หวานรักจับหัวใจท่านประธาน - ตอนที่ 421 มีตาหามีแววไม่! / ตอนที่ 422 ฉันทำผิดไปหรือเปล่า
- Home
- หวานรักจับหัวใจท่านประธาน
- ตอนที่ 421 มีตาหามีแววไม่! / ตอนที่ 422 ฉันทำผิดไปหรือเปล่า
ตอนที่ 421 มีตาหามีแววไม่!
วินาทีที่จางฉีเห็นซ่างซินเดินเข้ามาหาเธอ ดาราสาวก็ลุกลี้ลุกลนไปแล้ว…
ก่อนจะถามเสียงตะกุกตะกัก “คำพูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไง”
พิธีกรที่อยู่ข้างๆ ก็เดินเข้ามาใกล้ แล้วถามด้วยความตื่นเต้น “ซ่างซิน เมื่อกี้คุณพูดจริงเหรอคะ คุณยอมร่วมงานของเราจริงๆ เหรอ แต่…ค่าตัวที่พวกเราจ่ายไปแล้ว”
หญิงสาวเริ่มอึดอัดใจขึ้นมาบ้าง
ทุกคนรู้ค่าตัวของซ่างซิน
สำหรับราคาทั่วไป อย่าว่าแต่เชิญเธอไปออกงานอีเวนท์เลย แค่ให้เธอโชว์ตัวก็อย่าได้หวัง!
แต่ค่าโฆษณาที่พวกเขาวางแผนไว้สำหรับงานนี้ ไม่ได้สูงขนาดนั้น
เมื่อได้ยินคำว่า ‘ค่าตัว’ จางฉีเหมือนคว้าฟางช่วยชีวิตเอาไว้ได้ เธอรีบยืนขึ้นในทันที
“ซ่างซิน เธออย่าหลอกพวกเขาเลย งานอีเวนท์ในวันนี้ไม่สมกับค่าตัวของเธอหรอก เงินที่ให้ก็น้อยจนน่าเวทนา ถ้าเธอขึ้นเวทีไป จะต้องดึงภาพลักษณ์ของเธอให้ต่ำลงแน่!”
ดาราสาวพูดจบ ก็เห็นซ่างซินเงียบเชียบไม่พูดจา เธอจึงแอบได้ใจ
ในวงการบันเทิงนี้ ใครกล้าทำเรื่องที่มีแต่ส่งผลเสียกับตัวเองบ้างเล่า
หลังจากเธอรออยู่วักพัก ซ่างซินกลับไม่มีความคิดที่จะปฏิเสธ
เธอทำใจเย็น ขณะที่เตรียมจะพูดอะไรบางอย่าง ซ่างซินพลันมองไปทางพิธีกรแล้ว
“วันนี้ฉันมาเป็นการส่วนตัว ฉันไม่ต้องการต่าตัวหรอกค่ะ จะช่วยฟรีๆ เลย”
ช่วยฟรีๆ…
คำพูดนี้เหมือนฟ้าผ่าลงกลางกระหม่อมของจางฉีโดยตรง!
ซ่างซินเป็นนักแสดงที่เชิญมาร่วมงานได้ยากมาก คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะช่วยเหลือกันฟรีๆ
มีซ่างซินแล้ว ตอนนี้อย่าว่าแต่ให้เหนียนเสี่ยวมู่คุกเข่าเลย ถึงเธอจะเป็นฝ่ายคุกเข่าขอให้เหนียนเสี่ยวมู่ปล่อยให้เธอขึ้นเวที ก็คงไม่มีใครเห็นค่าเธอแล้ว!
จางฉีนึกถึงค่าปรับผิดสัญญา จึงรีบใจอยากพูด แต่เหนียนเสี่ยวมู่ก้าวขึ้นมามองเธออย่างเฉยชาเสียแล้ว
“คำพูดเมื่อกี้ ฉันให้เลขาอัดเสียงไว้หมดแล้ว คุณจางฉีทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับงานอีเวนท์ พวกเราจะส่งหลักฐานให้นักลงทุน ให้พวกเขาคิดค่าปรับผิดสัญญาที่สอดคล้องกัน รอรับจดหมายจากทนายได้เลยค่ะ!”
“ตุบ” จางฉีเข่าอ่อนขึ้นมาในทันที ทำให้เธอนั่งลงตัวแข็งทื่ออยู่บนโซฟา
เหนียนเสี่ยวมู่กลับไม่มองเธออีก แต่จับมือซ่างซิน ให้เธอตามพิธีกรเดินไปยังสถานที่จัดงาน
ไม่มีใครคาดคิด ว่าจะได้เจอซ่างซินที่นี่
เหล่านักข่าวที่มาร่วมงานในวันนี้ยิ่งคิดไม่ถึง แค่มาเข้าร่วมงานอีเวนท์แถลงข่าว กะว่าจะได้ต้นฉบับหัวข้อข่าวเท่านั้น แต่สุดท้ายกลับเจอดาราเบอร์ใหญ่!
ช่วงถ่ายรูปและสัมภาษณ์จึงกลายเป็นการไลฟ์สดในงานไปในทันที
บนโทรศัพท์มือถือขเงหนียนเสี่ยวมู่เต็มไปด้วยข้อความขอบคุณจากประธานฟาง
และยังขอโทษขอโพยจากเรื่องที่เขาปากไม่ดีเมื่อวานอีกเวย
เขากลายเป็นแฟนคลับของเหนียนเสี่ยวมู่ไปแล้ว จึงพูดยกย่องจากใจจริงว่า “ตาแก่ฟางคนนี้มีตาหามีแววไม่ ผู้จัดการเหนียนมีของจริงๆ!”
เหนียนเสี่ยวมู่ตอบกลับข้อความของประธานฟาง แล้วถึงเงยหน้าขึ้นมองซ่างซินที่กำลังรับการสัมภาษณ์อยู่บนเวที
เธอผอมลง
เดิมทีรูปร่างผอมเพรียวของเธอก็ไม่มีเนื้อหนังอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งดูผอมบางอย่างเห็นได้ชัด
สีหน้าของเธอก็ดูไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน
ช่วงนี้เธอเธอหายไปไหนมา
เหนียนเสี่ยวมู่รออยู่ด้านล่างเวทีตลอด เมื่อการสัมภาษณ์จบลง เธอจึงถือเสื้อนอกเดินเข้าไปคลุมให้ซ่างซิน
ขณะเดียวกันส่งข้าวหมากพุทราแดงที่เพิ่งสั่งให้เลขาไปซื้อมาให้เธอ
“สีหน้าคุณไม่ค่อยดีเลย ดื่มข้าวหมากในฤดูหนาวดีต่อร่างกายนะคะ”
ซ่างซินไม่ได้พูดอะไร หลังจากพ้นสายตาของสื่อแล้ว เธอถึงจะรับเครื่องดื่มมาดื่มอย่างเงียบๆ
ผ่านไปครู่ใหญ่ อยู่ๆ เธอก็เอ่ยปากออกมา
“เสี่ยวมู่มู่ ไปดื่มเป็นเพื่อนฉันสักแก้วได้ไหมคะ”
ตอนที่ 422 ฉันทำผิดไปหรือเปล่า
ดื่มสักแก้ว…
เหนียนเสี่ยวมู่พลันตาเป็นประกาย! แต่ทันใดนั้นแววตาของเธอก็หม่นลง
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังเมื่อยเอวอยู่ เธอถึงได้กระแอมเบาๆ สองเสียง “สีหน้าคุณดูไม่ค่อยดีเลย พวกเราไม่ได้เจอกันมาพักหนึ่งแล้ว หาร้านกาแฟคุยเล่นกันสักพักดีไหมคะ”
เธอพูดพลางดึงซ่างซินเดินออกไปข้างนอกงาน
มีนักข่าวรออยู่ที่ประตูหลักของโรงแรมมากมาย
พวกเธอออกจากโรงแรมจากทางประตูหลัง จากนั้นเหนียนเสี่ยวมู่ก็เตรียมจะเรียกรถแท๊กซี่ ทว่าซ่างซินกลับห้ามเธอไว้ “ฉันจอดรถไว้ที่ลานจอดรถค่ะ”
ดาราสาวพูด ก่อนจะให้เหนียนเสี่ยวมู่รออยู่ที่เดิม ส่วนเธอไปขับรถมารับ
หลังจากขึ้นรถแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ถึงนึกคำถามสำคัญมากๆ ออก
“ฉันลืมถามไปเลย ว่าคุณมาโผล่ที่งานได้ยังไงคะ ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินมาว่า เอ่อ…” เหนียนเสี่ยวมู่อ้ำอึ้ง ไม่รู้ว่าควรถามต่อไปหรือไม่
ทีแรกเธอไม่รู้เรื่องถังหยวนซือไปนัดบอด แต่เมื่อติดต่อซ่างซินไม่ได้อยู่นาน เธอจึงไปถามอวี๋เยว่หาน
เธอวุ่นวายถามเขาจนเจาทนไม่ไหว จึงเผลอพูดออกมาโดยไม่ทันระวัง
แต่ตอนนั้นซ่างซินหายตัวไปแล้ว
แม้แต่อวี๋เยว่หานก็สืบไม่พบ ทำได้เพียงรับประกันกับเธออยู่หลายครั้ง ว่าซ่างซินไม่ใช่คนธรรมดา และไม่มีทางเป็นอันตรายอะไร
เหนียนเสี่ยวมู่ถึงได้สบายใจขึ้น
คิดไม่ถึงว่าอยู่ๆ วันนี้จะได้เจอซ่างซินในงานอีเวนท์…
ครั้นได้ยินคำถามของเหนียนเสี่ยวมู่ มือของซ่างซินที่จับพวงมาลัยไว้ ก็ออกแรงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ทว่าบนใบหน้าของดาราสาวกลับมีรอยยิ้มจางๆ ก่อนจะพูดเหมือนกับว่าไม่เป็นไร “ก่อนหน้านี้ฉันสภาพจิตใจไม่ค่อยดีค่ะ ก็เลยกลับไปที่บ้าน ส่วนขากลับ ฉันไปแอบอู้งานอยู่ที่โรงแรม คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอคุณพอดี”
อยู่ๆ ในรถก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
สีหน้าของทั้งสองคนดูกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง
เหนียนเสี่ยวมู่กลัวว่าจะพูดเรื่องที่ทำร้ายจิตใจของอีกฝ่าย ส่วนซ่างซินก็พยายามทำเหมือนกับว่าไม่เป็นอะไร
ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงร้านกาแฟ
หลังจากจอดรถเรียบร้อยดีแล้ว ซ่างซินก็ใส่หน้ากากและหมวกแก๊ป เพราะระดับความโด่งดังของเธอ
ทั้งคู่หาที่นั่งเป็นส่วนตัวในมุมร้าน
เมื่อนั่งลงแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่สั่งกาแฟให้ตัวเองแก้วหนึ่ง และสั่งโกโก้ร้อนให้ซ่างซินแก้วหนึ่ง
ฝ่ายดาราสาวตะลึง ก่อนจะกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ให้ฉันดื่มเหล้าแล้ว กาแฟสักแก้วก็ดื่มไม่ได้เหมือนกันเหรอคะ”
“สีหน้าคุณไม่ค่อยดีเลยค่ะ แถมเพิ่งรับมือกับนักข่าวมากมายขนาดนั้น ดื่มโกโก้สักหน่อยจะได้มีแรงขึ้นนะคะ” เหนียนเสี่ยวมู่กล่าวอย่างมีเหตุผล
หญิงสาวไม่รอให้เธอปฏิเสธ รีบสั่งให้พนักงานไปเตรียมเครื่องดื่มทันที
ขณะกำลังลังเลอยู่นั้น ว่าต้องบอกเรื่องที่เธอคบกับอวี๋เยว่หานหรือไม่ ซ่างซินก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน
“เสี่ยวมู่มู่ คุณว่าฉันทำผิดหรือเปล่าคะ”
“…”
“ความจริงฉันรู้อยู่แก่ใจ เรื่องความรักฝืนไม่ได้ แต่ฉันไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนที่เคยสนใจฉันถึงขนาดนั้น อยู่ๆ ถึงได้บอกว่าไม่สนใจฉันอยู่นั่นแหละ…”
ซ่างซินเกาะกุมแก้วน้ำตรงหน้า พยายามฝืนความรู้สึกจนขอบตาแดงก่ำแล้ว
เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้
ในหัวมีภาพที่เธอเห็นเขาไปนัดบอดฉายซ้ำๆ
เดิมทีเธอแน่ใจมาก ว่าในใจของเขามีเธออยู่
ถึงแม้เขาไม่ยอมเจอเธอ เธอก็ยินดีที่จะรอ
แต่พอได้ยินข่าวว่าเขาจะไปนัดบอด เธอก็คิดอย่างโง่งม ว่านั่นต้องเป็นข่าวปลอมแน่นอน…
หลังจากเห็นภาพที่เขาปรากฎตัวในร้านอาหารด้วยตัวเอง เธอก็ไม่กล้าหลอกตัวเองอีกต่อไป
พี่เสี่ยวซือของเธอ ไม่ต้องการเธอแล้วจริงๆ…
ซ่างซินก้มหน้าลงเล็กน้อย เธอฝืนความรู้สึกจนทนไม่ไหวอีกต่อไป สุดท้ายน้ำตาเม็ดโตก็หยดลงไปในแก้วน้ำ
เหนียนเสี่ยวมู่เห็นเธอเป็นอย่างนั้นแล้ว หัวใจของหญิงสาวพลันบีบรัดขึ้นมา ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของอีกฝ่ายไว้ตามสัญชาตญาณ แล้วเอ่ยว่า “ไม่หรอกค่ะ ถังหยวนซือเขาไม่ได้ไม่สนใจคุณจริงๆ หรอก!”