หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 261 ยิ้มพร้อมจัดการคุณ / ตอนที่ 262 ปลดล็อกทักษะใหม่
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 261 ยิ้มพร้อมจัดการคุณ / ตอนที่ 262 ปลดล็อกทักษะใหม่
หวานรักจับหัวใจท่านประธาน – ตอนที่ 261 ยิ้มพร้อมจัดการคุณ / ตอนที่ 262 ปลดล็อกทักษะใหม่
ตอนที่ 261 ยิ้มพร้อมจัดการคุณ
หวางเมี่ยวเมี่ยวคิดไม่ถึง ว่าเธอจะกลับมาในเวลานี้พอดี
เมื่อเห็นสัญญาในมือของอีกฝ่าย นัยน์ตาของล่ามสาวก็หดตัว
ทันได้นั้นก็หัวเราะออกมาอีก
มิสเตอร์ลอมบาร์ปฏิเสธที่จะร่วมงานกับพวกเธออย่างชัดเจนแล้ว ถึงแม้เธอนำสัญญามาแล้วจะทำอะไรได้
และมิสเตอร์ลอมบาร์ดีไม่ได้ปรากฏตัว ยิ่งไม่มีทางเซ็นชื่อบนสัญญาฉบับนั้น!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หวางเมี่ยวเมี่ยวก็มั่นใจเต็มที่ และยิ้มเยือกเย็นให้เหนียนเสี่ยวมู่
“มาแล้วก็ดี เพื่อนร่วมงานคนอื่นจะได้ไม่เข้าใจผิดว่าฉันให้ร้ายคุณลับหลัง และฉันจะได้อธิบายเรื่องทั้งหมดให้ทุกคนฟังอย่างชัดเจน”
หวางเมี่ยวเมี่ยวเดินมาข้างหน้า สองมือกอดอก พลางมองเหนียนเสี่ยวมู่
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน คุณบอกมาด้วยตัวเองซะดีๆ ว่าทำให้มิสเตอร์ลอมบาร์ดีโมโหเพราะมาสายได้ยังไง และพาทุกคนไปโรงแรม ให้ทุกคนรออยู่ข้างนอก ส่วนคุณกลับเปิดห้อง ทั้งกินทั้งนอน ไม่เห็นงานในสายตาได้ยังไง”
“…”
“เรื่องพวกนี้ฉันไม่ได้ใส่ร้ายคุณใช่ไหมคะ ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันโน้มน้าวให้คุณไปหามิสเตอร์ลอมบาร์ดีอยู่ตลอด แต่คุณกลับไม่ใส่ใจ ตอนนี้งานก็พังหมดแล้ว เป็นความผิดของคุณนั่นแหละ!”
“…”
“ฉันว่าคนอย่างคุณ ไม่มีสิทธิ์อยู่ในแผนกประชาสัมพันธ์เลยด้วยซ้ำ!” หวางเมี่ยวเมี่ยวไม่ให้โอกาสเหนียนเสี่ยวมู่พูดโดยสิ้นเชิง เพียงแต่โทษว่าเป็นความผิดของเธออย่างแน่นอน
ในสายตาของเธอแล้ว งานพัง เหนียนเสี่ยวมู่ถูกไล่ออก เป็นเรื่องที่กำหนดไว้แล้ว
ใครที่ปกป้องเหนียนเสี่ยวมู่ในเวลานี้ คนนั้นก็โง่เง่าสิ้นดี!
“เหนียนเสี่ยวมู่ คุณยังมีอะไรจะพูดไหม” หวางเมี่ยวเมี่ยวเดินมาข้างหน้าเธอ พร้อมสีหน้าลำพองใจ
เดิมทีล่ามสาวคิดว่าจะได้เห็นท่าทางเคร่งเครียดหวาดกลัวของเหนียนเสี่ยวมู่ ยิ่งไปกว่านั้นคงรีบร้อนอธิบายด้วย
แต่จนถึงตอนนี้ สีหน้าของเหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่เปลี่ยนแปลงเลย…
ไม่ใช่สิ เปลี่ยนไปแล้ว
มีรอยยิ้ม
มุมปากของเหนียนเสี่ยวมู่ยกทำมุมโค้งเล็กน้อย ไม่ได้ยิ้มอย่างชัดเจนนัก แต่ก็แฝงการถากถางอยู่
หวางเมี่ยวเมี่ยวพลันตะลึงลาน
เธอมองเหนียนเสี่ยวมู่เดินผ่านตนเองไปยังเหวินหย่าไต้
“ผู้จัดการเหวิน ฉันอยากจะถามสักหน่อย ในฐานะที่เป็นล่าม แต่สะเพร่าทำให้เกิดความเข้าใจผิดก่อนงานจะสำเร็จ ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศของทีมอย่างหนัก จะต้องจัดการอย่างไรคะ”
“…” ลูกตาของเหวินหย่าไต้หดตัวเล็กน้อย ไม่ได้ตอบในทันที
ภายใต้การบริหารบริษัทตระกูลอวี๋ของอวี๋เยว่หาน เขาให้ความสำคัญกับโครงสร้างทีมอย่างยิ่ง
เทียบกับความสามารถในการทำงานแล้ว เขาให้ความสำคัญกับนิสัยของคนมากกว่า
ถ้ามีคนสร้างความเข้าใจผิด ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศของทีมจริงๆ ก็จะต้องถูกไล่ออก!
“เหนียนเสี่ยวมู่ คำพูดนี้ของคุณหมายความว่ายังไงคะ”
เหวินหย่าไต้ไม่ได้พูด แต่เป็นหวางเมี่ยวเมี่ยวที่กลั้นความโมโหเอาไว้ไม่อยู่
“ฉันได้ยินมิสเตอร์ลอมบาร์ดีปฏิเสธที่จะร่วมงานกับพวกเราด้วยหูของฉันเอง แถมยังห้ามไม่ให้คุณไปวุ่นวายกับเขาอีก ฉันสร้างความเข้าใจผิดตรงไหน ฉันว่าคนที่โกหกหลอกทุกคนอยู่ตอนนี้ก็คือคุณนั่นแหละ!”
เมื่อเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้สนใจ หวางเมี่ยวเมี่ยวก็ถลามาข้างหน้า
“คุณว่าฉันสร้างความเข้าใจผิด งั้นก็ดีค่ะ ตอนนี้คุณกล้าบอกผลการเจรจางานกับทุกคนไหมล่ะ”
“…”
“ถ้าวันนี้คุณโน้มน้าวให้มิสเตอร์ลอมบาร์ดีตกลงร่วมงานได้ ฉันก็จะยอมรับว่าฉันสร้างความเข้าใจผิด และฉันจะเก็บข้าวของออกไปเองโดยไม่ต้องให้ผู้จัดการเหวินเอ่ยปาก…”
หวางเมี่ยวเมี่ยวยังพูดไม่จบ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ยิ้มออกมาแล้ว
รอยยิ้มสบายใจและมั่นใจนั้น ทำให้หวางเมี่ยวเมี่ยวหนาวสันหลังวาบ
ไม่รู้ว่าทำไม อยู่ๆ ก็มีลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง
แต่ตอนนั้นเธอเห็นกับตาว่ามิสเตอร์ลอมบาร์ดีโมโหมาก แถมยังสะบัดมือจากไป
และเธอแน่ใจว่างานพังแล้ว ถึงกลับมาพูดให้ร้ายเหนียนเสี่ยวมู่ที่บริษัท
แต่ตอนนี้…
ล่ามสาวยังคิดไม่ออกว่าผิดพลาดที่ตรงไหน ก็เห็นเลขารับโทรศัพท์ และรีบร้อนวิ่งมาหาเหวินหย่าไต้
“ผู้จัดการเหวินคะ มิสเตอร์ลอมบาร์ดีกับทีมมาที่บริษัทของเราค่ะ!”
ตอนที่ 262 ปลดล็อกทักษะใหม่
“เธอพูดว่าอะไรนะ” เหวินหย่าไต้ตะลึง
ไม่ได้มีแค่เธอที่ดึงสติกลับมา เพื่อนร่วมงานคนอื่นในแผนกก็มีสีหน้างุนงงเช่นกัน
“มิสเตอร์ลอมบาร์ดีมาเยี่ยมชมบริษัทของพวกเราค่ะ” เลขาพูดทวนคำพูดเมื่อครู่รอบหนึ่ง “ไม่ได้มีแค่มิสเตอร์ลอมบาร์ดีนะคะ คนในทีมของเขาทุกคนก็มากันหมด บอกว่ามาตรวจสอบอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของซูเปอรไวเซอร์เหนียนค่ะ”
“เฮ้อ”
เมื่อเลขาพูดจบ ทุกคนในแผนกประชาสัมพันธ์ก็ถอนหายใจออกมา
และพากันมองไปยังหวางเมี่ยวเมี่ยวโดยไม่ได้นัดหมาย
ยังมีอะไรน่าเวทนากว่าการพูดจาให้ร้าย แล้วถูกหักหน้าอีกไหม
หวางเมี่ยวเมี่ยวในตอนนี้เหมือนสูญเสียการได้ยินไปแล้ว ผ่านไปนานทีเดียว ถึงจะมีปฏิกิริยา
กลับเป็นเหวินหย่าได้ที่ดึงสติกลับมาได้ก่อน จากนั้นก็มองเลขาอย่างเคร่งขรึม “ข่าวถูกต้องใช่ไหม ไม่ใช่ว่ามิสเตอร์ลอมบาร์ดียกเลิกร่วมงานแล้ว…”
เหวินหย่าไต้ยังพูดไม่จบ ประตูลิฟต์ที่อยู่ไม่ไกลก็เปิดออก
เงาร่างของมิสเตอร์ลอมบาร์ดีค่อยๆ ก้าวออกจากข้างใน ข้างหลังของเขามีคนอื่นในทีมอีกสี่คน
ทุกคนล้วนมีสีหน้ายิ้มแย้ม พลางก้าวยาวๆ มาทางแผนกประชาสัมพันธ์
ถ้าพูดให้ถูกต้อง ก็คือเดินมาหาเหนียนเสี่ยวมู่
“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน พวกเราเจอกันอีกแล้ว!” มิสเตอร์ลอมบาร์ดีกระตือรือร้นมาก เขาเดินมากอดเหนียนเสี่ยวมู่แน่นๆ ครั้งหนึ่ง
นี่ไม่เหมือนกับที่หวางเมี่ยวเมี่ยวบอกว่าโกรธจนสะบัดมือจากไปเลยสักนิด!
หวางเมี่ยวเมี่ยวยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน ไม่กล้าเชื่อภาพตรงหน้าโดยสิ้นเชอง
เธอเบิกตาโพลง ราวกับสงสัยว่าตนเองเห็นภาพหลอนหรือเปล่า
หลังจากดึงสติกลับมาได้ เธอก็เริ่มปลอบใจตนเอง
เหนียนเสี่ยวมู่พูดภาษาอิตาลีไม่ได้ เธอต้องขอความช่วยเหลือตนเองแน่ๆ ขอเพียงเธอเอ่ยปากขอให้ตนเองแปล หญิงสาวก็พอมีทางกู้หน้าได้!
ขณะที่เธอจะเดินไปต้อนรับมิสเตอร์ลอมบาร์ดีนั้น กลับได้ยินเสียงเสนาะหูค่อยๆ ดังขึ้น
“ฉันดีใจมากเลยค่ะที่ได้เชิญมอสเตอร์ลอมบาร์ดีมาเยี่ยมชมบริษัทของพวกเรา และเชื่อว่าเมื่อคุณเข้าใจงานของพวกเราในครั้งนี้แล้ว คุณจะยิ่งมีความมั่นใจต่องานของพวกเรายิ่งขึ้นอีกค่ะ!”
ภาษาอิตาลีอันไหลลื่นดังออกจากปากของเหนียนเสี่ยวมู่
เมื่อร่วมอยู่กับรอยยิ้มงดงามบนใบหน้าของเธอแล้ว ไม่มีความรู้สึกขัดกันเลยสักนิด
หวางเมี่ยวเมี่ยว “…” !!
เธองงงันไปโดยสิ้นเชิงแล้ว
สีหน้าของเธออึ้งงันจนไม่สามารถบรรยายได้แล้ว
หลังจาดเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ใช้ภาษาอิตาลีสื่อสารกับมิสเตอร์ลอมบาร์ดีอยู่ข้างหน้า สีหน้าของเธอก็พลันซีดเผือดลง
นอกจากตกใจแล้ว เธอก็คิดอีกเรื่องหนึ่งไปพร้อมๆ กัน
ตอนที่เธออยู่ในร้านอาหารของโรมแรม เธอคิดว่าเหนียนเสี่ยวมู่ฟังภาษาอิตาลีไม่รู้เรื่อง จึงจงใจแปลผิดต่อหน้าอีกฝ่าย
แต่เหนียนเสี่ยวมู่พูดภาษาอิตาลีด้วยสำเนียงอิตาลีเข้มข้นแบบนี้ออกมาได้อย่างลื่นไหล แล้วจะฟังไม่รู้เรื่องได้อย่างไร
ความเป็นไปได้อย่างเดียวคือ เหนียนเสี่ยวมู่สงสัยเธอตั้งแต่แรก และจงใจหยั่งเชิงเธอ
เธอคิดไม่ถึงเลย ว่าจะโง่เง่าจนติดกับได้
แถมยังคิดว่าตนเองฉลาดมาก จัดการอีกฝ่ายใหเอยู่หมัดได้อย่างง่ายดาย!
หลังจากคิดถึงตรงนี้ หวางเมี่ยวเมี่ยวก็กระวนกระวายอย่างสุดขีด
เหนียนเสี่ยวมู่ต้องเดาได้ว่าเธอจงใจบอกเวลาไปรับที่สนามบินผิดอย่างแน่นอน
ที่ไม่ได้เปิดโปงในตอนนั้น ก็เพราะไม่มีหลักฐาน จึงตั้งใจหยั่งเชิงเธอ
ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานแล้ว
เหนียนเสี่ยวมู่โน้มน้าวมิสเตอร์ลอมบาร์ดีมาที่บริษัทได้ จากนี้ขอเพียงเจรจาร่วมงานได้อย่างราบรื่น ก้ท่ากับยืนยันได้ว่าเธอจงใจสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนจริง
เมื่อครู่เธอว่าร้ายเหนียนเสี่ยวมู่ต่อหน้าเพื่อนร่วมงานมากมาย ขอแค่เหนียนเสี่ยวมู่ได้สัญญามาไว้ในมือ เธอก็ต้องลาออก
หวางเมี่ยวเมี่ยวขาอ่อนไปหมด จึงล้มลงไปข้างๆ อย่างยืนไม่อยู่แล้ว!