หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 1035 ไม่ใช่ว่าขึ้นสวรรค์ไปเลยเหรอ?! / ตอนที่ 1036 มาคุยกันหน่อย
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 1035 ไม่ใช่ว่าขึ้นสวรรค์ไปเลยเหรอ?! / ตอนที่ 1036 มาคุยกันหน่อย
ตอนที่ 1035 ไม่ใช่ว่าขึ้นสวรรค์ไปเลยเหรอ?!
“ถึงฉันจะโมโหผู้หญิงคนนั้นที่ทำร้ายเทพบุตรของฉัน แต่พอคิดว่าเทพบุตรกลับมาโสดอีกครั้ง ฉันก็รู้สึกดีใจที่จะได้มีโอกาส!
“ถูกใจ +1”
“ถูกใจ +2”
……
แถวด้านล่างมีคนเข้ามากดถูกใจสมทบ เหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังดูอยู่ก็ถึงกับหายใจติดขัด
ถ้าไม่ใช่เพราะอวี๋เยว่หานกำลังโกรธจนเธอไม่กล้าแหย่เขา ตอนนี้เธออยากตบเตือนสติเขา ให้เขามาดูแฟนคลับวังหลังของตัวเองที่กำลังสาปแช่งให้เขาเป็นโสดไปตลอดชีวิต
ชาวเน็ตถกประเด็นกันอย่างคึกคัก
นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวจำนวนมากเกี่ยวกับการยกเลิกงานแต่งงานในคอลัมน์ธุรกิจ
ส่วนใหญ่บอกว่าเธอรู้สึกเสียใจภายหลังกับการแต่งงานครั้งนี้ จึงทิ้งอวี๋เยว่หานไป
หลังจากเหตุการณ์ใหญ่ดังกล่าว ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลอวี๋ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย
ทว่าคนในตระกูลอวี๋กลับไม่มีใครออกมาพูดแม้แต่คนเดียว
พอมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ ก็แค่หลีกเลี่ยงไม่ยอมพูด
และยังเน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าประธานคนปัจจุบันของบริษัทตระกูลอวี๋คืออวี๋เยว่หาน ไม่ว่าอวี๋เยว่หานจะตัดสินใจอย่างไร พวกเขาก็สนับสนุนอย่างเต็มที่
ความสามัคคีที่หาได้ยาก รวมกันเป็นหนึ่งเดียว
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่เห็นก็อุ่นใจขึ้นมาบ้าง
แม้คนอื่นจะไม่กล้าพูดอะไร แต่ตอนที่นายหญิงอวี๋เผชิญหน้ากับนักข่าว เธอยังคงถือไม้เท้ายืนสง่าผ่าเผย หันหน้าไปทางกล้องด้วยแววตาแข็งกร้าวจนทำให้คนไม่กล้าดูหมิ่น
เสียงในวิดีโอ
เหนียนเสี่ยวมู่เหลือบมองอวี๋เยว่หานที่กำลังหลับตาด้วยความระมัดระวัง ไม่รู้ว่าเขาหลับจริงหรือไม่ หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ขอหูฟังจากผู้ช่วยแล้วดูวิดีโอสัมภาษณ์ต่อ
นักข่าว : “นายหญิงอวี๋ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องคู่หมั้นคุณชายหานที่หนีงานแต่ง?”
เธอถลึงตาใส่นักข่าวทันทีที่นักข่าวพูดจบ
พูดด้วยเสียงกระฟัดกระเฟียด
“หลานสะใภ้ฉันหายไป พวกเธอก็ไม่รีบไปช่วยกันหา ยังจะมาพูดไร้สาระที่นี่อยู่ได้? หนีงานแต่งอะไร? เสียใจอะไร? ไม่มีหรอก! เสี่ยวมู่มู่จะต้องมีเรื่องด่วนแน่ๆ เธอถึงไม่ทันได้มาบอกกล่าวก่อนไป รอจัดการทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วเธอจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน”
นักข่าวมองหน้ากัน “นายหญิงอวี๋หมายถึงถ้าเหนียนเสี่ยวมู่กลับมา คุณก็ยังยอมรับหลานสะใภ้คนนี้?”
นายหญิงอวี๋ทำหน้าเชิดด้วยความภาคภูมิใจ
“ทำไมจะไม่ยอมรับ? หลานสะใภ้ที่เลือกเองกับมือ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรฉันก็ยังรักยังหลง ถ้าใครกล้ารังแกเสี่ยวมู่มู่ล่ะก็ นั่นก็แปลว่ามันจงใจหาเรื่องฉัน ไม่ต้องรอให้เยว่หานลงมือหรอก ฉันจะเป็นคนแรกที่ไม่ปล่อยมันไป!”
นักข่าว “เหนียนเสี่ยวมู่ไม่รู้จักวางตัวและยังหนีจากงานแต่งไปทั้งแบบนี้ คุณไม่กลัวเหรอว่าเธอจะไม่กลับมา…”
“เรียกคนมานี่ซิ! ที่นี่มีคนสร้างข่าวลือมั่วๆ ลากเขาออกไปโยนทิ้งข้างนอกซะ!” นายหญิงอวี๋ออกคำสั่งให้รปภ.รีบไปควบคุมสถานการณ์
นักข่าวที่เพิ่งดูหมิ่นเหนียนเสี่ยวมู่โดนหิ้วปีกโยนออกไปข้างนอก
นักข่าวทุกคน “…”
ในวิดีโอเห็นเพียงนายหญิงอวี๋ถือไม้เท้าเดินไปข้างหน้าสองก้าวด้วยความสุขุมพร้อมกับจ้องกลุ่มนักข่าวที่เต็มไปด้วยความสงสัย
กระแอมในลำคอและพูดอย่างน่าเกรงขาม
“ฉันจะพูดอีกรอบ งานแต่งงานวันนี้มีอุบัติเหตุจึงถูกเลื่อนออกไปก่อนชั่วคราว ส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะมีคนมาอธิบายให้ทุกคนฟังในภายหลัง แต่ถ้าใครกล้าสร้างข่าวลือเสียๆหายๆมาใส่ร้ายหลานชายกับหลานสะใภ้ฉัน นั่นก็เท่ากับตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลอวี๋ทั้งหมด”
หลังจากที่นายหญิงอวี๋พูดจบ เธอก็ยืดอกและถามกลับ
“พวกเธอยังมีคำถามอะไรอีกไหม?”
“……”
นักข่าวใบ้กิน
มีคำถามที่อยากจะถาม แต่พอนึกถึงนักข่าวที่ถูกโยนออกไปเมื่อกี้นี้ก็ไม่กล้าถามแล้ว
เคยเห็นคนถือหางปกป้อง
แต่ไม่เคยเห็นนายหญิงอวี๋ถือหางปกป้องคนแบบนี้
ขนาดเป็นแค่หลานสะใภ้ที่ไม่ผ่านประตู ถ้าแต่งเข้าตระกูลอวี๋จริงๆ เหนียนเสี่ยวมู่คนนี้คงไม่ใช่ว่าขึ้นสวรรค์ไปเลยเหรอ?
ตอนที่ 1036 มาคุยกันหน่อย
ดังนั้นในช่วงเวลานี้ ข่าวลือที่ร้ายกาจที่สุดก็ได้ถูกเผยแพร่ออกไปโดยบอกว่าเธอมีเวทมนตร์
เป็นเวทมนตร์ที่มอมเมาคนได้ เธอไม่เพียงแค่กล่อมอวี๋เยว่หานให้ลุ่มหลงในความงามโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใด แม้กระทั่งนายหญิงอวี๋ก็ยังถูกเธอกล่อมจนปวดเศียรเวียนเกล้า ถ้าตระกูลอวี๋แต่งสะใภ้แบบนี้เข้าบ้าน ไม่ช้าไม่เร็วจะต้องจบเห่…
จุ๊ๆ
แต่งเรื่องได้ขนาดนี้จะเป็นนักข่าวไปทำไม?
ไปเขียนบทละครเถอะ เรื่องราวออกจะมีสีสันและยังทำให้คนหวั่นใจ
เหนียนเสี่ยวมู่ปิดวิดีโอและท่องโลกออนไลน์อีกครั้ง
พาดหัวข่าววันนี้ล้วนถูกตระกูลอวี๋เหมาไป
ในตอนแรกล้วนเป็นข่าวงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่อลังการ
ต่อมาสถานการณ์เปลี่ยนไปกลายเป็นข่าวที่เธอเสียใจหนีออกจากงานแต่งงาน และยังมีเหตุผลที่คาดเดากันไปต่างๆนาๆ
สรุปคือ คนทั้งโลกรู้กันหมดแล้วว่าอวี๋เยว่หานถูกทิ้ง สิ่งที่คนคาดเดากันมากที่สุดก็คือเธอสวมเขาให้อวี๋เยว่หาน และเนื่องจากกลัวว่าจะถูกเขาจับได้ก็เลยหนีไปกับชู้รักในวันแต่งงาน…
จากนั้นอวี๋เยว่หานมาเจอเธออยู่กับฟ่านอวี่เข้าพอดี
ทั้งยังเจอที่ท่าเรือ ซึ่งเป็นสถานที่ล่อแหลม
ชาวเน็ตคาดเดากันไปถ้วนหน้า!
เหนียนเสี่ยวมู่จับโทรศัพท์และอ่านกระทู้บนอินเทอร์เน็ตด้วยความเลื่อมใสจากใจจริง
แอบยกนิ้วให้ในใจ
หมอดูจะเก่งแค่ไหนก็เก่งไม่เท่าชาวเน็ต!
แต่ชาวเน็ตพูดมาซะขนาดนี้ ทำไมไม่มีใครสอนเธอเลยว่าเวลาคู่หมั้นโกรธ เธอควรจะง้อยังไง?
ตอนที่อยู่ต่อหน้ามั่วเฉียนก่อนหน้านี้ เขายังบอกว่าไม่ถือสาอยู่เลย
แต่พอมั่วเฉียนไปแล้ว เขากลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ…
ใครๆ ก็บอกว่าอากาศเดือนสี่เดือนห้าแปรผันไปตามอารมณ์เด็ก นึกจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน
ตอนนี้เธอก็รู้สึกว่าอวี๋เยว่หานก็เป็นแบบนั้น
นึกจะโกรธก็โกรธ พอโกรธแล้วทำเมิน
เขาไม่รู้หรือไงว่าสงครามเย็นทำร้ายจิตใจได้ร้ายกาจที่สุด?
หัวใจเธอจะแตกสลายไปหมดแล้ว…
เหนียนเสี่ยวมู่ยื่นโทรศัพท์ให้ผู้ช่วย ขยับก้นไปใกล้อวี๋เยว่หาน
ยื่นนิ้วจิ้มไหล่ของเขา
พูดเบาๆ
“อวี๋เยว่หาน เรามาคุยกันหน่อยไหม?”
“……”
คำตอบกลับมีเพียงบรรยากาศอึมครึมภายในรถ
แม้แต่คิ้วก็ไม่ขยับ
ในบรรยากาศแบบนี้ มีแต่ผีเท่านั้นที่หลับได้
ตอนนี้เขาจะต้องสะกดอารมณ์อยู่แน่ๆ ในใจคงโกรธจนทนไม่ไหวอยากจะเฆี่ยนเธอแต่ก็เฆี่ยนไม่ลง
ก็เลยหลับตานอนไปซะอย่างงั้น
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่พูดเสร็จแล้วเห็นเขาไม่ตอบ เธอก็ไม่ได้เซ้าซี้
หัวเล็กๆพิงที่ไหล่ของเขา เม้มริมฝีปากและเล่าเรื่องทีเกิดขึ้นในวันนี้ให้เขาฟัง
“ฉันรู้ว่านี่อาจจะเป็นกับดัก แต่มั่วเฉียนมีของของเปิงเปิงอยู่ตั้งหลายชิ้น ฉันกลัวว่าถ้าเปิงเปิงอยู่ในมือเขาจริงแล้วฉันไม่ไป เปิงเปิงจะตกอยู่ในอันตราย…”
“อวี๋เยว่หาน คุณรู้ไหม ฉันจำได้แล้ว ฉันจำได้ว่าเด็กผู้หญิงชุดดำที่ชอบติดตามอยู่ข้างกายฉันเมื่อตอนเด็กๆ คือเปิงเปิง เธอติดตามฉันมาตั้งแต่เด็กแล้ว เธอคือผู้พิทักษ์ของฉันที่คอยคุ้มครองฉันมาสิบกว่าปี ตอนนี้เธอเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ ฉันจะทำเป็นไม่สนใจเธอไม่ได้…”
“ที่จริงฉันอยากจะไปบอกคุณ แต่มั่วเฉียนขู่ฉันว่าห้ามให้คนอื่นรู้ ไม่อย่างงั้นเปิงเปิงจะต้องตาย ตอนที่ฉันแอบไปหาคุณ คุณกำลังให้สัมภาษณ์นักข่าวอยู่ ฉันหาโอกาสบอกคุณไม่ได้จริงๆ…”
“ฉันโทรหาคุณทันทีที่ออกจากโบสถ์ แต่คุณไม่รับสาย ตอนนั้นฟ่านอวี่ลงจากเครื่องแล้วโทรหาฉันพอดี ฉันกลัวตายก็เลยให้เขามาช่วยฉันก่อน และยังให้เขาช่วยฉันไปบอกคุณด้วย ฉันไม่รู้ว่าเขาก็ติดต่อคุณไม่ได้ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณเป็นห่วง…”
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้พูดเสียงดังมาก เหมือนเล่าให้อวี๋เยว่หานฟังและเหมือนพูดกับตัวเองไปด้วย
พูดจนถึงตอนท้ายก็หลุบตาลง