หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 353 ไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไป / ตอนที่ 354 ผมให้อภัยคุณ
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 353 ไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไป / ตอนที่ 354 ผมให้อภัยคุณ
ตอนที่ 353 ไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไป
เธอพูดจบ ก็หมุนตัวเดินตรงเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลอวี๋
เมื่อเงาร่างของหญิงสาวหายไปจากตรงหน้า ด้านนอกประตูของคฤหาสน์เหลือเพียงรถของฟ่านอวี่ ที่ยังจอดอยู่ที่เดิม
เขามองเธอเดินออกจากสายตาของเขาไปทีละก้าว สองมือจับพวงมาลัยอย่างแรงจนปลายนิ้วซีดขาว ราวกับพยายามควบคุมตัวเองอย่างยิ่ง ถึงจะปล่อยให้เธอเดินไปจากสายตาของเขาอีกครั้งได้…
ใบน้าหล่อเหลาขาวซีดเล็กน้อย
“ลิ่วลิ่ว ใช่คุณหรือเปล่า…” เขาพูดพร้อมความเศร้าสลดในสายตาที่ไม่อาจปกปิดได้
ในคฤหาสน์ตระกูลอวี๋
เหนียนเสี่ยวมู่ครุ่นคิดว่าต้องป้องกันไม่ให้ถูกแย่งลูกค้าใหญ่ไปอย่างไรโดยตลอดตั้งแต่ลงจากรถมา
โดยไม่รู้เลยว่า ตัวเองเดินเข้ามาในเขตคฤหาสน์แล้ว
เงาร่างสูงโปร่งยืนพิงกรอบประตู ดวงตาสีดำเปล่งประกายในยามค่ำคืน พลางจ้องมองเธอไม่วางตา!
กลิ่นอายความหนาวเหน็บรอบตัวเขา ดูเยือกเย็นยิ่งกว่าลมในฤดูหนาวเสียอีก
“ทำไมอุณหภูมิลดลงกะทันหันแบบนี้เนี่ย…” เหนียนเสี่ยวมู่พึมพำ เมื่อรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง เธอก็เงยหน้าขึ้นทันควัน
เธอสายตากับดวงตาทรงเสน่ห์ของอวี๋เยว่หาน พร้อมด้วยใบน้าหล่อเหลาล่มเมือง
คำพูดที่เขาพูดขณะที่กดเธอลงบนกำแพง พลันผุดขึ้นมาในหัวของเธอทันที…
ทำเอาเหนียนเสี่ยวมู่ชะงักฝีเท้าเลยทีเดียว!
เธออยากจะวิ่งหนี แต่ก็ไม่กล้า
จึงได้แต่ยืนอยู่ที่เดิม มองคนตรงหน้าในระยะห่างที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกันนัก
ทันใดนั้น เธอเห็นอวี๋เยว่หานที่เดิมยืนพิงกรอบประตูอยู่ยืนตัวตรงขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอดของเขา
บนเสื้อผ้าของเขามีกลิ่นอายของเขาอยู่
ซึ่งทำให้เธอหัวใจเต้นเร็วอย่างน่าประหลาด
หญิงสาวขยับตัวด้วยความไม่สบายตัว แต่อวี๋เยว่หานกลับกอดเธอแน่นขึ้น ไม่ยอมปล่อย
“คิดดีหรือยังว่าจะพูดอะไรกับผม” เขาเอ่ยปากเสียงเรียบ
“…” ยังไม่ได้คิด
เธอไม่เคยคิดเลย ว่าจะมีสักวันที่เธอจะได้คบกับเจ้านายของตัวเอง
แถมคนคนนั้นยังเป็นอวี๋เยว่หานด้วย
ความรู้สึกนี้เหมือนกับ อยู่ๆ คนที่ปกติรังแกคุณ ทำให้คุณหงุดหงิด และหมดหนทางกับเขาเสมอมาอ่อนโยนกับคุณ…ขณะที่คุณกำลังงุนงงนั้น ในหัวคิดอยู่อย่างเดียว ว่าเขาคนนี้วางแผนชั่วร้ายอะไรอยู่หรือเปล่า!
และเธอรู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง…
“เอ๋?” อวี๋เยว่หานเห็นเธอไม่พูดจา แววตาของเขาจึงเย็นชาขึ้นอีก “เหนียนเสี่ยวมู่ พูด!”
เหนียนเสี่ยวมู่ถูกเขาตะคอกใส่จนตัวสั่น พลันห่อตัวด้วยเสื้อนอก และถอยหลังไปหลายก้าว “นี่ๆๆ! คุณทำท่าทีแบบนี้มันไม่ถูกนะ!”
“…”
“ใครเขาสารภาพรักแล้วทำกันเหมือนตีสัตว์เลี้ยงในบ้านบ้าง ฉันจะบอกคุณให้นะ ถ้าเป็นผู้หญิงที่ปอดแหก คงตกใจกลัวคุณจนตายไปแล้ว!”
“…” อวี๋เยว่หานตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะเลิกคิ้วมองเธอ
เธอไม่ได้มีชีวิตที่ดี แถมยังหลบหน้าเขาได้อีกเหรอ
แถมหลบหน้าไปตั้งหนึ่งวันเต็มๆ!
“ใช่ๆๆ ฉันน่ะใจกล้า ไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไป แต่ฉันจะรับรักทันทีทีคุณสารภาพรักไม่ได้หรอกนะ แบบนั้นไม่สำรวมอย่างเห็นได้ชัด แถมคำสารภาพรักของคุณน่ะ มันใช้ไม่ได้เลย คำว่าชอบจริงๆ ก็ไม่เห็นได้พูดออกมา!”
เหนียนเสี่ยวมู่ก้มหน้ามองปลายเท้าของตัวเอง หลังจากแขวะอย่างไม่ไว้หน้าแล้ว
เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋เยว่หานก็หรี่ตาลง “ถ้าบอกว่าชอบ คุณจะรับรักใช่ไหม”
“…” เธอหมายความว่าอย่างนั้นเหรอ
อวี๋เยว่หานจ้องใบหน้างุนงงของเธอ ท่าทางของเขาเหมือนกับทำอะไรไม่ถูก แต่สุดท้ายก็หลุบตาลง ก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวของเธอ แล้วเอ่ยปากอย่างอ่อนโยน “ผมรู้แล้ว”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
เขารู้อะไร ทำไมเธอไม่รู้ล่ะ
ทำไมคุยกับอวี๋เยว่หานแล้ว ทำให้เธอเริ่มสงสัยไอคิวของตัวเองขึ้นมาล่ะ?
ตอนที่ 354 ผมให้อภัยคุณ
“ติ๊ง!” อยู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเหนียนเสี่ยวมู่ก็ดังขึ้น เธอหยิบออกมาดูตามสัญชาตญาณ
บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือแสดงการแจ้งเตือนข้อความ คนที่ส่งข้อความมาคือเบอร์โทรศัพท์ที่เธอไม่รูจัก
เมื่อกดเข้าไปดู บนนั้นมีคำพูดหนึ่ง ‘นี่คือเบอร์ของผม’
เพียงไม่กี่คำ กลับแสดงความรู้สึกอ่อนโยนออกมาด้วย
ทำให้เหนียนเสี่ยวมู่คิดถึงฟ่านอวี่ที่เพิ่งมาส่งเธอเมื่อครู่ในทันที
เขาเหรอ
ชายหนุ่มจะแย่งลูกค้าของเธอ ต่อมาส่งข้อความมาหาเธออีก มันไม่กำเริบเสินสายเกินไปหน่อยเหรอเนี่ย
แล้วเขารู้เบอร์โทรศัพท์ของเธอได้อย่างไร
คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของเหนียนเสี่ยวมู่ แต่สุดท้ายคำพูดที่เค้นมาถึงปากก็กลับกลายเป็น ‘เสแสร้ง!’
“อะไรน่ะ”
มือของอวี๋เยว่หานหยุดค้างอยู่บนหัวของเธอ นัยน์ตาสีดำมองต่ำลงอย่างเฉยชา ก่อนที่เขาจะเหลือบมองเธอครั้งหนึ่ง ดูไม่พอใจที่ตัวเองถูกเธอต่อว่า
เหนียนเสี่ยวมู่ตกใจ จึงรีบดึงมือของเขาลง แล้วอธิบาย “ฉันไม่ได้ว่าคุณ ฉันว่าฟ่านอวี่ต่างหาก!”
“ฟ่านอวี่?”
อวี๋เยว่หานเลิกคิ้ว แต่ความสนใจของเขากลับอยู่ที่มือของเธอ
มือเล็กขาวนวลนุ่มมาก ราวกับไม่มีกระดูกอย่างไรอย่างนั้น
ท่าทางรีบร้อนอธิบายให้เขาฟังก็น่ารักมาก
หน้าตาเธอก็น่ารักเช่นกัน
เป็นครั้งแรกที่เขาไม่อยากละสายตาไปจากใครสักคน
“ข้างนอกหนาวมาก เข้าไปข้างในแล้วค่อยว่ากันเถอะ!” เหนียนเสี่ยวมู่ไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็น ‘คนน่ารัก’ ในสายตาของหมาป่าผู้หิวกระหาย พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ในหัวเธอก็มีแต่ไฟโกรธ
หญิงสาวคว้ามือของอวี๋เยว่หาน พลางเดินเข้าไปในห้องรับแขกของคฤหาสน์
แต่เพิ่งจะเดินเข้าไปในห้องรับแขก อวี๋เยว่หานพลันหยุดฝีเท้า แล้วดึงเธอมาตรงน้าตัวเอง
“วันนี้คุณเจอฟ่านอวี่เหรอ” เขาถามหน้าเคร่ง
“ตอนที่ไม่พูดเรื่องนี้ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่พอพูดขึ้นมาฉันก็โมโห คุณไม่รู้หลอกว่าฟ่านอวี่ที่อ่อนโยนสง่างามคนนี้จิตใจชั่วร้ายแค่ไหน! คิดไม่ถึงเลยว่าเขาตั้งใจทำข้ามหน้าข้ามตาฉัน…” เหนียนเสี่ยวมู่ยังพูดไม่จบ ความเยือกเย็นก็ปรากฏขึ้นในสายตาของอวี๋เยว่หานแล้ว
ลูกตาของเขาก็หดตัวด้วย
ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเธอต่อว่าฟ่านอวี่อีก “คุณว่าเขาแย่งลูกค้าจากแผนกไหนล่ะ ก็ต้องเป็นลูกค้าของแผนกประชาสัมพันธ์น่ะสิ ฉันไม่ให้เขาทำสำเร็จแน่นอน!”
แย่งลูกค้าเหรอ?
อวี๋เยว่หานนึกถึงที่ผู้ช่วยบอกเขาในวันนี้อย่างรวดเร็ว ว่าบริษัทตระกูลว่ากำลังปักหลักที่เมืองเอช และกำลังแย่งลูกค้ากับพวกเขา
แต่ตอนนี้ฟ่านอวี่ยังไม่ได้เปรียบอะไร
ที่เขามาเมืองเอชครั้งนี้ เหมือนจะมีเป้าหมายอื่น…
“อวี๋เยว่หาน คุณได้ยินที่ฉันพูดหรือเปล่าเนี่ย” เหนียนเสี่ยวมู่พร่ำบ่นอยู่ตั้งนาน อยู่ๆ กลับพบว่าชายหนุ่มตรงหน้ากำลังเหม่อลอย เธอจึงกำหมัดทุบลงบนหน้าอกของเขาด้วยความน้อยใจ
ทุบลงไปครั้งแรกยังไม่หายโมโห พอจะทุบลงไปอีกเป็นครั้งที่สอง เขาก็จับมือของเธอไว้เสียก่อน
“ก่อนหน้านี้คุณชอบฟ่านอวี่มากไม่ใช่เหรอ บอกว่าเขานิสัยดีอย่างนั้นอย่างนี้…” อวี๋เยว่หานพูดอย่างเฉยชา
พร้อมกับลากเธอลงไปนั่งบนโซฟา
จากนั้นเขาก็ลูบหัวของเธอ “เด็กน้อยทำผิดได้ง่าย ผมให้อภัยคุณ”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!
ทำไมอยู่ๆ ถึงรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นสาวน้อยที่กำลังเรียกร้องความสนใจเลยล่ะ
แถมเธอไปนั่งอยู่ในอ้อมกอดของอวี๋เยว่หานตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเธอไม่รู้ตัวเลย
เมื่อได้จ้องมองดวงตาที่มีแต่เลศนัยของชายหนุ่ม เหนียนเสี่ยวมู่ก็หวาดหวั่นขึ้นมาทันที!
หญิงสาวคิดจะหนี แต่เขากดเธอลงบนพนักพิงของโซฟาแล้ว สองมือของเขาอยู่ข้างตัวเธอ “ด่าเขาต่อสิ ผมฟังอยู่”
“ด่า ด่าจบแล้ว ฉันจะกลับไปนอน…” เหนียนเสี่ยวมู่เห็นใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จึงตื่นเต้นจนลิ้นพันกันไปหมด
“งั้นก็ดี ผมง่วงแล้วเหมือนกัน” เขายิ้มที่มุมปาก