หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 135 เทวดาของคุณกรุณาเซ็นรับ
ในห้องทำงานผู้จัดการ
เหวินหย่าไต้ถือกาแฟแก้วหนึ่ง ยืนอยู่หน้าผนังกระจก พลางมองเหนียนเสี่ยวมู่ที่อยู่หน้าเครื่องถ่ายเอกสาร เธอจิบกาแฟเบาๆ คำหนึ่ง มุมปากยกยิ้มเยือกเย็น
ความจริงแล้วทีแรกเธอไม่ได้คิดจะให้เหนียนเสี่ยวมู่เข้ามาที่แผนกประชาสัมพันธ์
อย่างไรเสียก็เป็นแผนกของตัวเอง แน่นอนว่าต้องใช้คนของตัวเองให้ชินมือสักหน่อย
เซี่ยจิงจิงโง่เง่า แต่ฝีมือการทำงานไม่เลว แถมยังเชื่อฟังด้วย
ควบคุมคนแบบนี้ไว้ได้ก็เป็นประโยชน์ทีเดียว
แต่คิดไม่ถึงว่า อวี๋เยว่หานจะให้เหนียนเสี่ยวมู่ลงมาที่แผนกประชาสัมพันธ์ หักหน้าเธอต่อหน้าทุกคน…
เหวินหย่าไต้หรี่ตา ในนั้นมีความเยียบเย็นพาดผ่านไป
มีเพียงอำนาจในที่ทำงานคงจะไม่ได้ ต้องได้รับการต้อนรับจากทุกคนด้วย
ในเมื่อเหนียนเสี่ยวมู่ไม่รู้จักกฎเกณฑ์ เธอก็จะสอนกฎเกณฑ์ให้อย่างดี ให้อีกฝ่ายรู้ว่า อยู่ที่นี่แล้วไม่มีใครช่วยได้!
เธอเหลือบมองท่าทางน่าสงสารของเหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังยุ่งอยู่หลังเครื่องถ่ายเอกสาร เทียบนักศึกษาฝึกงานไม่ได้เลยจริงๆ เห็นแบบนี้แล้วยิ่งทำให้เธอรู้สึกมีความสุข!
คาดว่าผ่านไปอีกสองวัน อีกฝ่ายคงจะทนไม่ได้ ต้องมาฟ้องเธอแน่
ถ้าเธอเข้ากับใครในแผนกประชาสัมพันธ์ไม่ได้เลย เมื่อถึงเวลาที่ต้องไป เธอก็จะไม่มีมิตรภาพกับใครเลย
เหวินหย่าไต้ยิ้มอย่างลำพองใจ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งลงตรงหน้าโต๊ะทำงานของตัวเองอย่างใจ ถือเป็นการเปลี่ยนท่าทางชื่นชมสภาพจนตรอกของเหนียนเสี่ยวมู่ต่อ…
ข้างเครื่องถ่ายเอกสาร
เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งถ่ายสำเนาและเข้าเล่มเอกสารชุดหนึ่งเสร็จ จากนั้นก็ส่งให้เพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างๆ
เธอเพิ่งยื่นมือไปเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ก็ได้ยินคนเรียกอีก “เหนียนเสี่ยวมู่ ถ่ายเอกสารข้อมูลที่ฉันต้องการออกมาหรือยัง”
“จะทำเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!”
เธอยังไม่ทันได้หายใจ ก็ต้องทำงานต่อแล้ว
เย่หมิงหมิ่นพูดไม่ผิดเลยสักนิด
เธอไม่เข้าใจขั้นตอนการทำงานของแผนกประชาสัมพันธ์เลยจริงๆ อาจจะยังเทียบไม่ได้กับนักศึกษาฝึกงานเลยด้วยซ้ำ
ซูเปอร์ไวเซอร์แบบนี้ ไม่ว่าอยู่แผนไหน ก็ไม่มีทางร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานได้ดี
คนที่เข้ามาใหม่ล้วนต้องการช่วงเวลาปรับตัวกันทั้งนั้น
ถ่ายเอกสารก็ถ่ายเอกสาร เธอตั้งใจศึกษาให้ดีเวลาที่เธอพอจะพักได้ ว่าเพื่อนร่วมงานในแผนกทำงานกันอย่างไร
ไม่ควรน้อยใจ
เมื่อคิดได้อย่างนี้ เธอก็ตั้งใจทำงานเต็มที่
เธอช่วยเพื่อนร่วมงานถ่ายเอกสารและส่งแฟกซ์มือเป็นระวิง และหาโอกาสอ่านเอกสารที่ไม่เร่งด่วน เพื่อศึกษาโครงการทำกำลังดำเนินงานของกลุ่มย่อยๆ…
เมื่อทำงานยุ่ง เวลาก็ผ่านไปเร็วมาก
ตอนกลางวันเธอถึงจะได้พักหายใจ
เมื่อได้สติกลับมา เพื่อนร่วมงานในแผนกต่างจับกลุ่มพากันไปกินกันหมดแล้ว เหลือแค่เธอคนเดียว
เหนียนเสี่ยวมู่จำเป็นต้องถ่ายเอกสารชุดสุดท้ายให้เสร็จสิ้น แล้วถึงออกจากแผนกประชาสัมพันธ์
ตอนที่เดินมาถึงร้านอาหาร มีคนของแผนกประชาสัมพันธ์อยู่ไม่น้อย มีเพื่อนร่วมงานอยากเรียกเธอมานั่งด้วยกัน แต่ยังไม่ทันจะเรียกชื่อ ก็ถูกคนข้างๆ ดึงเอาไว้ก่อน
“เซี่ยจิงจิงแค่พักงานไปสำนึกผิด ยังไม่แน่ว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่ เธอรีบร้อนตีสนิทเหนียนเสี่ยวมู่แบบนี้ ไม่กลัวเป็นการสุมไฟใส่ตัวหรือไง”
เพื่อนร่วมงานที่คิดจะเรียกเหนียนเสี่ยวมู่หยุดทันทีที่ได้ยินดังนั้น
เหนียนเสี่ยวมู่สั่งข้าวเสร็จแล้ว กำลังกวาดสายตามองในร้านอาหาร แล้วเดินไปยังโต๊ะที่ยังว่างอยู่ในมุม
เธอเตรียมใจกินข้าวคนเดียวเอาไว้แล้ว ทว่ายังไม่ทันได้นั่งลง ก็เห็นเงาร่างเล็กๆ วิ่งห้อมาหาเธอแล้ว
“พี่สาวคนสวย”
เสี่ยวลิ่วลิ่วสวมกระโปรงเจ้าหญิงนุ่มๆ ผมสลวยรวบเป็นมวย ใบหน้ารูปไข่สะสวยเหมือนหยกเจือสีเดงระเรื่อเป็นธรรมชาติ
ขาสั้นๆ คู่นั้นวิ่งเร็วมาก ไม่นานก็โผเข้ามาในอกของเหนียนเสี่ยวมู่ได้แล้ว