หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 1015 แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ตอนที่ 1016 เดินไปหาคนที่รัก
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 1015 แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ตอนที่ 1016 เดินไปหาคนที่รัก
ตอนที่ 1015 แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
คุณหนูใหญ่ตระกูลเจิ้ง ทุกคนเขาแต่งงานเพราะเจอรักแท้
ส่วนเธอกลับแต่งงานเพื่อที่จะได้ใส่มงกุฎเฟิ่งกวน เหตุผลมันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ?
แต่มงกุฎเฟิ่งกวนที่คุณย่าเตรียมไว้ให้ก็สวยมากจริงๆ เหนียนเสี่ยวมู่แทบจะวางมันไม่ลง
ทันทีที่ได้ยินว่านายหญิงแห่งตระกูลอวี๋เป็นคนเตรียมชุดเจ้าสาวให้เหนียนเสี่ยวมู่เอง และยังเป็นสไตล์จีนแบบครบครัน เจิ้งเหยียนจึงร้องออกมาด้วยความอิจฉา
“คนอื่นเขาแต่งงานต่างก็กลัวปัญหาแม่สามีลูกสะใภ้ แต่เธอไม่มีแม่สามีมาจู้จี้จุกจิกยังไม่พอ ยังมีคุณย่ามาเอาอกเอาใจซะด้วย เธอช่วยรีบไปถามนายหญิงอวี๋ให้หน่อยสิว่ายังขาดหลานสาวอยู่ไหม ฉันขอยื่นสมัครเป็นคนแรก!”
เหนียนเสี่ยวมู่ปลดมงกุฎเฟิ่งกวนลงแล้วยิ้มร่า “ขอโทษนะ คุณย่ามีฉันคอยดูแลก็พอแล้ว ไม่แบ่งให้ใครง่ายๆ หรอก”
เจิ้งเหยียน “ขี้งก!”
เจิ้งเหยียนคว้ามือเธอมา “แต่ในนี้มีชุดเจ้าสาวสองชุดนี่ ตอนเธอแต่งงานจะสวมชุดไหนกันแน่?”
เธอจำได้ว่าในการ์ดแต่งงานที่ตระกูลอวี๋ส่งไป สถานที่ทำพิธีแต่งงานคือโบสถ์ งั้นก็น่าจะเป็นชุดเจ้าสาวสไตล์ตะวันตก
“ฉันถามคุณย่าแล้ว ทำตามความเห็นผู้ใหญ่น่ะ เธอตั้งใจจะจัดทั้งเช้าทั้งเย็น ช่วงเช้าจะจัดพิธีแบบตะวันตกที่โบสถ์ ช่วงบ่ายเป็นงานจัดเลี้ยงภายในครอบครัว ซึ่งจะจัดแบบจีน หลังจากที่แต่งเข้าตระกูลอวี๋แล้ว จะเป็นครั้งแรกที่ได้พบปะกับญาติผู้ใหญ่ของตระกูลอวี๋รวมไปถึงสมาชิกในตระกูลอย่างเป็นทางการ”
เหนียนเสี่ยวมู่อธิบาย
แม้การจัดพิธีแต่งงานจะเป็นไปอย่างเร่งรีบ แต่นายหญิงอวี๋ก็รักเธอมาก
ทำทุกอย่างด้วยความรอบคอบ
ไม่ขาดตกบกพร่องเลย
เธอจึงไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น แค่แต่งตัวสวยๆและรอเป็นเจ้าสาวก็พอ
คำพูดของเธอทำให้เจิ้งเหยียนอิจฉาเข้าไปใหญ่
คอยเกาะแกะเหนียนเสี่ยวมู่เพื่อให้เหนียนเสี่ยวมู่รับปากว่าจะโยนช่อดอกไม้ให้เธอ เธอจะได้สละโสดในเร็ววันนี้เสียที เกาะแกะอยู่นานกว่าจะปล่อย
“พูดก็พูดเถอะ จู่ๆ พวกเธอก็ประกาศแต่งงานกะทันหันแบบนี้ ฉันยังแปลกใจอยู่เลย”
เจิ้งเหยียนส่งสัญญาณให้พนักงานหลีกทางและเข้าไปจัดชุดเจ้าสาวให้เหนียนเสี่ยวมู่ด้วยตัวเอง จากนั้นก็พูดว่า
“อีกอย่างจัดงานซะใหญ่โตมโหฬาร ฉันคิดว่าถ้าเอางานนี้ไปไว้ในยุคโบราณ คงประมาณว่าฮ่องเต้แต่งฮองเฮาอะไรทำนองนั้น แทบจะรู้กันทั้งโลก!”
“……”
เหนียนเสี่ยวมู่หรี่ตาลง
เมื่อได้ยินคำพูดของเจิ้งเหยียน สิ่งที่แวบเข้ามาในหัวก็คือมั่วเฉียน
คนคนนั้นเป็นไปได้ว่าคือพ่อของเธอ แต่กลับจำเธอไม่ได้
ที่อวี๋เยว่หานรีบจัดงานแต่งงานก็เพื่อปกป้องเธอ
ถ้าบอกว่างานแต่งนี้มันน่าเสียดายตรงไหน นั่นก็คือเธอยังไม่เจอคนในครอบครัวที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเธอเลย
และไม่รู้ว่ามั่วเฉียนจะมางานนี้หรือไม่…
“เจิ้งเหยียน เธอรู้เรื่องมั่วเฉียนมากน้อยแค่ไหน? เขาเป็นคนยังไง?” เหนียนเสี่ยวมู่หันหน้าไปถาม
“ทำไมเธอถึงถามเรื่องนี้ล่ะ? คนตระกูลมั่วอยู่กันแบบเงียบๆ นอกจากคนของตัวเองแล้ว ยากมากที่สังคมภายนอกจะรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่ ฉันเคยได้ยินเรื่องมั่วเฉียนมาบ้างว่าเขารักลูกสาวกับภรรยาของเขามาก ตอนอยู่บ้านกับบริษัทแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง”
นัยน์ตาหงส์คู่งามของเจิ้งเหยียนพูดด้วยความอิจฉา
“ยังมีอีกเรื่องนึง เป็นเรื่องเกี่ยวกับบริษัทตระกูลมั่ว เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการที่ตระกูลเจิ้งแยกตัวออกจากตระกูลมั่วด้วย”
เจิ้งเหยียนชะงัก ปรับอารมณ์แล้วค่อยๆพูด
“ตระกูลมั่วเป็นตระกูลเก่าแก่กว่าร้อยปี พวกเขาคอยส่งเสริมวัฒนธรรมจีนอันดีงามอยู่เสมอ แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา จู่ๆ ก็กระโจนเข้ามาลงทุนธุรกิจระหว่างประเทศและยังดำเนินการปฏิรูปภายในองค์กร…
ตอนที่ 1016 เดินไปหาคนที่รัก
“ตอนนั้นฉันยังเด็ก เพิ่งจะเข้ามาทำงานในบริษัทได้ไม่นาน ฉันเลยไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ รู้แค่ว่าตอนนั้นบริษัทตระกูลมั่วเกือบจะพังทลาย ต่อมามั่วเฉียนกับมั่วหย่งเหิงก็ได้ร่วมมือกัน สถานการณ์ถึงได้มั่นคง”
“ตระกูลเจิ้งเองก็บาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ครั้งนั้น จนในท้ายที่สุด เจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ก็ตั้งตัวเป็นอิสระ ถอนตัวออกจากบริษัทตระกูลมั่วเพราะทะเลาะกันในเรื่องแนวคิดทางธุรกิจ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้แต่พ่อของฉันก็รู้เรื่องราวของตระกูลมั่วน้อยมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนรุ่นหลังอย่างฉัน”
เจิ้งเหยียนแอบถามมาแล้วหลายครั้งเพื่อช่วยเหนียนเสี่ยวมู่
ยากมากที่จะเห็นพ่อเธอโมโหแล้วไม่ยอมให้เธอถามเรื่องตระกูลมั่วอีก
“บริษัทตระกูลมั่วก็ยังดีๆ อยู่ แล้วทำไมต้องปฏิรูปด้วยล่ะ? ใครเป็นคนเสนอ?” เหนียนเสี่ยวมู่ขมวดคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ
เธอคิดอยู่เสมอว่ามีอะไรแปลกๆ
เจิ้งเหยียนส่ายหน้าบอกว่าตัวเองก็ไม่รู้
เหนียนเสี่ยวมู่คิดอยากจะถามต่อ แต่พนักงานเตือนให้เธอเปลี่ยนชุดได้แล้ว
พวกเธอจึงหยุดหัวข้อนี้ไว้ชั่วคราว
หลังจากลองชุดเจ้าสาวไปได้ครึ่งทาง อวี๋เยว่หานก็มาถึงแล้ว
และยังอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วมาด้วย
ทันทีที่เจ้าก้อนข้าวเหนียวน้อยเห็นเหนียนเสี่ยวมู่สวมชุดเจ้าสาว ตาโตๆก็เบิกกว้างทันที
“หม่าม้าสวยจังเลย!”
อวี๋เยว่หานเห็นด้วยกับประโยคนี้มาก
เขาตั้งสติไม่ได้ไปโดยปริยาย ดวงตาดำขลับจับจ้องไปที่เหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังสวมชุดเจ้าสาวอยู่ตรงหน้า หัวใจเต้นเร็วขึ้น
เหมือนหนุ่มน้อยที่เพิ่งจะมีความรัก
ทั้งประหม่า ตื่นเต้น และทำตัวไม่ถูก
ในหัวมีเพียงความคิดที่ว่า : ผู้หญิงของเขาช่างสวยเหลือเกิน…
ขณะที่เขากำลังมองตาเป็นประกาย เสี่ยวลิ่วลิ่วก็ถีบขาเล็กๆ แล้วไถลตัวลงจากอ้อมแขนของเขา
แทบรอไม่ไหวที่จะวิ่งไปหาเหนียนเสี่ยวมู่
มืออวบอ้วนจับไปที่ผ้าสีขาว จากนั้นก็นำมาม้วนรอบตัว
เอียงศีรษะพลางถามด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“หม่าม้า เสี่ยวลิ่วลิ่วสวยไหม?”
ใบหน้าเล็กๆ ราวกับหยกแกะสลักแดงระเรื่อ
เนื่องจากวิ่งเร็วไปหน่อย จึงมีเหงื่อบางๆติดอยู่ที่ปลายจมูก
ดวงตาโตคู่นั้นโค้งมนแม้จะไม่ได้ยิ้ม
เหมือนเหนียนเสี่ยวมู่มาก
พฤติกรรมไร้เดียงสาทำให้เหนียนเสี่ยวมู่ใจสั่น!
ราวกับว่ามีภาพที่คล้ายกันแวบเข้ามาในหัว——
“พ่อคะ ชุดลิ่วลิ่วสวยไหม? เหมือนชุดเจ้าสาวไหมคะ?”
“ลิ่วลิ่วยังเด็ก ยังใส่ชุดเจ้าสาวไม่ได้ รอหนูโตกว่านี้และได้เจอกับคนที่ตัวเองชอบ พ่อจะเตรียมชุดเจ้าสาวที่สวยที่สุดในโลกให้หนูเอง จะจับมือหนูมอบให้กับคนที่สามารถดูแลหนูไปได้ชั่วชีวิต”
เหนียนเสี่ยวมู่ขมวดคิ้ว
หลังจากปวดหัวอยู่หน่อยๆ ได้ไม่นาน ใบหน้าเย็นชาก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า
คือมั่วเฉียนที่กำลังจ้องเธอด้วยสายตาเย็นชา
เธอตื่นตระหนกไปทั้งตัว!
“เป็นอะไร?” อวี๋เยว่หานเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นว่าเธอดูแปลกไป เขาจึงก้าวไปข้างหน้าแล้วจับไหล่เธอไว้
เหนียนเสี่ยวมู่กัดริมฝีปาก “คิดอะไรขึ้นมาได้น่ะ รู้สึกว่าความทรงจำวุ่นวายเต็มไปหมด ฉันอาจจะเป็นโรคกลัวการแต่งงาน…”
อวี๋เยว่หานไม่ได้หัวเราะเยาะเธอ แต่พยักหน้าเห็นด้วย
“ผมก็อาจจะเป็นด้วยอยู่หน่อยๆ พอเห็นคุณขมวดคิ้วก็กังวลว่าคุณจะเสียใจภายหลังหรือเปล่า หรืออาจจะไม่เต็มใจแต่งงานกับผม คุณรู้ไหมว่าทุกวันนี้ผมคิดถึงเรื่องอะไรมากที่สุด”
“……”
“ถ้าจู่ๆ คุณเกิดเสียใจไม่ยอมแต่งงานกับผมกลางพิธีแต่งงานขึ้นมา ผมจะทำยังไงดี? ผมคิดอยู่นานและคิดว่าตัวเองคงจะต่อยคุณจนหมดสติโดยไม่ลังเล จากนั้นก็อุ้มคุณเข้าโบสถ์…วันๆ ผมเอาแต่คิดเรื่องนี้ตั้งหลายร้อยรอบแน่ะ”