!
แต่ว่า!
คิดแล้วคิด แต่ก็เอาตั๋วเงินที่ติดตัวเอาออกมาจนหมด
หลานเยาเยารีบเอาตั๋วเงินของพวกนางทั้งหมด นำมานับด้วยความสุข ทำให้ทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกังวลมาก
กว่าจะรอนางนับเสร็จ นางก็พูดออกมา ทำให้พวกนางหัวจะระเบิด
“ถึงแม้ตั๋วเงินยังขาดไปหน่อย แต่ตรงนี้มียาแค่เม็ดเดียว พวกเจ้าสองคนก็แบ่งกันนะ!
“อะไรนะ”
ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมกัน
มียาแค่เม็ดเดียว ถ้าอย่างนั้นพวกนางก็จะต้องแบ่งครึ่งกัน
ครึ่งเม็ดกับเม็ดหนึ่งประสิทธิภาพเหมือนกันหรือเปล่า?
พวกนางสงสัยตรงนี้มาก!
หลานเยาเยาหยิบยาเม็ดสีดำๆ เม็ดกลมๆไว้ในมือ แล้วรีบอธิบายให้พวกนางทันที
“ถึงแม้ประสิทธิภาพครึ่งเม็ด กับประสิทธิภาพหนึ่งเม็ดจะแตกต่างกัน แต่หลังจากที่พวกเจ้ากินไปแล้วครึ่งเม็ด รับรองสวย
งามกว่าตอนนี้แน่นอน”
หลานเยาเยารับประกัน
เกือบหัวเราะออกมา
พอได้ยินที่นางพูดเสร็จ ฉินหลิงเจียวกับหลินเฟยหรันมีสีหน้าแตกต่างกัน ผ่านไปสักพัก ฉินหลิงเจียวก็พูดก่อน
“ตั๋วเงินข้าให้เยอะกว่า ยานี้ข้าต้องได้เยอะกว่า!”
เมื่อกี้นางก็เห็นแล้ว ตั๋วเงินของหลินเฟยหรันน้อยกว่าของนาง นางมีสิทธิ์อะไรต้องมีส่วนแบ่งเท่ากัน?
“ถึงแม้ตั๋วเงินข้าน้อยกว่าเจ้า แต่ของข้า ก็ไม่ได้น้อยกว่าเจ้าเท่าไหร่ อีกอย่างวิธีนี้ข้าเป็นคนคิดขึ้นมา มิเช่นนั้นเจ้าก็ไม่เคย
คิดอยากได้ยาเม็ดนี้
“เจ้าคิดยังไงว่าอยากได้เยอะกว่า? ยาเม็ดนี้ข้าสมควรได้เยอะกว่า เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาแย่งกับข้า?” หลินเฟยหรันไม่ยอมอ่อน
ข้อ
“พ่อข้าเป็นถึงสิงปู้ช่างชู ควบคุมสิงปู้ทั้งหมด”
“พ่อข้าเป็นถึงไท่ฟู่! ตำแหน่งสูงกว่าพ่อเจ้า ยาทั้งเม็ดสมควรเป็นของข้าคนเดียว บางทีพ่อข้าอาจจะช่วยพูดเรื่องความดี
ของพ่อเจ้าต่อหน้าฮ่องเต้บ้าง”
“ตำแหน่งพ่อเจ้าสูงมีประโยชน์อะไร? ไม่มีอำนาจใดๆ หลินเฟยหรัน เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาแย่งยาเม็ดกับข้า?”
พูดจบ!
ฉินหลิงเจียวตรงไปที่หลานเยาเยา
รีบแย่งยาเม็ดไปก่อน อีกอย่างยังอยากรีบกลืนยาเข้าไป แต่หลินเฟยหรันมาถึงก่อน แล้วรีบแย่งยาเม็ดไปจากมือ
ทั้งสองคนตบตีกันขึ้นมา
ดึงผมบ้าง ดึงเสื้อบ้าง
ตอนนี้ไปกันใหญ่แล้ว?
สงวใช้ของคุณหนูทั้งสองเห็น จะมาสนใจหลานเยาเยาทำไม รีบพุ่งไปช่วยคุณหนูของตัวเอง
จากนั้นทั้งหมดก็วุ่นวายกันไปหมด!
ตอนแรกก็แค่ทะเลาะแย่งกันแล้วกลายเป็นตบตีกัน ทุกคนต่างได้รับบาดเจ็บ แต่ยาเม็ดยังคงเก็บรักษาไว้อย่างดี
เพื่อนซี้คู่นี้คงแตกแยกกันแน่นอน!
“โง่จริงๆ”
สมองของพวกนางคงโดนกินไปแล้ว?
ในโลกนี้ถ้ามียาวิเศษอย่างนี้ นางจะยอมให้พวกนางเหรอ?
จากนั้นก็ส่ายหัว แล้วหันตัวเดินจากไปด้วยความสบายใจ
หลังจากที่หันตัวกลับ ในมือนางยังมียาเม็ดอีกหลายเม็ด เหมือนยาที่ฉินหลิงเจียวกับหลินเฟยหรันแย่งกัน นางได้โยนเข้า
ปากเหมือนกินขนม
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง
หลานเยาเยาจ้างรถม้ามาคันหนึ่ง มาถึงหน้าสุสานมารดา ยืนตรงนั้นเงียบๆ รู้สึกแสบตาขึ้นมา
แม้ว่าหลุมศพที่โดดเดี่ยวนี้จะปกคลุมไปด้วยหิน แต่สังเกตดีๆ จากช่องว่างรอยแตก ในหลุมศพไม่มีหญ้าขึ้นมา
จากการสันนิษฐานของหลานเฉินมู่ มารดาไม่ใช่ป่วยตาย
ถ้าอยากหาความจริง มีแค่สองวิธี
หนึ่งคือขุดหลุมสุสาน ตรวจสอบการตายที่แท้จริงของมารดา อีกวิธีหนึ่งคือ หาวิธีให้หลานเฉินมู่พูดว่าก่อนตายมารดาได้
เจอใครบ้าง
ทำได้ทั้งสองวิธี แต่ทำอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้
เพราะฉะนั้น!
นางต้องวางแผนดีๆ
อยู่ในสุสานฉู่ซื่อไม่นาน นางจุดธูปดอกหนึ่งก็จากไป ตอนลงเขา นางได้เจอคนรู้จักคนหนึ่ง
คือหนึ่งในองค์ชายทั้งเจ็ดในเมืองหลวงชื่อเซียวจิ่นหยู!
เขามาทำอะไรตรงนี้?
ทางขึ้นเขาก็มีแค่เส้นเดียว แต่เขาก็เลี่ยงไปทางใหม่ เหมือนกับกำลังหลีกเลี่ยงอะไร อีกอย่างเส้นทางที่เขาเดิน เป็นเส้นทาง
ที่ต้องผ่านสุสานมารดา
นางหยุดเดิน กำลังครุ่นคิดในใจ
จากนั้นก็รีบหันตัวกลับ ค่อยๆย่องตามขึ้นไป
จากนั้นก็เจอความลับบางอย่าง
เซียวจิ่นหยูมาดูสุสานโดดเดี่ยวของมารดา อีกอย่างเขายืนอยู่ตรงนั้นตั้งนาน ไม่ได้พูดอะไรสักคำ ดูด้านหลังรู้สึกอ้างว้าง
มารดากับเซียวจิ่นหยูมีความสัมพันธ์อะไรกันเหรอ?
อีกอย่างเขาขึ้นมาดูมารดาตามลำพัง เหมือนไม่ต้องการให้ใครพบเจอ
นี่เป็นเพราะอะไร?
แค่ครุ่นคิดไปชั่วครู่ พอนางเงยหัวขึ้น ก็มองไม่เห็นเซียวจิ่นหยูแล้ว
คนหล่ะ? ไปแล้ว?
นางรีบเดินออกมาจากกองหญ้าสูง มองไปรอบๆ แต่หาร่องรอยเขาไม่เจอเลย
ทันใดนั้น!
“แม่นางกำลังหาข้าเหรอ?”
เสียงที่อบอุ่นดังอยู่ข้างหลัง ทำให้หลานเยาเยาดีใจ
เสียงนี้……
นางรีบหันตัวกลับไป ก็มองเห็นเซียวจิ่นหยูที่อ่อนโยนและสง่ายืนอยู่ไม่ไกลจากเขา ยืนมองนางอย่างเงียบๆ
เซียวจิ่นหยูไม่เคยเห็นใบหน้านางตอนนี้ เพราะฉะนั้นเขาจำนางไม่ได้ นางก็ไม่ได้ไปอธิบายอะไร
“เจ้าทำไมมาอยู่ตรงนี้?”นางถามเขา
ใครจะไปรู้!
เซียวจิ่นหยูยิ้มจางๆ ถามเบาๆ “คำพูดนี้น่าจะข้าเป็นคนถามแม่นางมากกว่า แม่นางทำไมมาอยู่ตรงนี้? แล้วทำไมต้อง
สะกดรอยตามข้า?”
“ข้ามาเซ่นไหว้มารดาของข้า คงไม่ต้องอธิบายให้เจ้าหรอก? สำหรับสะกดรอยตาม ก็แค่อยากถาม เจ้ามาเซ่นไหว้มารดา
ข้าทำไม?
คนที่มียศสูงอย่างท่านซื่อจื่อ เป็นไปได้ไงที่จะมาเซ่นไหว้น้าสาวที่อยู่ในจวนแม่ทัพ?
มีความลับอะไรที่เปิดเผยไม่ได้?
หรือว่า……
“เจ้าคือพระชายาเย่?”
ที่แท้เมื่อคืนเรื่องที่สนทนาในเมืองหลวงก็เป็นความจริง พระชายาเย่กลายเป็นหญิงงามที่สุดในเมืองนี้
บอกว่ามีหมอเทวดาช่วยเหลือ
แต่เขาคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้!
นี่น่าจะเป็นรูปลักษณ์เดิมของนาง รูปลักษณ์ของนางตอนนี้ก็คล้ายน้าฉู่มาก
“ใช่แล้ว! คงไม่ใช่มารดาของข้า มีลูกชายกับผู้ชายนอกสมรส?”
ในเมื่อ!
มารดาเป็นผู้หญิงงามที่หายาก
เพื่อตอบแทนบุญคุณถึงแต่งงานกับหลานเฉินมู่ ไม่แน่ก่อนหน้านี้ มารดาอาจจะมีความรักที่จริงใจ
ใครจะไปรู้……
เซียวจิ่นหยูหน้าดำคร่ำเครียดขึ้นมา มองดูนางอย่างหมดหนทาง
“พระชายาเย่ อย่าพูดไร้สาระ มารดาเจ้ามีพระคุณต่อข้า ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด!”
“อ่อ! ที่แท้ก็เป็นผู้มีพระคุณ!”
หลานเยาเยารู้สึกผิดหวังนิดหนึ่ง ถ้าหากเป็นพี่ชายเขาคงดีมาก
คนคนนี้สง่าและอ่อนโยน หล่อเหล่า ถ้าเป็นพี่ชายของนางจริงๆ นางคงจะโอ้อวดไปอีกนาน
เสียดายไม่ใช่!
“ถ้าอย่างนั้นข้าขอถามหน่อย แม่ข้าเคยช่วยเจ้าตอนไหน?”
คำพูดนี้!
เซียวจิ่นหยิ่งมีสายตาที่แปลกๆ