หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป - บทที่96 เขาได้รับบาดเจ็บ
บทที่96 เขาได้รับบาดเจ็บ
สายตาของเซียวจิ่นหยูแปลกๆ แต่ถึงแม้ว่าแค่แป๊บเดียว แต่นางก็สังเกตเห็นพอดี
“เป็นเรื่องตอนวัยเด็กแล้ว ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว”
จำไม่ค่อยได้?
เป็นไปได้ไง?
เกี่ยวกับปัญหาในชีวิต สถานการณ์อย่างนี้มันจะจำฝังใจ ยากที่จะลืม
แต่เขากลับจำไม่ได้
ความเป็นไปได้มีสองอย่าง หนึ่ง เขาไม่ต้องการนึกถึงช่วงเวลานั้น สอง เขาคงจำได้ แต่ไม่อยากบอกนาง
“จำไม่ได้ก็แล้วไป ข้าไปก่อน!”
ในเมื่ออยู่แล้วไม่ได้คำตอบอะไร นางก็ไปคิดหาวิธีอย่างอื่นดีกว่า
หลานเยาเยาพึ่งเดินไม่กี่ก้าว เสียงที่อ่อนโยนก็แว่วมา “พระชายาเย่ขึ้นมาบนเขาคนเดียวเหรอ?”
“ใช่! ทำไมเหรอ?”
นางหยุดเดิน มองเขาด้วยสายตาไม่เข้าใจ
ในใจคิด เป็นไปได้ไหมที่เขาจะส่งนางลงเขา?
“ได้ข่าว ช่วงนี้มีโจรอาละวาดอยู่แถวสุสาน มีเส้นทางลับที่ซ่อนอยู่ใต้ภูเขาสามารถเดินตรงไปที่นั่น พระชายาเย่ต้องระวังตัว
หน่อย”
น้ำเสียงของเซียวจิ่นหยูแฝงด้วยความกังวล เหมือนว่ากลัวหลานเยาเยาผู้หญิงตัวคนเดียวจะเจออันตราย
“วางใจเถอะ! คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเจอวันนี้ ปกติข้าไม่เคยซวยขนาดนี้”
หลานเยาเยามั่นใจในคำพูดตัวเองมาก
ใครจะไปรู้!
พอลงจากเขาปุ๊บ นางก็ตกใจ
มีหลายคนที่เดินตรงมาหานางน่าจะเป็นโจร……
โจรสี่ห้าคนกำลังจะกลับบ้าน ตอนแรกเดินมาจากทางลับหัวเราะมีความสุข บังเอิญถึงทางแยกเจอหลานเยาเยาพอดี
ทั้งสองฝ่ายหยุดเดินทันที
“โอ้ว วันนี้ทำไมโชคดีขนาดนี้ อยู่ในเขายังสามารถเจอผู้หญิงสวยงามขนาดนี้ ต้องจับไปเป็นฮูหญิงหัวหน้าโจร
ผู้นำโจรคนหนึ่งคิดไม่ดีกับหลานเยาเยา จ้องตาโต แล้วกลืนน้ำลายไม่หยุด เหมือนกับว่าเกิดมาไม่เคยเจอคนสวย
ในใจหลานเยาเยาเหมือนมีม้าโคลนหญ้าควบผ่านเป็นหมื่นตัว
ออกจากบ้านไม่ได้ดูฤกษ์ยามจริงๆ!
เรื่องอะไรก็เจอหมด
จากนั้น!
โจรพวกนั้นกำลังตกตะลึงในความงาม โจรคนหนึ่งรีบพูดขึ้นมา
“หัวหน้าดูคนที่อยู่ไม่ไกลจากสาวงามคนนี้ซิ? เขาเป็นคนที่ร่ำรวยเก่งกาจชื่อเซียวซื่อจื่อ
“คนนี้วิทยายุทธ์สูงส่ง ชอบความยุติธรรม ข้าว่าช่างเถอะ! พวกข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา”
พูดจบ!
หัวหน้าคนนั้นได้จับขนไฝเม็ดใหญ่ที่อยู่ข้างปาก จากนั้นก็พยักหน้า พูดคำพูดที่เจ็บแสบใส่หลานเยาเยา
“คนสวย พรุ่งนี้เจ้าค่อยมาตรงนี้นะ รอข้ามาจับเจ้า ถ้าไม่มาข้าจะฆ่าเจ้าทั้งครอบครัว”
“อ่อ! ได้!”
หลานเยาเยาพยักหน้าแบบโง่เขลา มีรอยยิ้มหวานที่มุมปาก
มองเห็นพวกโจรไปไกลแล้ว นางหันกลับมามองเซียวจิ่นหยูที่อยู่ไม่ไกล แล้วยิ้มให้เขา จากนั้นก็รีบเดินจากไป
เซียวจิ่นหยูตามหลานเยาเยาอยู่ข้างหลัง เห็นรถม้าของหลานเยาเยาโดนปล้นไป แล้วเดินเข้าไป
“ข้าน้อยไปส่งพระชายาดีไหม?” เสียงที่อ่อนโยนได้แว่วขึ้นมา
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบจัยเซียวซื่อจื่อ!”
รถม้าที่ใช้โดนปล้นไป คนขี่รถม้าก็ไม่รู้หายไปไหน ดูท่าทางเซียวจิ่นหยูก็สบายๆ สงสัยกลัวมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น จึงซ่อนรถ
ม้าไว้อย่างดี
แน่นอน!
เซียวจิ่นหยูได้ซ่อนรถม้าไว้ในถ้ำ ยังเอากิ่งไม้ปิดปังไว้ ถึงแม้มีคนมาถึงถ้ำนี้ ไม่สังเกตดีดีก็มองไม่เห็น ว่าในถ้ำมีรถม้า
นั่งอยู่บนรถม้าเซียวจิ่นหยู ถึงแม้ทั้งสองจะไม่ค่อยพูดอะไร แต่บรรยากาศก็อบอุ่นดี ไม่เหมือนนั่งอยู่บนรถม้าของเย่แจ๋หยิ่ง
บรรยากาศเยือกเย็นจนน่ากลัว
สงสัยหนทางไม่ดี
รถม้ากระแทกอย่างแรง หลานเยาเยาทั้งตัวพุ่งไปที่คนตรงข้าม
ยังดีที่เขามือไว รีบยื่นมือมาขวางไว้ มิเช่นนั้นนางคงพุ่งไปอยู่ตรงอ้อมกอดเขา……
“ขอโทษนะ เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?”
หลานเยาเยารีบกลับที่นั่งเดิม แต่มองเห็นหน้าของเซียวจิ่นหยูซีดเซียว ตรงหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ เหมือนกับทรมานมาก
เอ่อ……
แค่ชนนิดเดียว คงไม่ขนาดนั้น?
แต่นางจำได้เมื่อกี้นางได้เอื้อมมือไปวางที่หน้าอกเขา หรือร่างกายเขาบาดเจ็บอยู่แล้ว?
“พระชายาเย่ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เป็นไร!”
“เป็นไปได้ไง? เจ้าดูที่เสื้อเจ้ามีเลือดซึมออกมาแล้ว”
ตอนแรกนางคิดว่าไม่เป็นไร แต่เมื่อเห็นเลือดของเขาพุ่งออกมาด้วยความเร็ว นางก็จริงจังขึ้นมาทันที
“เจ้าได้พกยาติดตัวมาไหม? ข้ารู้เรื่องการแพทย์หน่อย ข้าพันแผลให้เจ้า มิเช่นนั้นข้าจะรู้สึกไม่สบายใจ”
ตอนแรกเขาไม่เป็นไร แต่นางทำให้เขามีเลือดไหลออก
ถึงนางจะไม่ใช่แพทย์ นางก็รู้สึกเสียใจ แล้วอีกอย่างการแพทย์ของนางก็เก่ง ดังนั้นรักษาบาดแผลให้เขา ก็เป็นเรื่องที่
สมควรอย่างยิ่ง
แต่ว่า!
ซื่อจื่อคนนี้คิดเยอะกว่านาง
“ไม่ได้ ชายหญิงแตะต้องตัวกันไม่ได้ อีกอย่างเจ้ามียศสูงส่ง พวกข้านั่งรถม้าด้วยกัน ก็เป็นการล่วงเกินแล้ว……”
“สมองทื่อ!”
หลานเยาเยาตัดบทเขาทันที จากนั้นให้คนขี่รถม้าหยุดรถ แล้วรีบเปิดเสื้อเขาออก รีบทำบาดแผลให้โดยไม่คิดอะไรฟุ้งซ่าน
ไม่ได้สนใจหน้าอกที่สวยงาม และหุ่นที่สมบูรณ์แบบของเขา
จากนั้น!
ตอนแรกเซียวจิ่นหยูยังมีต่อต้านนิดหนึ่ง แต่มองเห็นสายตาของนาง ร่างกายที่เกร็งก็ค่อยๆผ่อนคลาย
ค่อยๆมองดูท่าทางที่จริงจังของนาง รู้สึกเป็นอาหารตา
นึกไม่ถึงว่านางเป็นคนที่สนุกแล้ว ยังมีหลายสิ่งที่ดึงดูดคน!
“เสร็จแล้ว!”
หลานเยาเยามองบาดแผลทีนางพันเรียบร้อย เพื่อต้องการให้เห็นถึงความจริงใจ ยังสวมเสื้อผ้าให้เขาเอง พอเสร็จเรียบร้อย
ถึงพูดอย่างหมดหนทาง
“ต่อไปเจ้าอย่าโง่อย่างนี้ ทั้งที่มีแผลตามตัว ตอนที่ข้าพุ่งมา ทำไมไม่รู้จักหลบ ตอนนี้ดีแล้ว! รอยแผลเป็นที่ติดกันแล้วตอนนี้
แผลเปิดออกอีก คงต้องรอให้ติดกันใหม่”
“แผลเล็กน้อย ขอบพระทัย” เซียวจิ่นหยูพูดอย่างซาบซึ้ง
“แผลเล็กน้อย?” ดูความลึกของแผล คงจะแทงโดนอวัยวะภายในแล้ว! ยังบอกว่าแผลเล็กน้อย? “ช่างเถอะ ร่างกายคือของ
เจ้า จะถนอมหรือไม่เป็นเรื่องของเจ้า แต่ข้าขอเตือนเจ้าดูแลบาดแผลให้ดี มิเช่นนั้นมันจะมีผลกระทบทีหลัง”
เหมือนเย่แจ๋หยิ่ง ไม่เคยสนใจบาดแผลของตัวเอง สิบกว่าวันที่กลับมาจากเขาวงกต เย่แจ๋หยิ่งผุดๆโผล่ๆ เหมือนมีธุระอะไร
มากมายที่จัดการไม่ได้ แม้แต่ดูแลบาดแผลยังไม่มีเลย
หลานเยาเยากลับไปนั่งที่เดิม รถม้าก็วิ่งต่อ
สองคนอยู่ในรถม้าพูดบ้างไม่พูดบ้าง แต่ส่วนมากหลานเยาเยาเป็นคนพูด พูดเกี่ยวกับให้เขาดูแลบาดแผลเขา!
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน
นอกรถม้าเริ่มครื้นเครงขึ้นมา มีเสียงดังหลายรูปแบบ
หลานเยาเยารู้ รถม้าเซียวจิ่นหยูเข้าเมืองหลวงแล้ว
ทันใดนั้น!
มีกลิ่นหอมเหมือนเนื้อย่างโชยเข้าจมูกนาง ทำให้นางเริ่มมีสติขึ้นมา รีบเปิดผ้าม่านที่หน้าต่างออก