หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 1011 สถานะสำคัญมาก! ตอนที่ 1012 เตะจานอาหารหมาทองคำคว่ำ!
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 1011 สถานะสำคัญมาก! ตอนที่ 1012 เตะจานอาหารหมาทองคำคว่ำ!
ตอนที่ 1011 สถานะสำคัญมาก!
“ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกสาวใคร เราก็ต้องแต่งงานกันอยู่ดี การมีสถานะเป็นคุณผู้หญิงแห่งตระกูลอวี๋ มันจะช่วยคุ้มครองคุณได้ พอถึงเวลา ผมก็จะได้กลับตระกูลมั่วกับคุณอย่างสมฐานะ”
สถานะสำคัญมาก
จากที่เหนียนเสี่ยวมู่พูดมา ถ้ามั่วเฉียนคือพ่อของเธอจริงๆ มั่วเฉียนก็คงรักและทะนุถนอมเธอมากมาตั้งแต่เด็ก
อาจจะเรียกได้ว่าไข่ในหินเลยก็ได้
เกรงว่าถ้าเธออยากได้ดาวบนฟ้า มั่วเฉียนก็จะเก็บมาให้เธอ
เขาไม่คิดเลยว่าช่วยเธอตามหาครอบครัวก็ว่ายากแล้ว ยังจะมีพ่อตาหวงลูกสาวเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
ถ้าไม่ยอมยกลูกสาวให้แต่งกับเขา เขาจะทำยังไงดี?
แม้จะบอกว่าเขายังมีเสี่ยวลิ่วลิ่วเป็นไพ่ไม้ตายอยู่ในมือ
แต่ก็ยังกลัวว่าพอถึงตอนนั้นแม้แต่เสี่ยวลิ่วลิ่วเองก็เอาไม่อยู่ ในทางกลับกันก็จะกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้มั่วเฉียนมาคอยจับผิดว่าเขาทำเหนียนเสี่ยวมู่ท้องก่อนแต่ง
พูดไปแล้วเสี่ยวลิ่วลิ่วก็ยังถือว่าเป็นลูกนอกสมรส
ไม่มีสถานะอย่างเป็นทางการ
ถ้ามั่วเฉียนตามสืบขึ้นมาจริงๆ เขาเกรงว่าจะไม่ได้แต่งเมีย!
อวี๋เยว่หานจับท้ายทอยเธอแน่น ลูกกระเดือกเซ็กซี่กลิ้งขึ้นลง
พูดขึ้นมาว่า
“ผมให้คนส่งการ์ดแต่งงานไปที่ตระกูลมั่วแล้ว คราวนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ลองใจมั่วเฉียน ถ้าเขาเป็นพ่อของคุณจริงๆ ด้วยสายใยระหว่างพ่อลูก เขาจะต้องมาด้วยตัวเองอย่างแน่นอน”
ข่าวแต่งงานประกาศออกไปแล้ว
ตอนนี้สายเกินไปที่จะถอนตัว
ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ในตระกูลมั่วค่อนข้างซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นความเห็นแก่ตัวของเขาหรือเพื่อความปลอดภัยของเหนียนเสี่ยวมู่ ยังไงก็ต้องแต่งให้ได้
ถ้าหากเธอกลับไปหาครอบครัวตัวเองในอนาคต พวกเขาก็ค่อยจัดงานเลี้ยงแต่งงานอีกครั้งก็ได้
ตราบใดที่เจ้าสาวยังเป็นเธอ จะให้เขาแต่งอีกสักกี่ครั้ง เขาก็ยอม
ถือว่าเป็นการประกาศความเป็นเจ้าของหลายๆ ครั้งไปในตัว
เหนียนเสี่ยวมู่หมกมุ่นอยู่กับคำบอกรักของเขา “ผมมันคนขี้ขลาดตาขาว แค่เกิดอะไรขึ้นกับคุณ ผมก็กลัวไปหมดแล้ว”
เมื่อได้ยินที่เขาพูด เธอจึงพยักหน้าอย่างว่าง่าย
แต่งงานก่อนแล้วค่อยกลับไปหาพ่อ และเปิงเปิง…
พอคิดถึงตรงนี้ เหนียนเสี่ยวมู่ก็เงยหน้าขึ้น
“ฉันยังจำได้อีกเรื่องนึง ตอนที่ฉันยังเด็ก เด็กผู้หญิงชุดดำคนนั้นที่ชอบติดตามฉันอยู่ข้างหลังไม่ใช่สิงลี่หรือสิงฟาง ฉันจำรูปร่างหน้าตาของเธอไม่ได้ แต่ฉันจำได้ว่าเธอไม่ใช่คนเลว ที่เธอคอยติดตามฉันก็เพื่อจะปกป้องฉัน!”
“……”
“ฉันไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกนั้นยังไง ฉันจำไม่ค่อยได้ เป็นแค่ความทรงจำที่เลือนราง ข้างกายฉันจะมีคนติดตามอยู่คนหนึ่ง ไม่ว่าฉันจะทำอะไร เธอก็มักจะอยู่ข้างกายฉันไม่ใกล้ไม่ไกลเหมือนเงาตามตัว เธอพูดน้อยมากและน้อยมากที่จะให้ฉันเห็นเธอ แต่ฉันรู้สึกได้ถึงการมีตัวตนของเธอ เธออยู่ข้างกายฉันตลอดเวลา!”
เหนียนเสี่ยวมู่ก้มหน้าจ้องที่นิ้วตัวเอง
พยายามคิดแต่ก็คิดไม่ออก
“ถ้ารู้สึกไม่สบายก็ไม่ต้องคิดแล้ว สีหน้าคุณดูแย่มาก” อวี๋เยว่หานประคองหน้าเธอแล้วบีบ
เสียงกำชับของคุณหมอยังอยู่ในหู
ถ้าเธอเอาแต่บังคับตัวเองให้รื้อฟื้นความทรงจำ เธออาจจะนึกอะไรไม่ออกเลย ในทางกลับกันยังทำให้ความทรงจำเกิดความสับสนและอาจกลายเป็นบ้าได้
ตั้งแต่ออกมาจากอะพาร์ตเมนต์ถานเปิงเปิง
ก็มีนักข่าวภาคสนามรอถ่ายภาพอวี๋เยว่หานคอยรับส่งเหนียนเสี่ยวมู่ด้วยตัวเอง
ข่าวที่บริษัทตระกูลอวี๋ทำการต้อนรับคุณผู้หญิงของท่านประธานถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว
อวี๋เยว่หานตั้งใจจะให้ทุกคนรู้ว่าเหนียนเสี่ยวมู่เป็นของเขาแล้ว ทันทีที่ข่าวงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อลังการแพร่กระจายออกไป ตอนนี้แทบจะไม่มีใครไม่รู้เลย
ถ้าเป็นเวลาปกติ อวี๋เยว่หานจะให้ผู้ช่วยไปสกัดนักข่าวไว้ตั้งนานแล้ว
ตอนที่ 1012 เตะจานอาหารหมาทองคำคว่ำ!
แต่วันนี้ พอผู้ช่วยกำลังจะเดินออกไปห้าม อวี๋เยว่หานก็พูดขึ้นมาเป็นเสียงเรียบๆ
“ปล่อยไปเถอะ อย่าลืมให้พวกเขาถ่ายออกมาสวยๆ หน่อยล่ะ แล้วต้องปล่อยรูปคู่ด้วย”
ผู้ช่วย “….”
เกรงว่าวันนี้เขาคงติดตามคุณชายหานตัวปลอม
“ไม่รู้ว่าช่วงนี้ฟ่านอวี่ไปไหนซะแล้ว ฉันโทรหาเขาตั้งหลายครั้ง อยากให้เขามางานแต่งเราด้วย แต่ก็ไม่มีใครรับสาย” เหนียนเสี่ยวมู่เข้าไปนั่งในรถแล้วก้มหน้าพึมพำ
เดิมทียังกังวลอยู่เลยว่าพออวี๋เยว่หานได้ยินจะหึงอีกหรือเปล่า
แต่กลับได้ยินคำพูดที่คาดไม่ถึงออกมาจากปากของเขา
“แปลกแฮะ ผมก็โทรหาเขาเหมือนกัน แต่ไม่มีคนรับสาย”
เหนียนเสี่ยวมู่อึ้ง “คุณโทรหาเขาทำไม?”
ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเขามีเจตนาแอบแฝงอย่างไรอย่างนั้น?
อดกังวลแทนฟ่านอวี่ไม่ได้!
อวี๋เยว่หานยิ้มเบาๆ “ไม่ต้องใช้สายตาแบบนั้นมองผมเลยนะ ผมเป็นคนใจกว้างมาก เพราะถังหยวนซือไม่สบาย ผมกลัวว่าถังหยวนซือจะมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวไม่ได้ ก็เลยคิดจะชวนฟ่านอวี่มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว จุ๊ๆ ไม่คิดเลยว่าเขาจะไม่ยอมรับสาย น่าเสียดายจัง”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
ที่แท้แล้วความใจกว้างของเขาล้วนเป็นเรื่องโกหก
ให้ศัตรูหัวใจมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว เขาอยากยั่วโมโหใครตายกันแน่?
ถ้าฟ่านอวี่รับโทรศัพท์เขา กลัวก็แต่ว่าเขาจะโมโหจนหมดสติไปเลยก็ได้!
เหนียนเสี่ยวมู่บุ้ยปาก “คุณกล้ามากเลยนะ คุณไม่กลัวฟ่านอวี่จะมาแย่งงานแต่งคุณไปแล้วเปลี่ยนคุณจากเจ้าบ่าวเป็นพ่อม่ายเหรอ?”
เธอแค่พูดหยอกไปประโยคเดียว
แต่ใครจะรู้ว่าอวี๋เยว่หานจะทำหน้าบึ้งหลังจากที่พูดจบ
ยื่นมือไปหยิกเนื้อนุ่มที่เอวของเธอ
เหนียนเสี่ยวมู่เจ็บจนเด้งตัวขึ้น เขาจึงถือโอกาสกอดเธอไว้แล้วกดเธอนั่งลงบนตัก
นิ้วยาวบีบคางเธอแล้วขู่ว่า
“คุณกล้า! ถ้าคุณกล้าหนีไปกับฟ่านอวี่ท่ามกลางงานแต่งงานของเรา ผมจะตัดขาคุณซะ!”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
ระเบิดรุนแรง!
แค่พูดถึงฟ่านอวี่ก็ระเบิดแล้ว
แล้วยังจะให้ฟ่านอวี่มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวอีก
ไม่แน่ว่าพอถึงเวลานั้นใครกันแน่จะต้องโมโห!
อวี๋เยว่หานเหมือนจะคิดได้ถึงตรงนี้ จึงเชิดหน้าเท่ๆ “ช่างเถอะ ติดต่อไม่ได้ก็ดี ผมไม่ยั่วเขา เขาก็อย่ามายั่วผม”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
เมื่ออวี๋เยว่หานพูดถึงเรื่องเพื่อนเจ้าบ่าว เหนียนเสี่ยวมู่ก็พลอยนึกถึงเพื่อนเจ้าสาวไปด้วย
ถานเปิงเปิงไม่อยู่ ซั่งซินก็ท้อง
ตอนนี้เหลือแค่เจิ้งเหยียนเท่านั้นที่มาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เธอได้
โชคดีที่เจิ้งเหยียนเป็นคนใช้ได้
ทันทีที่ได้ยินเธอชวน ก็ตกปากรับคำทันที
“ตัวเองยังหาผู้ชายมาแต่งงานด้วยไม่ได้ แต่กลับต้องไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว เสี่ยวมู่มู่ ไหนพวกเธอบอกมาซิว่าพวกเธอสามีภรรยาเป็นอะไรกัน? ถึงได้ทรมานหมาโสดไร้คู่ ทรมานถ่านไฟเก่าแบบนี้?”
น้ำเสียงเนือยๆในสายพูดติดตลก
เหนียนเสี่ยวมู่พูดแก้
“นั่นเธอแอบชอบต่างหากล่ะ ไม่เกี่ยวอะไรกับคู่หมั้นฉันสักหน่อย เธอไม่ถือว่าเป็นถ่านไฟเก่า ขอบคุณ”
เจิ้งเหยียน “…”
เตะจานอาหารหมาทองคำคว่ำ!
บ้ายบาย!
เจิ้งเหยียนเปลี่ยนเรื่องทันที เธอพูดอย่างเฉียบคม
“เจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์เจรจาธุรกิจกับบริษัทตระกูลอวี๋เป็นไปอย่างราบรื่น พ่อของฉันจึงคิดจะให้ฉันไปร่วมงานแต่งงานของพวกเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อีกอย่างช่วงนี้ฉันก็ว่างอยู่พอดี ก็เลยไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เธอได้ ถ้าเธอเกิดตัดสินใจล้มเลิกงานแต่งงานชั่วคราว ก็หมุนตัวเข้ามาในอ้อมกอดฉัน ฉันจะพาเธอหนีไปจากงานแต่งทันที!”
คราวนี้ไม่ใช่เหนียนเสี่ยวมู่ที่ตอบเธอ
แต่เป็นอวี๋เยว่หานที่คว้าโทรศัพท์ไปกะทันหัน
“เปลี่ยนตัวเพื่อนเจ้าสาว เธอไม่ต้องมาแล้ว”
จากนั้นก็เป็นเสียงตัดสาย “ตู้ด”!
ปล่อยให้เจิ้งเหยียนสับสนอยู่คนเดียว
นี่เธอโดนคนสองคนรังเกียจเหรอเนี่ย?