หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 231 ความลับของเธอ / ตอนที่ 232 คุณชายหานผู้เอาใจใส่
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 231 ความลับของเธอ / ตอนที่ 232 คุณชายหานผู้เอาใจใส่
หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 231 ความลับของเธอ / ตอนที่ 232 คุณชายหานผู้เอาใจใส่
ตอนที่ 231 ความลับของเธอ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าเล็กของเหนียนเสี่ยวมู่ก็งองุ้มลง
วินาทีต่อมา อวี๋เยว่หานก็ปล่อยเธอ นัยน์ตาสีดำวูบไหวเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยปากเสียงเบา “รออยู่ตรงนี้”
เขาหมุนตัวเข้าไปในห้องทันทีที่พูดจบ
จากนั้นก็เดินไปตรงหน้าตู้เสื้อผ้า หยิบชุดนอนออกมาเตรียมใส่จากในนั้น
สมองของเหนียนเสี่ยวมู่กำลังงุนงง จึงเดินตามเขาเข้าไปข้างในตามสัญชาตญาณ หลังจากได้ยินเขาพูดอย่างนั้น
แต่เพิ่งเดินเข้าไป ก็เห็นอวี๋เยว่หานคว้าผ้าขนหนู เตรียมจะดึงออก เธอสบสายตาสีดำเย็นชาแต่งุนงงอยู่ในทีของเขาแล้ว ก็ตกใจจนตัวสั่น รีบวิ่งออกจากห้องอย่างลนลาน
อยากจะเอาหัวกระแทกเสาจริงๆ
เธอจับราวด้วยสองมือ พลางหอบหายใจเฮือกใหญ่
อ๊ากก!
จะตามไปทำไมเนี่ย!
เพิ่งจะจูบเขาไปโดยไม่ระวัง คราวนี้พุ่งเข้าไปดูเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างโจ่งแจ้ง…อย่าว่าแต่อวี๋เยว่หานเลย เธอยังสงสัยเลยว่า ตัวเองสมองมีปัญหาหรือเปล่า!
“เข้ามา”
ผ่านไปสองสามนาที เหนียนเสี่ยวมู่ถึงได้ยินเสียงเฉยชาของชายหนุ่มดังออกมาจากในห้อง
หญิงสาวจึงรีบร้อยหมุนตัวเดินเข้าไป
ทว่าเพิ่งเข้าไปในห้อง เธอก็พบว่าคนที่อยู่หน้าตู้เสื้อผ้าเมื่อครู่ กำลังนั่งอยู่บนโซฟาหรูหราแล้ว
ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนภาพวาดแสดงความเย็นชาและห่างเหินออกมา
ขาเรียวยาวของเขาทับซ้อนกัน พลางหนุนหัวด้วยแขนหนึ่งข้าง ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองเธอ ผู้กำลังเดินมาข้างๆ เขาทีละก้าวด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ
บนโต๊ะน้ำชาตรงหน้าเขามีเช็ควางอยู่หนึ่งใบ
พอเหนียนเสี่ยวมู่เห็นเขา ดวงตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นมาทันควัน
หญิงสาวเดินมาข้างหน้าเขาอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง เตรียมจะยื่นมือไปหยิบเงินมา ลืมกลัวไปเลย
แต่มือยังไม่ทันแตะถูกเช็คบนโต๊ะ มันก็ถูกเขาหยิบขึ้นมาเสียก่อน
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” ไม่ได้ให้เธอหรอกเหรอ
อวี๋เยว่หานเห็นสีหน้าสงสัยของเธอแล้ว ก็ยื่นเช็คในมือให้เธอ
เหนียนเสี่ยวมู่ตาไวกับตัวเลขมาโดยตลอด เพียงแค่มองปราดเดียว ก็สังเกตเห็นจำนวนเงินบนเช็คแล้ว แถมนั่นเป็นเงินที่เธอขาดอยู่ในตอนนี้ด้วย!
เขาเตรียมให้เธอแล้วจริงๆ
แต่มันก็เกินกว่าจำนวนเงินโบนัสไปมาก…
เขาหมายความว่าอย่างไร
“ฉันเอาเงินคุณไปเปล่าๆ ไม่ได้” เหนียนเสี่ยวมู่แทบจะพูดคำนี้ออกมาโดยสัญชาตญาณ
เธอเพิ่งพูดจบ ก็เห็นอวี๋เยว่หานชำเลืองมองเธออย่างเฉยชา สายตาถากถางเหมือนกำลังหัวเราะความไร้เดียงสาของเธอ
เขาขยับริมฝีปากอย่างสบายๆ “ส่วนที่เกินไปจากโบนัส ถือว่าผมให้คุณยืม ใช้ตัวคุณจ่ายคืน และคิดว่าจะคืนหมดเมื่อไหร่ จะไปตอนไหน”
“ฝันไปเถอะ! ฉันไม่ขาย!” เหนียนเสี่ยวมู่ปิดหน้าอกด้วยสองมือ ก่อนจะหลังกรูดไปสองเมตร พลางจ้องมองเขาอย่างระแวดระวัง
อวี๋เยว่หานมีสีหน้าดำคล้ำ “ผมหมายความว่า ให้คุณอยู่ที่งานทำบริษัทตระกูลอวี๋ ใช้เงินเดือนของคุณคืน!”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
คิดมากไปเองอีกแล้ว
อึดอัดแบบนี้แล้ว จะพูดต่อไปอย่างไรดีล่ะ
เหนียนเสี่ยวมู่เขยิบไปข้างๆ เขาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะมองเช็คในมือของเขา แล้วสำนึกผิดอย่างว่องไว “คุณชาย ฉันผิดไปแล้ว คุณพูดอะไรก็ตามนั้นแหละค่ะ ต่อไปฉันจะตั้งใจทำงาน คว้าโบนัสให้ได้มากๆ แล้วจะได้คืนคุณเร็วๆ”
เหนียนเสี่ยวมู่พูด พลางยื่นมือเล็กๆ ไปหาเช็คในมือของเขา
แต่มือยังไม่ทันได้แตะโดนเช็ต นิ้วเรียวยาวของเขาก็ขยับ แล้วเลื่อนมันหนีเธอไป
เหนียนเสี่ยวมู่ “???”
เธอร้อนใจ เกือบจะโผไปแย่งมาจากเขาแล้ว
แต่ก็อดทนไว้ได้ แล้วหันไปมองเขาอย่างว่าง่าย ใช้เสียงอ่อนโยนขนาดที่ทำให้ตัวเองขนลุกถามว่า “คุณชาย มีคำสั่งอื่นอีกไหมคะ”
“ตอบคำถามผมมาข้อหนึ่ง” อวี๋เยว่หานมองใบหน้าร้อนรนของหญิงสาว ขณะที่เขาหลุบนัยน์ตาสีดำลง และขยับริมฝีปากบาง
“ทำไมตอนนั้น คุณถึงเข้าโรงพยาบาล”
ตอนที่ 232 คุณชายหานผู้เอาใจใส่
ในเมื่อหาข้อมูลที่มีไม่ได้ ก็ให้เธอตอบคำถามข้อนี้ด้วยตัวเองแล้วกัน
เธอเป็นใคร
แล้วครอบครัวของเธอล่ะ
“…” เหนียนเสี่ยวมู่คิดไม่ถึงว่าเขาจะถามเรื่องนี้ จึงตะลึงงันไปเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นก็มองไปที่เช็คในมือของเขา กลัวว่าถ้าตัวเองตอบผิดไป เช็คที่เกือบจะได้มาจะต้องปลิวไป
ผ่านไปเนิ่นนาน เธอเอาแต่เม้มปาก
“ผมจะฟังแต่ความจริงเท่านั้น” อวี๋เยว่หานชำเลืองมองดวงหน้าเล็กที่กำลังสับสน พลางเอ่ยปากอย่างเฉยชา
สิ้นเสียงของเขา เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับหูตาสว่างแล้ว “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“…”
“ถ้าคุณอยากได้ยินความจริง นี่แหละคือความจริง!” เธอพูดพร้อมกับยื่นมืออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากแย่งเช็คมาจากในมือเขาได้สำเร็จ เธอก็โบกมือให้เขา แล้วหมุนตัววิ่งหนีไปอย่างเบิกบานใจ
เธอวิ่งกลับมาที่ห้องของตัวเองโดยไม่ได้หยุดพัก ปิดประตู แล้วถึงจะพิงบานประตูหอบหายใจ
ในหัวมีคำถามเมื่อครู่ผุดขึ้นมา ดวงตาสองข้างของเธอพลันมืดมนลง
เมื่อกี้นี้เธอไม่ได้พูดโกหก
ตอนเธอตื่นขึ้นมา เธอก็อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว
คนที่ช่วยเธอไว้คือถานเปิงเปิง
แต่ถานเปิงเปิงก็แค่เจอเธอที่หน้าประตูโรงพยาบาล เธอไม่มีครอบครัวอยู่เคียงข้าง ไม่มีเพื่อน แม้แต่เธอเองเป็นใครก็ยังไม่รู้..
ถ้าไม่ใช่เพราะโชคดีได้เจอถานเปิงเปง โลกนี้ก็คงจะไม่มีคนอย่างเธอแล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่เดินไปข้างหน้าเตียง แล้วมุดเข้าไปในผ้าห่ม
หญิงสาวใช้ผ้าห่มพันตัวไว้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ผ่านไปนานทีเดียว ถึงจะยื่นหน้าออกมาจากในผ้าห่ม
ดวงตาสดใสของเธอส่องประกาย พลางจับจ้องไปที่เพดาน
แปลกจัง
ทำไมอวี๋เยว่หานถึงรู้เรื่องที่เธอเคยเข้าโรงพยาบาล
แถมยังมีเงินในเช็คอีก…
เหนียนเสี่ยวมู่ลุกขึ้นนั่งบนเตียงอีกครั้ง แล้วเปิดไฟบนหัวนอน ก่อนจะนำเช็คไปส่องใต้แสงไฟ
เพื่อนมองจำนวนเงินบนนั้นอย่างละเอียดอีกครั้ง
เป็นจำนวนเงินที่เธอขาดอยู่จริงๆ…
เขาสืบเรื่องเธอเหรอ
แต่ก็ถูกต้องแล้ว คนรวยกลัวตาย คนอย่างเขาควรจะตรวจสอบความจริงของคนรอบข้างทุกคนอยู่แล้ว
ดังนั้นเขารู้เรื่องที่เธอกำลังขาดเงิน เลยจงใจจะช่วยเธอสินะ?
พอคิดอย่างนี้แล้ว เขาก็ไม่ได้เย็นชาไร้ความรู้สึกขนาดนั้น…
วันต่อมา
เหนียนเสี่ยวมู่ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ปลุก
ครั้นยื่นมือไปคว้ามาดู ก็พบว่าเป็นสายของเฉินจื่อซิน เธอจึงรีบรับสาย “รองประธานเฉิน”
เธอพูดพลางตะเกียกตะกายจากบนเตียง
เธอลืมไปได้อย่างไร ว่ายังมีเฉินจื่อซินอยู่!
เมื่อนึกถึงฉากน่าอึดอัดตอนแยกกับเขาเมื่อวาน เธอก็รู้สึกว่าต้องอธิบายสักหน่อย
“เอ่อ เรื่องเมื่อวาน ที่จริงฉันกับคุณชายหาน…”
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ผมอยู่ที่บริษัทตระกูลอวี๋แล้วครับ คุณจะมากี่โมงครับ แล้วผมเชิญคุณไปกินข้าวเช้าได้ไหม” เฉินจื่อซินขัดจังหวะคำพูดของเธอ แล้วสอบถาม
เหนียนเสี่ยวมู่ก่นด่าอวี๋เยว่หานในใจเงียบๆ
ดูวีรกรรมที่เขาทำสิ!
พูดว่า ‘กลับบ้าน’ ออกไป ตอนนี้รองประธานเฉินต้องเข้าใจความสัมพันธ์ของพวกเขาผิดไปแน่ๆ ถึงได้อยากเจอเธอเพื่อหาข้อพิสูจน์
เธอเป็นแค่ซูเปอร์ไวเซอร์คนหนึ่ง ไม่ได้มีค่าอะไร
ไม่เหมือนกับอวี๋เยว่หานหรอก!
เธอต้องลำบากไปอธิบายแทนเขา จะได้ไม่ทำให้ชื่อเสียงของเขา ‘แปดเปื้อน’
“อีกประมาณครึ่งชั่วโมงฉันจะถึงบริษัทค่ะ”
หลังจากนัดเวลากับเฉินจื่อซินเรียบร้อยแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ก็รีบล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า และออกจากบ้านทันที
ทว่าเธอเพิ่งจะออกไป เงาร่างสูงโปร่งของอวี๋เยว่หานก็โผล่อยู่ที่ปากบันได กำลังเดินลงมาอย่างเชื่องช้า
พ่อบ้านหันมาเห็นเขา จึงรีบเข้ามาต้อนรับ “รายงานคุณชาย เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้พูดอะไร แต่ตอนใส่รองเท้าเธอบ่นว่า พระอาทิตย์จะมาเช้าอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอ”